01 มิถุนายน 2009, 04:26:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2009, 04:26:PM » |
ชุมชน
|
"......ซึ้ง......"
ตามองตาตาจึงตะลึงจ้อง เพราะเจ้าของตามองสองความหมาย คู่หนึ่งแข็งแรงกล้าทอดท้าทาย ส่วนอีกฝ่ายปรายสบแล้วหลบเลย
ใจหนึ่งชินชาสิมิรู้สึก คิดไม่ลึกนึกไม่ถึงจึงเมินเฉย สบคนโน้นสบคนนี้ที่คุ้นเคย แล้วเอื้อนเอ่ยคำ--มิตร--ปิดทางรัก
ใจหนึ่งคิดพิศซึ้งจึงเพลินอยู่ ต่างประตูดูหัวใจให้ประจักษ์ ฝืนทิฏฐิมิแยแสแต่ยากนัก เพียงพบพักตร์ผ่านเผินยังเพลินมอง
ชีวิตเราเราลิขิตมีอิสระ ไร้พันธะใดจะเข้าเป็นเจ้าของ ชีวิตเขาเขาก็ชื่นคนอื่นครอง แบ่งเป็นสองทางแยกจึงแยกทาง
ซึ้งสายตาพาสายใจใยดีต่อ ซึ้งเมื่อก่อเกิดเกินจะเมินหมาง ซึ้งเพราะคิดถึงอยู่มิรู้จาง เธอคิดบ้าง สักครึ่ง ก็ซึ้งพอ
ประภาศรี สุดบรรทัด
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
01 มิถุนายน 2009, 04:27:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2009, 04:27:PM » |
ชุมชน
|
ซึ้ง....
โอ้เสียงปี่ครวญคร่ำร่ำไห้หวน ยิ่งฟังชวนหวิวไหวหัวใจหวาม สำเนียงออดฉะอ้อนสั่งให้ฟังความ กระซิบตามลมมาด้วยอาทร
" ป่านนี้แก้วแววตาคนน่ารัก คงซบพักตร์พริ้มหลับอยู่กับหมอน โถ...แก้มยังเปื้อนน้ำตาคงอาวรณ์ มาเถิดอรพี่จะรับซับให้พลัน
ด้วยจุมพิตฝากสายพระพายพลิ้ว ล่องละลิ่วมาประทับเพื่อรับขวัญ ถึงตัวไกลเกินกว่าจะพบกัน แต่ใจมั่นมอบไว้ให้ทั้งดวง
ที่พลัดพรากจากกันทุกวันนี้ ใจยังปรี่เปี่ยมรักทั้งห่วงหวง อยากกลืนแก้วเข้าไว้เสียในทรวง เพื่อพ้นปวงกรรมวิบากที่พรากเรา
แต่ทำได้เพียงฝากวากย์วจี กับเสียงปี่กล่อมใจพอคลายเหงา ความคิดถึงแก้วนั้นมิบรรเทา ยิ่งวันเศร้าใจขมตรมฤดี
เฝ้าแต่เร่งสุริยาให้ลาลับ แล้วคืนกลับมาใหม่ให้เร็วรี่ เมื่อไหร่หนอตาวันผ่านผันปี จะคืนสู่ขวัญพี่มิรอรา "
โอ้เสียงปี่ระรี่ไกลไปทุกหน สงสารคนเพ้อรักเสียหนักหนา เราเดียวดายไกลมิตรชิดอุรา จึงน้ำตาคลอคลองทั้งสองนัยน์
แววตา สีมานันท์
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
02 มิถุนายน 2009, 12:07:AM |
Kotchanan
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009, 12:07:AM » |
ชุมชน
|
ดอกน้อย
พยักยิ้มริมทางร้างคนทัก เพียงดอกน้อยคอยรักกวักใบเหงา ใครผ่านไปผ่านมากล้าเด็ดเอา ก็เชิญเถิดถ้าเขาจะเข้าใจ
หลายหลากพันธุ์ดอกไม้ในโลกหล้า ฉันมิอาจหาญท้าเทียบใครได้ ขออยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมดอกใบ พร้อมหัวเราะและร้องไห้ในแดด-ลม
หากเธอฝันผ่านทางมาทางนี้ โปรดแวะพักสักนาทีที่สุขสม ยินดีเสมอ-หากเธอจะชื่นชม เด็ดดอกไม้แซมผมแล้วเดินทาง
ถึงยากไร้..ใช่ไร้ใจจะรัก ถึงต่ำนัก..ใช่ไร้ใจจะสร้าง อยู่ไปชั่วชีพหนึ่งถึงอ้างว้าง ก็มิขออยู่อย่างร้างหัวใจ! จาก..คือแรงใจและไฟฝัน โดย..ไพวรินทร์ ขาวงาม (ขอคารวะด้วยคนน๊ะค๊ะ...)
