บางระจัน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 02:40:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
โพลล์
คำถาม: ชอบ
+ - 13 (100%)
- - 0 (0%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 13

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บางระจัน  (อ่าน 19832 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 สิงหาคม 2009, 01:07:AM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« เมื่อ: 23 สิงหาคม 2009, 01:07:AM »
ชุมชนชุมชน




"บางระจัน?"
(ตอน ๑ ซุ่มกองโจร)



๐ ควานดินโคลนหาได้พอกไล้ร่าง
ทะมึนอย่างกลืนรับกับตมเหลว
แนบส่วนกายสู่พื้นผืนดินเลว
ไหวแค่เปลวลมอุ่นกรุ่นกลอกตา

๐ เงียบงันอย่างยินใบไม้กระดิก
มือกำจิกจ้องมุมพุ่มไม้หน้า
รอเหยื่อล่วงตระเวนเช่นเคยมา
มัจจุราชรอท่าคร่าวิญญาณ

๐ เหล่ากองโจรอาสาเข่นข้าศึก
ซุ่มจนดึกจับเสียงสำเนียงผ่าน
วาวคบไฟไหวชูรู้ชำนาญ
ฤาทหารอริไทยใคร่โจมตี

๐ ยึดเอาชัยภูมิกุมได้เปรียบ
เอาคนน้อยใจเฉียบเหยียบขยี้
ดาบขวานพร้าธนูพวกกูมี
กับใจที่หล่อหลอมกล้ายอมตาย

๐ ล้วงหยิบลูกธนูเตรียมสู่เป้า
หนังใต้ตาเขย่าเหยื่อเข้าข่าย
รอสัญญาณระยะกะสุดท้าย
พร้อมตะกายนรกผงกรับ

๐ โหมธนูปูทางอย่างพิฆาต
ลุกกระโจนพรวดพราดเดือดดาลสับ
ตะลุมบอนทุกหน้าแววตาวับ
ฟันทุกฉับทุกร่างอย่างไม่ไว้

๐ ชุลมุนดั่งส่งยมทูต
มาเก็บซากเลือดกระฉูดกุดด้วยไพร่
วีรกรรมขจรนามสยามไทย
จึงยิ่งใหญ่อมตะบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

07 กันยายน 2009, 06:14:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 กันยายน 2009, 06:14:PM »
ชุมชนชุมชน



"บางระจัน?"
(ตอน ๑ ซุ่มกองโจร)



๐ ควานดินโคลนหาได้พอกไล้ร่าง
ทะมึนอย่างกลืนรับกับตมเหลว
แนบส่วนกายสู่พื้นผืนดินเลว
ไหวแค่เปลวลมอุ่นกรุ่นกลอกตา

๐ เงียบงันอย่างยินใบไม้กระดิก
มือกำจิกจ้องมุมพุ่มไม้หน้า
รอเหยื่อล่วงตระเวนเช่นเคยมา
มัจจุราชรอท่าคร่าวิญญาณ

๐ เหล่ากองโจรอาสาเข่นข้าศึก
ซุ่มจนดึกจับเสียงสำเนียงผ่าน
วาวคบไฟไหวชูรู้ชำนาญ
ฤาทหารอริไทยใคร่โจมตี

๐ ยึดเอาชัยภูมิกุมได้เปรียบ
เอาคนน้อยใจเฉียบเหยียบขยี้
ดาบขวานพร้าธนูพวกกูมี
กับใจที่หล่อหลอมกล้ายอมตาย

๐ ล้วงหยิบลูกธนูเตรียมสู่เป้า
หนังใต้ตาเขย่าเหยื่อเข้าข่าย
รอสัญญาณระยะกะสุดท้าย
พร้อมตะกายนรกผงกรับ

๐ โหมธนูปูทางอย่างพิฆาต
ลุกกระโจนพรวดพราดเดือดดาลสับ
ตะลุมบอนทุกหน้าแววตาวับ
ฟันทุกฉับทุกร่างอย่างไม่ไว้

๐ ชุลมุนดั่งส่งยมทูต
มาเก็บซากเลือดกระฉูดกุดด้วยไพร่
วีรกรรมขจรนามสยามไทย
จึงยิ่งใหญ่อมตะบางระจัน?"

