วาระสุดท้าย..แห่ง..มาลี.
เกลา.กิ่งก้าน..ราน,ริด..ที่ผิดแปลก
ปลิดขั้วเรียว..เขียว,ใบแรก..แล้วแทรกเสริม
ปรุงดอกดวง..เด่น,ดำรง..มิ.คงเดิม
พอแต่ง.เพิ่ม..เติม.ช่อ...ก็..อรชร
เป็น.ดอกจูบ..ริมรูปจันทร์..แจกันแก้ว
วางเหนือแนว..แถวใบไม้..ริ้วลาย.สลอน
เฉก.หนึ่งเนื้อ..ใน.ปีกหงส์..ณ.วงละคร
เผาะกลีบสาว..ราวจะฟ้อน..อ้อนแสงไฟ
ครั้นสิ้นฉาก..มโหฬี...เวทีร้าง
รอยที่เหลือ..คือ.ร่าง..ข้างกองไม้
แจกันแก้ว..ไม่ขานรับ..จับรูปใจ
ถูกทิ้งขว้าง..ทางเท้า.ใด..ใครรู้.ฤา ?.
จึง.หลุดกลีบ..ร่วงกราว..เหมือน.หนาวน้ำ.
ผลัดดวงดอก..ชอกช้ำ..อย่างดึงดื้อ.
กลบรอยร้าว..ราวหม่น..หล่นหลุดมือ
กลาง.ลมพัด...ลัด,กระพือ...เพียงลำพัง
ริมขอบทาง...ข้างเถิน..พะเนินว่าง
รอคอยคาว..น้ำค้าง..อย่างหมดหวัง
เมื่อรูปฉาย..ไม่.จำหลัก..จัก.จีรัง
จบ.รูปใจ...ไหว.ภวังค์..ซังกะตาย
..........
..........
นั่น!.น้ำตา..มาลี...หรือ.!.ผีเสื้อ..?
หอบ.ลมใด..ไปเผื่อ..เมื่อเธอ.พ่าย
หรือเจ้าแสร้ง..สำแดง.เล่ห์..เพทุบาย
จูบ.รอยร้าว..กลีบสุดท้าย..แห่ง.มาลี..ฯฯ
-------------------------------
"ปางสีฝุ่น"