|
|
|
|
02 มิถุนายน 2009, 01:38:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009, 01:38:PM » |
ชุมชน
|
เพลงดวงดาว
สร้อยดวงดาวโยงระย้ากลางฟ้าหม่น เพลงเริ่มต้นคืนหนาวเริ่มผ่าวแผ่ว พรายระยับดวงดาวส่องพราวแพรว ลำนำแว่วจากที่นี่ไปที่ไกล
โดยเทพแห่งดอกไม้สายน้ำผึ้ง สบตาซึ้งแหนหวงดาวดวงใหม่ ระยับดาวพราวกระจ่างอยู่กลางใจ อวลกลิ่นไอดอกไม้จากสายลม
หวิวและว้างคว้างเคว้งตามเพลงกล่อม พรายดาวล้อมแววระยับหลับตาข่ม เลือนบทเพลงแห่งน้ำตาและอารมณ์ น้ำค้างพรมคือน้ำมนต์จากคนธรรพ์
หนาวและหนาวสายลมแอบห่มเนื้อ หนุนอกเอื้อต่างหมอนขวัญอ้อนขวัญ ดับลมหนาวพราวพรายคืนไร้จันทร์ อุ่นรักอันอวลไอไว้ไม่คลาย
เพลงดวงดาวกระซิบแผ่วจากแนวฟ้า กล่อมนิทราคนอ่อนแอคนแพ้พ่าย ซุกหน้านอนเวียนซับความอับอาย คนเดียวดายฝันคว้างคืนข้างแรม
สร้อยดวงดาวโยงระย้ากลางฟ้าหม่น น้ำตาคนหมางหมองอาบสองแก้ม สะท้อนแสงดาวจับอยู่วับแวม น้ำค้างแกมน้ำตาทอพร่าพราย
ศิริวรรณ ชลธาร
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
02 มิถุนายน 2009, 02:25:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2009, 02:25:PM » |
ชุมชน
|
คนช่างงอน
ก่อนแก้มนิ่มเธอแนบลงแทบหมอน กราบขอพรเผื่อใครคนไหนหนอ? ภายหลังหลับแล้วละเมอหลงเพ้อพ้อ เขาผู้ก่อความฝันคนนั้นใคร?
แอบพลิกหมอนค่อนคืนเพื่อฟื้นฝัน พอตื้นตันแล้วก็หมองแอบร้องไห้ หมอนข้างทอดกอดประทับแนบกับใจ คิดถึงเขา...ใช่มิใช่อย่าไก๋เลย
กระนี้หนอนิดหนึ่งก็ขึ้งโกรธ แท้ทำโทษใจตนอีกคนเฉย เพราะอีกฝ่ายใจเย็นเห็นเสียเคย แทบอยากเย้ยเอ๋ยคำแกล้งซ้ำเติม
รู้ไหมว่าเหตุผลคือมือแห่งรัก จะคอยชักจูงใจมิให้เหิม อารมณ์คือมือมารผลาญรักเดิม ผู้ริเริ่มทำลายสายสัมพันธ์
ที่เง้างอนค้อนคว่ำจำไว้ว่า แม้น่ารักบางเวลาก็น่าขัน ลับหลังแล้วร้องไห้ทำไมกัน เขารู้ทันทุกวลีที่อยากพ้อ
เมื่อแก้มนิ่มนิ่งแนบหลับแทบหมอน คนช่างงอนฝันว่าได้อะไรหนอ? รู้ว่าขนตาฉ่ำน้ำตาคลอ จะไปง้อในฝันคืนวันนี้
ทวีสุข ทองถาวร ๒๕๑๐
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
05 มิถุนายน 2009, 04:28:AM |
|
|
05 มิถุนายน 2009, 08:26:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2009, 08:26:AM » |
ชุมชน
|
สำนึกสุดท้ายของคนทรนง
ฉันมาดูดวงดาวคราวย่ำค่ำ ริมลำน้ำซึ่งไม่เคยไหลกลับ เพชรน้ำค้างพร่างใสไหวระยับ จูบประทับใบไม้ใกล้ลำธาร
เหงาที่สุดเมื่อห่างเธออย่างนี้ ยากนักที่จะดับพิษคิดถึงบ้าน จำทุกถ้อยอำลา คำสาบาน บอกกับเธอฉันต้องการความมั่นใจ
จะเก็บความอ่อนแอแค่วันนั้น เพื่อเริ่มวันต่อสู้อย่างผู้ใหญ่ เธออาจต้องทรมานนานเกินไป แต่ขอให้เชื่อมั่นฉันสักคราว
หากพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ที่ฝันถึง คือสิ่งซึ่งเกินรอต่อความสาว บอกฉันเถิดฉันพร้อมยอมปวดร้าว ต่อช่วงก้าวห่างไกลจากใจเธอ
ด้วยศักดิ์ศร้ลูกผู้ชายหวังไว้ว่า จะกลับมาเพื่อมิให้ใครรอเก้อ นำทุกความปรารถนามาปรนเปรอ (คอยพิสูจน์ข้อเสนอ, ถ้าเธอรอ)
กับรอยเท้าไกลกันวันละก้าว เธอเหน็บหนาวเหนื่อยหน่ายมากไหมหนอ ฉันอ่อนแอเกินจะไปให้ตัดพ้อ ขอโทษต่อผู้ซึ่งฉันผิดสัญญา
ดาวเอ๋ยดาวย่ำค่ำ ย้ำว้าเหว่ คนร่อนเร่ปวดร้าวหนาวซบหน้า สงสารแต่เธอผู้อยู่โพ้นฟ้า ไม่รูว่าคนทะนงล้มลงแล้ว
ปราโมทย์ สันตยากร
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
05 มิถุนายน 2009, 04:49:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2009, 04:49:PM » |
ชุมชน
|
ขอบฟ้ายังกว้าง
ดวงพระจันทร์สว่างพรายโลมชายป่า สัมผัสหญ้า สัมผัสดาวแสงขาวใส อ้อมทะเลภูเขาทอดเงาไกล ทาบแมกไม้สีดำยามค่ำคืน
สันโดษโดยว้าเหว่การเร่ร่อน รินเพลงพรคลอขับ หลับ,สะอื้น นกหลงป่าร้อนรนขนเปียกชื้น เย็นหยาดรื้นน้ำค้างกลางหมู่ดาว
เมื่อขอบฟ้ารอบข้างยังกว้างอยู่ สำนึก-รู้ปีกเจ็บและเหน็บหนาว รู้ว่าเหนื่อย รู้ว่าล้า กว่าทุกคราว แต่การก้าวกลับหลังยังไม่มี
เปิดโอกาสให้ตามความจองหอง หากจะต้องตายเพราะสู้บินอยู่นี่ ให้มันซ้ำ ให้มันสา มากกว่านี้ ทุกสิ่งที่ประทับรอยคับแค้น
เมื่อดวงดาวทิศนี้หรี่แสงโรจน์ ตัดสินแรงหฤโหดให้โลดแล่น แสวงหาแม่บทไว้ทดแทน แผลลึกแก่นสันดานที่ผ่านไป
ดวงพระจันทร์ต่ำลงตรงชายป่า สุสานฟ้าเงียบเหงา,เศร้า,หวั่นไหว กล่อมนกซึ่งหลงบินคว้างเดินทางไกล ทั้งที่ลมหายใจไม่มีแล้ว
สรสิทธิ์ สุนทรเกศ
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
07 มิถุนายน 2009, 10:13:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2009, 10:13:AM » |
ชุมชน
|
เมื่อดอกไม้โรย
ดอกไม้สีม่วงร่วงตรงหน้า น้ำตาพร่าพร่างกลางกลีบอ่อน โอ้ใครไหนเลยจะเชยช้อน ร้าวรอนแหลกเปล่าเฉาช้ำ
ลมหยุดพัดผ่านไปนานนัก ไม่ทายทักใบไม้ไม่ชื่นฉ่ำ ท้องฟ้าวันนี้เป็นสีดำ สายน้ำนิ่งสงบซบเซา
โลกแตกดับแล้วหรือนี่ ทันทีที่สบตารู้ว่าเขา สักนิดมิได้รักเรา โศกเศร้าเจ็บปวดทั่วหัวใจ
โอ้ความใยดีที่มอบมั่น เขาหยันหยามเราเท่าไหน ซื่อนักโง่นักเมื่อรักใคร เทิดเทินให้ได้ทั้งนั้น
ความทรงจำเมื่อวันวานอ่อนหวานยิ่ง ทุกสิ่งงดงามคือความฝัน เพียงกระพริบตาก็ดับฉับพลัน ตื้นตันน้ำตาอาวรณ์
ดอกไม้สีม่วงร่วงต่อหน้า รอเขามาเหยียบยับกับกลีบอ่อน และหัวใจผู้หญิงเขลาซึ่งร้าวรอน จะวางซ้อนอ่อนแอบอยู่แทบเท้า
??????
