ด้วยจิตคารวะ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 ธันวาคม 2024, 04:19:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ด้วยจิตคารวะ  (อ่าน 162085 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 52 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 มิถุนายน 2009, 07:27:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2009, 07:27:AM »
ชุมชนชุมชน

มหกรรมแห่งขุนเขา (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)


มหกรรมแห่งขุนเขา

๏ เต็มแผ่นดินเต็มแผ่นฟ้าเต็มตาเห็น
สลักเสลาสลับเล่นเป็นงานศิลป์
ถล่มโลกลงเป็นฉาก ณ ฟากดิน
ชลอหินขึ้นเป็นฉาก ณ ฟากฟ้า

แดดค่อยไล้ไล่เงาตามเหลี่ยมแง่
ชเงื้อมโขดปรับแปรเป็นจัดจ้า
เขียวค่อยครึ้มแดงค่อยคล้ำลำดับมา
มหาภูมหึมาตระหง่านยืน

ชวากเวิ้งเพิงแผ่นเบิกแท่นแท่ง
ที่เว้าแหว่งวงรอบเลาะขอบคลื่น
ละลิ่วลับลึกล้ำดั่งค่ำคืน
แผ่นดินกลืนกรวยโกรกลับโตรกธาร

ยกเชิงชั้นหลั่นเลื่อมขึ้นเอื้อมเมฆ
ภูปราสาทสรรค์เสกโอบประสาน
จากขอบฟ้าจรดขอบฟ้าคือปราการ
ข่มวิญญาณอันผยองของมนุษย์

เมฆคล้อยคล้ำต่ำตกยกตัวหนี
มหาอินทรีที่ยังบินไม่สิ้นสุด
ระงมลมบรรเลงมาเร่งรุด
ร่วมงานศิลป์บริสุทธิ์ของแผ่นดิน ๚๛

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
13 มิถุนายน 2009, 02:18:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2009, 02:18:PM »
ชุมชนชุมชน

"เขา"

โอ้ว่ามือกำยำฉันจำได้
เคยลูบไล้แผ่วเบาเอาใจฉัน
โอ้ว่าเพลงวังเวงเพราะเสนาะกรรณ
นกเขาขันกล่อมเจ้าจงเข้านอน

เมื่อดึกดื่นคืนค่อนนอนไม่หลับ
ใครประทับจูบวางฉันข้างหมอน
อยู่เป็นเพื่อนพัดวีคลายที่ร้อน
สอนสวดมนต์ขอพรตอนกลางคืน

ยิ่งนับวันนับวัยน่าใจหาย
เขาห่างเหินเมินคล้ายชายคนอื่น
ที่อาบน้ำป้อนข้าวให้เรากลืน
เดี๋ยวนี้ยื่นเมตตาให้แค่ทายทัก

โอ้ว่าตักอบอุ่นเคยหนุนเอ๋ย
ฉันอยากเกยเกลือกหัวลงทั่วตัก
ความวางเฉยนี่ฉันท้ออยากพ้อนัก
"พ่อยังรักลูกเท่าเก่าหรือเปล่าจ๊ะ"

เจ้านกเขาในคอนมานอนนิ่ง
ถูกทอดทิ้งเหงาหงอยเขาปล่อยปละ
ถึงขันเช้าไปจนบ่ายไม่เลยละ
ที่ไหนจะซึ้งเหมือนพร้อมฟังกล่อมไกว

นกเขาเอยเคยขันกระชั้นแจ้ว
เราโตแล้วหาตักอุ่นหนุนไม่ได้
ครั้นพบคนพอจะคุ้นอบอุ่นใจ
"เขา" ก็ไม่ไยดีเท่าที่ควร

                      นิภา  บางยี่ขัน
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 มิถุนายน 2009, 07:53:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2009, 07:53:AM »
ชุมชนชุมชน

เธอ

๏ ลมหนาวพรูกรูเกรียวซอนเสี้ยวจิต
เชิญชาคริตเถิดขวัญรับวันใหม่
เจิดแจรงแสงทองผ่องอำไพ
สาดลูบไล้โลกแล้วอย่างแผ่วเบา

ลานฟ้าแผ้วเรืองรองงามผ่องผุด
โศกสิ้นสุดวานนี้ตามปีเก่า
ลองแรกแย้มรอยยิ้มสิพริ้มเพรา
เพื่อสองเราจะพิพรรธน์สวัสดี

ขวัญพี่เอ๋ยเคยร้างเหินห่างขวัญ
แต่พอครั้นเคียงกายกลับหน่ายหนี
สุขกมลหนหนึ่งนานพึงมี
ฟังเสียงพี่อ้อนหวานปลอบกานดา

"........โอ้เจ้าแก้วการะเกด
จอมหัวใจนัยเนตรของเชษฐา
รสรักอาบซาบซึ้งเคยตรึงตรา
นอนรอวันเวลาด้วยอาวรณ์

หนาวหันคว้าผ้าห่มหรือข่มหนาว
หมอนข้างยาวแนบชิด...ผิดสมร
กรพลั้งเผลอเพ้อไขว่...ก็ไร้กร
ใจอ่อนอ่อนหวิวหวาดแทบขาดใจ "

ลมหนาวปีใหม่นี้เหมือนปีนั้น
ผิดตรง...ขวัญ...เร้นแฝงอยู่แห่งไหน
นกเขาคู 'กรู๊...' เกี้ยวบินเกี่ยวไป
ฉันคอยคนมีไฝ...เธอ...ไม่มา ๚

