ความรักงดงามฤๅหนามพิษ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 พฤศจิกายน 2024, 11:59:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรักงดงามฤๅหนามพิษ  (อ่าน 5297 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
29 พฤศจิกายน 2008, 09:52:PM
ช่ออักษราลี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 129



« เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2008, 09:52:PM »
ชุมชนชุมชน



กล่อมขวัญม่านราตรี


๏ พลิ้วลำนำเพลงรักหวานข้ามผ่านฟ้า
ขับเสภารัตติกาลบรรสานฝัน
ราวเห่กล่อมภพช่วงจากจวงจันทร์
ล้อมดวงขวัญแนบสนิททุกนิทรา

๏ หลับตาเถิดคนดีนะที่รัก
จะทอถักเรียงร้อยสร้อยบุปผา
มาเคียงข้างบรรจถรณ์ผ่อนอุรา
ปลอบวิญญาณ์อย่าหวั่นจงฝันดี

๏ ณ คืนนี้จักถนอมกล่อมเคียงข้าง
จนรุ่งสางทิวาวารผ่านดิถี
ทุกทุกคำที่ร้อยสร้อยวจี
จากใจที่ประจักษ์รักทั้งปวง

๏ เจ้าเดือนดาวพราวฟ้าราตรีนี้
ฤๅจักที่ทอแสงมาแต่งสรวง
ขอเพียงนวลปลายหาวจากดาวดวง
มาแต้มทรวงหวามไหวในพี่ยา

๏ อันความรักฉ่ำหวานปานหยาดผึ้ง
งดงามตรึงหนึ่งทรวงให้ห่วงหา
ส่งใจไปพร่ำพลอดตลอดเวลา
น้อมกายมาเคียงร่างมิสร่างรอย

๏ หอมประทิ่นกลิ่นดอกแก้วยังหอมกรุ่น
หวานละมุนละไมในทุกถ้อย
ขลุ่ยเพียงออพลิ้วเพรียกขานผ่านฝนปรอย
ร่วมเพลงร้อยประทับขวัญม่านราตรี

<a href="http://media.imeem.com/m/SuU4874fjh/aus=false/" target="_blank">http://media.imeem.com/m/SuU4874fjh/aus=false/</a>




ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

29 พฤศจิกายน 2008, 10:37:PM
อัลิปรียา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 119


By myself


« ตอบ #1 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2008, 10:37:PM »
ชุมชนชุมชน

   อุ่นดวงมาสสาดแสงแซงหิ่งห้อย            ครารวีลี้ลอยคล้อยหล่นหาย
ภาสกรเมื่อยามพลบก็พลัดพราย                ดารารายเด่นเลิศหล้าในราตรี
งามละมุนเจ้าจันทราศศิแสง                     ที่แผดแผลงแรงกล้าเพลานี้
เมื่อแสงต้องผ่องพักตร์นวลนารี                 เจ้าโฉมศรีดั่งนางอัปสรา
รัตติกาลวานนี้ใจพี่หนาว                           ในอกร้าวคราวคิดจิตหวนหา
วันนี้พี่จะกอดยอดกัลยา                             ให้คลายคลาจากหนาวร้าวทรวงใน

   คำพี่ยาว่าหนาวร้าวใจนัก                        อันน้องรักจะจุดโคมตั่งโสมใส
ทั้งแสงสีที่เทียนเวียนวาบใจ                      จักช่วยให้พี่อุ่นในดวงมาน
พ่อดอกรักอย่าเล่นเล่ห์ลวนลามน้อง             แม้นพี่ปองหวั่นจะช้ำเพราะคำหวาน
ก็เชื่อพี่เรื่อยมาแต่ช้านาน                            มธุรสพจน์ผลาญพระอุรา