ปิ่นฤทัย รวิปรีชา
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
07 มิถุนายน 2009, 10:57:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2009, 10:57:AM » |
ชุมชน
|
"ดาวรู้ไหม"
เมื่อเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและว้าเหว่ ขวัญจะเร่ร่อนคว้างถึงกลางหาว แล้ววอนถามความหมองของหมู่ดาว ซ่อนแสงพราวพรุบหรู่อยู่ทำไม
เห็นใครคว้างอย่างนี้มีไหมเล่า จะว่าเศร้าก็ไม่เศร้า ...ดาวรู้ไหม หากแต่ว่าแพ้ตัวแพ้หัวใจ ที่เฉยเมยซ่อนไว้ซึ่งไยดี
เห็นเคยเห็นดาวคว้างอย่างคนคว้าง ปลอบตัวเองอุ่นใจอย่างไรนี่ หรือแอบหมอกหยอกฟ้ามานานปี จนดาวมีฟ้าเสมือนเป็นเพื่อนคิด
อิจฉาดาวพราวแสงเหมือนแสร้งเยาะ กระทบเหมาะแววว้างตรงกลางจิต ตาจึงวาบปลาบละห้อยเพียงน้อยนิด แล้วเม้นมิดซ่อนหมายอยู่อย่างเดิม
เพราะรักสิทธิ์อิสระเกินจะทุกข์ จึงซ่อนซุกความรู้สึกไม่ฮึกเหิม เมื่อดาวหมายปรายตามาเยาะเติม ชีวิตเพิ่มสิ่งใด...รู้ไหมดาว
เพิ่มชีวิตเข้มแข็งให้แกร่งกล้า ให้เชิดหน้าท้ามองถึงห้องหาว ยิ้มเยาะโลกโชคชตามานานยาว ซ่อนน้ำพราวท่วมทั่วรดหัวใจ
อรฉัตร ๑๘ ส.ค. ๑๒
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
07 มิถุนายน 2009, 10:54:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2009, 10:54:PM » |
ชุมชน
|
ความเจ็บปวดของวานนี้ที่ได้รับ
๏ ความเจ็บปวดของวานนี้ที่ได้รับ ความแตกดับของพรุ่งนี้ที่จะเห็น กับวันนี้ที่คล้ายตายเย็นเย็น เธอกลับเป็นเพื่อนผู้อยู่ใกล้ชิด
ความรู้สึกเท่าที่รู้ว่าอยู่ใกล้ แต่ก็เหมือนอยู่ไกลเพราะไร้สิทธิ์ และนับวันจะห่างเหินจนเกินคิด ความมืดมิดของความหวังกำลังรอ
รื่นทั้งรสสดทั้งสีมาลีเอ๋ย หอมระเหยแล้วก็หายเสียดายหนอ เก็บแผลใจไว้เพื่อจำซ้ำให้พอ เพราะแต่ต่อนี้ไปไม่มีแล้ว
เหลือแต่เพลงเสน่หาคืนฟ้าหนาว คืนที่ดาวเรียงริ้วเป็นทิวแถว ระยับราวพราวพรายประกายแพรว ลำนำแว่วว่าคืนนี้มาลีลอย
ใช่ดอกฟ้าแต่ถ้าเป็นเช่นดอกฟ้า วาสนาเราไม่ถึงจะพึงสอย มิใช่ดินแต่เหมือนดินถวิลคอย มาลีลอยเป็นมาลัยในอารมณ์
อยากฝากความคิดถึงซึ้งเสนาะ แทนแพรเพลาะของหัวใจให้เธอห่ม แต่ไร้ค่าเกินกั้นกันแดดลม ที่พร่างพรมล่องเลยรำเพยพา
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้อีกแผล เป็นรอยแพ้ที่ยับเยินเกินรักษา เลือดหยดหนึ่งจากหัวใจไหลผ่านตา มอบเป็นค่าใช้จ่ายให้กับรัก
โอ้ทั้งร้อนทั้งหนาวทั้งร้าวรวด ทั้งเจ็บปวดทั้งร้าวรานทั้งหาญหัก หวังเธอเหมือนเพื่อนซึ่งได้พึ่งพัก ทั้งสูงศักดิ์ทั้งสดใสในศรัทธา
