จุดเริ่มต้น...ของบทกวี
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 04:51:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จุดเริ่มต้น...ของบทกวี  (อ่าน 7812 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 มกราคม 2010, 10:50:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 10:50:PM »
ชุมชนชุมชน

อันนี้เป็นกลอนเก่าๆของเราเองนะ
แต่เมื่อครั้งแรกๆเลยที่หัดเขียนกลอน
ลองอ่านดูนะ แล้วจะรู้ว่า
"ก่อนที่จะแต่งได้เท่าปัจจุบัน อดีตมันเลวร้ายแค่ไหน"
T^T ทุกบทที่เขียนมา ล้วนเคยถูกคนต่อว่ามาแล้ว (ทุกอัน)
=> ไม่ได้แก้ไขสักอันเลยนะคะ เอามาให้ดูโดดเลยล่ะคะ T^T

ใต้แสงจันทร์ สายน้ำ ที่คดเคี้ยว
วนไหลเชี่ยว ไปมาไม่หนีหาย
แต่กับเรา ต้องพราก จากกายา
คงหวังว่า จะได้พบ ดั่งสายชล

=> อันนี้ บทแรกเลยที่แต่งเอง ครั้งแรกเลยด้วยล่ะคะ  แต่อย่าถามนะว่าต้องการจะสื่ออะไร เพราะดาวก็ไม่รู้เหมือนกัน ^^" แถมผิดฉันทลักษณ์อีกด้วย


ใจกลางป่า ที่ร่มรื่น สูงเสียดฟ้า
หมู่สัตว์ป่า นกกา ต้องอาศัย
ถือกำเนิด ภายใต้ พนาลัย
ต้องใส่ใจ ดูแล ทั่วแผ่นดิน

=> บทนี้ ออกทะเล ด้วยล่ะคะ หมายถึงอะไรก็ไม่รู้ - -"


อีกสามวัน ล่วงลับ ไม่หวนกลับ
ตั้งตานับ อาลัย ใคร่ครวญหา
เสียดายแต่ เวลา ที่ผ่านมา
ที่ไม่อาจ ย้อนกลับไป เหมือนดั่งเดิม

=> ผิดฉันทลักษณ์อีกแล้วคะ T^T ไม่ได้เรื่องเลยนะเนี่ย (ตัวเองน่ะ)


มิตรภาพ มีค่า ยิ่งกว่าทรัพย์
ใครจะลัก ไปนั้น แสนยากยิ่ง
ประสาน มหิดล ทั่วจักริน
ซึ่งไร้สิ้น การทำลาย วินาศเอย

=> บทนี้ สุดๆไปเลยล่ะคะ โดนทุกคนที่อ่านว่าครบทุกคนเลย (ก็น่าอยู่ ผิดมั่วไปหมดเลยนี่นา T^T)


หัวใจห้อง ที่หนึ่ง มอบแด่เธอ
ส่วนเพื่อนเกลอ ฉันให้ ห้องที่สอง
ห้องสามมอบ แด่พ่อ-แม่ ญาติพี่น้อง
และสุดท้าย ห้องนี้ มอบแด่ครู

=> มั่วไปเรื่อยเลบแฮะเรา อนาถใจตัวเองจังเลย


หนึ่งชีวิต เกิดมา เพื่อทำดี
สร้างบาร- มีมิได้ ชดใช้กรรม
เพื่อส่งเสริม คนอื่น ให้สร้างสรรค์
ให้มีวัน แห่งความสุข ทั่วแผ่นดิน

=> ผิดฉันทลักษณ์อีกแล้วล่ะ เห็นมั้ยคะ


เอาดวงใจ พุ่งขึ้น สู่เวหา
เอาปัญญา เป็นแรง ดันขึ้นไป
ส่วนความเพียร นั้นเป็นฐาน รองรับไว้
พุ่งขึ้นไป หาฝัน อันงดงาม

=> เริ่มมองได้นิดหน่อย(ใช่มั้ยคะ) ^^


คนจะเลว ก็เลว ที่สันดาน
คนจะพาล ก็พาล ที่นิสัย
คนจะดี ก็ดี ที่จิตจัย
ไม่เป็นลัย ถ้าคิด จะกลับตัว

=> อันนี้เป็นผลงานร่วมกับเพื่อนคะ และก็ไม่ได้แก้คำให้ถูกต้องด้วย เพราะตอนนั้นไม่เข้าใจในเรื่องของบทกลอนเลยล่ะ คิดว่าต้องสัมผัสกันอย่างเดียว เลยเปลี่ยนรูปสระเองตามใจ ผลที่ออกมา ดูไม่ได้เลยเชียว - -"


รักไม่ใช่ ดวงดาว ที่ทอแสง
ที่ร้องแรง ดุจดั่ง อาทิตย์ส่อง
รักไม่ได้ มีค่า เท่าแท่งทอง
แต่รักนั้น ให้เราสอง ครองคู่กัน

=> อ่านดีๆ แล้วจะรู้ว่ามันมีเค้าเดิมมาจากเพลง (แต่อันนี้ฉบับดัดแปลง )  ไปเปลี่ยนของเขาจนมั่วหมดเลยล่ะคะ ผลที่ออกมาเลยดุ อึนๆ  งง....


