หยาดฝนปนลมหนาว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 01:33:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หยาดฝนปนลมหนาว  (อ่าน 19630 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
19 ธันวาคม 2009, 10:39:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« เมื่อ: 19 ธันวาคม 2009, 10:39:PM »
ชุมชนชุมชน



 ลาตายดีกว่าตู
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 02:43:AM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 02:43:AM »
ชุมชนชุมชน



 ลาตายดีกว่าตู



เป็นโคลงประเภทไหนหรือคะ อยากลองหัดเขียนดูบ้างค่ะ
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2009, 09:10:AM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 09:10:AM »
ชุมชนชุมชน



โคลงสี่สุภาพ ธรรมดา ๆ นี่แหละครับ ...

เพียงแต่ว่าจัดระเบียบการใช้คำนิดหน่อย
ให้ดูเหมือน ๆ กัน เพื่อที่จะเป็นโคลงชุดเดียวกันได้



 เอ้อ..จริงว่ะ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 11:48:AM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #3 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 11:48:AM »
ชุมชนชุมชน



โคลงสี่สุภาพ ธรรมดา ๆ นี่แหละครับ ...

เพียงแต่ว่าจัดระเบียบการใช้คำนิดหน่อย
ให้ดูเหมือน ๆ กัน เพื่อที่จะเป็นโคลงชุดเดียวกันได้



 เอ้อ..จริงว่ะ


ขอบคุณค่ะ พอดีสังเกตเห็นคำที่ 4 ,5 ของโคลงในบาทที่ ๔ แต่ละบทเป็น โท โท   จะฝึกเขียนดู แต่ว่ายากจังค่ะ
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2009, 11:54:AM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 11:54:AM »
ชุมชนชุมชน

การใช้คำโทคู่ในวรรคหน้าบาท ๔
เป็นข้อบังคับของโคลงดั้น

ในที่นี้ผมลองเอามาใช้กับโคลงสี่สุภาพดูบ้าง

มันก็พอใช้ได้อยู่นะครับ เพียงแต่ว่า... เสียงโคลงมันดูง่องแง่งไป เมื่อเขียนติด ๆ กันหลาย ๆ บท

 หัวเราะเยาะ
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 12:21:PM
ป้ากันนา
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 160
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 361


วันคืนล่วงลาลับ ไม่หวนกลับคืนมาได้


« ตอบ #5 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 12:21:PM »
ชุมชนชุมชน


ลมหนาวพัดผ่านพริ้ว            เย็นเยียบ
ลอยล่องหมอกบางเปรียบ     ม่านไซร้
ดอกเหมยเบ่งบานเทียบ        ลมเย็น
ฝนพร่างเพียงโลมไล้           ลู่ไม้ใบบัง..
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

KNZ
20 ธันวาคม 2009, 12:53:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 12:53:PM »
ชุมชนชุมชน


ลมหนาวพัดผ่านพริ้ว            เย็นเยียบ
ลอยล่องหมอกบางเปรียบ     ม่านไซร้
ดอกเหมยเบ่งบานเทียบ        ลมเย็น
ฝนพร่างเพียงโลมไล้           ลู่ไม้ใบบัง..


ลมหนาวพัดผ่านพลิ้ว      พลันหาย
หนาวเหน็บในพระพาย      พัดไล้
ร้างนางห่างหาวาย      วอดเหน็บ   หนาวนอ
หนาวจับจิตจนไข้      ขื่นล้นกมลหนาว ฯ



ขอบพระคุณครับ ที่ร่วมเขียนโคลง
 ชอบใจๆ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 01:10:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #7 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 01:10:PM »
ชุมชนชุมชน



๐ ลมหนาวพัดผ่านพริ้ว            เย็นเยียบ
ลอยล่องหมอกบางเปรียบ     ม่านไซร้
ดอกเหมยเบ่งบานเทียบ        ลมเย็น
ฝนพร่างเพียงโลมไล้           ลู่ไม้ใบบัง.....(ท่านแม่ครูกันนา)