ขรรค์ชัย  บุนปาน , ๒๕๐๘
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 มิถุนายน 2009, 01:59:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2009, 01:59:PM »
ชุมชนชุมชน

บนสายเปลกาลเวลา

ก็ไกวเปลเวลาทอดมาถึง
ศรน้ำผึ้งซึ้งซ้อนแววอ่อนไหว
ชะลอผ่านม่านฟ้านภาลัย
ดิ่งลงไปในทรวงและดวงตา

วารีรสเลอศักดิ์ตำหนักสรวง
รอตักตวงเติมเล่ห์เสน่หา
มนต์เมฆหมอกนฤมิตทิพย์นิทรา
หรือจะราโรยฝันนิรันดร

วงเวียนวัยชีวิตพิศวาส
ดารดาษโดยสุขซึ่งซุกซ่อน
พิณปลายนิ้วพลิ้วกรีดคีตกร
ชะรอยร่อนเร่งเร้าอยู่เท่านาน

เพียงเพลงเปลเห่ฝากสู่ฟากฟ้า
รับรักมาเมืองดินถวิลหวาน
ดอกไม้ดาวพราวพรรณอันตระการ
ลอยลงบานฉานฉายประกายกรอง

ละลิ่วเลื่อนเลือนลับการหลับไหล
รื่นละไมริ้วลมคอยข่มหมอง
ตื่นตาตามความหวังเคยรังรอง
นิยายของความรักหรือจักทวน

ซึ่งสายเปลเร่คว้างระหว่างหาว
เมื่อถึงคราวขาดร่วงย่อมห่วงหวน
สิ้นเพลงเปลเห่ขวัญเคยรัญจวน
เสียงคร่ำครวญสะอื้นอ้อนสะท้อนแทน ๚

อนุสรณ์ ลิ่มมณี
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 มิถุนายน 2009, 02:01:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2009, 02:01:PM »
ชุมชนชุมชน

          เตือนใจหญิง

ด่วนเด็ดดอกกุหลาบงามในยามนี้
เวลามีอยู่น้อยจะลอยหาย
สุมาลีคลี่เกษรขจรขจาย
พรุ่งนี้กลายกลับเหี่ยวหล่นไม่ทนทาน

สุริยันอันจะเปรียบประทีปรัตน์
ก็ด่วนลัดล่วงฟ้าสุธาสถาน
มิช้าสิ้นแสงสดเพราะหมดวาร
รัตติกาลเข้ามาแทนทั่วแดนดิน

อันวัยเยาว์นับว่าเลิศประเสริฐสุด
เลือดฝาดผุดผ่องพิศเป็นนิจศิล
แล้วก็เฒ่าชราพาชีวิน
จนถึงสิ้นสูญสลายมลายชนม์

จะอายไย, จงรีบใช้โอกาสเถิด
คือหาคู่ไว้ชูเชิดก่อเกิดผล
แม้นไร้หวังในวัยรุ่นขุ่นกมล
เธอจักทนทรมานจวบกาลมรณ์

แปลจาก "COUNSEL TO GIRLS"  ของ R. HERRICK
โดย อาจิณ จันทรัมพร  ๒๔๘๙
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 มิถุนายน 2009, 02:04:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2009, 02:04:PM »
ชุมชนชุมชน

รำพึงรัก

๏ เงียบสงัดชัฎรกร้าง........................ระงมวัน วิเวกเอย
เย็นเยียบเชียบทรวงศัลย์.................โศกซ้อน
เรไรหริ่งรัวบรร-.................................เลงศัพท์ แซ่เอย
เสียงเสียดทรวงสั่นร้อน..................อกร้าวระทมมาน ๚
๏ รัตติกาลเด่นด้วย...........................เดือนสรวง ส่องฤๅ
สาดทั่วธรณิศร์ปวง...........................ป่าไม้
ดูเด่นดุจเงินยวง................................ย้อยหยด หยาดแล
ยลยิ่งยลยิ่งให้.....................................เหือดแห้งหฤหรรษ์ ๚
๏ ถวิลวันบรรสบน้อง.......................นวลอนงค์ นางเอย
เริงรื่นฤดีจง.........................................ต่อเจ้า
เคยเสพสวัสดิมง-..............................คลคู่ เคียงแม่
สองสุขปราศจากเศร้า.......................ส่ำอ้อนอรเดียว ๚
๏ ใจเฉลียวเปลี่ยวอกโอ้....................อนิจจา อกเอย
พลาดรักอกหักมา..............................ปิ่มม้วย
ขวัญแขวนใฝ่ฝันหา..........................ห่วงแม่ ยิ่งแม่
อกวะหวิวหวาดด้วย........................เดือดดิ้นแดถวิล ๚
๏ จวบสิ้นสิริมาสเข้า........................ขวบปี
ฤทธิ์รักร้อนรนฤดี............................บ่ร้าง
รักทับเปี่ยมทุกข์ทวี..........................ท่วมอก แล้วเอย
ใครประสบเช่นเราบ้าง....................จึ่งรู้ฤทธิ์สมร ๚

อาจิณ จันทรัมพร , ๒๔๘๕

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
14 มิถุนายน 2009, 03:52:PM
จะไม่เด็ด
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 109
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 440



« ตอบ #46 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2009, 03:52:PM »
ชุมชนชุมชน