   ผลาญเอยเจ้าก็ผลาญหัวใจพี่                    พอพบน้องนารีสิเนหา
ถึงคืนนี้มีลมหนาวกราวกรายมา                  พี่จะกอดกัลยาให้อุ่นใจ
จงสดับเสียงพี่นี้จะกล่อม                            ให้รักล้อมเราสองประคองไว้
พี่ใคร่อยู่แนบชิดสนิทใจ                             ตลอดไปจวบจันทร์จะจากจาง
อุปมาแม้นพี่นี้คือนภ                                   ขอประสบพบน้องมิต้องห่าง
เมื่อยามเห็นโสมส่องต้องเนื้อนาง                พี่อยากวางนางไว้ให้เป็นจันทร์
ถึงเจ้าจักเป็นเช่นบุปผา                               พี่จะเป็นภุมราเชยชื่นขวัญ
ถึงเจ้าเป็นเช่นแก้วแววสุวรรณ                    จะเป็นเรือนแหวนพันรัตนา
แม้นเจ้าเป็นเช่นดอกประการัง                     พี่ก็หวังไม่เว้นเป็นมัจฉา
แต่คืนนี้พี่จะขอโอบจันทรา                          เป็นนภาของเจ้าแม่แจ่มจันทร์
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นทีถึงท่วมท้น ทับถม ฝังร่างจนจ่อมจม อยู่ใต้ สาครมิอาจข่ม ใจหนึ่ง นี้นา จักแหวกสายชลไซร้ ว่ายสู้สู่ดิน
03 ธันวาคม 2008, 08:24:PM
ช่ออักษราลี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 129



« ตอบ #2 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2008, 08:24:PM »
ชุมชนชุมชน





๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
พลิ้วระนาดขาวฟ่องล่องกระสินธุ์
เคลื่อนลีลาอรรณพหยั่งซบดิน
แล้วเลยรินไหลล่วงห้วงนที

๏ ให้ทะเลเห่ขวัญไร้หรรษา
พิศธาราแลเหลียวเปลี่ยวอิตถี
เพียงเดียวดายฝ่าดื่นคลื่นชีวี
ดวงฤดีเวียนว่ายสายสาคร

๏ เจียนจะจมดวงแดกระแสสินธุ์
จึ่งรับรินน้ำใจจากไม้ขอน
เอื้อมโอบรัดหัตถาแห่งอาทร
ใจรอนรอนแทบภินท์ก็สิ้นพลัน

๏ ด้วยฤทัยเราสองตระกองอยู่
จักครองคู่เคียงชลร่วมยลฝัน
มหรรณพจรดฟ้าอันลาวัณย์
ประคองกันแหวกว่ายสายชีวา

๏ เพียงลมไหววาดวีคลื่นลีลาศ
ดารดาษซบหว่างกลางมหา
คลื่นชีวิตลิขิตวิถีแห่งลีลา
หทัยสองร่วมแรงฝ่ากล้าผจญ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 ธันวาคม 2008, 11:06:AM
อัลิปรียา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 119


By myself


« ตอบ #3 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2008, 11:06:AM »
ชุมชนชุมชน