๐ หนาวจังดังรักล้ม            จมดิน
หมองหม่นบนกวิน             สลักไว้
ลมโชยอยากโบยบิน         ตามรัก ไปนอ
ฝนกลับเทสาดให้             หยุดกั้นฝันเสมอ.....(นะโมศิษย์)


แบบว่า...มอบให้ป้ากันนากับลุงของป้าครับ ฮ่าๆ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 01:20:PM
sabunrga
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 14



« ตอบ #8 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 01:20:PM »
ชุมชนชุมชน

ลมหนาวพาพัดพร้อม        สายฝน
ฟ้าหม่นทำให้คน              ยิ่งเศร้า         
รอบกายมืดมนจน            ใจหม่น
เทียนส่องดนตรีเคล้า        หลุดพ้นได้ไฉน


 ไม่เอาๆ ฉลองกัน เต้นบัลเลย์ ร้องไห้งอแง
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2009, 01:58:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 01:58:PM »
ชุมชนชุมชน

ขอถามหน่อยนะครับ
การเขียนโคลงติดๆกันหลายๆบทนั้น จะีมีสัมผัสระหว่างบทด้วยมั้ยครับ
หรือว่า แยกเป็นบทใครบทมัน แล้วเอามาต่อกันล่ะครับ ???


ขอบคุณครับ
(เปลวฟ้า)




ตามฉันทลักษณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการร้อยสัมผัสระหว่างบทเมื่อเขียนโคลงหลาย ๆ บทต่อ ๆ กัน

การร้อยสัมผัสโคลงนั้นนักโคลงเขาเรียกว่า การเข้าลิลิตครับ เผื่อไปอ่านเจอที่อื่น

 เอ้อ..จริงว่ะ
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 02:51:PM
บ้านกลอนไทย
ผู้ดูแลทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 533
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 962


จิ๊กโก๋...กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ฮ่าๆ


« ตอบ #10 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 02:51:PM »
ชุมชนชุมชน


...ขอเพิ่มเติมต่อจาก ท่านพี่ วฤก ครับ...

          การร้อยโคลง หรือ การเข้าลิลิตโดยหลักแล้ว?.ไม่บังคับครับ (แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าน่าจะมี) เพราะจะทำให้เนื้อหาเป็นเรื่องสอดรับกันกับบทอื่นๆ อีกทั้งโบราณเราก็เคยสอนไว้ แต่จะไปบังคับกันจริงๆในเรื่องการเขียนลิลิตเสียมากกว่า..

        ลิลิต หมายถึง หนังสือที่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภท โคลง และร่าย สลับกันเป็นช่วงๆ ตามธรรมเนียมแล้ว มักจะใช้โคลงและร่ายในแบบเดียวกัน กล่าวคือ โคลงดั้น สลับกับร่ายดั้น, โคลงสุภาพ สลับกับร่ายสุภาพ อย่างนี้เป็นต้น โคลงและร่ายที่สลับกันนั้น มักจะร้อยสัมผัสด้วยกัน เรียกว่า "เข้าลิลิต" หรือการ "ร้อยโคลง" ครับ

       วรรณคดีที่แต่งตามแบบแผนลิลิต มักจะใช้ร่ายและโคลงสลับกันเป็นช่วงๆ ตามจังหวะ ลีลา และท่วงทำนอง และความเหมาะสมของเนื้อหาในช่วงนั้นๆ มี  ๒ ประเภท คือ       
       ๑. ลิลิตสุภาพ คือ ลิลิตที่ใช้รายดั้นและโคลงดั้นแต่งสลับกันอยู่ในเรื่องเดียวกัน เช่น ลิลิตพระลอ ลิลิตตะเลงพ่าย ลิลิตนิทราชาคริต เป็นต้น
       ๒. ลิลิตดั้น คือ ลิลิตที่ใช้ร่ายดั้นและโคลงดั้นแต่งสลับกันอยู่ในเรื่องเดียวกัน เช่น ลิลติยวนพ่าย เป็นต้น