โคลงอ้อนน้องของฉัน

ถ้อยหวานหว่านเสน่ห์เศร้า           ให้หลง
หวังอาจโน้มน้าวอนงค์                 พรอดไกล้
เอื้อนออดทอดบรรจง                    เติมแต่ง        อักษรา     
ย้ายศาสตร์จัดศิลป์ไว้                    สลับให้        เจ้าหลง

พระพายผวนป่วนเย้า                    เคล้าคำ
นทีรับผสมลำ                               ต่อคล้าย
คนธรรพ์ขับลำนำ                          กลมกล่อม      บรรเลง
ศิลป์ศาสตร์สะบัดย้าย                    ยิ่งเย้า            ยวลหลง                 

เอวออดพรอดอิ่มอ้าง                      อวลอบ
พรอดติดหลายคำรบ                      ยิ่งย้อย
มิหยุดผุดประสบ                           ประสาท         ศาสตร์โคลง
กลอนกาพย์ร่ายเรียงร้อย                 เร่งเร้า           ให้หลง

โสมส่องมองยิ่งเย้า                         ยั่วแสง
ศิลป์ศาสตร์เริ่มสำแดง                    ส่องอ้าง
ศาสตร์รักเริ่มรุนแรง                       เกินที่            ห้ามปราม
เดี๋ยวรักเดี๋ยวอยากร้าง                     จะเว้น           สัมพันธ์

ดึงเถิดดึงฉุดรั้ง                              ไว้นา
ช่วยฉุดดึงอุรา                                บอบช้ำ
กุศลจิตติดตา                                  ตรึงก่อ           สัมพันธ์
แม้นขาดกุศลย้ำ                              สุขนี้              พบไฉน...อิอิ

..โดย..จอมปราชญ์แดนอาคเนย์
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 มิถุนายน 2009, 11:04:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2009, 11:04:AM »
ชุมชนชุมชน

อยู่เพื่ออะไร
ฉันอยู่เพื่อบุคคลที่ฉันรัก                  ซึ่งใจซื่อถือศักดิ์สุจริต
และรักฉันมั่นมานปานชีวิต               ในความผิดความหลงปลงอภัย

ฉันอยู่เพื่อหน้าที่ที่พันผูก                  เพื่อฝังปลูกความหวังพลังไข
เป็นท่อธารรักท้นล้นพ้นไป               หล่อดวงใจแล้งรื่นให้ชื่นบาน   

ฉันอยู่เพื่อค้นคว้าหาสัจจะ                กลางโมหะอาเกียรณ์เบียฬประหาร
เพื่อสื่อแสงแจ้งสว่างพร่างตระการ    กลางวิญญานมืดมิดอวิชชา 

ฉันอยู่เพื่อดวงใจที่ไร้ญาติ                ที่แร้นแค้นแคลนขาดวาสนา
เพื่อรอยยิ้มพริ้มยลปนน้ำตา              บนดวงหน้าโศกช้ำระกำกรม   

ฉันอยู่เพื่อเยื่อใยใจมนุษย์                 บริสุทธิ์สอดผสานงานผสม
เป็นเกลียวมั่นขันแกร่งแรงกลืนกลม     พายุร้ายสายลมมิอาจรอน

ฉันอยู่เพื่อความฝันอันเพริศแพร้ว        เมื่อโลกแผ้วหลุดพ้นคนหลอกหลอน
เมื่ออามิสฤทธิ์แรงแท่งทองปอนด์        มิอาจคลอนใจคนให้หม่นมัว

ฉันอยู่เพื่อยุคทองของคนยาก             ที่เขาถากทรกรรมซ้ำปั่นหัว
เพื่อความถูกที่เขาถมจมทั้งตัว             เพื่อความกลัวกลับบ้าบั่นอาธรรม
   
เพื่อโลกใหม่ใสสะอาดพิลาศเหลือ         เมื่อคนเอื้อไมตรีอวยไม่ขวยขำ
เพื่อแสงรักส่องรุ่งพุ่งเป็นลำ                  สว่างนำน้องพี่มีชัยเอย     
   
อุชเชนี (อาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา )
 ๒๔๙๓
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
15 มิถุนายน 2009, 11:09:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2009, 11:09:AM »
ชุมชนชุมชน

สูงขึ้นไป
เหมือนสายแก้วแวววับระยับเยื้อง
ช้อยชำเลืองชมอุษาคราฉายแสง
พุน้ำหนึ่งผุดพุ่งรุ่งแจรง
ดั่งรุ้งแปลงแปลกฟ้าลงมาดิน

สูงขึ้นไปสูงขึ้นไปไม่ระย่อ
ไม่รู้ท้อรู้หน่ายคลายถวิล
ถึงแดดจ้าฟ้ามุ่นพิรุณริน
ไม่สูญสิ้นศรัทธาที่ตราใจ

สายน้ำแจ๋วแววแจ่มยะแย้มยิ้ม
รับลมพริ้มทอดระทวยอวยอ่อนไหว
อรชรเพียงช่อผกาไพร
ที่ลมไกวกิ่งกล่อมถนอมกัน

พอดาวพรมแผ่นฟ้าระย้าระยับ
สายน้ำกลับเกลื่อนดารากว่าสวรรค์
สะท้อนวาบปลาบพรายประกายพรรณ
เพียงจะหยันพัชราให้พร่ามัว

ความชดช้อยย้อยหยดและรสหวาน
คือทิพยทานแด่ดินถิ่นสลัว
โปรยความรื่นชื่นใจไว้รอบตัว
ดับกระหายคลายชั่วกลั้วกลี