ระนาดเอก

 ยิ้มแก้มแดง






"บางระจัน?"
(ตอน ๒ อ้ายอินขอปืนใหญ่)



๐ เส้นเลือดวิ่งตามเอ็นขับเน้นกล้าม
ตาเต้นตามแรงง้างอย่างสุดไหล่
หวังศรเดียวถึงฆาตเป้าขาดใจ
ตรึงมันไว้ตรงนั้นให้มันตาย

๐ อ้ายอินปล่อยสายธนูจู่ด้วยแค้น
แหวกลู่แล่นปลิดพม่าที่ตาหมาย
บอบช้ำใจกับหวังพังทลาย
ขอปืนฝ่ายกรุงศรีฯที่สิ้นใย

๐ ชวนอ้ายเมืองเร่งร้อนจรกลับค่าย
คลอน้ำตาผู้ชายคล้ายเริ่มไหล
บางระจันรอหวังจากวังใน
กับปืนใหญ่ซึ่งกูผู้แบกรับ

๐ หลวงมันลืมพวกกูผู้รักชาติ
น้อยใจปาดน้ำตาซึ่งบ่าขับ
เป็นห่วงเพื่อนญาติมิตรจิตแค้นคับ
วนอยู่กับอีสาหน้าเมียตน

๐ เปิบเคี้ยวกลืนข้าวเม็ดไม่เล็ดลื่น
ข่มตาหลับใจตื่นวันคืนหม่น
เร่งฝีเท้าแม้ค่ำจ้ำร้อนรน
ทุกข์มันล้นท่วมใจหลับไม่ลง

๐ ถึงปืนใหญ่ไม่ได้อ้ายอินนี้
มือกูมีธนูกูจะบ่ง
เสี้ยนอริแผ่นดินให้ดิ้นพง
ยืนทะนงไม่ห่างบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 กันยายน 2009, 05:16:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 กันยายน 2009, 05:16:PM »
ชุมชนชุมชน


"บางระจัน?"
(ตอน ๑ ซุ่มกองโจร)



๐ ควานดินโคลนหาได้พอกไล้ร่าง
ทะมึนอย่างกลืนรับกับตมเหลว
แนบส่วนกายสู่พื้นผืนดินเลว
ไหวแค่เปลวลมอุ่นกรุ่นกลอกตา

๐ เงียบงันอย่างยินใบไม้กระดิก
มือกำจิกจ้องมุมพุ่มไม้หน้า
รอเหยื่อล่วงตระเวนเช่นเคยมา
มัจจุราชรอท่าคร่าวิญญาณ

๐ เหล่ากองโจรอาสาเข่นข้าศึก
ซุ่มจนดึกจับเสียงสำเนียงผ่าน
วาวคบไฟไหวชูรู้ชำนาญ
ฤาทหารอริไทยใคร่โจมตี

๐ ยึดเอาชัยภูมิกุมได้เปรียบ
เอาคนน้อยใจเฉียบเหยียบขยี้
ดาบขวานพร้าธนูพวกกูมี
กับใจที่หล่อหลอมกล้ายอมตาย

๐ ล้วงหยิบลูกธนูเตรียมสู่เป้า
หนังใต้ตาเขย่าเหยื่อเข้าข่าย
รอสัญญาณระยะกะสุดท้าย
พร้อมตะกายนรกผงกรับ

๐ โหมธนูปูทางอย่างพิฆาต
ลุกกระโจนพรวดพราดเดือดดาลสับ
ตะลุมบอนทุกหน้าแววตาวับ
ฟันทุกฉับทุกร่างอย่างไม่ไว้

๐ ชุลมุนดั่งส่งยมทูต
มาเก็บซากเลือดกระฉูดกุดด้วยไพร่
วีรกรรมขจรนามสยามไทย
จึงยิ่งใหญ่อมตะบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง




"บางระจัน?"
(ตอน ๒ อ้ายอินขอปืนใหญ่)



๐ เส้นเลือดวิ่งตามเอ็นขับเน้นกล้าม
ตาเต้นตามแรงง้างอย่างสุดไหล่
หวังศรเดียวถึงฆาตเป้าขาดใจ
ตรึงมันไว้ตรงนั้นให้มันตาย

๐ อ้ายอินปล่อยสายธนูจู่ด้วยแค้น
แหวกลู่แล่นปลิดพม่าที่ตาหมาย
บอบช้ำใจกับหวังพังทลาย
ขอปืนฝ่ายกรุงศรีฯที่สิ้นใย