   มองเภตราล่องธาราอยู่หลังสินธุ์              โศกถวิลพิศแผ่นสมุทรสาย
ที่กาบเรือน้ำค้างอยู่พร่างพราย                    ดั่งล้อมรายด้วยเพชรเกล็ดมณี
ที่ใบเรือระเรื่อแสงแผลงสะท้อน                 จากแดดอ่อนพระพายพลิ้วแทบปลิวหนี
ลองแลแล้วแว่ววิเวกในฤดี                           ให้หวนหาราตรีที่ผ่านไป
ชายเอยเคยชิดสนิทชื่น                                แปรเป็นอื่นแล้วหรือเหตุไฉน
จึงลาจึงร้างออกห่างไกล                             หญิงรอดวงใจไม่เห็นเงา
ชายเอยเคยดีกับตัวข้า                                 เหตุอันใดไหนหนาทิ้งข้าเหงา
จึงจากไกลทิ้งเล่ห์ลวงตาเรา                        ให้ข้าเศร้าเฝ้าราทุกเพลา
ชายเอยเผยใจเสียวันนี้                                แม้นไม่มีจิตใจให้ตัวข้า
ก็ขอให้เพียงแค่เมตตา                                ให้เห็นเป็นเพื่อนฝ่าซึ่งทุกข์ภัย
วันใดเจ็บมาข้าจะรอ                                   เพียรขอเป็นใบเรือโบกไสว
ประคองเภตราฝ่าลมไป                             มิหวังใจครองคู่อยู่เคียงเรือฯ
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นทีถึงท่วมท้น ทับถม ฝังร่างจนจ่อมจม อยู่ใต้ สาครมิอาจข่ม ใจหนึ่ง นี้นา จักแหวกสายชลไซร้ ว่ายสู้สู่ดิน
05 ธันวาคม 2008, 07:16:PM
piangfan
LV6 เทพบุตรกลอนประจำอำเภอ
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 99



« ตอบ #4 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2008, 07:16:PM »
ชุมชนชุมชน

ฝากสายลมพรมพร่างมิต่างจาก
ฝากความรักพร่างพรมห่มไปถึง
ฝากอาทรห่วงใยใจคนึง
ฝากคิดถึงคนใกลห่วงใยกัน



สวัสดีทุกๆท่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ธันวาคม 2008, 08:03:PM
ช่ออักษราลี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 129



« ตอบ #5 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2008, 08:03:PM »
ชุมชนชุมชน




ดินแดนในฝันของสองเรา


๑. ดาวประดับสวรรค์แซมจันทร์เสี้ยว
อยากชวนเธอไปเที่ยวเกาะเกี่ยวแขน
ยังสวนขวัญดุสิตาฟ้าเมืองแมน
คือดินแดนในฝันอนันตกาล

๒. ลาจากมวลมนุษย์สุดวิโยค
อุปโลกน์ล้วนอัตตามาพร่าผลาญ
จึ่งเหลือเพียงร้อนแล้งแห่งวิญญาณ
อาบสายธารโศกศัลย์พรั่นฤดี

๓. จูงมือกันข้ามผ่านสะพานรุ้ง
เพียงหมายมุ่งค่าขวัญวิเศษศรี
คือฝั่งฝันสีทันดรอันไมตรี
จักหลบลี้มวลโศกโลกสมมุติ

๔.  ระเริงเล่นอาโปอโนดาต
เชิงไกรลาสหิมวาอ่าพิสุทธิ์
มวลกินรีเพลินภิรมย์ชมกระมุท
 มิสิ้นสุดมัสยาว่ายวาริน

๕. งามคีรีสีเงินเนินไศล
พญาครุฑบินไกลไม่ทิ้งถิ่น
หอมภูฝันคันธมาทน์ดาษแดนดิน
ไม้นานาหอมมิสิ้นสุราลัย

๖. แล้วเด็ดดวงสร้อยฟ้าปาริชาต
ดารดาษแคว้นไกวัลสวรรค์ไสว
ร้อยเป็นช่อมิ่งรักจำหลักใจ
แทนคำมั่นฝากไว้อย่าเลือนลา








ภาพฝีมือ อ.จักรพันธุ์



ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

31 ธันวาคม 2008, 11:44:PM
อัลิปรียา
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 66
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 119


By myself


« ตอบ #6 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2008, 11:44:PM »
ชุมชนชุมชน