หลักชีว ส่องดู เซลล์หัวใจ
ให้ขึ้นไป บนคาน หลักฟิสิกส์
ให้เคมี เป็นยา ประทังชีวิต
ให้ลิขิต หัวใจ สองเราเอย

=> อ่า...ดีขึ้นมาจากอันแรกๆนิดนึง(นิดเดียวจริงๆคะ)


ค่ายลูกเสือ ครั้งนี้ แสนจะโหด
เหนื่อยโคตรๆ แต่สนุก กว่าครั้งไหน
ส่วนครูฝึก ก็ดุ ยิ่งกระไร
ท่านนั้นไซร้ มอบแต่ ประสบการณ์
เมื่อถึงตอน ที่ต้อง ไปประชุม
ตอนฝึกกลุ่ม ให้มี ความกล้าหาญ
มีบางครั้ง ที่สนุก สุขสำราญ
แต่รำคาญ ครูฝึก คึกคะนอง
ใครพูดคุย เจอด่า แถมโดนดุ
หูทะลุ หน้าบึ้งตึง กำลังสอง
ถ้าหยุกหยิก เป็นอัน ต้องถูกมอง
เขียนเป็นกลอน บอกความนัยน์ ให้รู้เอย

=> แต่ร่วมกับเพื่อน (คนนี้ถนัดด้านกลอนหน่อย) แต่งตอนไปอยู่ค่ายลูกเสือ ม.2 อ่ะคะ และตอนนั้น เราก็ยังไม่มีความรู้เรื่องกลอนเท่าไหร่ ภาษาที่ใช้ก็ตรงเกินไป (ใช่มั้ยคะ) ^^ แถมยังแอบผิดฉันทลักษณ์เช่นเคย แต่ว่า กลอนบทนี้น่ะ ก่อนกลับโรงเรียนก็เอาให้ครูฝึกดูด้วยนะคะ หนีแทบไม่ทัน (ก็ไปเขียนว่าเขาไว้นี่นา) แหะๆ


มองออกไป เห็นทิวป่าพงไพร
ทอดยาวไกล เป็นแนว ตลอดทาง
มีแดดส่อง รอดหน้าต่าง อย่างแผ่วบาง
มันก็แค่ ข้างทาง เท่านั้นเอง

=> อันนี้แต่งตอนที่กำลังนั่นรถออกจากค่ายลูกเสือ นั่นแหละคะ อ่านแล้วไม่มีอะไรเลยจริงๆแฮะ มีแต่ป่ากับแดดส่องสลับไปมาตลอดทาง ><


ลองทำตัว ให้เหมือน ดั่งวารี
ไปอยู่ที่ แห่งใด ไม่ลำบาก
มีความสุข ทุกที่ ไม่เหนื่อยยาก
ไม่ลำบาก หากเป็น เช่นวารี

=> อันนี้แต่งขึ้นมาเพราะว่าได้ยินคำคมของใครสักคนนี่แหละคะ ที่ว่า ให้ทำตัวเหมือนน้ำ อยู่ที่ไหนก็สามารถปรับเข้าหาได้ แต่พอดาวเอามาแต่ง มันกลับกลายเป็นไรไม่รู้ ><"


***********************************
อ่า
เอาลงไปแค่นี้ก่อนนะคะ
ที่จริงยังมีต่ออีก
แต่เดี๋ยวค่อยๆเอามาลง
นี่เฉพาะกลอนตลาดเท่านั้น (ยังมั่วได้ขนาดนี้เลย)
เดี๋ยวจะเอากาพย์ยานีมาลงให้บาง เดี๋ยวรู้กัน ><

