ฉันพึ่งเดินทางผ่านมาทางนี้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 พฤศจิกายน 2024, 07:53:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฉันพึ่งเดินทางผ่านมาทางนี้  (อ่าน 87671 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 กันยายน 2008, 08:04:PM
คุuชๅe uๅeกะa่ou
Special Class
Limit Option

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 48
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 399


รักทุกคนนะครับชุมชนคนบ้ากลอน


« ตอบ #20 เมื่อ: 12 กันยายน 2008, 08:04:PM »
ชุมชนชุมชน

จะจีบกันจีบไปไม่ได้ว่า
ขอแค่อย่าทะเลาะกันเข้าใจไหม
คุณทั้งสองจงรักกันตราบชีวาย
มิเคืองคายเพระผมคนกะล่อน

 ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า
 ยิ้มกวน ล่อกๆ

ล้อเล่นน้าคริคริๆๆๆ[/color]
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

sAndAn Club
12 กันยายน 2008, 08:37:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #21 เมื่อ: 12 กันยายน 2008, 08:37:PM »
ชุมชนชุมชน

โลกใบเก่า....มันช่าง.....จะเหน็บหนาว
เป็นเหมือนราว....โดนหิมะ....มาถล่ม
โลกใบใหม่....มันก็ยัง....จะระทม
จมอยู่ใน...ห้วงหา...ที่ร้อนใจ

ฉันพึ่งรู้....เมื่อได้เดิน...มาทางนี้
รู้ว่าที่....ทำไป....มันไรค่า
เขารักเธอ....เธอรักเขา.....ตามใจกัน
แต่น้ำตา...ยังไหล....เพราะเศร้าใจ

เรามันคน....รักเธฮ....เพียงหนึ่งข้าง
ไม่อาจคว้า.....เธอได้....เพราะมีเขา
เธอไปดี....ฉันก็ดี....สุขด้วยกัน
แต่ที่มัน....เสียใจ....คือเสียเธอ

-------------------------------------------------------




น้องพี่กล่าวอย่างนี้ ราวเสียใจ
มีเรื่องอื่นอันใด ให้บอกกล่าว
ใครหรือใครช่างทำร้ายเอา
ทำให้น้องพี่เหงาเศร้าเสียน้ำตา

บอกพี่ได้ไหมคนดี
ใครหรือทำอย่างนี้ ช่างกล้า
พี่จะจับมัดมือ เตะอัดต่อตา
ให้น้องพี่ รู้ว่า พี่จริงใจ

หากน้องพี่รู้สึกโกรธ
พี่ขอไม่โทษเขาได้ไหม
จะโทษตัวพี่เอง มาช้าไป
ปล่อยให้เขา ทำร้าย ได้อย่างนี้

เอาล่ะ อย่าเศร้าไป
ข้างๆน้องเห็นไหม คือตัวพี่
จะปลุกปลอบขวัญให้ หยุดร้องที
เอาหน่ะ พอเท่านี้ ยิ้มเถอะนะ



เรื่องมันผ่านไปนานแล้วล่ะหนา
แต่ก็ยังขุดขึ้นมาให้รู้เห็น
ยังคงเศร้าเสียใจทุกข์ใจเป็น
แต่ที่เห็นเขาใจร้ายเกินยาใจ

ตั้งแต่นี้คิดว่าทำใจได้
แต่สลายไปหมดไม่รู้เห็น
ยังรักเขาต้องทุกข์สุขใจเย็น
ตายทั้งเป็นยังยิ้มได้เพราะพี่เอย

--------------------------------------------------------

เพียงน้องนิดแห่งถ้อยคำ สำนวนกล่าว
บอกเรื่องราว ในอดีต ที่พิศเห็น
น้องพี่ โปรดจง ใจเย็นเย็น
นั่งตรึกค้น ให้เห็น ความเป็นจริง

เขาไปแล้วก็คือไป ได้ดีแล้ว
ส่วนตัวเรา ยังรอแวว ไม่หยุดนิ่ง
น้องจะทุกข์ใจกว่า ถ้าหยุดติง
จงอย่าอยู่นิ่ง เพียงสิ่งผ่านไป

เดินต่อไปสิน้องรัก
หนทางยังยามนัก เริ่มต้นไหม่
พี่คนนี้จะเดินเคียงเจ้าไป
เผื่อวันหนึ่ง จะสดใส ในสักวัน

                 สู้สู้น้องพี่
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
12 กันยายน 2008, 08:40:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #22 เมื่อ: 12 กันยายน 2008, 08:40:PM »
ชุมชนชุมชน

จะจีบกันจีบไปไม่ได้ว่า
ขอแค่อย่าทะเลาะกันเข้าใจไหม
คุณทั้งสองจงรักกันตราบชีวาย
มิเคืองคายเพระผมคนกะล่อน

 ไอ้บ้า ไอ้บ้า ไอ้บ้า
 ยิ้มกวน ล่อกๆ

ล้อเล่นน้าคริคริๆๆๆ[/color]


จีบอะไร เราสอง พี่น้องหนา
ล้อเล่นบ้า อะไร ว่ารู้ไหม
พูดให้ดู บ้างซิ ทำเล่นไป
อย่างนี้ไง ล้อเล่น เช่นเดียวกัน

+++++++++++++++++++++++++++++

 ขำแบบกระแดะหน่อยๆ ขำขี้แตกขี้แตน ไอ้บ้า งอนแล้วด้วย

ใช่แล้วน้องพี่...
เราสองคน เท่านี้ อย่าคิดมาก
เพียงเพื่อนร่วมทาง ดังเอ่ยปาก
น้องพี่อย่าคิดมาก ช่างปากเขา

อันนี้ก็ล้อเล่นเช่นเดียวกัน  เย้าเล่นเพียงเท่านั้น เบาเบา...
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
15 กันยายน 2008, 05:01:PM
ดอกหญ้า
Special Class
Limit Option