๐ ชวนอ้ายเมืองเร่งร้อนจรกลับค่าย
คลอน้ำตาผู้ชายคล้ายเริ่มไหล
บางระจันรอหวังจากวังใน
กับปืนใหญ่ซึ่งกูผู้แบกรับ

๐ หลวงมันลืมพวกกูผู้รักชาติ
น้อยใจปาดน้ำตาซึ่งบ่าขับ
เป็นห่วงเพื่อนญาติมิตรจิตแค้นคับ
วนอยู่กับอีสาหน้าเมียตน

๐ เปิบเคี้ยวกลืนข้าวเม็ดไม่เล็ดลื่น
ข่มตาหลับใจตื่นวันคืนหม่น
เร่งฝีเท้าแม้ค่ำจ้ำร้อนรน
ทุกข์มันล้นท่วมใจหลับไม่ลง

๐ ถึงปืนใหญ่ไม่ได้อ้ายอินนี้
มือกูมีธนูกูจะบ่ง
เสี้ยนอริแผ่นดินให้ดิ้นพง
ยืนทะนงไม่ห่างบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง







"บางระจัน?"
(ตอน ๓ ราตรีสุดท้ายสู่ฝันร้ายบางระจัน)



๐ ดั่งหมอกควันจากเส้าเตานรก
คืบคลานปกคลุมคล้ายความตายเคลื่อน
กลืนช้าช้าแอบแฝงลำแสงเดือน
กางปีกเหมือนพระกาฬโอบผ่านรัด

๐ เย็นยะเยียบเงียบร้างอย่างป่าช้า
เสียงนกแสกแทรกมาคราสงัด
ท่ามเงาหมอกราวมือสื่อกวักชัด
สารพัดเจตภูตรุดสำแดง

๐ ร่องรอยล้าหิวโหยโชยเหนือค่าย
ร่างศพก่ายศึกเย็นเห็นหลายแห่ง
กับเสียงครางพิษแผลแผ่ร้าวแรง
พิงกำแพงกุมพร้าท่าพร้อมรบ

๐ หัวใจชาวบางระจันล้วนขวัญหาย
เมื่อตัวนายหลายคนป่นเป็นศพ
สุกี้เข็นปืนใหญ่ใส่สมทบ
หวังสยบกลบแผลแพ้เจ็ดครั้ง

๐ สิ้นแรงใจจากหลวงถ่วงจนล้า
ปล่อยชะตาชาวบ้านปานสิ้นหวัง
พม่าเสริมพลยุทธ์สุดกำลัง
เกินไฟคลั่งลุกโรมโหมทำลาย

๐ แรมหนึ่งค่ำดึกนี้จันทร์สีหม่น
ลมเยียบจนธงนิ่งอิงเสาค่าย
วันพรุ่งนี้ประจัญขั้นสุดท้าย
ทุ่มยอมตายทุกร่างสร้างตำนาน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง


ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

10 กันยายน 2009, 08:16:PM
เมษายน
LV5 ศิลปินเอกแห่งตำบล
*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 9
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 78


เรียงร้อยพันกวี หนึ่งวลีว่ารัก


« ตอบ #3 เมื่อ: 10 กันยายน 2009, 08:16:PM »
ชุมชนชุมชน

ชอบมากครับท่าน
ไม่สนใจทำของ

กองทัพชาวบ้าน อาทมาตหรือครับ
เรื่องนี้ก็ดีนะครับ ชาวบ้าน400คน ยันกองทัพพม่า นำโดยขุนรองปลัดชู
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจเสียใจ ที่เธอ ไม่คิดรัก
คงเศร้านัก คงขมขื่น ดุจยาขม
นักกวี ไร้รัก ไร้อารมณ์
ย่อมไม่สม เขียนวลี บันเทิงใจ
10 กันยายน 2009, 10:05:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 กันยายน 2009, 10:05:PM »
ชุมชนชุมชน

"บางระจัน?"
(ตอน ๑ ซุ่มกองโจร)



๐ ควานดินโคลนหาได้พอกไล้ร่าง
ทะมึนอย่างกลืนรับกับตมเหลว
แนบส่วนกายสู่พื้นผืนดินเลว
ไหวแค่เปลวลมอุ่นกรุ่นกลอกตา