แล้วก็ อันนี้ฝากไว้ด้วยนะคะ ^^
ที่เอามาลงนี้ ก็เพียงแค่อยากให้เพื่อนๆเห็นว่า ดาวไม่ใช่คนที่เก่งมีฝีมือหรอกคะ ต้องล้มลงไม่รู้กี่ครั้ง ฟังคำ ติ และ ติ มาจนชาไปหลายหน แต่ก็พยายามเขียนต่อไป จะเห็นว่า บทกลอนนี้จะค่อยๆดีขึ้นทีละนิด(จริงๆ)
ระยะเวลาที่เขียนตั้งแต่เริ่มต้น จนมาถึงอันล่าสุดที่เห็นนะคะ ใช้เวลาไปประมาณ 1 ปี (เขียนได้เท่าเนี่ยเอง ><)
แต่เมื่อก่อน ดาวไม่ชอบภาษาไทย ไม่ชอบบทกวีนะคะ (เพราะฉะนั้น ไม่น่าแปลก) ที่เขียนได้ไม่เยอะเท่าไไหร่




พรสวรรค์ที่ใฝ่หา คือ พรแสวงที่หาใฝ่
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2010, 11:06:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:06:PM »
ชุมชนชุมชน


พรสวรรค์หากมีก็ดีอยู่
แต่จะสู้พรแสวงหาได้ไม่
ดังกระต่ายอ้างอิงแม้วิ่งไว
ยังพ่ายให้กับเต่าเฝ้าพากเพียร..

...แต่ ถ้า หมด กำ ลัง ใจ ก็ อาจ หมด ไฟ ได้ เหมือน กัน เนาะ ...อิ อิ..
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
05 มกราคม 2010, 11:16:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #2 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:16:PM »
ชุมชนชุมชน


พรสวรรค์หากมีก็ดีอยู่
แต่จะสู้พรแสวงหาได้ไม่
ดังกระต่ายอ้างอิงแม้วิ่งไว
ยังพ่ายให้กับเต่าเฝ้าพากเพียร..

...แต่ ถ้า หมด กำ ลัง ใจ ก็ อาจ หมด ไฟ ได้ เหมือน กัน เนาะ ...อิ อิ..



ก็จริงนะคะ
แต่ทว่า หากลมยังพัด ไฟที่ใกล้มอดก็สามารถกลับมาโชติช่วงได้เช่นกัน ^______^
หากว่ายังมีกำลังใจคอยหนุนหลัง ก็เสมือนมีพลังผลักดันความฝันต่อไป(ใช่มั้ยคะ)
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2010, 11:17:PM
gizon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:17:PM »
ชุมชนชุมชน

จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเริ่มเขียนบทกลอนไว้แรก ๆ ยังไง
เริ่มตั้งแต่เด็กมาก ๆ น่าจะสักประมาณ 8 ขวบ (เอ..แต่สำหรับบางคนอาจเริ่มเขียนตอนเด็กกว่านี้  สาวน้อยหัวเราะ)

เป็นการโดนบังคับให้แต่งโดยคุณครูภาษาไทย
แต่ก็น่าจะชอบนะ ก็เลยแต่งมาเรื่อย ๆ (จำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แล้ว  สาวน้อยหัวเราะ)

เคยได้รางวัลครั้งนึง ตอนนั้นประกวดงานวันสุนทรภู่ (ภูมิใจมาก แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้เก่งมากหรอก แต่เพราะเรียนสายอาชีพ คู่แข่งเลยไม่เท่าไหร่  สาวน้อยหัวเราะ)

ไม่อยากจะบอกเลยว่าจำไม่ได้แล้วด้วยว่าตัวเองแต่งไปว่าไงบ้าง  สาวน้อยหัวเราะ

สุนทรภู่ครูกวีสี่สมัย                บรมครูกวีไทยเกียรติไพศาล
ตั้งแต่ต้นจักรีสี่รัชกาล  (ขึ้นต้นประมาณนี้  สาวน้อยหัวเราะ)           

ยี่สิบหกมิถุนาเวียนมาแล้ว       ขอพระภู่ครูแก้วสโมสร
มีสุขในสถานพิมานพร            บรมครูทางบทกลอนแห่งสากล (แล้วก็ลงท้ายว่างี้  สาวน้อยหัวเราะ)

นอกนั้นก็นึกไม่ออกแล้วล่ะ เรื่องมันนานมาก  สาวน้อยหัวเราะ

ทุกวันนี้ก็ยังพยายามฝึกฝนตัวเองอยู่ เพราะทิ้งไปนานมาก จากที่เมื่อก่อนฝีมือก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว  สาวน้อยหัวเราะ

สู้สู้! ต่อไป .. (อันนี้ให้กำลังใจตัวเอง  สาวน้อยหัวเราะ)
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2010, 11:27:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #4 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:27:PM »
ชุมชนชุมชน


พรสวรรค์หากมีก็ดีอยู่
แต่จะสู้พรแสวงหาได้ไม่
ดังกระต่ายอ้างอิงแม้วิ่งไว
ยังพ่ายให้กับเต่าเฝ้าพากเพียร..