ทิ้งอดีตอันมากมายไว้ข้างหลัง หวังความหวังหวังที่มีหวังกว่า ลอยชีวิตกลางทะเลของเวลา เสน่หาของความหวังพังทะลาย
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้คิดถึง กับหยดหนึ่งของน้ำค้างกลางเดือนฉาย วันเวลาบรรเลงเพลงความตาย เฮือกสุดท้ายลมหายใจใต้แสงจันทร์
มองตัวเองด้วยเข้าข้างอย่างหยิ่งหยิ่ง แท้ที่จริงชื่อเสียงเพียงความฝัน เมื่อทางเดินข้างหน้าคือผาชัน ทางแปรผันทางสุดท้ายทอดสายมา
ประสบการณ์ความรอบคอบความรอบรู้ พอเป็นผู้ประจักษ์แจ้งแห่งปัญหา เห็นเหตุการณ์ทั้งปวงด้วยดวงตา รู้คุณค่าลุล่วงด้วยดวงใจ
เมื่ออยู่ใกล้กลัวพลั้งพลาดหวาดผวา ครั้นแรมราพรึงพรั่นยิ่งหวั่นไหว โอ้ความรักคงเป็นเหมือนเช่นไฟ ใกล้หรือไกลก็ร้อนหนาวได้เท่ากัน
ราชพฤกษ์ชูช่อล้อลมผ่าน พลิ้วดอกบานย้อยระย้าหน้าคิมหันต์ ผ่านการบินด้วยปีกทองของคืนวัน ถึงวสันต์เหลือใบให้เราคิด ๚
สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
08 มิถุนายน 2009, 07:34:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2009, 07:34:AM » |
ชุมชน
|
จุดดับ
ฟ้าที่โค้งลงต่ำ-น้ำกับฟ้า อยากรู้ว่าสุดลงที่ตรงไหน หัวใจมันทะยานอยากจากหัวใจ ถึงความฝันซึ่งมันไม่เคยได้มี
ธารทะเลปริ่มน้ำเมื่อยามค่ำ ฟ้าสีดำหว่านฟ้ามาถึงนี่ แวมดาวหม่นภาพพิมพ์ริมนที เมื่อดนตรีชาวเรือมันเฝือนัก
ลมทะเลเห่คลื่นคืนวันก่อน พัดมาย้อนในกมลคนอกหัก คลื่นม้วนตัวห่มหัวใจให้หยุดพัก มันสำลัก, อดทนจนเจียนตาย
เรือลำนี้ แล่นผ่านธารชีวิต ทุกความคิดเร่งรุดสู่จุดหมาย สัมผัสน้ำ, สัมผัสฟ้า, ดาราราย แต่ก็คล้ายหลงทางหว่างน้ำวน
มันออกมาไกลมากไกลจากฝั่ง ทุกทุกครั้งอาศัยดาวสีขาวหม่น หัวใจที่หวาดฝันมันทุกข์ทน เมื่อหยาดฝนหนาวสะท้านคลี่ม่านมา
โอ้เรือเร่ เร่ไปถึงไหนหนอ ใจมันท้อ มันขลาด ความปรารถนา ฟ้าที่โค้งลงต่ำ-น้ำกับฟ้า ได้รู้ว่าจะไม่มีในชีวิต
แพรวพรรณ อุดมธนะธีระ
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
09 มิถุนายน 2009, 07:38:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2009, 07:38:AM » |
ชุมชน
|
ศรีตรัง
ศรีตรังได้โรยใบลงในป่า ขณะฟ้าสีขาบเริ่มอาบแสง เมื่อทุกอย่างได้เริ่มต้นจนเปลี่ยนแปลง วันป่าแล้งป่าจึงเหงาเฝ้าแต่รอ
สีสันป่าคือใบไม้หลายหลายสี ขณะที่คอยดอกไม้ให้ชูช่อ คอยใบเขียว ยอดอ่อนแตกซ้อนกอ ช่วยเติมต่อชีวิตใหม่ให้อีกครั้ง
วันอ้างว้างคว้างไหวใบไม้ร่วง ปลิดความห่วงโหยไห้ในหนหลัง ซบพื้นดินรอยระแหงที่แห้งกรัง เหมือนวาดหวังแล้วร่ำลาอย่างอาลัย
ศรีตรังเป็นต้นไม้ในป่าร้อน ธรรมชาติคือช่างอ้อนและอ่อนไหว เมื่อหนาวหน่อยก็ผลิดอกและออกใบ เปลี่ยนแปลงไปทั้งชอกช้ำก็จำยอม