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 67



« ตอบ #23 เมื่อ: 15 กันยายน 2008, 05:01:PM »
ชุมชนชุมชน

แค่คนผ่านทางจึงแวะมา
ร่วมวงสนนทนาด้วยได้ใหม
ขอแค่พักชั่วคราวจะจากไป
ให้ร่วมวงด้วยหรือไม่..ขอถามเธอ

แค่คนผ่านทางมาแค่นั้น
ไม่หวังมาร่วมทางฝัน..ไม่กล้าเสนอ
เพียงแค่วันนี้ได้ทักทายคุยกะเธอ
แค่นี้ก้ออุ่นเสมอ..ในหัวใจ

 ยิ้มแบบรักนะ.. ยิ้มแบบรักนะ.. ยิ้มแบบรักนะ..
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กันยายน 2008, 10:06:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #24 เมื่อ: 15 กันยายน 2008, 10:06:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

16 กันยายน 2008, 05:32:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #25 เมื่อ: 16 กันยายน 2008, 05:32:PM »
ชุมชนชุมชน

แค่คนผ่านทางจึงแวะมา
ร่วมวงสนนทนาด้วยได้ใหม
ขอแค่พักชั่วคราวจะจากไป
ให้ร่วมวงด้วยหรือไม่..ขอถามเธอ

แค่คนผ่านทางมาแค่นั้น
ไม่หวังมาร่วมทางฝัน..ไม่กล้าเสนอ
เพียงแค่วันนี้ได้ทักทายคุยกะเธอ
แค่นี้ก้ออุ่นเสมอ..ในหัวใจ

 ยิ้มแบบรักนะ.. ยิ้มแบบรักนะ.. ยิ้มแบบรักนะ..


หากเธอผ่านมาทางนี้
ทางที่มีนักเดินทาง  ย่างสู่ฝัน
ยิ้มรับทักทาย ในสัมพันธ์
เรามาพบเจอกัน ฉันดีใจ

แม้ไม่สนิทมักคุ้น อุ่นอก
อาจเพียงพบเจอ แล้วเพ้อพก ยกมือให้
แล้วก้าวเดินผ่าน อย่างตั้งใจ
ขออภัย วันนี้ฉัน อาสัญไม่ชื่นบาน

กำลังอกหัก หนีรักร้าง
อยากอยู่อย่าง เดียวดาย พอให้ผ่าน
อารมบ้า ล้าใจ คงไม่นาน
ฉันจะชวน เธอร่วมผ่าน ทางด้วยกัน
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
16 กันยายน 2008, 05:46:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #26 เมื่อ: 16 กันยายน 2008, 05:46:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"

หนีรักร้าว ถึงด้าวแดน ศาลาน้อย
เห็นยังคง ตระหง่านคอย ใครอยู่หนอ
คืนเหน็บหนาว พราวแสงจันทร์ ขอฉันคลอ
หลับพักผ่อน พอหย่อนท้อ ต่อแรงใจ

วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า  มาเต็มที่
ถึงศาลา แห่งนี้ ที่เคยได้
ซบอกอุ่น หนุนนอนพัก  คราหนักใจ
แวะกลับมา อีกครั้งใหม่ จำได้ดี

ขอค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้เช้าตื่น ฉันต้องออกเดินทาง  จะไม่ลืมว่ามีเธอผู้เสมือนดั่งศาลาร้าง ที่มีคุณค่าสำหรับนักเดินทางผู้พเนจร  อย่างฉัน...
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
16 กันยายน 2008, 08:29:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #27 เมื่อ: 16 กันยายน 2008, 08:29:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"

หนีรักร้าว ถึงด้าวแดน ศาลาน้อย
เห็นยังคง ตระหง่านคอย ใครอยู่หนอ
คืนเหน็บหนาว พราวแสงจันทร์ ขอฉันคลอ
หลับพักผ่อน พอหย่อนท้อ ต่อแรงใจ

วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า  มาเต็มที่
ถึงศาลา แห่งนี้ ที่เคยได้
ซบอกอุ่น หนุนนอนพัก  คราหนักใจ
แวะกลับมา อีกครั้งใหม่ จำได้ดี

ขอค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้เช้าตื่น ฉันต้องออกเดินทาง  จะไม่ลืมว่ามีเธอผู้เสมือนดั่งศาลาร้าง ที่มีคุณค่าสำหรับนักเดินทางผู้พเนจร  อย่างฉัน...


เดินทางมา...เหนื่อยหนัก...เชิญพักก่อน
ยังคงมีสองมือเอื้ออาทร...อยู่ตรงนี้
เอนกายลงซบตรงตัก...เลยคนดี
ศาลานี้...จะกล่อมเห่...เปลนอนไขว

แวะพักเถิด...แม้เป็นได้เพียง...แค่ที่พัก
ศาลาน้อย...ยังปลื้มนัก...ท่านจำได้
แม้เป็นเพียงแค่พักกาย...ใช่พักใจ
สองแขนยังคงโอบอุ้มไว้...ด้วยยินดี

ตะวันส่องสาดแสงสีแดงจ้า
ถึงเวลา... " นักเดินทาง " ...เขาลี้หนี
จากไปแล้ว...หวังว่ากลับ...คืนถิ่นที่
ศาลานี้...จะรอคอย...ให้ถอยมา



ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

16 กันยายน 2008, 09:37:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #28 เมื่อ: 16 กันยายน 2008, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"

หนีรักร้าว ถึงด้าวแดน ศาลาน้อย
เห็นยังคง ตระหง่านคอย ใครอยู่หนอ
คืนเหน็บหนาว พราวแสงจันทร์ ขอฉันคลอ
หลับพักผ่อน พอหย่อนท้อ ต่อแรงใจ

วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า  มาเต็มที่
ถึงศาลา แห่งนี้ ที่เคยได้
ซบอกอุ่น หนุนนอนพัก  คราหนักใจ
แวะกลับมา อีกครั้งใหม่ จำได้ดี

ขอค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้เช้าตื่น ฉันต้องออกเดินทาง  จะไม่ลืมว่ามีเธอผู้เสมือนดั่งศาลาร้าง ที่มีคุณค่าสำหรับนักเดินทางผู้พเนจร  อย่างฉัน...


