เกิดแต่ตมคมคำช่างล้ำเลิศ
ก่อกำเนิดใต้น้ำในโคลนขุ่น
ค่อยค่อยโผล่ผลิดอกออกละมุน
น้ำนำหนุนชะล้างสะอางองค์
อยู่ใต้น้ำตูมเต่งดังเร่งเร้า
อยากลาเหง้าใต้ตมสมน้ำส่ง
ทะยานปริ่มริมน้ำอย่างบรรจง
เป็นบุษบงก์เบ่งบานน่านวารี
กมุทเอย
เจ้าเฉลยบทบาทแห่งวิถี
เปรียบดังชนพ้นผ่านธารชีวี
จากไม่มีเป็นมีได้ด้วยปัญญา
ชนโง่งมสมอุบลใต้โคลนขุ่น
ไร้แนวธรรมค้ำจุนชุ่มตัณหา
กว่าผุดโผล่พ้นผ่านม่านกามา
อวิชชาเป็นเครื่องนำสู่ธรรมธาร
ธารแห่งบุญ
ช่วยนำหนุนพ้นบ่วงห้วงละหาน
เปรียบอุบลพ้นน้ำงามสราญ
ผลิดอกบานชูช่อรออรุณ
ธรรมรักษา
ก่อให้เกิดปัญญามานำหนุน
ให้พ้นจากบ่วงกรรมแลค้ำจุน
หลุดจากโคลนข้นขุ่นกรุ่นทรวงใน
สะอาดนัก
เมื่อพ้นปลักโคลนตมถั่งโถมใส่
เปรียบอุบลพ้นธารสราญใจ
เมื่อชนใดพ้นผ่านอวิชชา
เกิดแต่ตมคมค้ำที่ล้ำเลิศ
สุดประเสริฐด้วยธรรมปริศนา
ดอกกมุทผุดจากโคลนด้วยธารา
มนุสสาเกิดปัญญาด้วยพระธรรม.
เจ้านางขออนุญาต นำกลอนคุณ แสงจันทร์ มาชื่นชม พี่กชนันท์ หน่อยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
(นางขออนุญาต ไม่ตอบที่พี่ กชนันท์ ถามเรื่องพี่แจ๊คนะคะ) เดี๋ยวโดนพี่เขาเขกกะโหลกค่ะ...อิอิ