ฉันเป็นต้นศรีตรังที่ยังอ่อน ถูกไฟร้อนเพราะอับจนคนถนอม สลัดใบทับถมฉันตรมตรอม ป่าแวดล้อมคือป่าดำไกลลำน้ำ
ใบเล็กเล็กบอบบางเกลื่อนทางแล้ว สัมผัสแผ่วสายลมรื้นมาชื่นฉ่ำ หอบความเย็นช่วงสุดท้ายชายป่าดำ กล่อมความช้ำให้สงบกับศพตน
อุบล เพชรหนู
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
09 มิถุนายน 2009, 09:02:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2009, 09:02:AM » |
ชุมชน
|
จากเจ้าพระยา...ถึงฝั่งโขง
ไม่มีภาษาใดที่ในโลก บรรยายโศกอกเราได้เศร้าเหมือน เท่าน้ำตาพร่าอาบซับภาพเลือน เก็บไว้เตือนใจว่า...แสนอาวรณ์
โอ้หวิวหวิวพริ้วแผ่วแล้วก็หาย ฟังคล้ายคลัายเสียงฟ้ามาหลอกหลอน ฟังคล้ายคล้ายเสียงลมพรมพริ้ววอน เป็นบทกลอนว่ารักอยู่ทุกครู่ยาม
" แม้อยู่ห่างต่างถิ่นแผ่นดินไหน ถ้าวันใดคิดถึงถิ่นแผ่นดินสยาม จงมองดาวพราวพร้อยลอยฟ้างาม เพราะทุกยามฝากใจไว้กับดาว "
ดังสำเนียงเสียงเพื่อนเตือนมาว่า ทุกเวลาห่วงหวงกับห้วงหาว คืนฟ้าหมองดาวอับแสงวับวาว แต่ยังพราวโชติช่วงในดวงใจ
คือสำเนียงเสียงสั่งถึงฝั่งโขง ผ่านรอบโค้งฟ้ากว้างสว่างไสว เคลียสายลมพรมอุ่นละมุนละไม เหมือนเสียงไห้เจ้าพระยา...พารัญจวน
โอ้หวิวหวิวพริ้วแผ่วแล้วก็หาย น้ำตาพรายพร่าหลั่งยังไห้หวน อยู่แผ่นดินถิ่นใดดวงใจครวญ ไหลย้อนทวนความเศร้าเจ้าพระยา
สนธิกาญจน์ กาญจนนาสน์ ๒๕๑๐
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
11 มิถุนายน 2009, 09:19:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2009, 09:19:AM » |
ชุมชน
|
คิดถึง “พริ้ง พระอภัย” ใจรวยริน
โอ้ “ขุนไพร” ท่องไพร ไปไกลลิบ ณ โลกทิพย์ ภิญโญ สโมสร คิดถึง “พริ้ง พระอภัย” ใจรอนรอน ร้องขับกลอน ณ สถาน พิมานใด “ภิญโญ ศรีจำลอง” ครองชีวิต เยี่ยงนักคิด ยอดครู ผู้ยิ่งใหญ่ ตามรอยกลอน สุนทรภู่ ครูกลอนไทย ทั้งหัวใจ ชีวิต จิตวิญาณ นักเลงกลอน ไม่นอนเปล่า ให้เหงาจิต ร้อยลิขิต งานกลอน อักษรสาร เล่นกลอนสด สร้างสรรค์ ทันเหตุการณ์ ปฏิภาณ หาใครเปรียบ ได้เทียบทัน กวีวัจน์ รัตนโกสินทร์ ไม่สิ้นแล้ว ยังผ่องแผ้ว เพชรน้ำเอก ที่เสกสรรค์ ชนยินยล ผลงาน การประพันธ์ อยู่คู่ขวัญ วรรณศิลป์ แผ่นดินไทย ปี่กาหลอ คลอเสียง สำเนียงโศก วิปโยค ลานสกา น้ำตาไหล เพลงตะลุง บรรเลงลา สุดอาลัย คิดถึง “พริ้ง พระอภัย” ใจรวยริน นาม "ภิญโญ ศรีจำลอง" ยังก้องไทย เสียงหนัง "พริ้ง พระอภัย" ไม่เคยสิ้น ยอดนักกลอน "ปฏิภาณกวี" ศรีแผ่นดิน สร้างสวรรค์ วรรณศิลป์ งามภิญโญ...