เดินทางมา...เหนื่อยหนัก...เชิญพักก่อน
ยังคงมีสองมือเอื้ออาทร...อยู่ตรงนี้
เอนกายลงซบตรงตัก...เลยคนดี
ศาลานี้...จะกล่อมเห่...เปลนอนไขว

แวะพักเถิด...แม้เป็นได้เพียง...แค่ที่พัก
ศาลาน้อย...ยังปลื้มนัก...ท่านจำได้
แม้เป็นเพียงแค่พักกาย...ใช่พักใจ
สองแขนยังคงโอบอุ้มไว้...ด้วยยินดี

ตะวันส่องสาดแสงสีแดงจ้า
ถึงเวลา... " นักเดินทาง " ...เขาลี้หนี
จากไปแล้ว...หวังว่ากลับ...คืนถิ่นที่
ศาลานี้...จะรอคอย...ให้ถอยมา





รู้สึกอิ่ม ปริ่มอก ราวนก,ร่า
บินถลา ลอยล่อง ในท้องกว้าง
ถึงคราอาทิตย์ลับ จึ่งกลับทาง
คบค่าใด ยังว่าง พักค้างคืน

ชีวิตนักเดินทาง อย่างพี่นี้
แสงสุรี ล่วงลับ ต้องหลับฟื้น
นอนเอาแรง ใต้แสงจันทร์  พอผ่านคืน
อรุณรุ่ง มุ่งถิ่นอื่น คืนต่อไป

เคยพักค้าง ต่างถิ่น แผ่นดินนี้
วัด,เจดีย์, ที่ป่าเขา หรือเลาไม้
ผ่านมาพบ สบศาลา มุงหญ้าไพร
ช่างอบอุ่น กรุ่นข้างใน กว่าใดมาฯ
                แม้ผ่านแดนด้าวมายาวนาน ทั้งบ้านช่อง ทั่วสถาน แต่ไม่อุ่นเหมือนบ้านเธอ...

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
17 กันยายน 2008, 08:29:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #29 เมื่อ: 17 กันยายน 2008, 08:29:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"

หนีรักร้าว ถึงด้าวแดน ศาลาน้อย
เห็นยังคง ตระหง่านคอย ใครอยู่หนอ
คืนเหน็บหนาว พราวแสงจันทร์ ขอฉันคลอ
หลับพักผ่อน พอหย่อนท้อ ต่อแรงใจ

วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า  มาเต็มที่
ถึงศาลา แห่งนี้ ที่เคยได้
ซบอกอุ่น หนุนนอนพัก  คราหนักใจ
แวะกลับมา อีกครั้งใหม่ จำได้ดี

ขอค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้เช้าตื่น ฉันต้องออกเดินทาง  จะไม่ลืมว่ามีเธอผู้เสมือนดั่งศาลาร้าง ที่มีคุณค่าสำหรับนักเดินทางผู้พเนจร  อย่างฉัน...


เดินทางมา...เหนื่อยหนัก...เชิญพักก่อน
ยังคงมีสองมือเอื้ออาทร...อยู่ตรงนี้
เอนกายลงซบตรงตัก...เลยคนดี
ศาลานี้...จะกล่อมเห่...เปลนอนไขว

แวะพักเถิด...แม้เป็นได้เพียง...แค่ที่พัก
ศาลาน้อย...ยังปลื้มนัก...ท่านจำได้
แม้เป็นเพียงแค่พักกาย...ใช่พักใจ
สองแขนยังคงโอบอุ้มไว้...ด้วยยินดี

ตะวันส่องสาดแสงสีแดงจ้า
ถึงเวลา... " นักเดินทาง " ...เขาลี้หนี
จากไปแล้ว...หวังว่ากลับ...คืนถิ่นที่
ศาลานี้...จะรอคอย...ให้ถอยมา





รู้สึกอิ่ม ปริ่มอก ราวนก,ร่า
บินถลา ลอยล่อง ในท้องกว้าง
ถึงคราอาทิตย์ลับ จึ่งกลับทาง
คบค่าใด ยังว่าง พักค้างคืน

ชีวิตนักเดินทาง อย่างพี่นี้
แสงสุรี ล่วงลับ ต้องหลับฟื้น
นอนเอาแรง ใต้แสงจันทร์  พอผ่านคืน
อรุณรุ่ง มุ่งถิ่นอื่น คืนต่อไป

เคยพักค้าง ต่างถิ่น แผ่นดินนี้
วัด,เจดีย์, ที่ป่าเขา หรือเลาไม้
ผ่านมาพบ สบศาลา มุงหญ้าไพร
ช่างอบอุ่น กรุ่นข้างใน กว่าใดมาฯ
                แม้ผ่านแดนด้าวมายาวนาน ทั้งบ้านช่อง ทั่วสถาน แต่ไม่อุ่นเหมือนบ้านเธอ...




ศาลาน้อง...มีอกอุ่น...กรุ่นความรัก
เชิญพี่พัก...ให้สบาย...กายเถิดหนา
หนุนตักนิ่ม...ยิ้มพริ้มเพรา...เย้าสายตา
ชวนกันนับ...ดวงดารา...ยามราตรี

พี่เห็นดาว...ดวงใหญ่...ใกล้จันทร์ไหม
น้องขอมอง...จองเก็บไว้...แทนกายพี่
เมื่อต้องห่าง...ร้างกันไกล...อาจหลายปี
น้องยังมี...ดาวให้จ้อง...มองเห็นกัน