เฉกน้ำมิตรจิตกวีที่บริสุทธิ์
ย่อมผาดผุดผ่องจรัสรัศมี
ผินฟ้าพุ่งมุ่งงามและความดี
หยิ่งในศรีศักดิ์ตนวิมลนาน

สูงขึ้นไปสูงขึ้นไปไม่ระย่อ
ประโยชน์ก่อเกิดล้ำเพียงคำหวาน
สร้างความหวังพลังหมายด้วยสายธาร
จากดวงมานกวีนั้นนิรันดร์เอย ๚

อุชเชนี
ขอบฟ้าขลิบทอง
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
15 มิถุนายน 2009, 11:11:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2009, 11:11:AM »
ชุมชนชุมชน

ในนิมิต
กลีบกุหลาบฉาบชมพูพรูพรั่งฟ้า
ว่อนเมฆาเหมือนฝันขวัญพี่เอ๋ย
นภาพิศนิมิตหวามงามกว่าเคย
ชวนสังเวยบูชิตชีวิตนี้

แต่ละชีพต่างกลีบกุหลาบร่อน
ชะลอช้อนชุ่มรักเป็นสักขี
การุณยมานหวานล้ำฉ่ำฤดี
โลมปถพีทุกย่างทางครรไล

ฟ้าระริกเงาระรวยกลางห้วยกว้าง
ก็เหมือนอย่างเราฝังพลังไข
ว่าดวงรุ้งพุ่งผ่านม่านตาใจ
ลึกละไมละเมียดหวังตั้งตาคอย

เมื่อขอบฟ้าพร่าพราวหลาวทองทาบ
พุ่งปลายปลาบทะลวงถิ่นทมิฬถอย
ความมืดแมกแหลกเรื้อไม่เหลือรอย
อุทัยพร้อยแสงพร่างสว่างพราย

เพื่อฟากฟ้าสายัณห์อย่างวันนี้
จักปรายปรีดิ์เปี่ยมพ้นล้นความหมาย
เพื่อมรรคาประชาชนจักกล่นราย
ด้วยกลีบกรายกุหลาบแก้วผ่องแพรวใจ

อุชเชนี
ขอบฟ้าขลิบทอง

ขอบคุณ :  http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=cc013f3f4d6bf76e6a490d97bd69e1a1&topic=2652.15

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
15 มิถุนายน 2009, 11:17:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2009, 11:17:AM »
ชุมชนชุมชน

สงสารเดือน
ที่ขาดเพื่อน เคว้งคว้าง อยู่กลางหาว
มีเพียงแสง รุบหรู่ ของหมู่ดาว
เป็นเพื่อนคราว เดือนฉาย อยู่ดายเดียว

ยิ่งฟ้าหม่น มืดทะมึน เหมือนคืนนี้
อ้อมสรวงมี เดือนเศร้า อยู่เปล่าเปลี่ยว
เห็นเหงาหงอย ห้อยหาว รูปยาวเรียว
สีซีดเซียว เกี่ยวฟ้า ว้าเหว่ใจ


เคยฟ้าแผ้ว แวววาว ดาวประดับ
บัดนี้ลับ เร้นลี้ ไปที่ไหน
ปล่อยทุกห้อง หาวหน หม่นหมองไว้
ทิ้งเดือนให้ แขวนคว้าง กลางโพยม


ฟ้าคร่ำครืน ครวญคราง ออกอย่างนี้
หน่อยจะมี พายุ พัดพรูโหม
น้ำตาฟ้า จะพร้อยพรั่ง ลงหลั่งโลม
สงสารโคม คู่ฟ้า จะมืดมิด

คิดถึง"เดือน"
ผู้เสมือน เพื่อนใจ อันไพจิตร
เพื่อนเคยอยู่ คู่ขวัญ เป็นเพื่อนชิด
เป็นคู่คิด คู่ขวัญ ร่วมกันมา

"เดือนเอ๋ย"
ไม่โกรธเลย ที่เธอทำ ช้ำหนักหนา
ยังห่วงถึง ซึ้งสนิท ติดตรึงตรา
รอเธอมา ร่วมความหลัง อยู่อย่างมิตร

เธอหลงไหล ไฟเปลว ดิ่งเหวลึก
กว่าเมื่อใด  เธอรู้สึก สำนึกผิด
ไร้ใครอื่น หมื่นผู้ เชิดบูชิต
ขอให้คิด มิตรอย่างฉัน มั่นห่วงเดือน
ประยอม ซองทอง
    ประยอม ซองทอง
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
16 มิถุนายน 2009, 09:52:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 16 มิถุนายน 2009, 09:52:AM »
ชุมชนชุมชน

               
เพชรน้ำหนึ่ง

๏...กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพเราะ   
เขียนให้เหมาะ แปดคำ เพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกนกลึง
กลอนจะซึ้ง ติดใจ และให้คุณ

..คำสุดท้าย วรรคแรก แยกพิเศษ
สามัญเขต หวงห้าม ตามเกื้อหนุน
ท้ายวรรคสอง ต้องรู้ อยู่เป็นทุน
เอก-โทจุน จัต วาประพนธ์

..ท้ายวรรคสาม วรรคสี่ นี้จำมั่น
เสียงสามัญ -ตรีใช้ ได้ทุกหน
สัมผัสซ้ำ จำจด งดปะปน
จงคิดค้น  ถ้อยคำ ที่จำ เป็น

