วาสนาคราคลาดสวาทร้าง
สุดอ้างว้างห่างนวลชวนใจหาย
ก่อนเคยชมภิรมย์อยู่เป็นคู่กาย
ทั้งเช้าสายบ่ายค่ำจำนรรจา
หมอนเคยหนุนอุ่นอ่อนเจ้านอนข้าง
กายมิร้างห่างเหเสน่หา
ชี้ชมดาวพราวพร่างกลางนภา
แสงจันทราฟ้าสว่างไม่ต่างโคม
แต่วันนี้พี่ไม่รู้เจ้าอยู่ไหน
อนาถใจไร้เจ้าเฝ้าชมโสม
มีเพียงเงาเราสองที่หมองโทรม
อยู่ประโลมโน้มนอบช่วยปลอบแทน...
" บูรพ์ "