ถ้าตัวพี่...คิดถึงน้อง...ให้มองฟ้า
แล้วเลือกมอง...ดวงดารา...บนฟ้านั่น
ดาวดวงใหญ่...ที่เราเลือกไว้...ใกล้ใกล้จันทร์
แทนความรัก...ความผูกพันธ์...ผ่านสายใย
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 กันยายน 2008, 10:41:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #30 เมื่อ: 17 กันยายน 2008, 10:41:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากให้นักเดินทาง...ผ่านทางนี้
จะได้รู้ว่ามี...ศาลาน้อย...มาคอยขวัญ
ผ่านตะวัน...ผ่านคืนแรม...แต้มแสงจันทร์
ศาลาสั่น...พายุคลั่ง...ยังคงคอย

นักเดินทาง...เคยผ่านมา...เมื่อคราก่อน
ตะวันรอน...ลาลับแสง...แรงถดถอย
เอนกายพัก...ราตรีผัน...จันทร์เลื่อนลอย
ดาวดวงน้อย...ด้อยแสง...แห่งราตรี

อาจเป็นเพียง...ศาลาเปล่า...ที่ไร้ค่า
ทางข้างหน้า...มากมายา...ล้วนแสงสี
"นักเดินทาง"...หลงไฟงาม...ยามราตรี
ย่อมจะมี...หลงได้ปลื้ม...ลืม"ศาลา"

หนีรักร้าว ถึงด้าวแดน ศาลาน้อย
เห็นยังคง ตระหง่านคอย ใครอยู่หนอ
คืนเหน็บหนาว พราวแสงจันทร์ ขอฉันคลอ
หลับพักผ่อน พอหย่อนท้อ ต่อแรงใจ

วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า  มาเต็มที่
ถึงศาลา แห่งนี้ ที่เคยได้
ซบอกอุ่น หนุนนอนพัก  คราหนักใจ
แวะกลับมา อีกครั้งใหม่ จำได้ดี

ขอค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้เช้าตื่น ฉันต้องออกเดินทาง  จะไม่ลืมว่ามีเธอผู้เสมือนดั่งศาลาร้าง ที่มีคุณค่าสำหรับนักเดินทางผู้พเนจร  อย่างฉัน...


เดินทางมา...เหนื่อยหนัก...เชิญพักก่อน
ยังคงมีสองมือเอื้ออาทร...อยู่ตรงนี้
เอนกายลงซบตรงตัก...เลยคนดี
ศาลานี้...จะกล่อมเห่...เปลนอนไขว

แวะพักเถิด...แม้เป็นได้เพียง...แค่ที่พัก
ศาลาน้อย...ยังปลื้มนัก...ท่านจำได้
แม้เป็นเพียงแค่พักกาย...ใช่พักใจ
สองแขนยังคงโอบอุ้มไว้...ด้วยยินดี

ตะวันส่องสาดแสงสีแดงจ้า
ถึงเวลา... " นักเดินทาง " ...เขาลี้หนี
จากไปแล้ว...หวังว่ากลับ...คืนถิ่นที่
ศาลานี้...จะรอคอย...ให้ถอยมา





รู้สึกอิ่ม ปริ่มอก ราวนก,ร่า
บินถลา ลอยล่อง ในท้องกว้าง
ถึงคราอาทิตย์ลับ จึ่งกลับทาง
คบค่าใด ยังว่าง พักค้างคืน

ชีวิตนักเดินทาง อย่างพี่นี้
แสงสุรี ล่วงลับ ต้องหลับฟื้น
นอนเอาแรง ใต้แสงจันทร์  พอผ่านคืน
อรุณรุ่ง มุ่งถิ่นอื่น คืนต่อไป

เคยพักค้าง ต่างถิ่น แผ่นดินนี้
วัด,เจดีย์, ที่ป่าเขา หรือเลาไม้
ผ่านมาพบ สบศาลา มุงหญ้าไพร
ช่างอบอุ่น กรุ่นข้างใน กว่าใดมาฯ
                แม้ผ่านแดนด้าวมายาวนาน ทั้งบ้านช่อง ทั่วสถาน แต่ไม่อุ่นเหมือนบ้านเธอ...




ศาลาน้อง...มีอกอุ่น...กรุ่นความรัก
เชิญพี่พัก...ให้สบาย...กายเถิดหนา
หนุนตักนิ่ม...ยิ้มพริ้มเพรา...เย้าสายตา
ชวนกันนับ...ดวงดารา...ยามราตรี

พี่เห็นดาว...ดวงใหญ่...ใกล้จันทร์ไหม
น้องขอมอง...จองเก็บไว้...แทนกายพี่
เมื่อต้องห่าง...ร้างกันไกล...อาจหลายปี
น้องยังมี...ดาวให้จ้อง...มองเห็นกัน

ถ้าตัวพี่...คิดถึงน้อง...ให้มองฟ้า
แล้วเลือกมอง...ดวงดารา...บนฟ้านั่น
ดาวดวงใหญ่...ที่เราเลือกไว้...ใกล้ใกล้จันทร์
แทนความรัก...ความผูกพัน...ผ่านสายใย

ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
18 กันยายน 2008, 03:05:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #31 เมื่อ: 18 กันยายน 2008, 03:05:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

20 กันยายน 2008, 09:39:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #32 เมื่อ: 20 กันยายน 2008, 09:39:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ

ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง

เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา

เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล

ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม

พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์  หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
21 กันยายน 2008, 08:14:AM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #33 เมื่อ: 21 กันยายน 2008, 08:14:AM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ

ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง

เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา

เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล

ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม

พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์  หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย





ขอบคุณพี่ ที่ชื่นชม ในบทกลอน
ยังต้องการ พี่บอกสอน ยังไม่เก่ง
อ้าจมีบ้าง บางบทตอน ยังโคลงเครง
ยังแต่งกลอน ไม่เก่ง มิอาจเทียบ

คำอวยพร ขอให้ย้อน ไปสู่พี่
ขอให้เจอ สาวคนดี โสภีเกินเปรียบ
ได้รักกัน สวรรค์อิจฉา เทวดามิอาจเทียบ
จงเถิดพี่ คารมเฉียบ มิเทียมทาน