...แต่ ถ้า หมด กำ ลัง ใจ ก็ อาจ หมด ไฟ ได้ เหมือน กัน เนาะ ...อิ อิ..


๐  ลุงสายใย หลับไปนาน นิทานเก่า
กระต่ายเต่า เขาลอง ภาคสองเขียน
เป็นเหลืองแดง แข่งขัน ให้สั่นเอียน
ต่างพากเพียร พาไทย สู้ไฟดำ


แบบว่า...แซวลุงสายใย แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้แม่นางละอองดาวครับ อิอิ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 มกราคม 2010, 11:45:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:45:PM »
ชุมชนชุมชน

คนไทย....ชอบเป็นใหญ่...แต่ ...ไม่ชอบใหญ่ที่สุด
คนไทย....ไม่ชอบการแข่งขันซึ่ง ๆ หน้า...แต่ไม่ชอบเห็นใครเก่งกว่า
คนไทย....ไม่ชอบการแสดงออก  แต่ชอบให้คนอื่นยกย่อง

....อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว อิ อิ...ไม่รู้สิว่าถูกไหม...
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
05 มกราคม 2010, 11:51:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #6 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:51:PM »
ชุมชนชุมชน

คนไทย....ชอบเป็นใหญ่...แต่ ...ไม่ชอบใหญ่ที่สุด
คนไทย....ไม่ชอบการแข่งขันซึ่ง ๆ หน้า...แต่ไม่ชอบเห็นใครเก่งกว่า
คนไทย....ไม่ชอบการแสดงออก  แต่ชอบให้คนอื่นยกย่อง

....อันนี้กลั่นมาจากตัวเอง อิ อิ...ไม่รู้สิว่าถูกไหม...


แบบว่า...ไม่รู้สิ
(ยืมท่านจะไม่เด็ดมาครับ)
อิอิ
หัวเราะยิ้มๆ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 มกราคม 2010, 11:53:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #7 เมื่อ: 05 มกราคม 2010, 11:53:PM »
ชุมชนชุมชน

คนไทย....ชอบเป็นใหญ่...แต่ ...ไม่ชอบใหญ่ที่สุด
คนไทย....ไม่ชอบการแข่งขันซึ่ง ๆ หน้า...แต่ไม่ชอบเห็นใครเก่งกว่า
คนไทย....ไม่ชอบการแสดงออก  แต่ชอบให้คนอื่นยกย่อง

....อันนี้กลั่นมาจากตัวเอง อิ อิ...ไม่รู้สิว่าถูกไหม...

อ่านะ ^^ เหมือนเคยเห็นที่ไหน(ก็ไม่รู้) แต่มันก็ถูกนะคะ
เพราะคนส่วนใหญ่เขาคิดแบบนี้กันจริงๆ (รึเปล่าคะ)
อิอิ


ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 มกราคม 2010, 01:59:AM
ดาวระดา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 369
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 595



« ตอบ #8 เมื่อ: 06 มกราคม 2010, 01:59:AM »
ชุมชนชุมชน

ชอบจุดเริ่มต้นของบทกวีจังครับ
ผมว่าทำให้หลายๆท่านมีกำลังใจครับผมก็ด้วยล่ะคนนึง
ผมก็เริ่มเขียนกลอนออกมาไม่ต่างกับคุณสายลมสีขาวหรอกครับ
โดนมาไม่ต่างกัน
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 มกราคม 2010, 08:47:AM
เจ้ากวางน้อย
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย.
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 31



« ตอบ #9 เมื่อ: 06 มกราคม 2010, 08:47:AM »
ชุมชนชุมชน


พรสวรรค์หากมีก็ดีอยู่
แต่จะสู้พรแสวงหาได้ไม่
ดังกระต่ายอ้างอิงแม้วิ่งไว
ยังพ่ายให้กับเต่าเฝ้าพากเพียร..

...แต่ ถ้า หมด กำ ลัง ใจ ก็ อาจ หมด ไฟ ได้ เหมือน กัน เนาะ ...อิ อิ..
ค่ะ
คนเราที่มีพรสวรรค์แต่ไม่มีการฝึกฝน
คงจะสู้คนที่มีพรแสวงยาก
เหมือนสุภาษิต..ที่ว่า
ความพยายามอยู่ที่ไหน  ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
อิอิ
ชอบใจๆ

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

กวีน้อย...พยาบาลผู้สร้างฝัน
06 มกราคม 2010, 09:40:AM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #10 เมื่อ: 06 มกราคม 2010, 09:40:AM »
ชุมชนชุมชน