ข้อสังเกต:
      ๑. โคลงนั้นใช้ทั้งโคลงสอง โคลงสาม และโคลงสี่ สุดแต่เห็นสมควรว่าตอนไหนควรจะใช้โคลงชนิดใด
      ๒. ถ้าแต่ลิลิตสุภาพ ต้องใช้ร่ายสุภาพขึ้นต้น แล้วใช้โคลงสุภาพกับร่ายสุภาพแต่งสลับกัน ถ้าแต่งเป็นลิลิตดั้น ต้องใช้ร่ายดั้นขึ้นต้น แล้วต่อไปก็ใช้โคลงดั้นกับร่ายดั้นแต่งสลับกัน
      ๓. ถ้าเป็นโคลงสี่ดั้น นอกจากจะสัมผัสเกี่ยวกันระหว่างบทดังกล่าวแล้ว ยังต้องให้คำสุดท้ายของโคลงบทต้น สัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๔ หรือ ๕ ของบาทที่ ๒ ของบทต้อไป ตามแบบและชนิดของโคลงดั้นชนิดนั้นๆ ด้วย

กฏ :
      ร่ายและโคลงที่ใช้ในลิลิตนั้น มีลักษณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้น บังคับให้มีการสัมผัส โดยเพียงแต่เพิ่มสัมผัสระหว่างบทให้เกี่ยวข้องติดต่อกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ (คือให้คำสุดท้ายองบทต้น สัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคแรกของบทต่อไป)  ดังนั้นในเรื่องการเขียนโคลงทั่วๆไปจึงควรจะมีการร้อยโคลงหรือการเข้าลิลิตด้วยเพื่อให้เป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน  จะทำให้ภาษาสวยงามขึ้น แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ผิดกฎแต่อย่างใดครับ    (ทั้งนี่ท่านป้า(พี่)อัณณ์รินแห่งบ้านกลอนไทยสืบค้นข้อมูลมาบอกว่าสมควรมี?) จึงเป็นเช่นนั้นหล่ะครับ......(ผิดพลาดขออภัย..และท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมเชิญนะครับ)


( ขอบคุณ คุณครูวัลภา เทียนดำรง อาจารย์ชำนาญการภาษาไทย โรงเรียนตราษตระการคุณ )

      ชอบใจๆ ฉลองกัน ชอบใจๆ
 
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 03:27:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 03:27:PM »
ชุมชนชุมชน



๐ ลมหนาวพัดผ่านพริ้ว            เย็นเยียบ
ลอยล่องหมอกบางเปรียบ     ม่านไซร้
ดอกเหมยเบ่งบานเทียบ        ลมเย็น
ฝนพร่างเพียงโลมไล้           ลู่ไม้ใบบัง.....(ท่านแม่ครูกันนา)


๐ หนาวจังดังรักล้ม            จมดิน
หมองหม่นบนกวิน             สลักไว้
ลมโชยอยากโบยบิน         ตามรัก ไปนอ
ฝนกลับเทสาดให้             หยุดกั้นฝันเสมอ.....(นะโมศิษย์)


แบบว่า...มอบให้ป้ากันนากับลุงของป้าครับ ฮ่าๆ  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ



ละเมอรุมรุ่มร้อน      รมลม
ร้อนเร่าเผาผ่าวซม      ซบไข้
คิมหันต์ครั่นเนื้อตรม      ตรอมอก   ฟกเอย
พ้นผ่านฝนหนาวไสร้      สู่ร้อนรอดไฉน ฯ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 03:28:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 03:28:PM »
ชุมชนชุมชน

ลมหนาวพาพัดพร้อม        สายฝน
ฟ้าหม่นทำให้คน              ยิ่งเศร้า         
รอบกายมืดมนจน            ใจหม่น
เทียนส่องดนตรีเคล้า        หลุดพ้นได้ไฉน


 ไม่เอาๆ ฉลองกัน เต้นบัลเลย์ ร้องไห้งอแง

ลมหนาวพัดผ่านอ้อม      อกถวิล
ลมสะบัดซัดสาดสินธุ      สะอื้น
หยาดฝนหล่นไหลริน      รดอก   เรียมอา
พยุอึกทึกครื้น         ครึกคล้ายไห้หวน ฯ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 03:42:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 03:42:PM »
ชุมชนชุมชน


...ขอเพิ่มเติมต่อจาก ท่านพี่ วฤก ครับ...