   ใต้นิทราราตรีที่ห่มภพ                ดั่งสยบสิ้นซึ่งความเคลื่อนไหว
ทุกชีวันฝันเพ้อละเมอไกล                ด้วยหมายใจในโลกจินตนา
อันอ่อนหวานวารนี้มิมีดับ                งามระยับดวงแก้วแพร้วเพริศค่า
มีพิณเพลงคนธรรพ์พลันร่ายมา       ติดตรึงตราตอกย้ำให้จำนาน
มีปีกปักษ์โบกโบยสีเศวต                  ยิ่งสังเกตชวนหลงพะวงหวาน
กินรีพริ้มเพราเยาวมาลย์                 สะบัดปีกพาดผ่านม่านนภา
สุพรรณหงส์วงศ์ทองละอองร่าง     สุดสำอางมิแพ้พันธุ์ปักษา
นรสิงห์ลิงค่างละลานตา                 พนิดานางไม้วนารี
เทพารักษ์พิทักษ์ป่าพนาดร              ทั้งสิงขรขุนเขาที่แห่งนี้
ดวงดอกไม้บุษบานานามี                 สารภียี่สุ่นละมุนอาย
ดาวเรืองเฟื่องฟูดั่งดาราดาษ           งามประหลาดกลิ่นไอไม่เหือดหาย
ดั่งดอกฟ้าสุราลัยได้กลับกลาย          หม่นมลายจึงร่วงลงสู่ดิน
ทั้งครุฑานาคีที่ปรปักษ์                    นางอัปสรวายุภักษ์แลปักษิน
กุสุมาลย์ดารดาษล่มภุมริน               อรพินนลินีที่โสภา

   ฟื้นฝันสิพลันเศร้า         มนเจ้าสิโศกา
ฝันดั่งประโลมตา             ผิวลวงก็ปวดใจ
ความงาม ณ ราตรี           ศุภศรีมณีใส
ลวงเนตร ฤ ลวงนัยน์        จิตได้ถวิลหา
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

นทีถึงท่วมท้น ทับถม ฝังร่างจนจ่อมจม อยู่ใต้ สาครมิอาจข่ม ใจหนึ่ง นี้นา จักแหวกสายชลไซร้ ว่ายสู้สู่ดิน
01 มกราคม 2009, 06:08:AM
ช่ออักษราลี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 129



« ตอบ #7 เมื่อ: 01 มกราคม 2009, 06:08:AM »
ชุมชนชุมชน

เก่งมากมายเลยค่ะ น้องบุษบงกช
บันทึกการเข้า

21 มกราคม 2009, 06:28:PM
ช่ออักษราลี
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 76
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 129



« ตอบ #8 เมื่อ: 21 มกราคม 2009, 06:28:PM »
ชุมชนชุมชน






ราตรีที่ฟ้าพร่างดาว..........
แสงเรืองวาวพยับจับเวหน
ดั่งเทพอัปสรร่ายฟ้อนมนตร์
พาดใจคนแหล่งหล้าสู่ฟ้าไกล



ความรักและคิดถึง..........
ดั่งมนตราสีน้ำผึ้งโศกซึ้งไหว
แผ่ ขม,หวาน,ซ่านถึงหนึ่งฤทัย
ล่วงหลับใหลในพิษกฤตยา



ความรักคืองดงาม..........
ฤๅไฟลามลุกไหม้ในสิเน่หา
ฤๅหยาดค้างหยาดมาว้างกลางอุรา
ฤๅนำพาหนามพิษลิดฤดี



ทุกมวลอณูแห่งรัก..........
ล้วนจำหลักพาดลงแล้วตรงนี้
ทุกรอยซอกแผลใจในชีวี
น้อมรับอย่างยินดีจักกี่รอย



ด้วยฤทธิ์แห่งคิดถึง..........
ล้วนโศกซึ้งอุราพาละห้อย
หวง,ห่วง,หา,ทุกนาทีที่เฝ้าคอย
รอเคียงรอยเคียงขวัญทุกวันไป



ราตรีที่ฟ้าพร่างดาว..........
ประกายวาวเด่นสรวงดวงไสว
แพรพิลาสเฉกห่มพรมอำไพ
ห้วงหัวใจฝากถึงเพียงหนึ่งเดียว




ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s