เท่าที่เหลือติดอยู่ในความทรงจำ
คือเริ่มเขียนบทร้อยกรองชิ้นแรกตอนประถมปลาย
เริ่มแต่งโคลงเรื่องเกี่ยวกับไก่
คงเพราะที่บ้านเลี้ยงไก่มาสารพัดชนิดมั้ง
ออกมาฉันทลักษณ์ไม่ได้เรื่องหรอกค่ะ
ตอนนั้นกำลังสนใจตำรับโคลงประมวลมารค (ไม่แน่ใจตัวสะกด)
ก็เลยลองแต่ง
มาเริ่มเข้าใจฉันทลักษณ์อะไรมากขึ้นก็ตอนม.๑
คิดจะส่งกลอนประกวดวันครู
เอาไปให้พ่อดู
จึงได้รับคำแนะนำให้แก้ไขคำส่งรับสัมผัส
และได้คำอธิบายเรื่องเสียงวรรณยุกต์ท้ายคำ
ก็พ่อเขาเป็นนักกลอนมือรางวัล
เดี๋ยวนี้ใครจะจัดงานแต่งงานตายต้องโทรมาขอให้พ่อแต่งกลอนให้
แสดงว่ายังมือไม่ตก

จากวันนั้นมาจนวันนี้
ผ่านไปเป็นสิบปี
โชคดีที่ฝีมือไม่ย่ำอยู่กับที่

พอมาอ่านเรื่องของคุณสายลมสีขาว
ถึงได้พอจะเข้าใจ
สมาชิกใหม่หลายคนกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้น
มีคนเดินไป
เซบ้าง  เฉบ้าง
ก็ดีกว่าไม่มีใครสนใจล่ะนะ

เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังฝึกปรือฝีมือทุกคนนะคะ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
06 มกราคม 2010, 10:53:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #11 เมื่อ: 06 มกราคม 2010, 10:53:PM »
ชุมชนชุมชน

ต่อจากเมื่อวานนะคะ
เหมือนเดิม บทกลอนเหล่านี้ยังไม่ได้แก้ไข
เอามาลงแบบตรงๆเลยล่ะคะ => (เผาตัวเอง)- -"
 เริ่มเลยนะ


หากเธอมี ปัญหา บอกเราเถิด
เผื่อจะเกิด ปัญญา ช่วยแก้ไข
ลองบอกมา สักนิด จะเป็นไร
เราจะได้ ช่วยแก้ไข ให้ทันกาล

=> เริ่มดูได้ขึ้นมาในอีกระดับนึง (รึเปล่าคะ)


ก็เพราะว่า เพื่อนเรา เป็นเพื่อนกัน
ทุกคืนวัน ผูกไมตรี ไม่ห่างหาย
แม้เธอตาย เราตาย สิ้นชีพวาย
ใช่ไมตรี จะตาย ตามเราไป

=> เกี่ยวมั้ยคะเนี่ย  ออกแนวเวอร์ๆนิดนึง เนื้อหา ก็ยังคลุมเครืออยู่ดี


ลองทบทวน มองดู ตนเองก่อน
อย่ารีบร้อน ตีตน ไปก่อนไข้
คิดไตร่ตรอง ทบทวน ดูในใจ
หากเรื่องใหญ่ จริงแท้ รีบบอกเรา

=> อ่า ฉันทลักษณ์เริ่มถูกแล้วล่ะคะ ^^


เธอลำบาก ฉันลำบาก เราลำบาก
ก็เกิดจาก ความผิดพลาด ของเราสอง
เราทั้งสอง จะช่วย กันประคอง
พาเราสอง แก้ไข ปัญหาเอย

=> ลงคำว่า"เอย" มันแปลกๆแหะ ^^" แถมอ่านแล้ว ใช้คำซ้ำเยอะจริงๆเลย T^T


อย่าเสียใจ หากเรา เป็นที่สอง
ใช่เป็นรอง ตลอด หรือยังไง
ด้วยสองมือ หนึ่งหัวใจ วิ่งเข้าไป
วิ่งให้ไกล กว่าเขา เราที่หนึ่ง

=> ยิ่งอ่านยิ่งสะดุดแฮะ - -" ไม่รู้ว่าตัวเองแต่งไปได้ยังไงเลยล่ะคะ แหะๆ


เธออยู่ไหน ในป่าดง ผืนพงไพร
เป็นอย่างไร ลำบากไหม อยู่คนเดียว
เธอเหงา ฉันเศร้า ใจเปล่าเปลี่ยว
ขอแค่เกี่ยว เธอหลุดพ้น ผืนพงไพร

=> รู้สึกว่าที่แต่งตอนนั้น คำว่าพงไพรเหมือนจะใช้แทนความกังวล ความเหงา อะไรนี่แหละคะ ^^" (แต่งไปเรื่อย ไม่รู้เรื่อง)