๐ เงียบงันอย่างยินใบไม้กระดิก
มือกำจิกจ้องมุมพุ่มไม้หน้า
รอเหยื่อล่วงตระเวนเช่นเคยมา
มัจจุราชรอท่าคร่าวิญญาณ

๐ เหล่ากองโจรอาสาเข่นข้าศึก
ซุ่มจนดึกจับเสียงสำเนียงผ่าน
วาวคบไฟไหวชูรู้ชำนาญ
ฤาทหารอริไทยใคร่โจมตี

๐ ยึดเอาชัยภูมิกุมได้เปรียบ
เอาคนน้อยใจเฉียบเหยียบขยี้
ดาบขวานพร้าธนูที่กูมี
กับใจที่หล่อหลอมกล้ายอมตาย

๐ ล้วงหยิบลูกธนูเตรียมสู่เป้า
หนังใต้ตาเขย่าเหยื่อเข้าข่าย
รอสัญญาณระยะกะสุดท้าย
พร้อมตะกายนรกผงกรับ

๐ โหมธนูปูทางอย่างพิฆาต
ลุกกระโจนพรวดพราดเดือดดาลสับ
ตะลุมบอนทุกหน้าแววตาวับ
ฟันทุกฉับทุกร่างอย่างไม่ไว้

๐ ชุลมุนดั่งส่งยมทูต
มาเก็บซากเลือดกระฉูดกุดด้วยไพร่
วีรกรรมขจรนามสยามไทย
จึงยิ่งใหญ่อมตะบางระจัน?"

(ตอน ๒ อ้ายอินขอปืนใหญ่)

๐ เส้นเลือดวิ่งตามเอ็นขับเน้นกล้าม
ตาเต้นตามแรงง้างอย่างสุดไหล่
หวังศรเดียวถึงฆาตเป้าขาดใจ
ตรึงมันไว้ตรงนั้นให้มันตาย

๐ อ้ายอินปล่อยสายธนูจู่ด้วยแค้น
แหวกลู่แล่นปลิดพม่าที่ตาหมาย
บอบช้ำใจกับหวังพังทลาย
ขอปืนฝ่ายกรุงศรีฯที่สิ้นใย

๐ ชวนอ้ายเมืองเร่งร้อนจรกลับค่าย
คลอน้ำตาผู้ชายคล้ายเริ่มไหล
บางระจันรอหวังจากวังใน
กับปืนใหญ่ซึ่งกูผู้แบกรับ

๐ หลวงมันลืมพวกกูผู้รักชาติ
น้อยใจปาดน้ำตาซึ่งบ่าขับ
เป็นห่วงเพื่อนญาติมิตรจิตแค้นคับ
วนอยู่กับอีสาหน้าเมียรัก

๐ เปิบเคี้ยวกลืนข้าวเม็ดไม่เล็ดลื่น
ข่มตาหลับใจตื่นฟื้นเป็นหลัก
เร่งฝีเท้าแม้ค่ำไม่จำพัก
มันกระอักเกินใจหลับไม่ลง

๐ ถึงปืนใหญ่ไม่ได้อ้ายอินนี้
มือกูมีธนูกูจะบ่ง
เสี้ยนอริแผ่นดินให้ดิ้นพง
ยืนทะนงไม่ห่างบางระจัน?"

(ตอน ๓ ราตรีสุดท้ายสู่ฝันร้ายบางระจัน)

๐ ดั่งหมอกควันจากเส้าเตานรก
คืบคลานปกคลุมคล้ายความตายเคลื่อน
กลืนช้าช้าแอบแฝงลำแสงเดือน
กางปีกเหมือนพระกาฬโอบผ่านรัด

๐ เย็นยะเยียบเงียบร้างอย่างป่าช้า
เสียงนกแสกแทรกมาคราสงัด
ท่ามเงาหมอกราวมือสื่อกวักชัด
สารพัดเจตภูตรุดสำแดง

๐ ร่องรอยล้าหิวโหยโชยเหนือค่าย
ร่างศพก่ายศึกเย็นเห็นหลายแห่ง
กับเสียงครางพิษแผลแผ่ร้าวแรง
พิงกำแพงกุมพร้าท่าพร้อมรบ

