กวีผู้หลากอารมณ์ คมกานท์ ท่านเมฆา
สักวา พาที ที่เรืองรุ่ง
ปานจรุง ปรุงกลิ่น ประทินเผย
ฤา ผสาน รสร่วม รวมลำเพย
ไยเล่าเอย หวานนัก จักถามดู
ท่านเมฆา วาที นี้สวยศิลป์
เมื่อยลยิล พิณกลอน อักษรหรู
คล้ายไสยขลัง หลั่งล้น มนต์พรั่งพรู
ให้เรืองคู่ โสตจิต เป็นนิจเอย
O
สักวา ครานี้ มีถามซัก
ถึงเกณฑ์หลัก นักกลั่น ประพันธ์เผย
ฐานอารมณ์ คมสาน ที่ท่านเปรย
ท่านอิงเอ่ย จากใด ให้งามตา
ข้าน้อยนั้น สรรเส้น ดั่งเช่นท่าน
แต่เนื้อกานท์ จารด้อย ถ้อยกังขา
ไร้สำเนียง เสียงพ้อง คลึงคล้องตา
แถมเนื้อหา เก่าคร่ำ ซ้ำซากเอย
O
สักวา ข้าหนอ บ่กลอกกลิ้ง
มิใช่ลิง ชิงหลอก แย่งดอกเหมย
ทุกคำถาม มิแสร้ง มิแกล้งเชย
จึงขานเอ่ย เลยนั่น เช่นนั้นแล
ส่วนบทนี้ มีท้า พาท่านหลอน..(หึหึ)
แม้เรื่องกลอน อ่อนถ้อย ด้อยแยแส
แต่สาวสาว ขาวเด้ง เก่งเทคแคร์
ผมไม่แพ้ เรื่องป้อ...ข้อนี้เอย
O
ขออนุญาตต่อกลอนท่านเมฆาครับ..บทสุดท้าย แซวๆเล่นครับ ยังนับถืออารมณ์กลอน สำนวนกลอนท่านเมฆา เช่นเดิมครับ แถวบ้านเรียก(เทพ)
ลามกแมนแดนอิสาน