ความรักนั้น ใช่หาซื้อ ด้วยเงินตรา
ใช่ราคา ถูกเหมือน เศษก้อนหิน
หาได้มี คุณค่า ดุจเพชรนิน
แต่ทั้งสิ้น คือความดี ที่มีมา

=> อันนี้พอดูได้ (รึเปล่าคะ)


ในค่ำคืน เดือนมืด กลางพงไพร
แสงดาวใส สุกสกาว บนฟ้าสูง
หากความเหงา ไม่เข้า มาชักจูง
อนึ่งยูง นภาใส ได้งามตา

=> เอ่่่อ บทนี้เปลี่ยนวรรคสุดท้ายนะคะ เปลี่ยนหลังจากตอนที่เริ่มเขียนกลอนดีขึ้นมาอีกนิด ^^"


หากชีพข้า เป็นเหมือน ดั่งสายลม
ที่โบกบิน โชยชม ธรรมชาติ
หากแต่ข้า ก็เป็น เพียงแค่ธาตุ
ไม่อาจวาด ความรู้สึก ใดได้เลย

=> รู้สึกว่าอันนี้จะแต่งตอนที่ใช้นามปากกาว่า สายลมสีขาว ครั้งแรกน่ะคะ ^______^ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งกลอนในเว็บ แค่เขียนเล่นๆในสมุดบันทึกส่วนตัว


*********************
เดี๋ยวเอามาลงต่ออีกนะคะ
(ต้องไปหาสมุดบันทึกก่อน แหะๆ)
แต่ที่เอามาลงนี่ ก็จบสมุดบันทึกไปเล่ม 1 แล้วล่ะคะ (เล่มมันเล็ก) เลยมีกลอนที่เขียนอยู่น้อย - -"
แต่อีกเล่ม หาเจอแล้วจะเอามาลงต่อนะคะ
แล้วจะรู้ว่า การพัฒนาของเรา มันค่อยๆกระดื้บไปเรื่อยๆ ^^


ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 มกราคม 2010, 03:09:AM
Kotchanan
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 07 มกราคม 2010, 03:09:AM »
ชุมชนชุมชน

เชื่อว่าการอ่านเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับชีวิต
จึงอ่าน..อ่าน..และอ่าน.. หนังสือทุกประเภท

กระทั่ง.. วันหนึ่งเดินเข้าไปร้านขายหนังสือ ตั้งใจจะซื้อหนังสือใหม่ๆ ติดมือกลับบ้านสักสองสามเล่ม
ปรากฏว่า.. ไม่ได้เลยสักเล่ม..

กลับถึงบ้าน.. หยิบหนังสือที่อ่านค้างมาหลายปี..
"ม้าก้านกล้วย" ควบม้าชีวิตฝันแรมนิราศชีวิตจริง  กวีนิพนธ์รางวัลซีไรต์ ปี ๒๕๓๘
ประพันธ์โดย... คุณไพวรินทร์  ขาวงาม

อ่านซ้ำไปซ้ำมา.. หลงเสน่ห์มนต์กลอนเข้าเสียแล้ว

  04 เมษายน 2009, 12:08:am &raquo;  กลอนแรกได้ถูกโพส ณ บ้านกลอนแห่งนี้.. ทั้งที่ยังแต่งไม่เป็น

http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,7295.msg56801.html#msg56801
(อ่านแล้วอย่าฮา.. น้ำตาไหล พรากๆ)

ขอเป็นกำลังใจให้สมาชิกทุกท่านค่ะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ



         ไว้ฝาก...


กวีนั้นไม่ใช่เป็นเพียงนักกลอนแต่งกลอนเป็น
แต่ต้องเป็นผู้มีความพยายามคิดค้นหาของจริงและของงาม
แล้วเอาความสังเกตเห็นนั้นมาพิจารณา
เกิดเป็นความคิดความรู้สึก
และฝันเห็นเป็นไปแต่ในทางที่ดีงาม
แล้วสามารถระบายความรู้สึกนั้นออกมาตีแผ่
แสดงเป็นคำพูดด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
มีความเหมาะเจาะกลมกลืนกัน
ให้บังเกิดความซาบซึ้งเร้าใจเป็นวรรณศิลป์


    เสฐียรโกเศศ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 มกราคม 2010, 01:03:PM
สายลมสีขาว
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 823


จงพัดพา ความเป็นไปได้


« ตอบ #13 เมื่อ: 09 มกราคม 2010, 01:03:PM »
ชุมชนชุมชน

หลังจากสมุดบันทึกเล่มแรกหมดไปแล้ว (ที่จริงไม่หมด แต่ว่าเขียนเล่นจนเต็ม - -")
คราวนี้ ก็เปลี่ยนเป็นเล่มที่สอง แต่ว่าเล่มนี้ เป็นเล่มที่เข้าสู่ช่วงเริ่มเขียนกลอนมากขึ้น
และรู้จักฉันทลักษณ์ การวางคำ ศัพท์แปลกๆมากขึ้นคะ ^^
เริ่มกันเลยนะคะ

ดูแล กันมา แต่ต้น
ใจสน เอนเอียง กว่าครึ่ง
อดทน สอนศิษย์ ดื้อดึง
หนูซึ้ง ในคุณ อาจารย์
ศิษย์โง่ มีเรื่อง อยากกล่าว
ไม่ยาว ไม่สั้น ไม่นาน
เป็นคำ คำเดียว ต้องการ
วันวาน หนูขอ ขอบคุณ

=> อันนี้ถ้าจำไม่ผิด แต่งเพื่อไปเขียนเฟรนชิพให้อาจารย์น่ะคะ ^^ เป็นกลอนหก ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าโอเคแล้ว ตอนนี้ก็ ใช้ได้(มั้ง) แต่ฉันทลักษณ์ถูกนะคะ


 แสงเปลวเพลิง โชติช่วง แสนช่วงโชติ
ความเรืองโรจน์ โรจน์เรือง เฟื่องความหวัง
แลยิ่งใหญ่ ดูยิ่งยง ทรงพลัง
ด้วยความหวัง แสนเรืองฤทธิ์ พิชิตไป

=> --" จะเล่นคำ แต่ตอนนั้นเล่นไม่เป็น มันเลยออกมาในสภาพแบบนี้แหละคะ


อันสายน้ำ หลั่งไหล รินหลากรด
กี่หยาดหยด ชลไป ไม่ขาดสาย
ไหลไปเรื่อย จนกว่า จะสุดปลาย
ด้วยความหวัง สุดท้าย จะเปลี่ยนแปลง

=> อ่า...ดำน้ำไปเรื่อยเลยแฮะ


ไม้บุปผา สะพรั่ง กลางหุบเขา
จะอยู่เนา งดงาม กลางภูผา
ให้วิหค นกไม้ อีกนานา
ต่างกันพา ชื่นชม รื่นรมใจ
ไม่ได้หวัง โดดเด่น ในใต้หล้า
ขอเป็นแค่ บุปผา ในป่าใหญ่
ที่องอาจ ยืนยง คงเกรียงไกร
ด้วยหวังไซร้ อยู่ใต้ ร่มพนา

=> กลอนบทนี้ ตอนนั้นแต่งมาหลังจากดูหนังจีน เนื้อหาที่ออกมาจะอยู่ในเชิงเปรียบเทียบมากกว่าน่ะคะ ^^


สายน้ำเป็นดั่งรักแท้
ลมแผ่วเป็นดั่งรักไหว
แผ่นดินเป็นดั่งรักใจ
เปลวไฟคงเป็นรักเธอ

=> จำได้ว่ากลอนบทนี้เหมือนจะเคยเอามาลงในบ้านกลอนนี้อ่ะคะ ช่วงแรกๆเลยที่เข้ามาเป็นสมาชิก ^^


ยามเพ้อ ยามฝัน เห็นหน้า
แก้วตา ดวงใจ ของพี่
จะรัก ดูแล อย่างดี
ด้วยชีพ ชีวี แห่งตน

=> ส่วนอันนี้แต่งตอนที่ร่อนเร่ไปตามเว็บกลอนต่างๆ เรื่อยเปื่อย แหะๆ (เริ่มดีขึ้นแล้วใช่มั้ยล่ะ  ยิ้มแก้มแดง)


ด้วยความจริง แห่งรัก กันและกัน
ด้วยคืนวัน แห่งรัก คอยห่วงหา
ด้วยคิดถึง แห่งรัก พรรณนา
ด้วยคำว่า แห่งรัก จากหัวใจ

=> กลอนบทเนี่ย เป็นจุดเริ่มต้นของกลอนที่เอามาแต่งเพื่อแข่งประกวดในเดือนมีนาปี 52 ล่ะคะ ชนะเลิศด้วย) ^______________^


เสียงกระซิบ จากสายลม ว่าคิดถึง
คงตราตรึง กลางฤทัย มิเคยหาย
เหมือนดั่งว่า คนคนนั้น อยู่เคียงกาย
คอยพร่ำพราย ดูแล ทุกเวลา

