ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[Somboon2535]

อาจารย์ให้ภาพเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแล้วอาทิตย์กำลังขึ้นหรือตกดินก็ไม่รู้ แล้วให้แต่งเป็นฉันท์อะ พยายามแต่งแล้วแต่งอีก แก้มา3รอบแหละ ยังไม่ได้เลย เพื่อนๆ พี่ๆช่วยหน่อยนะครับ 

[Somboon2535]

ฉันท์อะไรก็ได้ทั้งนั้นนะครับ... ขอบคุณล่วงหน้าครับ ดึกๆมาดูใหม่ครับ

[มานพ]

ตัวอย่างครับเอามาจากอินเตอร์เน็ต พอจะลอกส่งครูได้ไหม
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

๏ เรืองสีสุรีย์ฉาย.....................นภพรายอุไรแสง
ทองทาอุษาแปลง.....................ผิวะแต่งสุพรรณพรรณ
๏ หมู่เมฆะเคลื่อนคล้อย...........กลค่อยละล่องผัน
คลี่คลายกระจายกัน..................ขณะดั้นทิฆัมพร
๏ หมู่นกก็ผกผิน.......................รยะบินละถิ่นจร
จากรังมิรั้งนอน.........................ฆระตื่นละคอนไป
๏ ส่งเสียงสำเนียงร้อง...............เสนาะก้องพนาไกล
ขับขานประสานไพ - ................เราะเจรียงจรายเพลง
๏ ยินซึ้งประหนึ่งซับ..................ดุริย์ศัพทะบรรเลง
ซ่านหวานละเวงเทง..................เสนาะกล่อมถนอมใจ
๏ ยามรุ่งอรุณรื่น.......................พิศชื่นฤทัยใน
ภาพธรรมชาติไข.......................สุขได้ภิรมย์ชม ๚

[มานพ]

ลุงมานพ....

เมื่อสักครู่นี้ข้าพเจ้าไปดูหัวข้อ การแต่งฉันท์

อ่านแล้วงงอ่ะ

แล้ว ครุ ลหุ คืออะไร งง

ง่ายนิดเดียว หนูก็..พิม ครุ ลหุ เข้าไป แล้วก็ค้นหา...จะได้ดังนี้

 
 ครุ (เสียงหนัก)
เป็นพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในมาตราแม่ ก.กาและมีตัว สะกด รวมทั้งประสมด้วย อำ ไอ ใอ เอา เช่น จำ ได้ ไป เขา รัก ลูก

         คำครุ แปลว่า เสียงหนัก สัญลักษณ์ “ อั “ ประกอบด้วย

   1. พยางค์ที่มีสระเสียงยาวไม่มีตัวสะกด เช่น มาหา พารา
   2. พยางค์ที่มีตัวสะกดทั้ง 8 แม่ เช่น รัก ชิด ชอบ ฯลฯ
   3. พยางค์ที่มีสระ อำ ไอ ใอ เอา เช่น เรา จำ ใจ ไป

ลหุ

        คือพยางค์ที่มีเสียงเบา ได้แก่พยางค์ที่ประกอบด้วย สระสั้น(รัสสระ) ที่ไม่มีตัวสะกด เช่น พระ จะ มิ ดุ แกะ ฯลฯ

        ลหุ คำที่มีเสียงเบา เป็นพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงสั้น เช่น จะ ดุ ติ ผิว กระทะ ฤ

   

[Somboon2535]

ขอบคุณมากๆเลย emo_17ครับ

[Somboon2535]

เพราพรายกระจ่างฟ้า..................................สุริยาสิเฉิดฉาย
ทอแสงประภาราย......................................ดุจไหมประกายทอง
^--------------------------------------------------------------------------^
แสงส่องสะท้อนน้ำ......................................วิ วะ วับ มณีผอง
แววแววระเรืองรอง....................................พิศแล้วมิหน่ายเลย
^--------------------------------------------------------------------------^

แล้วอันนี้ใช่อินทรวิเชียร์ฉันท์@@ไหมอะครั�]

[มานพ]

เพราพรายกระจ่างฟ้า..................................สุริยาสิเฉิดฉาย
ทอแสงประภาราย......................................ดุจไหมประกายทอง
^--------------------------------------------------------------------------^
แสงส่องสะท้อนน้ำ......................................วิ วะ วับ มณีผอง
แววแววระเรืองรอง....................................พิศแล้วมิหน่ายเลย
^--------------------------------------------------------------------------^

แล้วอันนี้ใช่อินทรวิเชียร์ฉันท์@@ไหมอะครั�]

ใช่ครับ ....
อันนี้ของน้อง.....บุหลันพลันภา ...

[จะไม่เด็ด]

สุรีย์สะท้อนแสง               ผิวแดงนทีเห็น
คลื่นลมปะพรมเย็น           ดุจรื่นถลาลม

ลมเอยภิเปรยผ่าน              ระวิวารสิซ่านสม
ราตรีสราญรมย์                พิศเพ็ญก็เย็นใจ..อิอิ

...แบบว่ามาแจมอะครับ...ไม่ได้แต่งนานแล้ว

[ปางสีฝุ่น]

ไม่ทราบว่า  บังคับต้องเป็นฉันท์ แบบไหน หรือไม่  ครับ

มี ฉันท์  อีกรูปแบบหนึ่ง ซึงอาจารย์ สุภร ผลชีวินเป็นผู้คิดค้น
เป็นฉันท์ที่เขียนไม่ยากนัก  ชื่อ  มุทิงคนาท๑๔ ฉันท์

ตัวอย่าง

พระจันทร์กระจ่างสว่างสี          ณ  ลพบุรีฤดูหนาว
บุรุษสตรีก็เกรียวกราว                สนุก  ณ  คราวรำโทนไทย

ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะโท่นโท่น        บุรุษสิโอนสะเอวไหว
อนงค์นำเคลื่อนเขยื้อนไป            สะบัดสไบวิไลตา

รูปแบบคือ

ลหุครุ  ลหุครุ  ลหุครุครุ             ลหุครุ  ลหุครุ  ลหุครุครุ
ลหุครุ  ลหุครุ  ลหุครุครุ             ลหุครุ  ลหุครุ  ลหุครุครุ


 ( ครุ  ลหุ  ก็ตามที่ท่าน manop  อธิบาย )
           

หรือถ้าเห็นว่า ยังยาก  ก็เอานี้เลย ง่ายๆ  ครุ ล้วนๆ
( คล้าย กลอนสี่  แต่ระวัง ห้ามมีคำที่เป็น ลหุ )

วิชชุมาลาฉันท์ 8  

ตัวอย่างเช่น

แรมทางกลางเถื่อน       ห่างเพื่อนหาผู้
หนึ่งใดนึกดู                  เห็นใครไป่มี

หลายวันถั่นล่วง            เมืองหลวงธานี
นามเวสาลี                    ดุ่มเดาเข้าไป

ผูกไมตรีจิต                   เชิงชิดชอบเชื่อง
กับหมู่ชาวเมือง             ฉันท์อัชฌาสัย

เล่าเรื่องเคืองขุ่น            ว้าวุ่นวายใจ
จำเป็นมาใน                  ด้าวต่างแดนตน


ลองศึกษาดูนะ

***  เอ้อ. ข้าพเจ้าก็ ไม่ได้เขียน ฉันท์ มานานมากแล้ว สนิมเกาะซะแน่น เลย **