๐ หัวใจชาวบางระจันล้วนขวัญหาย
เมื่อตัวนายหลายคนป่นเป็นศพ
สุกี้เข็นปืนใหญ่ใส่สมทบ
หวังสยบกลบแผลแพ้เจ็ดครั้ง

๐ สิ้นแรงใจจากหลวงถ่วงจนล้า
ปล่อยชะตาชาวบ้านปานสิ้นหวัง
พม่าเสริมพลยุทธ์สุดกำลัง
เกินไฟคลั่งลุกโรมโหมทำลาย

๐ แรมหนึ่งค่ำดึกนี้จันทร์สีหม่น
ลมเยียบจนธงนิ่งอิงเสาค่าย
วันพรุ่งนี้ประจัญขั้นสุดท้าย
ทุ่มยอมตายทุกร่างสร้างตำนาน?"
........(ระนาดเอก)...................

 ยิ้มแก้มแดง
  ตบมือให้
(แทรก ความในใจ นายกองม้าแห่งบ้านคำหยาด......)

สงัดเงียบเฉียบใจนายกองม้า
เป็นกองหน้าเจนจบเคยรบผ่าน
ถึงวันนี้พี่น้องที่พร้องพาน
ที่เหี้ยมหาญหดหายหัวใจร้าว

โอ้หัวอกขุนทหารบ้านคำหยาด
เคยองอาจฟาดฟันสนั่นฉาว
คงจะลือเลี่องเสียงเพียงเรื่องคาว
มันรักสาวบางระจันยังหวั่นใจ

ถ้าขืนรบก็แพ้แน่ใจเหลือ
เพราะศึกเหนือกำลังจักทานไหว
พะวงหนักรักแสนแผ่นดินไทย
แต่อีกใจรักเจ้าจึงเศร้านัก

         
[]


ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
11 กันยายน 2009, 03:50:AM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 11 กันยายน 2009, 03:50:AM »
ชุมชนชุมชน

"บางระจัน?"
(ตอน ๑ ซุ่มกองโจร)



๐ ควานดินโคลนหาได้พอกไล้ร่าง
ทะมึนอย่างกลืนรับกับตมเหลว
แนบส่วนกายสู่พื้นผืนดินเลว
ไหวแค่เปลวลมอุ่นกรุ่นกลอกตา

๐ เงียบงันอย่างยินใบไม้กระดิก
มือกำจิกจ้องมุมพุ่มไม้หน้า
รอเหยื่อล่วงตระเวนเช่นเคยมา
มัจจุราชรอท่าคร่าวิญญาณ

๐ เหล่ากองโจรอาสาเข่นข้าศึก
ซุ่มจนดึกจับเสียงสำเนียงผ่าน
วาวคบไฟไหวชูรู้ชำนาญ
ฤาทหารอริไทยใคร่โจมตี

๐ ยึดเอาชัยภูมิกุมได้เปรียบ
เอาคนน้อยใจเฉียบเหยียบขยี้
ดาบขวานพร้าธนูพวกกูมี
กับใจที่หล่อหลอมกล้ายอมตาย

๐ ล้วงหยิบลูกธนูเตรียมสู่เป้า
หนังใต้ตาเขย่าเหยื่อเข้าข่าย
รอสัญญาณระยะกะสุดท้าย
พร้อมตะกายนรกผงกรับ

๐ โหมธนูปูทางอย่างพิฆาต
ลุกกระโจนพรวดพราดเดือดดาลสับ
ตะลุมบอนทุกหน้าแววตาวับ
ฟันทุกฉับทุกร่างอย่างไม่ไว้

๐ ชุลมุนดั่งส่งยมทูต
มาเก็บซากเลือดกระฉูดกุดด้วยไพร่
วีรกรรมขจรนามสยามไทย
จึงยิ่งใหญ่อมตะบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง



"บางระจัน?"
(ตอน ๒ อ้ายอินขอปืนใหญ่)



๐ เส้นเลือดวิ่งตามเอ็นขับเน้นกล้าม
ตาเต้นตามแรงง้างอย่างสุดไหล่
หวังศรเดียวถึงฆาตเป้าขาดใจ
ตรึงมันไว้ตรงนั้นให้มันตาย

๐ อ้ายอินปล่อยสายธนูจู่ด้วยแค้น
แหวกลู่แล่นปลิดพม่าที่ตาหมาย
บอบช้ำใจกับหวังพังทลาย
ขอปืนฝ่ายกรุงศรีฯที่สิ้นใย

