หัวข้อ: (รบกวน) ช่วยถอดความ อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง หน่อยค่ะ U.U เริ่มหัวข้อโดย: slurpeechin ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 10:58:AM เมื่อนั้น พระผู้พงศ์เทวากระยาหงัน ฯ ๘ คำ ฯครั้นฤกษ์ดีแจ่มดวงสุริยัน ทรงธรรม์ชวนกะหรัดตะปาลี ทั้งสุหรานากงอนุชา สังคามาระตาเรืองศรี กับระเด่นดาหยนผู้ภักดี มาเข้าที่สรงน้ำทิพมนตร์ ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ ห้าองค์ชำระสระสนาน กิดาหยันถวายพานเครื่องต้น บรรจงทรงทาพระสุคนธ์ ปรุงปนเกสรสุมาลี สอดใส่สนับเพลาภูษาทรง ฉลององค์โหมดตาดต่างสี เจียระบาดคาดรัดรูจี ปั้นเหน่งเพรชพลอยมณีหนุนชับ ทรงมหาสังวาลพิชัยยุธท์ ชมพูนุทเฟื่องห้อยพลอยประดับ ทองกรแก้วพุมามวามวับ ธำมรงค์รุ้งระยับจับตา ทรงมงกุฏกุณฑลทัดตรัสเตร็จ อุบะเพรชแพร้วพรายพระเวหา เหน็บกริชฤทธิไกรแล้วไครครา ก็เสด็จมายังเกยแก้วมณี ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ ต่างองค์ขึ้นทรงมาต้น พร้อมพลจตุรงค์ทั้งสี่ กิดาหยันพี่เลี้ยงเคียงพาชี ถวายกลดโหมดสีต่างกัน ให้เดินทัพโยธาห้ากอง เสียงกลองเสียงปืนครื้นครั่น ผงคลีมืดคลึ้มชอุ่มควัน รีบร้นพลขันธ์คลาไคล ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ ครั้นมาใกล้กองทัพไพรี เห็นโยธีธงทิวปลิวไสว ช้างม้าดาทุ่งเป็นแถวไป พระสั่งให้หยุดพลจตุรงค์ ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ บัดนั้น จึงมหาเสนาตำมะหงง รับราชบัญชาพระโฉมยง ให้หยุดธงสำคัญสัญญา แล้วรีบรัดจัดพลรณยุทธ์ ตั้งที่นามครุฑปักษา วางกองเยื้องกันเป็นฟันปลา ให้โยธาคอยยิงชิงชัย ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเป็นใหญ่ เห็นทัพมาตั้งมั่นกันเมืองไว้ พลไกรเพียบพื้นปัถพี จึงตรัสเรียกโอรสยศยง กับองค์อนุชาทั้งสองศรี ต่างรีบกะระตะพาชี ออกยืนที่ประจำกองโยธา แล้วมีสีหนาทโองการ ประกาศสั่งทวยหาญกองหน้า จงเร่งเข้าตีทัพให้อัปรา หักเอาดาหาในวันนี้ ฯ ๖ คำ ฯ บัดนั้น ตะหมังรับสั่งใส่เกศี ก็เร่งพลเร่งพวกพาชี เข้าตีต่อหักโหมโจมทัพ บ้างเป่าชุดจุดยิงปืนใหญ่ ฉัตรชัยมณฑกนกสับ นายกองแกว่งดาบวาบวับ ตางขับพลวิ่งเข้าชิงชัย ฯ ๔ คำ ฯ เชิด บัดนั้น นายทหารกุเรปันไม่หวั่นไหว ให้ระดมปืนตับรับไว้ แล้วไล่โยธีตีประจัญ ต่างมีฝีมืออื้ออึง วางวิ่งเข้าถึงอาวุธสั้น ดาบสองมือโถมทะลวงฟัน เหล่ากริชติดพันประจัญรบ ทหารหอกกลอกกลับสัประยุทธ์ ป้องปัดอาวุธไม่หลีกหลบ พวกพลพาชีตีกระทบ รำทวนสวนประจบโถมแทง บ้างสกัดซัดพุ่งหอกคู่ เกาทัณฑ์ธนูน้าวแผลง ตะลุมบอนฟอนฟันกันกลางแปลง ต่อแย้งยุทธยิงชิงชัย ตายระดับทับกันดังฟอนฟาง เลือดนองท้องช้างเหลวไหล กองหลังประดังหนุนขึ้นไป ตัวนายไล่ไพร่เข้าบุกบัน ฯ ๑๐ คำ ฯ เมื่อนั้น สังคามาระตาแข็งขัน เห็นพวกพลไพรีตีประจัญ โยธาขยั้นหยุดยั้ง พระกริ้วโกรธนักดังอัคคี แกว่งกระบี่ขี่ขับม้าที่นั่ง โรมรุกบุกไปแต่ลำพัง ไล่หลังพวกพลเข้ารณรงค์ ฯ ๔ คำ ฯ เชิด เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีสูงส่ง กับระเด่นทั้งสามสุริย์วงศ์ ต่างองค์ผันแปรแลตาม เห็นสังคามาระตากล้านัก ยังอ่อนศักดิ์หักศึกไม่เกรงขาม มิไว้ใจในทีทำสงคราม ต่างขับม้าตามไปทันใด ฯ ๔ คำ ฯ เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเป็นใหญ่ เห็นระเด่นทั้งสี่จึงถามไป เจ้าผู้ใดที่ชื่อจรกา ฯ ๒ คำ ฯ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใกล้า ยิ้มพลางทางตอบวาจา เรายกมาแต่กรุงกุเรปัน จะสังหารผลาญพวกปัจจามิตร ที่มาติดดากาเขตขัณฑ์ ซึ่งท่านถามหาจรกานั้น มิได้มาด้วยกันในกองนี้ ฯ ๔ คำ ฯ เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี รู้ว่าระเด่นมนตรี ถูมีครั่นคร้ามขามวิญญาณ์ แต่มานะตอบไปด้วยใจหาญ เจ้าผู้วงศ์วานอสัญหยา แต่ละองค์ทรงโฉมโสภา ชันษาอายุก็ยังเยาว์ ได้เห็นก็เป็นน่าเสียดาย จะพากันมาตายเสียเปล่าเปล่า ไม่ควรคู่สู้รบกับเรา ครั้นจะฆ่าเสียเล่าก็อายใจ อนึ่งตัวเจ้ากับเรานี้ จะราคีเคืองกันก็หาไม่ ให้จรกามาเถิดจะชิงชัย เจ้าจะได้ดูเล่นเป็นขวัญตา ฯ ๘ คำ ฯ เมื่อนั้น พระองค์วงศ์อสัญแดหวา จึงตอบว่าอันตัวจรกา มิได้อยู่ดาหาธานี เมื่อหลับตามารบให้ผิดเมือง รี้พลตายเปลืองไม่พอที่ จะรบกับจรกาดังว่านี้ จงล่าเลิกโยธีถอยไป แม้นไม่รู้แห่งเมืองจรกา จะช่วยชี้มรรคาบอกให้ ถ้าขืนตั้งประชิดติดกรุงไกร คงชิงชัยไม่ฟังท่านพาที ถึงมาตรแม้นจรกามิมาเล่า ตัวเราจำช่วยด้วยเป็นพี่ เมตตาว่าน้องเป็นสตรี จะทอดทิ้งมารศรีเสียอย่างไร ใช่นางเกิดปทุมา สุริย์วงศ์พงศานั้นหาไม่ จะมาช่วงชิงกันดังผลไม้ อันจะได้นางไปอย่าสงกา ฯ ๑๐ คำ ฯ เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงใจกล้า จึงว่าเรายกโยธา หมายมาจะชิงพระบุตรี ถึงจะรับของสู่ระตูไว้ ยังมิได้ทำการภิเษกศรี จรกาไม่มาก็ยิ่งดี ไม่มีผู้หวงแหนเกียดกัน สุดแท้แต่นางอยู่ที่ไหน เราจะชิงชัยที่นั่น อันชิงนางอย่างนี้ไม่ผิดธรรม์ ธรรมเนียมนั้นมีแต่บุราณมา สุดแต่ใครดีใครได้ การอะไรของเจ้าผู้เชษฐา จงยกทัพกลับคืนไปพารา เบื้องหน้าจะได้สืบสุริย์วงศ์ ฯ ๘ คำ ฯ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีตอบตามประสงค์ ซึ่งจะให้เรายกจตุรงค์ คืนคงกรุงไกรนั้นไม่ควร อับอายไพร่ฟ้าประชาชน เสนีรี้พลจะแซ่สรวล หรือหมายไม่สมคะเนเรรวน จึงชวนพูดจาหย่าทัพ อย่าพักพูดอุบายให้ตายใจ ท่านมิยกคืนไปก็ไม่กลับ รี้พลจะพลอยย่อยยับ เรากับระตูมาสู้กัน จะได้ลองฤทธีฝีมือ ให้ลือชื่อในชวาเขตขัณฑ์ หรือรักตัวกลัวจะม้วยชีวัน บังคมคัลจะให้คืนไปพารา |