          การร้อยโคลง หรือ การเข้าลิลิตโดยหลักแล้ว?.ไม่บังคับครับ (แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าน่าจะมี) เพราะจะทำให้เนื้อหาเป็นเรื่องสอดรับกันกับบทอื่นๆ อีกทั้งโบราณเราก็เคยสอนไว้ แต่จะไปบังคับกันจริงๆในเรื่องการเขียนลิลิตเสียมากกว่า..

        ลิลิต หมายถึง หนังสือที่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภท โคลง และร่าย สลับกันเป็นช่วงๆ ตามธรรมเนียมแล้ว มักจะใช้โคลงและร่ายในแบบเดียวกัน กล่าวคือ โคลงดั้น สลับกับร่ายดั้น, โคลงสุภาพ สลับกับร่ายสุภาพ อย่างนี้เป็นต้น โคลงและร่ายที่สลับกันนั้น มักจะร้อยสัมผัสด้วยกัน เรียกว่า "เข้าลิลิต" หรือการ "ร้อยโคลง" ครับ

       วรรณคดีที่แต่งตามแบบแผนลิลิต มักจะใช้ร่ายและโคลงสลับกันเป็นช่วงๆ ตามจังหวะ ลีลา และท่วงทำนอง และความเหมาะสมของเนื้อหาในช่วงนั้นๆ มี  ๒ ประเภท คือ       
       ๑. ลิลิตสุภาพ คือ ลิลิตที่ใช้รายดั้นและโคลงดั้นแต่งสลับกันอยู่ในเรื่องเดียวกัน เช่น ลิลิตพระลอ ลิลิตตะเลงพ่าย ลิลิตนิทราชาคริต เป็นต้น
       ๒. ลิลิตดั้น คือ ลิลิตที่ใช้ร่ายดั้นและโคลงดั้นแต่งสลับกันอยู่ในเรื่องเดียวกัน เช่น ลิลติยวนพ่าย เป็นต้น

ข้อสังเกต:
      ๑. โคลงนั้นใช้ทั้งโคลงสอง โคลงสาม และโคลงสี่ สุดแต่เห็นสมควรว่าตอนไหนควรจะใช้โคลงชนิดใด
      ๒. ถ้าแต่ลิลิตสุภาพ ต้องใช้ร่ายสุภาพขึ้นต้น แล้วใช้โคลงสุภาพกับร่ายสุภาพแต่งสลับกัน ถ้าแต่งเป็นลิลิตดั้น ต้องใช้ร่ายดั้นขึ้นต้น แล้วต่อไปก็ใช้โคลงดั้นกับร่ายดั้นแต่งสลับกัน
      ๓. ถ้าเป็นโคลงสี่ดั้น นอกจากจะสัมผัสเกี่ยวกันระหว่างบทดังกล่าวแล้ว ยังต้องให้คำสุดท้ายของโคลงบทต้น สัมผัสกับคำที่ ๓ หรือ ๔ หรือ ๕ ของบาทที่ ๒ ของบทต้อไป ตามแบบและชนิดของโคลงดั้นชนิดนั้นๆ ด้วย

กฏ :
      ร่ายและโคลงที่ใช้ในลิลิตนั้น มีลักษณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้น บังคับให้มีการสัมผัส โดยเพียงแต่เพิ่มสัมผัสระหว่างบทให้เกี่ยวข้องติดต่อกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ (คือให้คำสุดท้ายองบทต้น สัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคแรกของบทต่อไป)  ดังนั้นในเรื่องการเขียนโคลงทั่วๆไปจึงควรจะมีการร้อยโคลงหรือการเข้าลิลิตด้วยเพื่อให้เป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน  จะทำให้ภาษาสวยงามขึ้น แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ผิดกฎแต่อย่างใดครับ    (ทั้งนี่ท่านป้า(พี่)อัณณ์รินแห่งบ้านกลอนไทยสืบค้นข้อมูลมาบอกว่าสมควรมี?) จึงเป็นเช่นนั้นหล่ะครับ......(ผิดพลาดขออภัย..และท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมเชิญนะครับ)