๐ ชวนอ้ายเมืองเร่งร้อนจรกลับค่าย
คลอน้ำตาผู้ชายคล้ายเริ่มไหล
บางระจันรอหวังจากวังใน
กับปืนใหญ่ซึ่งกูผู้แบกรับ

๐ หลวงมันลืมพวกกูผู้รักชาติ
น้อยใจปาดน้ำตาซึ่งบ่าขับ
เป็นห่วงเพื่อนญาติมิตรจิตแค้นคับ
วนอยู่กับอีสาหน้าเมียตน

๐ เปิบเคี้ยวกลืนข้าวเม็ดไม่เล็ดลื่น
ข่มตาหลับใจตื่นวันคืนหม่น
เร่งฝีเท้าแม้ค่ำจ้ำร้อนรน
ทุกข์มันล้นท่วมใจหลับไม่ลง

๐ ถึงปืนใหญ่ไม่ได้อ้ายอินนี้
มือกูมีธนูกูจะบ่ง
เสี้ยนอริแผ่นดินให้ดิ้นพง
ยืนทะนงไม่ห่างบางระจัน?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง



บางระจัน
(ตอน ๓ ราตรีสุดท้ายสู่ฝันร้ายบางระจัน)



๐ ดั่งหมอกควันจากเส้าเตานรก
คืบคลานปกคลุมคล้ายความตายเคลื่อน
กลืนช้าช้าแอบแฝงลำแสงเดือน
กางปีกเหมือนพระกาฬโอบผ่านรัด

๐ เย็นยะเยียบเงียบร้างอย่างป่าช้า
เสียงนกแสกแทรกมาคราสงัด
ท่ามเงาหมอกราวมือสื่อกวักชัด
สารพัดเจตภูตรุดสำแดง

๐ ร่องรอยล้าหิวโหยโชยเหนือค่าย
ร่างศพก่ายศึกเย็นเห็นหลายแห่ง
กับเสียงครางพิษแผลแผ่ร้าวแรง
พิงกำแพงกุมพร้าท่าพร้อมรบ

๐ หัวใจชาวบางระจันล้วนขวัญหาย
เมื่อตัวนายหลายคนป่นเป็นศพ
สุกี้เข็นปืนใหญ่ใส่สมทบ
หวังสยบกลบแผลแพ้เจ็ดครั้ง

๐ สิ้นแรงใจจากหลวงถ่วงจนล้า
ปล่อยชะตาชาวบ้านปานสิ้นหวัง
พม่าเสริมพลยุทธ์สุดกำลัง
เกินไฟคลั่งลุกโรมโหมทำลาย

๐ แรมหนึ่งค่ำดึกนี้จันทร์สีหม่น
ลมเยียบจนธงนิ่งอิงเสาค่าย
วันพรุ่งนี้ประจัญขั้นสุดท้าย
ทุ่มยอมตายทุกร่างสร้างตำนาน?"

ระนาดเอก

 ยิ้มแก้มแดง




"บางระจัน?"(ตอนจบ)
(ตอน ๔ ความสิ้นสลาย..ที่กลายเป็นตำนาน)



๐ เสียงปืนใหญ่แผดคลั่งสันหลังวาบ
ดินที่ตี นเหยียบทาบขยับไหว
สุกี้เปิดศึกกร้าวชาวบ้านไทย
ล้างค่ายใหญ่บางระจันขั้นจมดิน

๐ พินาศดั่งเศษไม้มากมายศพ
ความโกรธแค้นวิ่งทบขบฟันสิ้น
มือกำดาบตะกรุดเหงื่อผุดริน
ใจเต้นดิ้นเกินกว่าจะควบคุม

๐ ตามองตาเหมือนสั่งครั้งสุดท้าย
เหลียวมองค่ายม่านตาเริ่มบ่าชุ่ม
ขุมนรกอยู่หน้ามาเร้ารุม
เราจะทุ่มศึกนี้ด้วยชีวิต

๐ วางแผนเสร็จพยักหน้าอย่างกล้าหาญ
เปิดประตูพระกาฬประกาศิต
เสียงโห่ร้องลุยเดือดเลือดหลากทิศ
เสียงพ่นพิษปืนไฟสวนใส่มา