ด้วยรักและอาลัย อภิชาติ ดำดี ๐๙-๑๐-๕๒
จาก http://www.oknation.net/blog/damdee/2009/06/09/entry-1
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
11 มิถุนายน 2009, 12:48:PM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2009, 12:48:PM » |
ชุมชน
|
แด่อดีต
๏ " เดือนค้างฟ้าลาลับดับดวงแล้ว เสียงไก่แก้วขันขานกังวานใส นิทราเถิดจอมขวัญจักหวั่นไย พี่อยู่ใกล้แนบกมล...แล้วคนดี
หยุดสะอื้นกลืนกล้ำความช้ำเถิด อย่าเตลิดขวัญล่องให้หมองศรี กลางลมหนาวเจ้าพระยาค่อนราตรี "ประเพณี" เกินพรากเราจากกัน
ไม่มีแม้ฐานะ , ตระกูล , ชาติ สุดอำนาจเงินตรามาขีดคั่น มีแต่ความรักแท้แน่นิรันดร์ ตราบตะวันจะยัง...มิรังรอง
นิทราเถิดขวัญหทัยในอ้อมรัก ขอจงหักใจห้ามความหม่นหมอง หลับในอ้อมกอดพี่ที่ตระกอง ก่อนเราต้องจากกัน...จวบวันตาย
"เจ้าพระยา" หลับแล้วแก้วใจเอ๋ย ดาวก็เลยลาล่วงดับดวงหาย หนาวลมหนาวโชยผ่านสะท้านกาย หลับเนตรพรายให้สนิทสู่นิทรา
อ้อมกอดพี่จักให้ไออบอุ่น ก่อนอรุณรุ่งแรงแสงอุษา คืนแห่งการจากกันขวัญชีวา ขอพี่จารึกไว้ในกมล "
เดือนค้างฟ้าลาลับ...ดับดวงแล้ว ลมหนาวแผ่วเยียบเย็นทุกเส้นขน ภวังค์ตื่นคืนสำนึกรู้สึกตน หัวใจท้นชอกช้ำเกินคร่ำครวญ
นับตั้งแต่วันนั้น...ถึงวันนี้ วัน , เดือน , ปีผ่านไปนับไม่ถ้วน เจ้าพระยาเปลี่ยนกระแสหลากแปรปรวน ลมหนาวหวน...แล้วห่างร้างนิวรณ์
แต่...ดวงใจดวงนี้มีเพียงหนึ่ง รักสิตรึงตราอยู่ยากรู้ถอน ต่อให้สิ้นกัปกัสป์พุทธันดร ก็สุดรอนรักล่วงพ้นห้วงจินต์
เธอจะอยู่แห่งไหน...ในผืนหล้า รู้เถิดว่าพี่ครวญหวนถวิล ไม่สิ้นแรงร่างล้มลงถมดิน พี่ไม่สิ้นคำนึง...คิดถึงเธอ
สุรพล สุมนนัฏ
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
12 มิถุนายน 2009, 07:13:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2009, 07:13:AM » |
ชุมชน
|
อาลัย สุรศักดิ์ ศรีประพันธ
ถ้าฉันจักทำงานปานข้าทาส เพื่อเอื้อมอาจแลกคืนเธอฟื้นได้ ถ้าความทุกข์เหลือล้ำกล้ำกลืนไว้ จักกลับไปเป็นปราณสรรค์ชีวี
โอ้คำ "ถ้า" คำเดียวโกรธเกรี้ยวนัก มันห้ามหักความหวังพังทุกที่ ฉันเขียนกลอนอีกครั้งอย่างวันนี้ ทั้งทั้งที่ตั้งใจ ไม่เขียนแล้ว
เธอเป็นชายชาตรีมีความคิด วัยชีวิตความหวังอย่างแน่แน่ว หาง่ายหรือ คนดีที่มีแวว? เธอคือแก้วกลางกรวดอวดเต็มดวง
วรรณกวีเธอวาวราวเลื่อมรุ้ง โผนและพุ่งจินต์เจนเด่นกลางสรวง หวานลึกซึ้งเจ็บช้ำถ้อยคำปวง หลอกหรือลวงหยันหยามความอาภัพ
ภูเอ๋ยภูกระดึงซึ่งแสนร้าย เธอไปตายแทนฉันวันใกล้กลับ ร่างเธอถูกท่วมถมจมหายลับ ใจฉันยับย่อยเยินกับเนินดิน
แสนเสียดายหมายหวังจะตั้งแต่ง เป็นหัวแรงผลักฝันวรรณศิลป์ เติมน้ำรักอักษราหล่อฟ้าดิน มาสุดสิ้นแสนเศร้าชาวชมพู
จงพักผ่อนเถิดหนา บนฟ้ากว้าง เนาท่ามกลางวิมานเมฆเสกสวยหรู หอมกุหลาบกลีบม่วงโปรยร่วงพรู กานท์กล่อมอยู่สุขสวรรค์บรรณภพ
ความอาลัยความรักจากพี่เพื่อน จะเป็นเหมือนใยอณูมิรู้จบ สุรศักดิ์.......วันหนึ่งซึ่งชีพลบ เราจะพบกันแน่........แค่วิญญาณ
"สุมนอมร" ที่ปรึกษาชมรมวรรณศิลป์ ส.จ.ม. ๒๕๑๓
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
12 มิถุนายน 2009, 07:15:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2009, 07:15:AM » |