ส่วนตัวผม กับน้องเขา ยังเปล่าค่า
ยังไม่รู้ ปรารถนา หรือว่าผ่าน
บางบทตอน ของกลอนรัก เนิ่นนักยาวนาน
ไม่เคยมี ที่เอ่ยผ่าน ถึงรักเรา

เรื่องสองเรา มีเพียงเรา ที่เข้าใจ
มิตรภาพ ที่มอบให้ อะไรเล่า
อาจเพียงคำ สำนวนกลอน ยอกย้อนเบาเบา
หาใช่กลั่น จากใจ เจ้าแม่คนดี

ข้อนี้ผมเอง ก็เข้าใจ
น้องเขาปรารถนาเช่นไร ผมไม่รู้นี่
หากน้องเขา อยากได้รัก อย่างกลอนมี
ผมเองคงเปรมปรี หฤทัย

เพียงเสี้ยวหวัง แห่งชายนักเดินทาง  ผู้มีโลกที่อ้างว้าง ยังคงเดินทางเดียวดาย...
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
21 กันยายน 2008, 12:59:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #34 เมื่อ: 21 กันยายน 2008, 12:59:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ

ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง

เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา

เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล

ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม

พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์  หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย

อันความรัก...มักมา-ไป...ไม่รู้ตัว
อย่าไปกลัว...มัวโอ้เอ้...ทำเฉไฉ
ขืนช้านัก...รักอาจเสีย...ละเหี่ยใจ
เมื่อทรามวัย...ให้โอกาส...อย่าพลาดเชียว

เพียงอ่านดู...รู้ทันที...เธอมีใจ
หากพลาดไป...ไม่ช้า...นั่งหน้าเหี่ยว
เกิดเป็นชาย...หมายหญิงซึ้ง...เพียงหนึ่งเดียว
อาจต้องเที่ยว...เสาะหา...เป็นช้านาน

จะตามอ่าน...กานท์กลอน...สุนทรถ้อย
ที่หยดย้อย...ร้อยเรียง...สำเนียงหวาน
ของน้องรัก...นักเดินทาง...อย่างเบิกบาน
สุขสำราญ...นะน้อง...ทั้งสองคน....

ถ้ามีการด์เชิญ ก็ส่งไปตามที่อยู่ของพี่ ตามที่ลงไว้หน้าส่วนตัวนะ 55555



ใช่ที่ว่า ความรัก มักไม่แน่
แต่ผมแค่ คนเดินทาง สุดหยั่งได้
เขาอาจสูงส่ง เกินหมายใจ
เธอจะมา สนอย่างไร คนไร้รัง

เธออาจเพียง ทักทาย หน่ายก็จาก
ผืนปฐพีนี้มีมาก  ชายในหวัง
เพียงเศษดิน มีกลิ่นโคลน มิอาจรั้ง
ประดุจดัง เจ้าหมานั่ง เห่าเครื่องบิน

หวังจะเด็ด ดอกฟ้า มาเชยชิด
เพียงเท่านี้ รู้สึกผิด ปิดทางสิ้น
เข้าใจดี พี่ชาย ผมเป็นดิน
จะไปหวัง ให้แดดิ้น อยู่ทำไม

เพียงได้ต่อ สำนวนกลอน สุนทรหวาน
เพียงเท่านี้ ก็เป็นทาน สุดฝันใฝ่
เธอให้เกียรติ ตอบกลอนมา ก็ชื่นใจ
มิกล้าหวัง สิ่งใด มากกว่านี้

นักเดินทางผู้ร้างเปล่า มิอาจคว้ากิ่งดาวมาเชยชม  คงไม่อาจทำให้สม   ดุจดั่งคำชมที่ว่าไว้...
หากจะมีวันที่พี่ว่า ถามเธอผู้มีราคาเองเถิด...
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
21 กันยายน 2008, 04:48:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #35 เมื่อ: 21 กันยายน 2008, 04:48:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ

ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง

เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา

เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล

ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม

พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์  หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย

อันความรัก...มักมา-ไป...ไม่รู้ตัว
อย่าไปกลัว...มัวโอ้เอ้...ทำเฉไฉ
ขืนช้านัก...รักอาจเสีย...ละเหี่ยใจ
เมื่อทรามวัย...ให้โอกาส...อย่าพลาดเชียว

เพียงอ่านดู...รู้ทันที...เธอมีใจ
หากพลาดไป...ไม่ช้า...นั่งหน้าเหี่ยว
เกิดเป็นชาย...หมายหญิงซึ้ง...เพียงหนึ่งเดียว
อาจต้องเที่ยว...เสาะหา...เป็นช้านาน

จะตามอ่าน...กานท์กลอน...สุนทรถ้อย
ที่หยดย้อย...ร้อยเรียง...สำเนียงหวาน
ของน้องรัก...นักเดินทาง...อย่างเบิกบาน
สุขสำราญ...นะน้อง...ทั้งสองคน....

ถ้ามีการด์เชิญ ก็ส่งไปตามที่อยู่ของพี่ ตามที่ลงไว้หน้าส่วนตัวนะ 55555



ใช่ที่ว่า ความรัก มักไม่แน่
แต่ผมแค่ คนเดินทาง สุดหยั่งได้
เขาอาจสูงส่ง เกินหมายใจ
เธอจะมา สนอย่างไร คนไร้รัง

เธออาจเพียง ทักทาย หน่ายก็จาก
ผืนปฐพีนี้มีมาก  ชายในหวัง
เพียงเศษดิน มีกลิ่นโคลน มิอาจรั้ง
ประดุจดัง เจ้าหมานั่ง เห่าเครื่องบิน

หวังจะเด็ด ดอกฟ้า มาเชยชิด
เพียงเท่านี้ รู้สึกผิด ปิดทางสิ้น
เข้าใจดี พี่ชาย ผมเป็นดิน
จะไปหวัง ให้แดดิ้น อยู่ทำไม

เพียงได้ต่อ สำนวนกลอน สุนทรหวาน
เพียงเท่านี้ ก็เป็นทาน สุดฝันใฝ่
เธอให้เกียรติ ตอบกลอนมา ก็ชื่นใจ
มิกล้าหวัง สิ่งใด มากกว่านี้

นักเดินทางผู้ร้างเปล่า มิอาจคว้ากิ่งดาวมาเชยชม  คงไม่อาจทำให้สม   ดุจดั่งคำชมที่ว่าไว้...
หากจะมีวันที่พี่ว่า ถามเธอผู้มีราคาเองเถิด...