..ไม้ไต่คู้ใช้กับ ไม้ไต่คู้
เมื่อฟังดู เด่นดี ดั่งที่เห็น
เสียงสั้นยาว ก้าวก่าย หลายประเด็น
อย่าบำเพ็ญ พ้องกัน นิรันดร

..อย่าเขียนให้ ใจความ ตามเพ้อนึก
จงตรองตรึก ตระหนัก เรื่องอักษร
คติธรรม นำใส่ ให้สังวร
รวมสุนทร ถ้อยไว้ ให้งดงาม

..จุดจบก็ ขอให้ กินใจหน่อย
มิควรปล่อย เปะปะ เหมือนสะหนาม
จบให้เด่น เห็นชัด จำกัดความ
ให้ตรงตาม เค้าโครง เรื่องโยงใย

..เขียนเสร็จสรรพ กลับมา ตรวจตราผิด
ตรวจชนิด เรียงตัว ทั่วกันใหม่
เมื่อเห็นเพราะ เหมาะดี จี้หัวใจ
จึงเผยให้ ประชา ชนตราตรึง

..กลอนเก้าคำ จำไว้ ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะ แปดคำ เพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรค หนักแน่น ดุจแกนกลึง
ผู้อ่านจึง จะชอบ ชมขอบคุณ ๚๛ 

                             ส. เชื้อหอม    ผู้ประพันธ์

ส. เชื้อหอม

     ประวัติ

     ชื่อเต็มคือ สมจิตร เชื้อหอม เกิดที่บ้านวังหัวคู้ หมู่ที่ 1 ตำบลบางพลวง
อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี บิดาชื่อ นายล้อม มารดาชื่อนางชั้น
มีอาชีพทำนา ส. เชื้อหอม เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 5 คนด้วยความ
รักภาษาไทยเป็นชีวิตจิตใจจึงทำงานเพื่อภาษาไทยมากกว่า 40 ปี ชี้แนะ
และต่อสู้ด้วยความอดทนให้ผู้ผลิตสินค้าที่เขียนผิดหลักภาษาไทย ยอมแก้ไข
ให้ถูกต้อง เช่น อายิโนะโมะโต๊ะ เป๊บซี่ แฟ้บ ไฮเป๊กซ์ แท็ตทู แม็กนั่ม ฯลฯ
และยังทำให้ผู้ที่ไม่ซึ้งถึงค่าภาษาไทย คิดแก้ไขภาษาไทยให้ถูกต้องอีกด้วย

     ส. เชื้อหอม ได้รับรางวัลจากการประกวดบทร้อยกรองนับร้อยรางวัล
รางวัลที่สำคัญคือรางวัลพระราชทาน 6 รางวัล รางวัลประทาน 3 รางวัลดังนี้

1. รางวัลจากพระหัตถ์สมเด็จพระนามเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
2. ถ้วยรางวัลจากพระหัตถ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
3. รางวัลจากพระหัตถ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
4. ถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
5. รางวัลจากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    ในงาน"สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ" 2 ปีซ้อน
6. ถ้วยรางวัลจากพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ
7. รางวัลจากพระหัตถ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชา
    ทินัดดามาตุ 2 ครั้ง
    นอกจากนี้ยังได้รับโล่และถ้วยรางวัลจากศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์
หม่อมหลวงบัว กิติยากร  พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์
นายชวน หลีกภัย พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก พลตรีจำลอง ศรีเมือง จนได้รับสมญา
นามว่า "นักกลอนพระราชทาน" มีผลงานเผยแพร่ทั่วราชอาณาจักร ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองมากกว่า 1000 บท

    ในอดีต เคยเป็นนักจัดรายการกลอน ชื่อ "เสียงฝัน" สถานีวิทยุยานเกราะ
890 ปชส.8 "เพื่อนนักกลอน" สถานีวิทยุเสียงสามยอด "ปัญหาประจำวัน"
ในนามคุณทวน สีแดง สถานีวิทยุ ททท. นอกจากนั้นยังเป็นกรรมการต่างๆ
อีกมากมาย เช่นกรรมการตัดสินประกวดร้องเพลง(ด้านคำร้อง)เสาอากาศทองคำ
พระราชทาน สถานีวิทยุเสียงสามยอด กรรมการด้านคำร้องเพลง"ชุมทางคนเก่ง"
สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 กรรมการด้านคำร้องเพลง
"ลูกทุ่งสิบทิศ" สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กรรมการด้านคำร้องเพลงกรมการศึกษา
นอกโรงเรียน อุปนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
ที่ปรึกษากลุ่มนักกลอนปราจีนบุรีศรีวรรณศิลป์ ฯลฯ

     ปัจจุบัน เป็นประธานชมรมผู้อนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมไทย ผู้ทรงคุณวุฒิที่
มีผลงานดีเด่นเป็นคุณประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ของหน่วย
ศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประธานฝ่ายคำร้องเพลง
"พระพิฆเนศทองพระราชทาน" สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรม
ราชูปภัมภ์ ผลงานประพันธ์รวมเล่มมีหลายเรื่องคือ "ภาษาพาที" "ภาษาไทยคือ
ไทย" "อ้ายเปีย" "ชีวิตในวัยเด็ก" ของพระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทะ)
"วลีลีลา" "พุทธประวัติ" "ภาษาภาษิต" "ภาษาปาก" "วัจนามนี"(ร้อยกรอง)
"ภาษาสื่อมวลชนมีกี่คนที่ทนรับได้" "ผ่าเพลง" ฯลฯ
        