ชุมชน
|
ฉากรักในอารมณ์
ในโลกกว้างคว้างไกลไร้ขอบเขต อยากหลับเนตรนอนหนุนละมุนหมอน อิงอ้อมทรวงทวงถามความอาทร ในอ้อมกรกานดาผู้ยาใจ
ฟังเพลงแว่วแผ่วหวานจากม่านฟ้า รินน้ำตาตื้นตันฉันร้องไห้ ปิดฉากชั่วตัวเองแต่เพรงวัย เริ่มฉากใหม่ในม่านวิมานรัก
ใจเคยคว้างห่างหวังจนชังโลก ดื่มความโศกเสียจนท้นกระอัก เมื่อพบอ้อมอาทรให้ซ่อนพักตร์ อยากพำนักอย่างนี้จนนิรันดร์
ในเรียวกรอ่อนนุ่มโอบจุมพิต เปลือกตาปิดปล่อยใจให้ดื่มฝัน ลืมทุกข์โศกโลกหล้าใต้ตาวัน จูงมือกันก้าวตามความรังรอง
จะชี้ชวนชมนวลรุ้งริมคุ้งฟ้า วักธาราไล้ร่างอย่างลืมหมอง ดื่มน้ำค้างพร่างคืนชื้นละออง อาบแสงส่องของโสมโลมลานใจ
ในโลกกว้างคว้างไกลไร้ขอบเขต เราคอยเศษสงสารเขาทานให้ คอยคนรักทักท้วงไว้ห่วงใย ซึ่งคงไม่อาจมีชั่วชีวิต
สุรศักดิ์ ศรีประพันธ์
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
12 มิถุนายน 2009, 07:21:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2009, 07:21:AM » |
ชุมชน
|
จากจามจุรีถึงยูงทอง
ฉันมาเยือนเขื่อนขวัญค่ำวันนี้ เหมือนกับที่เคยมาเมื่อคราก่อน ฟังเสียงคลื่นรื่นเร้าอันเว้าวอน กับแดดอ่อนจะอำลาจากฟ้าคราม
เราทรุดร่างนั่งลงตรงลานหญ้า มองเฟื่องฟ้าฟ้อนใบอย่างไหวหวาม ทุกทุกสิ่งใสสดและงดงาม อยู่กลางท่ามความฝันฉันและเธอ
ฉันยกกรอ่อนนุ่มเธอกุมไว้ ซาบซึ้งในเสน่หาน้ำตาเอ่อ ต่างเงียบงันกันเหมือนเลือนละเมอ ปากเผยอแล้วก็ปิดสนิทนาน
จนดาวเริ่มเรียงรายที่ชายฟ้า ขับทิวาอีกวันให้ผันผ่าน เราจึงฟื้นตื่นฝันอันตระการ อำลาลานจำปีที่ริมน้ำ
ทิ้งแม่โดมเด่นงามในความหลัง ว่าจะยังรอเพื่อนมาเยือนย่ำ ณ สวนขวัญริมเขื่อนเตือนใจจำ ก่อนม่านดำดาดฟ้าลงมาครอง
ฉันมาเยือนเขื่อนขวัญค่ำวันนี้ ด้วยหัวใจจามจุรีที่ไหม้หมอง ฝากความรักสุดสูงแด่ยูงทอง และเรียกร้องหัวใจเธอไปนาน
สุรศักดิ์ ศรีประพันธ์ โดย: จอมยุทธเมรัย 19 ตุลาคม 2550 17:32:34 น
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
12 มิถุนายน 2009, 07:24:AM |
สายใย
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2,700
ช่างเขาเฮอะ
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2009, 07:24:AM » |
ชุมชน
|
เรือเร่
ในคืนมืดยืดยาวราวโลกดับ ทั่วหล้าหลับลงซบสงบเหงา แสงดาวเลือนเดือนลางกลางฟ้าเทา ลมเบาเบาโบกไล้ทิวไม้เอน
รอวันใหม่ลอยมากับฟ้ารุ่ง คอยวันพรุ่งพรายรวีเจิมสีเสน เริ่มชีวิตกิจความตามกฎเกณฑ์ ก่อนสุเมรุหมื่นโยชน์ดับโชติดวง
เหมือนเรานำลำเรือหางเสือขาด ถูกน้ำสาดซัดเร่ทะเลหลวง ลู่ใบพับกับเสาอย่างเศร้าทรวง นี่จะล่วงลอยคว้างไปทางใด
ไร้เข็มทิศลายแทงแสงเดือนส่อง แม้แสงทองของเทียนหรี่เจียนไหม้ แม้แสงดาวเหนือนำเพียงรำไร คงเร่ไปให้รับความอัปปาง
ฝ่าม่านดำค่ำคืนและคลื่นโหด รอวันโรจน์รุ่งรวีที่ฟ้าสาง พบท่าจอดทอดสมอรอกึ่งทาง ก่อนจะกางกู้ใบใหม่อีกที
ในคืนมืดยืดยาวราวโลกดับ เห็นน้ำกับฟ้ากว้างทุกทางที่ เราเหมือนเรือไร้ท่าคนปรานี รอใบคลี่คลุมทบเหนือศพเรา
ผลงานของ สุรศักดิ์ ศรีประพันธ์ จาก : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jomyutmerai โดย: จอมยุทธเมรัย 19 ตุลาคม 2550 17:32:34 น
|
หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)
|
|
|
|