ขอบคุณที่พี่เปรียบ  เทียบดอกฟ้า
แต่คงสูงเกินคว้า...ไร้ค่าเท่า
น้องอยากเป็นเพียงดอกไม้ในใจเรา
ยามน้องพี่เศร้า...เฝ้าปลอบกัน

ตอบไม่ได้ว่าคิดอย่างไร...กับพี่แน่
ในอนาคตพี่เจอคู่แท้...อาจแปรผัน
ให้เวลาเราเรียนรู้...ซึ่งกันและกัน
เรื่องของอนาคตนั้น...ปล่อยให้มันเดินไป

บางคนได้อ่านกลอน...สุนทรกล่าว
อาจคิดว่าเรื่องราวของเรา...คือรักใหญ่
เพียงแค่อารมณ์กลอน...เอนอ่อนไหว
ได้โปรดอย่าคิดไกล...กว่าใจเรา

มีบางครั้งยังรู้สึก...นึกอ่อนไหว
แค่เพียงบทกลอนอ้อนใจ...ใช่หรือเปล่า
ฤา เพียงความรู้สึก..นึกเหงาเหงา
เลยไม่แน่ใจว่าพี่คิดอะไรอยู่เล่า...เดาไม่เป็น

ขอขอบคุณกำลังใจที่มอบให้
แต่ทุกทุกเรื่องไม่ได้เป็นไป...อย่างที่เห็น
ปล่อยให้เกิดให้เป็นไป...ตามกรรมเวร
แม้คำตอบที่ได้อาจไม่เป็น...เช่นต้องการ



    อายจัง...      อายจัง      เธอนั่นแหละจ้ะ
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

21 กันยายน 2008, 11:02:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #36 เมื่อ: 21 กันยายน 2008, 11:02:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ

ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า

ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด

ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ

                   ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
                    พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...


รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา

มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์

นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา

ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ   ทำตา ปิ๊งๆ

ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง

เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา

เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล

ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม

พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์  หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย


นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก

อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย

อันความรัก...มักมา-ไป...ไม่รู้ตัว
อย่าไปกลัว...มัวโอ้เอ้...ทำเฉไฉ
ขืนช้านัก...รักอาจเสีย...ละเหี่ยใจ
เมื่อทรามวัย...ให้โอกาส...อย่าพลาดเชียว

เพียงอ่านดู...รู้ทันที...เธอมีใจ
หากพลาดไป...ไม่ช้า...นั่งหน้าเหี่ยว
เกิดเป็นชาย...หมายหญิงซึ้ง...เพียงหนึ่งเดียว
อาจต้องเที่ยว...เสาะหา...เป็นช้านาน

จะตามอ่าน...กานท์กลอน...สุนทรถ้อย
ที่หยดย้อย...ร้อยเรียง...สำเนียงหวาน
ของน้องรัก...นักเดินทาง...อย่างเบิกบาน
สุขสำราญ...นะน้อง...ทั้งสองคน....

ถ้ามีการด์เชิญ ก็ส่งไปตามที่อยู่ของพี่ ตามที่ลงไว้หน้าส่วนตัวนะ 55555



ใช่ที่ว่า ความรัก มักไม่แน่
แต่ผมแค่ คนเดินทาง สุดหยั่งได้
เขาอาจสูงส่ง เกินหมายใจ
เธอจะมา สนอย่างไร คนไร้รัง

เธออาจเพียง ทักทาย หน่ายก็จาก
ผืนปฐพีนี้มีมาก  ชายในหวัง
เพียงเศษดิน มีกลิ่นโคลน มิอาจรั้ง
ประดุจดัง เจ้าหมานั่ง เห่าเครื่องบิน

หวังจะเด็ด ดอกฟ้า มาเชยชิด
เพียงเท่านี้ รู้สึกผิด ปิดทางสิ้น
เข้าใจดี พี่ชาย ผมเป็นดิน
จะไปหวัง ให้แดดิ้น อยู่ทำไม

เพียงได้ต่อ สำนวนกลอน สุนทรหวาน
เพียงเท่านี้ ก็เป็นทาน สุดฝันใฝ่
เธอให้เกียรติ ตอบกลอนมา ก็ชื่นใจ
มิกล้าหวัง สิ่งใด มากกว่านี้

นักเดินทางผู้ร้างเปล่า มิอาจคว้ากิ่งดาวมาเชยชม  คงไม่อาจทำให้สม   ดุจดั่งคำชมที่ว่าไว้...
หากจะมีวันที่พี่ว่า ถามเธอผู้มีราคาเองเถิด...