    
       ผลงานที่ลงหนังสือพิมพ์ต้องมีข้อความ"บ้านสร้าง ปราจีนบุรี" ทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ตัวอยู่กรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อสร้าง
ชื่อเสียงให้แก่บ้านเกิดเมืองนอน ส. เชื้อหอม เป็นบุคคลที่มีความสามารถในการร้องเพลงพื้นบ้าน และเล่นสักวา
โรงเรียนมัธยมฯในจังหวัดปราจีนบุรี อาทิ โรงเรียนปราจีนกัลยาณี โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง เคยได้รับความ
อนุเคราะห์จาก ส. เชื้อหอม ในการมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการเล่นสักวาหลายครั้ง ส. เชื้อหอม มีความรัก
ความผูกพันกับบ้านเกิด ที่อำเภอบ้านสร้างอย่างมากงานที่เขียนจึงถ่ายทอดประวัติที่เกี่ยวพันกับบ้านเกิดไว้
เช่น หนังสือเรื่องอ้ายเปียซึ่งเป็นหนังสือวรรณกรรมจริยธรรม สำหรับนักอ่านเยาวชน ผลงานเพลงได้แต่งเพลง
สถาบันและเพลงทั่วไปไว้หลายสิบเพลง เพลงแรกที่ได้รับการบันทึกเสียงโดยคุณรุ่ง สุริยา คือ "น้ำพระทัยพระเทพ"

     การทำงาน
     รับราชการที่ฝ่ายการพิมพ์สำนักงานเลขานุการกรม กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพฯ 10300
ปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญ

ที่มา : http://www.ru.ac.th/province/prachinburi/goodper/sor/sor.htm



ที่มาจาก http://www.st.ac.th/thaidepart/poetry_1.php
ขอขอบคุณ : ดินหญ้ากาช้ำ  แห่ง  http://www.kaweeclub.com/index.php?topic=2483.0

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
17 มิถุนายน 2009, 01:13:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #52 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2009, 01:13:PM »
ชุมชนชุมชน

มาลัยดอกรัก

พวงมาลัย......จะลอยร้างห่างไปหนใดหนอ
ล่องละลิ่วปลิวฟ้ามาเคียงคลอ
ให้ข้าพอชื่นจิตนิดเป็นไร

" เอ้อระเหยลอยมาเวลาค่ำ
ฟังพี่ร่ำเจรจาอย่าสงสัย
พี่รักพี่จึงตามแม่ทรามวัย
หวังดวงใจแม่ตาคมไว้ชมเชย "

สาวชะม้ายชายตาร้องว่า " พี่
มาเซ้าซี้น่าอายพี่ชายเอ๋ย
อย่าโป้ปดลดเลี้ยวเกี้ยวน้องเลย
น้องไม่เคยพบเห็นดอกเช่นนี้ "

" เอ้อระเหยลอยล่องท่องทุกถิ่น
พี่เจนจบจนสิ้นเจียวสาวศรี
มาจอดรักฝากใจให้คนดี
ไม่ลอยลี้ลับแล้วละแก้วตา "

สาวสะเทิ้นเมินมองพร้องคำหวาน
" ขอดวงมานน้องนี้หรือพี่ขา
นี่มาลัยรักร้อยสร้อยอุรา
ฝากพี่ยาแทนหทัย...ชื่นใจพอ "

พวงมาลัย.....
" หอมระรื่นชื่นใจกระไรหนอ
ลอยละลิ่วปลิวฟ้ามาเคียงคลอ
พี่จดจ่อรักน้องเจ้าของเอย "

แววตา  สีมานันท์
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
17 มิถุนายน 2009, 07:47:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2009, 07:47:PM »
ชุมชนชุมชน

เพลงหนาว...ที่กันตัง

เรือตังเกเร่กลับฝั่งอีกครั้งหนึ่ง
ความคิดถึงเอ่อปริ่มอยู่ริมฝั่ง
โดยกลีบของมาลีนาม...ศรีตรัง
ซ่อนความหวังความหมายกับสายน้ำ

สบตากับดาวรายที่ปลายฟ้า
ซุกซบหน้าซานซมกับลมค่ำ
เมื่อบทเพลงกล่อมใบไม้ให้ร่ายรำ
ฟ้าสีก่ำเริ่มจางสีเป็นสีเทา

หัวใจเคยร่อนเร่ทะเลกว้าง
ยิ่งเหว่ว้างกับการคอยอย่างหงอยเหงา
เพลงหนาวที่กันตังยังซึมเซา
ไม่มีเงาเพื่อนใจมาใกล้ชิด

ลำน้ำตรังคืนนี้ไม่มีแก้ว
วันจะแผ่วน้ำตาเพื่อนสนิท
เงาสีดำคลุมคลี่ทางชีวิต
ด้วยความคิดเหงาหงอยและน้อยใจ

หนาวอารมณ์บ่มน้ำตาคนอาภัพ
แอบซุกหลับเร้นรอยหมองแอบร้องไห้
ปิดดวงตาว้าเหว่...ร่อนเร่ไป
กว้างและใหญ่...ฟ้าสีคราม...น้ำทะเล

ดาวรุ่งหรี่แสงจางหว่างใจหวั่น
ซึ่งความฝันจะเลือนล่มกลางลมเห่
หนาวเพลงหนาวทีกันตังยังรวนเร
ไม่อยากเร่ไกลฝั่งอีกครั้งเลย