๐ ธนูว่อนหลายร่างทรุดหว่างทัพ
ส่วนที่เหลือลุยยับสับพม่า
พลสุกี้เหนือไทยหลายคณา
กรูเข่นฆ่าล้อมกรอบสุดบอบช้ำ

๐ รุมหน้าหลัง..ชาวบ้านต้านด้วยแค้น
สิ่งตอบแทนโดนดาบอาบกายฉ่ำ
ร่างเหวอะหวะเลือดปากทะลักดำ
สำรากคว่ำแววตาหายอมแพ้

๐ เสียงปืนไฟยังคลั่งดั่งห่าฝน
ร่างไทยป่นหน้าหลังล้วนฝังแผล
ถูกธนูรุมทึ้งขึงพืดแล
บ้างเหลือแต่ลำตัวหัวกระเด็น

๐ ล้วนทุกซากขาดใจร่างกายยับ
เงาทมิฬแผ่ทับภาพทุกข์เข็ญ
แรมสองค่ำบางระจันไม่ทันเย็น
สู้จนเป็นอมตะวีรกรรม?"

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง



..ขอสดุดีวีรกรรมอันกล้าหาญ..
..ของบรรพชนชาวบ้านบางระจันทุกท่าน..
..ที่เสียสละเลือดเนื้อและพลีชีพ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินเกิด..
..จนเป็นตำนานอันเป็นอมตะมาสู่อนุชนรุ่นหลัง..
..และเป็นความทรงจำ ที่ทรงไว้ซึ่งเกียรติยศแห่งผู้กล้าอย่างแท้จริง..!!


จากใจ
ระนาดเอก
(ธนเดช จตุคามฯ)


ยิ้มแก้มแดง
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 กันยายน 2009, 05:26:PM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #6 เมื่อ: 15 กันยายน 2009, 05:26:PM »
ชุมชนชุมชน

สัมผัสดินถิ่นนี้ที่รองเลือด
แผ่นดินเดือดผ่าวแค้นแสนหม่นไหม้
กี่น้ำตาทาทาบอาบพงไพร
กี่หัวใจแหลกยับดับวิญญาณ์


ไม่เหลือซากเกรียงไกรไร้ขอบค่าย
ไม่เลือนหายกล่าวขานนานเสียกว่า
ไม่รู้เลยจะเตือนใจไทยประชา
ได้ไหมว่า  "ที่ไทยแพ้...แท้เพราะใคร?"
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
15 มีนาคม 2010, 07:36:PM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 15 มีนาคม 2010, 07:36:PM »
ชุมชนชุมชน


๐ มองอนุสาวรีย์ศักดิ์ศรีชาติ
ที่ผงาดเช้าค่ำอมตะ
บรรพชนผจญศึกฮึกไม่ละ
ทุ่มสละพลีเลือดเดือดเพื่อเรา

๐ บางระจันเคยยับสับพม่า
ตายทั้งตาลืมโพลงโครงเรื่องเก่า
น้ำตาท่านคงไหลไปนานเนา
ถ้าไทยเข้าห้ำหั่น..ฆ่ากันเอง..

ระนาดเอก

ยิ้มแก้มแดง

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

16 มีนาคม 2010, 05:33:AM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #8 เมื่อ: 16 มีนาคม 2010, 05:33:AM »
ชุมชนชุมชน




วีระบุรุษบางระจันนั้นฉ่ำโชก
เลือดไทยโกรกไหลรินแผ่นดินแม่
ชาญสมรรอนรานวันลอยแพ
ทิ้งรอยแผลฝากไว้ให้ไทยชม

มาวันนี้เลือดไทยต้องไหลหลั่ง
ต่างชิงชังจุดยืนต้องขื่นขม
ไทยต้องแตกแยกย้ายใครตรอมตรม
อกระบมปวดร้าวข่าวเมืองไทย

ทำไมหนอคนไทยจึงใจแตก
คงจะถูกลุยแหลกแยกเหนือใต้
ทำไมหนอไทยต้องทำลายไทย
เพราะว่าคนจัญไรทำไทยรวน

มาแบ่งสีแบ่งสรรมันใส่ร้าย
เพื่อให้ไทยวอดวายเป็นหลายส่วน
แทะกระดูกคนไทยไปทิ้งทวน
มันสมควรบางระจันมาบั่นคอ

 ขอจีบ...ได้ป่ะ

“ปรางค์  สามยอด”


ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s