ขอบคุณที่พี่เปรียบ  เทียบดอกฟ้า
แต่คงสูงเกินคว้า...ไร้ค่าเท่า
น้องอยากเป็นเพียงดอกไม้ในใจเรา
ยามน้องพี่เศร้า...เฝ้าปลอบกัน

ตอบไม่ได้ว่าคิดอย่างไร...กับพี่แน่
ในอนาคตพี่เจอคู่แท้...อาจแปรผัน
ให้เวลาเราเรียนรู้...ซึ่งกันและกัน
เรื่องของอนาคตนั้น...ปล่อยให้มันเดินไป

บางคนได้อ่านกลอน...สุนทรกล่าว
อาจคิดว่าเรื่องราวของเรา...คือรักใหญ่
เพียงแค่อารมณ์กลอน...เอนอ่อนไหว
ได้โปรดอย่าคิดไกล...กว่าใจเรา

มีบางครั้งยังรู้สึก...นึกอ่อนไหว
แค่เพียงบทกลอนอ้อนใจ...ใช่หรือเปล่า
ฤา เพียงความรู้สึก..นึกเหงาเหงา
เลยไม่แน่ใจว่าพี่คิดอะไรอยู่เล่า...เดาไม่เป็น

ขอขอบคุณกำลังใจที่มอบให้
แต่ทุกทุกเรื่องไม่ได้เป็นไป...อย่างที่เห็น
ปล่อยให้เกิดให้เป็นไป...ตามกรรมเวร
แม้คำตอบที่ได้อาจไม่เป็น...เช่นต้องการ



    อายจัง...      อายจัง      เธอนั่นแหละจ้ะ

อันที่จริง น้องก็เปรียบ เทียบดอกฟ้า
ที่พี่ยา มิอาจเอื้อม เงื้อมไม่ถึง
ดั่งเอ่ยปาก ว่าไว้  เพียงคนึง
มิอาจเอื้อม ปองถึง น้องนวลนาง

พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง
เลยเอ่ยทัก  นักกวี  เพียงเดินทาง
นี่อาจเป็นระหว่าง ทางสัญจร

พี่เข้าใจ ในเรื่องราว เท่าบันทึก
ไม่กล้านึก เพ้อฝันไกล ให้หนาวร้อน
อย่างน้องว่า สำนวนจา พาอาวรณ์
ทำให้เห็น เช่นบทกลอน  อย่างที่เป็น

ให้เวลา พาเดินไป นัยน้องว่า
มิปรารถนา กำหนดใจ  ให้คับเข็ญ
วันเวลา จะพิสูจน์ สิ่งที่เป็น
เอาละข้อนี้พี่เห็น และเข้าใจ

ใจของเรา เราสอง ตรองรู้แน่
ใจเขา เราอย่างแคร์ จะได้ไหม
เพียงสองเรา เข้าใจกัน สัมพันธ์อย่างไร
เท่านี้พอ  ก็สุขใจ ไร้กังวล

พี่เป็นนักเดินทาง ยังย่างก้าว
วันข้างหน้า อาจเรื่องราว ร้าวสับสน
เอาเถอะ  ขอใจเรา  เพียงสองคน
แม้โลกหล้า อู้อล อย่าสนใจ

เราจะก้าวย่างในหนทางแห่งนักกวี   แม้มีเสี้ยวถ้อยแห่งวจีใดทัดทาน...   
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
21 กันยายน 2008, 11:06:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #37 เมื่อ: 21 กันยายน 2008, 11:06:PM »
ชุมชนชุมชน

นักเดินทางลืมวาไปแล้วหนอ จ๋อยจนเหงื่อตก
ไม่เคยรอเคยทักกันบ้างหนา งอนแล้วด้วย
ทำแบบนี้น้องเจ็บและปวดเหมือนกับยา ไม่แน่ใจ
ที่เป็นฆ่ายาพิษมาสั่งตาย น้อยใจแถมบ่น

------------------------------------------------------

แต่งอารายก็ม่ายรุ ยิ้มกวน ล่อกๆ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

หาได้ลืม เลือนลาง น้องนางนี่
โอ้คนดี อย่าน้อยใจ ไปเลยหนา
น้องของพี่ ยังคือน้องเสมอมา
ไม่เคยลืม เลือนเลยว่า มีน้องญาในใจ

อาจพี่เผลอ หรือละเมอ เพ้อไปบ้าง
ขออภัย โปรดน้องนาง อย่าว่าให้
พี่นั่นนะ อย่างนี้แหล่ะ ต้องทำใจ
ถึงอย่างไร ใจของพี่ มีน้องนาง

ยังทายทัก นักเดินทาง กวีน้อย
เดินต้อย ต้อย ตามหลังพี่ ไม่หนีห่าง
เอาล่ะพี่อาจลืม หลงเดินทาง
ลืมไปว่า อยู่ข้างๆ ยังมีน้อง อิอิ

 เราจะร่วมเดินบนถนนแห่งบทกวี   ด้วยมิตรและไมตรี ของสองเรา...
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
22 กันยายน 2008, 01:35:PM
lookgaow
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 110
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 637


" เ พี ย ง มิ ต ร ภ า พ ที่ ดี . . . ร ะหว่างกัน "


« ตอบ #38 เมื่อ: 22 กันยายน 2008, 01:35:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
อันที่จริง น้องก็เปรียบ เทียบดอกฟ้า
ที่พี่ยา มิอาจเอื้อม เงื้อมไม่ถึง
ดั่งเอ่ยปาก ว่าไว้  เพียงคนึง
มิอาจเอื้อม ปองถึง น้องนวลนาง

พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง
เลยเอ่ยทัก  นักกวี  เพียงเดินทาง
นี่อาจเป็นระหว่าง ทางสัญจร

พี่เข้าใจ ในเรื่องราว เท่าบันทึก
ไม่กล้านึก เพ้อฝันไกล ให้หนาวร้อน
อย่างน้องว่า สำนวนจา พาอาวรณ์
ทำให้เห็น เช่นบทกลอน  อย่างที่เป็น

ให้เวลา พาเดินไป นัยน้องว่า
มิปรารถนา กำหนดใจ  ให้คับเข็ญ
วันเวลา จะพิสูจน์ สิ่งที่เป็น
เอาละข้อนี้พี่เห็น และเข้าใจ

ใจของเรา เราสอง ตรองรู้แน่
ใจเขา เราอย่างแคร์ จะได้ไหม
เพียงสองเรา เข้าใจกัน สัมพันธ์อย่างไร
เท่านี้พอ  ก็สุขใจ ไร้กังวล

พี่เป็นนักเดินทาง ยังย่างก้าว
วันข้างหน้า อาจเรื่องราว ร้าวสับสน
เอาเถอะ  ขอใจเรา  เพียงสองคน
แม้โลกหล้า อู้อล อย่าสนใจ

เราจะก้าวย่างในหนทางแห่งนักกวี   แม้มีเสี้ยวถ้อยแห่งวจีใดทัดทาน...
   

พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง

ดาวก้อแค่  เศษดิน  ยิลฟ้ากว้าง
คินกับดาว   เราร่วมทาง  เสมอมา

อยู่ข้างบน   ก้อแอบเหงา   เศร้าดวงจิต
ข้างล่างพิศ   คิดถึงน้อง   จ้องมองฟ้า
ดาวคิดถึงดิน   ยังแอบมอง   จ้องลงมา
แค่เห็นหน้า   รับรู้ว่า   เรามีกัน

ฟ้าแผ่นดิน  แค่เส้นขนาน   ทางเส้นหนึ่ง
แม้ห่างไกล   เกินเอื้อมถึง  อย่าหมดฝัน
เส้นขนาน   อาจบรรจบ   พบซึ่งกัน
ถ้าเธอจะ   รอวันนั้น   ฉันก้อรอ

ทางอีกไกล   พี่เดินไป   คงเหนื่อยนัก
หากวันใด   หาที่พัก   ใจทดท้อ
จำไว้นะ   ยังมีน้องคนนี้   ที่คอยรอ
จะคอยเฝ้าพะเน้าพะนอ...ขอดูแล



    อายจัง...      อายจัง      เธอนั่นแหละจ้ะ
ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

22 กันยายน 2008, 02:24:PM
นักเดินทาง
LV0 ทารก2 (Pls..update E-mail)
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 33
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 252



« ตอบ #39 เมื่อ: 22 กันยายน 2008, 02:24:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างถึง
อันที่จริง น้องก็เปรียบ เทียบดอกฟ้า
ที่พี่ยา มิอาจเอื้อม เงื้อมไม่ถึง
ดั่งเอ่ยปาก ว่าไว้  เพียงคนึง
มิอาจเอื้อม ปองถึง น้องนวลนาง

พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง
เลยเอ่ยทัก  นักกวี  เพียงเดินทาง
นี่อาจเป็นระหว่าง ทางสัญจร

พี่เข้าใจ ในเรื่องราว เท่าบันทึก
ไม่กล้านึก เพ้อฝันไกล ให้หนาวร้อน
อย่างน้องว่า สำนวนจา พาอาวรณ์
ทำให้เห็น เช่นบทกลอน  อย่างที่เป็น

ให้เวลา พาเดินไป นัยน้องว่า
มิปรารถนา กำหนดใจ  ให้คับเข็ญ
วันเวลา จะพิสูจน์ สิ่งที่เป็น
เอาละข้อนี้พี่เห็น และเข้าใจ

ใจของเรา เราสอง ตรองรู้แน่
ใจเขา เราอย่างแคร์ จะได้ไหม
เพียงสองเรา เข้าใจกัน สัมพันธ์อย่างไร
เท่านี้พอ  ก็สุขใจ ไร้กังวล

พี่เป็นนักเดินทาง ยังย่างก้าว
วันข้างหน้า อาจเรื่องราว ร้าวสับสน
เอาเถอะ  ขอใจเรา  เพียงสองคน
แม้โลกหล้า อู้อล อย่าสนใจ

เราจะก้าวย่างในหนทางแห่งนักกวี   แม้มีเสี้ยวถ้อยแห่งวจีใดทัดทาน...
   

พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง

ดาวก้อแค่  เศษดิน  ยิลฟ้ากว้าง
คินกับดาว   เราร่วมทาง  เสมอมา

อยู่ข้างบน   ก้อแอบเหงา   เศร้าดวงจิต
ข้างล่างพิศ   คิดถึงน้อง   จ้องมองฟ้า
ดาวคิดถึงดิน   ยังแอบมอง   จ้องลงมา
แค่เห็นหน้า   รับรู้ว่า   เรามีกัน

ฟ้าแผ่นดิน  แค่เส้นขนาน   ทางเส้นหนึ่ง
แม้ห่างไกล   เกินเอื้อมถึง  อย่าหมดฝัน
เส้นขนาน   อาจบรรจบ   พบซึ่งกัน
ถ้าเธอจะ   รอวันนั้น   ฉันก้อรอ

ทางอีกไกล   พี่เดินไป   คงเหนื่อยนัก
หากวันใด   หาที่พัก   ใจทดท้อ
จำไว้นะ   ยังมีน้องคนนี้   ที่คอยรอ
จะคอยเฝ้าพะเน้าพะนอ...ขอดูแล



    อายจัง...      อายจัง      เธอนั่นแหละจ้ะ


มิตรภาพแห่งดิน-ดาว ยาวนานนัก
พี่เอง เคยรู้จักแต่ครั้งไหน
ผ่านเวลา มาเนิ่นนาน กาลผ่านไกล
ดินไม่เคย ถอยห่างไป จากใจดาว

ดาวกับดิน แม้สุดดิ้น จะอาจเอื้อม
พี่ขอเชื่อม หัวใจ ด้วยไอขาว
สายหมอก และสายลม โอบอม เรื่องราว
จากมวลดิน ในถิ่นด้าว สู่ดาวดง

พี่เป็นดิน จะจ้องดาว ทุกคราวค่ำ
อาจยินเสียง ดินร้องร่ำ เป็นผุยผง
ให้ลอยล่อง เป็นไอฝุ่น ก็ตกลง
ใช่ว่าใจ ไม่อยากส่ง แต่คงมิอาจทำ...
              แม้ผงดินที่นักเดินทางย่างย่ำ อยากล่องลอยเป็นกอบกำ ไปสู่ฟ้า     แต่ด้วยความจริงแรงโน้มถ่วงห้วงโลกา    ดินก็ตกลงมา...ค่าเพียงดิน
ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

อาจหนทางยาวไกล แต่หากทุกวินาทีเราเดินไป สักวันคงถึงเส้นชัยนั้น
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 ... 10
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s