( ขอบคุณ คุณครูวัลภา เทียนดำรง อาจารย์ชำนาญการภาษาไทย โรงเรียนตราษตระการคุณ )

      ชอบใจๆ ฉลองกัน ชอบใจๆ
 


เรื่องการร้อยโคลงนี่ ถ้าเป็นโคลงสอง โคลงสาม นั่นนะต้องร้อยแน่ ๆ
แต่โคลงสี่ .... ผมยังไม่แน่ใจ

พอดีตอนนี้ติดทำงานที่ รพ. ยังให้คำตอบที่แน่นอนไม่ได้

คืนนี้กลับบ้าน จะค้นคำตอบมาให้ครับ


ในการเขียนร้อยกรอง ไม่ว่าจะเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ หรือกลอน ก็ตาม
สิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็น "รสความ" เสมอ
นั่นคือ ... ผู้เขียนต้องให้ความสำคัญแก่เนื้อความที่จะเขียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรก

เมื่อได้เนื้อความดีแล้ว จึงค่อยมาประดับประดาตกแต่งให้มี "รสคำ" เกิดขึ้น

ดังนั้น .... ในความเห็นส่วนตัว ....

อยากให้เขียนโคลงแต่ละบทให้ได้ใจความชัดเจนเสียก่อน
แน่นอน... ในการเขียนโคลงมากกว่า ๑ บทนั้น
เนื้อความจากแต่ละบทต้องต่อเนื่องกันไปไม่หลงเข้าป่าเข้าดงในระหว่างทาง

และหากว่าอยากจะร้อยโคลงแล้ว....

คำที่นำมาร้อยทำให้เนื้อความเสียไป ... ก็ไม่ควรต้องร้อยสัมผัส เพราะไม่ได้บังคับเอาไว้ในฉันทลักษณ์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 ธันวาคม 2009, 08:52:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #14 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 08:52:PM »
ชุมชนชุมชน

หยาดฝนโปรยหล่นฟ้า           มาดิน
ชรหลั่งไหลรดริน                 ทั่วหล้า
พาเสริมส่งชีวิน                    ชีพตื่น  คืนเฮย
ดุจดั่งหยาดน้ำฟ้า                 ดับร้อนคลายลง
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2009, 09:51:PM
gizon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 09:51:PM »
ชุมชนชุมชน

สายฝนกระหน่ำฟ้า               ซัดสาด
แรงส่งลมโหมฟาด               อกร้าว
ใจเจ็บดั่งเจียนขาด               สูญดับ สิ้นเลย
เหมือนถูกพายุกร้าว             ซัดซ้ำกลางใจ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2009, 10:36:PM
วฤก
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 138



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2009, 10:36:PM »
ชุมชนชุมชน

ไปค้นมาแล้วขอรับ .... เรื่องการร้อยโคลงสี่ หรือการเข้าลิลิต  ยิ้มให้จ้ะ

พบว่า .... ในลิลิตสมัยอยุธยาอย่างลิลิตพระลอ ... ไม่ร้อยโคลง
แต่....  โอว์ ว๊าว... แต่ว่าในสมัยรัตนโกสินทร์ อย่างลิลิตนิทราชาคริต .... ท่านร้อยโคลงครับ  หัวเราะยิ้มๆ

เพราะฉะนั้น ... ท่านจะร้อยหรือไม่ก็ได้ ... ไม่บังคับ

ส่วนตัวกระพ้ม .... ตามเรื่องตามราว .... ร้อยบ้างไม่ร้อยบ้าง ตามอารมณ์

ตัวอย่าง

ร้อยคำแรก



คำที่สอง



และ.... ไม่ร้อยเลย

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s