ศิริวรรณ  ชลธาร
 
 
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
18 มิถุนายน 2009, 03:01:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2009, 03:01:PM »
ชุมชนชุมชน

           มาลัยเสน่หา

จะขอเส้นเกศามาแทนไหม
เจ้าคงไม่หลงเสน่ห์เส้นเกศา
หอมกระแจะแตะกลิ่นประทิ่นทา
เพื่อนึกหน้าผมหอมเมื่อดอมดม

แม่ผมปอยปล่อยปลายคล้ายพู่หงส์
ดูเครื่องทรงสดใสสไบห่ม
มาลัยรักจักน้อมถนอมชม
ขอเพียงผมเส้นน้อยร้อยมาลัย

จะเชิญแก้วแพรวกล้ามาร้อยแก้ว
ครั้นตรองแล้วก็มิกล้าพูดจาได้
อันกลิ่นหอมจอมขวัญทุกวันไป
เป็นจอมใจจรุงรสจึงจดจำ

โอ้แก้วเจ้าพราวพริ้งยิ่งแก้วต้น
ประกายกลมณีแท้ที่แก่ก่ำ
หวาดว่าแก้วชูกิ่งยิ่งถ้อยคำ
แต่ร่ำร่ำร้อยแก้วไม่แล้วกัน

สวาทวาดมาดหมายสายสวาท
ยังมิอาจซาบซึ้งถึงสวรรค์
ศักดิ์เจ้าจอมหม่อมห้ามจึงคร้ามครัน
ถึงกระนั้นไพร่ฟ้าก็กล้าพอ


แก้วเสน่ห์เกศาถ้ามิให้
ตามแต่ใจจักจำไม่ซ้ำขอ
เถอะจะหามาลัยกรองมาคล้องคอ
ซึ่งเหมือนสร้อยพระศอนรกานต์

          สุจิตต์  วงษ์เทศ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
18 มิถุนายน 2009, 03:13:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #55 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2009, 03:13:PM »
ชุมชนชุมชน

"วันที่ดอกไม้โรย"

"ดอกโสนโรยร้าว
ดอกคัดเค้าโรยรา
ดอกประดู่ร่วงนักหนา
ไม่มัวันกลับมาแล้วเอย"

ทุกทุกสิ่งแล้วล้วนชวนถวิล
ดูด่วนสิ้นโรยราผกาเอ๋ย
ขอมองไว้อีกสักนิดไว้ชิดเชย
เมื่อยามเลยลาลับไม่กลับคืน
จะเก็บภาพประทับใจไว้ถวิล
ไว้แอบรินน้ำตาแอบสะอื้น
ไว้เยือกเย็นกับน้ำค้างที่พร่างชื้น
เก็บไว้ตื่นตาฝันนิรันดร

นับแต่นี้น้ำตาจะหาง่าย
ขาดคนหมายซับมันเหมือนวันก่อน
มือเย็นเยียบเมื่อสายัณห์ตะวันรอน
ใครจะซ้อนมือนุ่มเกาะกุมมัน

จะเดินเปลี่ยวเดียวดายในสายแดด
ชีวิตแวดด้วยความหลังและความฝัน
ฝันถึงวันที่ผกานานาพันธุ์
ปลิดดอกอันเหลืองอร่ามท่ามกลางเรา

"วันที่ดอกไม้โรย"
นิภา บางยี่ขัน
24/01/2510

ขอบคุณ : http://www.geocities.com/pa_orn/kawee1.html
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
19 มิถุนายน 2009, 07:44:AM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #56 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2009, 07:44:AM »
ชุมชนชุมชน

หัวใจที่ชาเย็น

เธอแย้มเยื้อนเย้ากมลจนไหวหวั่น
ทุกทุกวันซึ้งสนิทเกินปลิดหาย
จะกี่เดือนกี่ปีไม่มีคลาย
เหมือนกับสายเจ้าพระยาตราบตาปี

เราจากกันแต่ตัวหัวใจซึ้ง
ครุ่นคะนึงห่วงถวิลทุกถิ่นที่
นานเหมือนนับกัปกัลป์พันทวี
เมื่อเรามีโอกาสใกล้ใหม่อีกครั้ง

หวิวและหวามความสัมพันธ์วันเก่าเก่า
รุกรุมเร้าหัวใจให้ความหวัง
หวังให้หวังครั้งนี้อยู่จีรัง
เสมือนดังตั้งจิตเตือนติดตา

คิดว่ารักจักอยู่เคียงคู่รัก
คิดว่าหลักคงไม่คลอนรอนคุณค่า
คิดว่าแกร่งเกินแผนแผ่นศิลา
และคิดว่ามั่นคงจำนงนัย

แต่ชีพกร้านกร้าวฉกรรจ์ทุกวันนี้
ไม่เหมือนที่จิตฉันเคยหวั่นไหว
กลับคล้ายลมพลิ้วเฉยผ่านเลยไป
ในหัวใจชาเย็นเหมือนเช่นเดิม

สุรีย์ พันเจริญ  ("ลาวแพน" )
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
20 มิถุนายน 2009, 09:08:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2009, 09:08:PM »
ชุมชนชุมชน

เห่เรือหงส์

หงส์ระเหิดเฉิดฉายแหวกว่ายฟ้า
เลื่อนลงหล้าลอยฟ่องล่องกระสินธุ์
ละอาศน์พรหมล่มฟ้ามาสู่ดิน
ประทีปถิ่นแดนด้าวของชาวพุทธ