=> เป็นการต่อกลอนที่เคยแต่งในเว็บอื่นนั่นแหละคะ - -" คิดว่าดีแล้วนะ


คือความจริง แห่งวัน ใช่ความฝัน
คือคืนวัน แห่งรัก ใช่เงียบเหงา
คือเวลา แห่งใจ ของสองเรา
คือความเศร้า แห่งคน ที่ไร้แฟน

=> แต่งวันวาเลนไทม์ (ช่างเป็นความคิดที่ดีจริงๆ) อันนี้แต่งประชดวันวาเลนไทม์เลยล่ะคะ - -"  แต่รู้สึกจะโดนใจใครหลายๆคนอยู่ ^^


อันดวงดาว แพรวพราว ระยับฟ้า
คล้ายจันทรา ที่ส่องแสง คืนหม่นหมอง
เหมือนใบหน้า ของเธอ ที่เฝ้ามอง
ให้เราผอง ครองคู่ รู้ทั่วกัน

=> กลอนที่เขียนเป็นคนบุรุษที่สาม งานที่ออกมาก็เลยประมาณว่า คนเขารักกัน ส่วนเราได้แต่นั่งเฝ้ามอง T^T  (ที่จริง เขียนไปงั้นแหละคะ)  แลบลิ้น..กวนทีน


ฝากฟากฟ้า ผ่านดวงดาว ที่พราวแสง
จันทราแจ้ง ไม่จำแลง และขาดหาย
เหมือนอาทิตย์ ที่สาดแสง ไม่เสื่อมคลาย
เหมือนคล้ายคล้าย ว่าจะชอบ บอกตามตรง

=> อันนี้เริมดูดีมีระดับกว่าที่ผ่านๆมาเลยนะ ^^


ความจริง ใช่ความฝัน
เพราะคืนวัน มีความหมาย
เรื่องจริง ใช่นิยาย
อาจดูคล้าย แต่ไม่ เลย!!

=> อันนี้เขียนไปตามอารมณ์คะ ^[+++]^


อยากจะเจอ พูดคุย และพบหน้า
ด้วยความว่า คิดถึง ไม่เคยหาย
ก็เพราะชอบ ชอบจริงจริง ไม่เสื่อมคลาย
แต่สุดท้าย เป็นได้แค่ เพื่อนกันเอง

=> ถึงจะเขียนกลอนไปแบบนี้ แต่ก็ยังเห็นว่าเส้นขนานมันมั่นคงกว่าวงกลมอยู่ดีนั่นแหละคะ หุหุ


เบื้องบน พื้นนภา
หมู่ดารา ละลานฟ้า
ดูงาน ละลานตา
ในเวลา ยามราตรี

=> อันนี้เขียนกาพย์ยานีส่งครู ได้แค่ 9 คะแนนเต็ม 10 น่ะคะ Y-Y  แต่อีกอันที่เขียนให้เพื่อน เขาได้ 10 เต็ม 10 พอคะแนนออกมาแล้วอยากจะกลับไปเอากลอนที่แต่งให้เพื่อนคืนมาแล้วเอาไปส่งเองเลยล่ะคะ T^T


ย้อนระลึกคุณมารดา              ตั้งแต่เกิดมา
เติบใหญ่กันแต่บัดนี้
แม่สอนเราเป็นคนดี               ความรู่้ที่มี
แม่เรานี้ท่านสอนมา

=> กาพฉบัง 16 เป็นฉันทลักษณ์ที่ไม่อยากจะเขียนเลยล่ะคะ


ใครนั้นจะเก่ง เทียบแม่            ที่คอยดูแล
ตั้งแต่ลูกนั้นเกิดมา
แม่นั้นรักเราเท่าฟ้า                ส่วนเรานั้นนา
รักแม่กว่าใดปาน

=> หลังจากเขียนกาพย์ฉบัง 16 อีันนี้จบ ก็ปิดตายฉันทลักษณ์นี้เลยล่ะคะ และไม่เคยเขียนต่อมาอีกเลย (ฝันร้ายจริงๆ ฉันทลักษณ์ที่เขียนไม่ออกเนี่ย) แต่กลอนบทนี้ เขียนในงานวันแม่เพื่อส่งครูน่ะคะ


*************************
เดี๋ยววันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วจะเอามาลงอีกนะคะ
^^ พอกลับไปย้อนอ่านบทกลอนที่เคยแต่งมาครั้งแรกๆยังคิดเลยว่าใครเขียนเนี่ย
ไม่เป็น สรรพรส เอาซะเลย (ก็ตัวเองเขียนเอง และก็รับตัวเองไม่ลง) T^T
แต่ก็คือพื้นฐานของการเขียนกลอน ยังไงก็ต้องยอมรับตัวเอง
เผาตัวเองไปเรื่อย ^_________^
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s