หัวข้อ: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 12 ตุลาคม 2012, 09:41:PM (http://www.tlcthai.com/poem/wp-content/thumbnails/788.jpg) ปากกาเจ้าอย่าปล่อยใหน้ำหมึกแห้ง อย่าสิ้นแรงศร้ทธาต่อฟ้าใส อย่าลืมแล้วคุณค่าภาษาใจ เฝ้าคัดคำไปฉ่ำในหทัยชน ถึงดินแล้งแห่งหนล้วนทนทุกข์ ใครจะปลุกปลอบเล้าในสับสน กวีแว่วเพลงกานต์ย่อมดาลดล ให้ร้อนรนหลีกเร้นสะเริงครัน 12/10/2555 (http://www.qzub.com/bar_014.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 13 ตุลาคม 2012, 10:22:AM (http://image.ohozaa.com/i/7c7/Glw0cz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wmapmBffHoJcdPhA) ใช้ปากกา มาเขียน เวียนหลายรอบ หากไม่ชอบ ตอบย้ำ ซ้ำอยู่นั่น ขยำทิ้ง ลงตะกร้า ปาทั้งวัน อ่านแล้วขัน มันไม่เศร้า เคล้าน้ำตา เปลี่ยนปากกา เป็นดินสอ ท้อยิ่งนัก เขียนกลอนรัก ขัดเขิน เกินกล่าวหา กระดาษฉีก เป็นเล่ม ชื้อหามา เขียนแล้วพา เพี้ยนไป ใจระทม เหลาดินสอ ท้อจิต คิดไม่ออก เขียนจนชอก ช้ำทรวง ทุกช่วงขม ได้แค่วน เขียนคำ จำตรอมตรม ฝึกผสม คำหวาน พานระอา พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/7c7/Glw0cz.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wmapmBffHoJcdPhA) หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 13 ตุลาคม 2012, 03:18:PM (http://img1.funscrape.com/en/sadness/3.jpg) ระบายออกบอกคำลำนำพจน์ อรรถรสปรุงแต่งแห่งภาษา ผิความคิดขณะ ณ เวลา บรรเจิดจ้าจรุงพุ่งประกาย แต่ละวรรคถักทอก่อประสาน จากดวงมานสื่อไปใส่ความหมาย จรดลงตรงช้ำน้ำตาพราย ประกอบคล้ายบทเพลงบรรเลงคลอ "กานต์ฑิตา" ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ (http://i882.photobucket.com/albums/ac25/Kan_ry/019000000.gif) หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 13 ตุลาคม 2012, 03:40:PM ระเบียบบรรณสรรหาภาษาใส่ ระบุเน้นเข่นใคร่ด้วยคำหนอ ระบอบแบบแยบยลกมลพนอ ระบายพอผ่อนเพี้ยนเมื่อเขียนลง (http://www.qzub.com/bar_014.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 13 ตุลาคม 2012, 04:28:PM emo_107 emo_116 emo_95 ความอัดอั้นตันทรวงสู่ห้วงหาว ฝากดวงดาว,จันทรา,ผกาช่อ หมู่เมฆน้อยลอยเลื่อนฝากเตือนรอ ร่วมถักทอความฝันสู่วันจริง ความคิดถึง,ห่วงหวง,เจ้าดวงแข ความพ่ายแพ้,ภินท์พัง,ดั่งผีสิง สู้สุดฤทธิ์,ติดบ่วง,ถูกช่วงชิง ดั่งดำดิ่งทิ้งร่างสู่กลางทราย ขอปลอบใจกวีฤดีร้าว ขอจงก้าวสู่ฝันอย่างมั่นหมาย แม้จะอยู่โดดเดี่ยวอย่างเดียวดาย เชิญเยี่ยมกรายสู่ฝันสัมพันธ์ใจ จะขอซับน้ำตาด้วยผ้าน้อย เจ้าเนื้อกลอยขมขื่นสะอื้นไห้ จงสดชื่นรื่นรมย์สมหทัย ด้วยห่วงใยคนดีศรีบ้านกลอน emo_56 “ไพร พนาวัลย์" หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 13 ตุลาคม 2012, 06:10:PM (http://www.qzub.com/bar_175.gif) (http://www.qzub.com) ยามใดคิดว่าตนคนกวี ทุกวลีที่เขียนเวียนมาหลอน ยามใดเขียนอ่านเล่นเป็นบางตอน หลากสลอนคำขานสานอารมณ์ ก็เราเขียนเพียรหมายได้สุขสันต์ เขียนอ่านกันฉัน-เธอ เออสุขสม เป็นกวีที่ไหนใครปรารมภ์ เพราะอย่างผมไกลห่างทางกวี จึงเขียนกลอนกล่อมกันวันเหงาเหงา เขียนมาเย้าหยอกเอินเกินสุขี สิ่งได้รับกับตนล้นยินดี ได้พาทีเพื่อนพ้องทำนองกานท์ จึงกวีคนใดอาจไม่สม หากจะหวังคำชมบ่มคำหวาน จาก “ริมโขง” โล่งไหลในกระดาน ขอกราบกรานไว้ก่อน..ไม่หลอนกัน.. emo_26 "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: กล่อมกวี เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 13 ตุลาคม 2012, 06:21:PM ระบุเน้นประเด่นคำให้ล้ำสาล์น ระเบียบงานกานต์กลอนคือคำสรร ระบอบแบบอย่างกวีมีร้อย-พัน ระบายพอก่อขันก็ขันดี (http://www.qzub.com/bar_014.gif) (http://www.qzub.com) |