เสียเห่โห้โอ้ช้าแล้วว่าเห่
เชิญเสน่ห์แห่งสวรรค์อันพิสุทธิ์
มาสร้างสรรค์ขันแต่งแข่งมนุษย์
ให้ประดุจหงส์ทองฟ่องพิมาน

ช้าแลเรือแม่รามหาหงส์
เชิญอนงค์ชำระสระสนาน
ฝีพายเรียงเคียงคู่คอยอยู่งาน
ขับสำนานมูลเห่เพลาทรง

มโหรทึกแตรสังข์ทั้งบัณเฑาะว์
ประคองเคาะเรื่อยรับขับร้องส่ง
ศรีชัยเอยแม่ย่านางสำอางองค์
เชิญแม่ลงเรือประเทียบเลียบสาคร

จะเห่นำเรือทรงองค์กฐิน
ลอยวารินลิ่วเลื่อนเหมือนเก่าก่อน
ขวัญแม่เอยขวัญแก้วอย่าแคล้วจร
เชิญรับพรมงคลชัยไว้ชื่นเชย

เจ้าแม่ศรีสุพรรณหงส์ทรงสะอื้น
ทั่วภาคพื้นเจ้าพระยาจะผ่าเผย
สาครครืนครื้นคร่ำส่ำสังเวย
รอหงส์เกยเทียบท่าวาสุกรี


สุรินทร์  ประสพพฤกษ์
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
21 มิถุนายน 2009, 09:53:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #58 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2009, 09:53:PM »
ชุมชนชุมชน

กล่อมขวัญม่านราตรี


๏ พลิ้วลำนำเพลงรักหวานข้ามผ่านฟ้า
ขับเสภารัตติกาลบรรสานฝัน
ราวเห่กล่อมภพช่วงจากจวงจันทร์
ล้อมดวงขวัญแนบสนิททุกนิทรา

๏ หลับตาเถิดคนดีนะที่รัก
จะทอถักเรียงร้อยสร้อยบุปผา
มาเคียงข้างบรรจถรณ์ผ่อนอุรา
ปลอบวิญญาณ์อย่าหวั่นจงฝันดี

๏ ณ คืนนี้จักถนอมกล่อมเคียงข้าง
จนรุ่งสางทิวาวารผ่านดิถี
ทุกทุกคำที่ร้อยสร้อยวจี
จากใจที่ประจักษ์รักทั้งปวง

๏ เจ้าเดือนดาวพราวฟ้าราตรีนี้
ฤๅจักที่ทอแสงมาแต่งสรวง
ขอเพียงนวลปลายหาวจากดาวดวง
มาแต้มทรวงหวามไหวในพี่ยา

๏ อันความรักฉ่ำหวานปานหยาดผึ้ง
งดงามตรึงหนึ่งทรวงให้ห่วงหา
ส่งใจไปพร่ำพลอดตลอดเวลา
น้อมกายมาเคียงร่างมิสร่างรอย

๏ หอมประทิ่นกลิ่นดอกแก้วยังหอมกรุ่น
หวานละมุนละไมในทุกถ้อย
ขลุ่ยเพียงออพลิ้วเพรียกขานผ่านฝนปรอย
ร่วมเพลงร้อยประทับขวัญม่านราตรี

?ช่ออักษราลี?
 กรีนเวฟเรดิโอ

http://www.sakaeofm89.com/
อีเมล  [email protected]
http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=6454.msg50257#msg50257

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
24 มิถุนายน 2009, 02:10:PM
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2009, 02:10:PM »
ชุมชนชุมชน

   คิดถึง
ความคิดถึงมีมากอยากเห็นหน้า
พอไปหาก็ไม่เห็นยิ่งเป็นห่วง
คิดก็เหมือนดาวดับเลือนลับดวง
นี่เราล่วงไปห่วงหาอาวรณ์ใคร

เขาไม่คิดถึงเราเขาก็ห่าง
จึงอารมณ์อ้างว้างคว้างและไหว
คนอ่อนท้อเริ่มจางพลังใจ
อีกเมื่อไรหนอรุ้งจะรุ่งฟ้า

ชิงช้าเอย แกว่งไกวใบไม้ร่วง
คนไร้คนเป็นห่วงเปลี่ยนสีหน้า
จากที่ยิ้มเป็นหมองทั้งสองตา
ลิ้นเริ่มปร่าหนักสำนึกลึกอารมณ์

หวังทุกบ่อยเมื่อคอยเธอ...ที่นี่
เธอคงมาวันนี้...ไหวแล้วข่ม
เห็นด้านหลังคนอื่นหลงชื่นชม
เจียนจะจมห้วงน้ำตาฟ้าน้อยใจ

ตะวันเย็นเริ่มจางทางสีอ่อน
แต่เราร้อนเสียจนทนไม่ได้
จากแสงแดดตอนเย็นเป็นแสงไฟ
เราก็ไม่สมหวังระหว่างคอย

ความคิดถึงมีมากอยากเห็นหน้า
พอไปหาก็ปล่อยเราให้เหงาหงอย
คิดถึงมาก ไหว พ้อ ก็เลื่อนลอย
เขาคงปล่อยเราคว้างฝันนิรันดร

ชมจันทร์ (ไพลิน รุ้งรัตน์) จากหนังสือกวีนิพนธ์ "มิเหมือนแม้นอันใดเลย”
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s