ศาลาน้อง มีอกอุ่น กรุ่นความรัก
ตัวพี่เอง ก็ประจักษ์ รักอยู่หนา
เคยหนุนนอน อ้อนออด ทอดกายา
ยามเหนื่อยล้า จากแรมรอน พักผ่อนใจ
ชวนพี่นับ ดาวเดือน ที่เกลื่อนฟ้า
น้องพี่ อยากสบหน้า กันใช่ไหม
นั่นเลย ดาวที่แจ่ม จ้ากว่าใคร
ให้แทนตัว พี่ก็ได้ ชมไว้ต่างหน้า
ไหนพี่มอง จ้องฟ้า ในครานี้
ดวงไหนหรือ ที่มี ดวงใหญ่กว่า
เอ่ะนั่นไง ดาวดวงนั้น ข้างจันทรา
ว้าว สองเรา จ้องสบตา สุขกว่าอื่นใด
ในยามนี้ ที่พี่มอง ท้องฟ้ากว้าง
แล้วเธอล่ะ น้องนาง มองอยู่ไหม
หากว่ายัง พี่รออยู่ จงรีบไป
เราจะสร้าง ความสุขให้ กันและกันฯ
ขอพี่ฝันหวานเท่านี้ก่อน
พรุ่งนี้ตื่นต้องรีบจร ออกเดินทาง...
รู้สึกแปลกใยจันทร์จ้อง...มองคืนนี้
สงสัยพี่คนดี...ส่งใจให้
ดาวดวงน้อยร้องว่าหนัก...เพราะพี่ฝากความห่วงใย
รีบรีบรับไปได้ไหม...ความคิดถึงช่างมากมายล้นดารา
มองซิจ๊ะ...น้องคอยมองดวงดาวอยู่
ดาวเจ้าชู้...ทำหยอกเย้าเฝ้ามองหน้า
เขินแล้วนะ...น้องอวยอายเจ้าชายตา
ดวงจันทรา...หัวเราะร่าท้าแสงจันทร์
นอนได้แล้วคนดี...ราตรีดึก
อย่ามัวคึก...กับดวงดาวที่พราวนั่น
ใกล้เช้าแล้ว...เริ่มสิ้นแววของแสงจันทร์
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนขับ...ทับดารา
ว้าว! ช่างสุขใจ อะไรเช่นนี้
เพียงน้องพี่ รับรู้สาร ฝากวานให้
เท่านี้แหล่ะ ปรารถนา จากห้วงใน
ที่อยากบอก และฝากให้ จากใจนักเดินทาง
เห็นน้องมอง ดวงดาว ที่วาววับ
พลันหัวใจ ก็สลับ กลับแตกต่าง
จากเปลี่ยวเหงา มาเนิ่นนาน ถึงกาลปล่อยวาง
อบอุ่นใจ หายจากคว้าง เพียงนางเข้ามา
เห็นน้องพี่ ยิ้มหล้า ตาแวววับ
แลน่าจับ น่าจอง ครองชิวหา
ขอมือซิ น้องพี่ สักเวลา
พอได้จุม พิตแก้วตา ก่อนลาไกล
ไม่อยากให้ อรุณรุ่ง พุ่งตอนเช้า
ไม่อยากตื่น พบเรื่องราว ที่ร้าวร้าย
ไม่อยากจาก นวลนาง แรมร้างไป
ไม่อยากจาก ไปไหน ให้อกตรม
พี่อยากให้ เวลา หยุดตรงนี้
ตรงตรงที่ มีเรา ร่วมสุขสม
นั่งคลอเคลีย ท่ามแสงจันทร์ หฤหรรษ์อารมณ์
หยุดเพียงเรา นั่งชม กันและกันฯ
นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก
อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย นักเดินทาง...หมายสร้างฝัน...อันเพริศแพร้ว
มีลูกแก้ว...แวววัย...ให้หมายมั่น
สองสาวหนุ่ม...ทุ่มเทใจ...ให้ต่อกัน
ถักทอฝัน...อันสวยงาม...ด้วยความรัก
อ่านบทกลอน...อ้อนกัน...หลายวันผ่าน
ทุกกลอนกานท์...ผ่านไป...ได้ประจักษ์
เรียงคำร้อย...ถ้อยคารม...คมคายนัก
จงสมใจ...ในรัก...จักอวยชัย
อันความรัก...มักมา-ไป...ไม่รู้ตัว
อย่าไปกลัว...มัวโอ้เอ้...ทำเฉไฉ
ขืนช้านัก...รักอาจเสีย...ละเหี่ยใจ
เมื่อทรามวัย...ให้โอกาส...อย่าพลาดเชียว
เพียงอ่านดู...รู้ทันที...เธอมีใจ
หากพลาดไป...ไม่ช้า...นั่งหน้าเหี่ยว
เกิดเป็นชาย...หมายหญิงซึ้ง...เพียงหนึ่งเดียว
อาจต้องเที่ยว...เสาะหา...เป็นช้านาน
จะตามอ่าน...กานท์กลอน...สุนทรถ้อย
ที่หยดย้อย...ร้อยเรียง...สำเนียงหวาน
ของน้องรัก...นักเดินทาง...อย่างเบิกบาน
สุขสำราญ...นะน้อง...ทั้งสองคน....
ถ้ามีการด์เชิญ ก็ส่งไปตามที่อยู่ของพี่ ตามที่ลงไว้หน้าส่วนตัวนะ 55555
ใช่ที่ว่า ความรัก มักไม่แน่
แต่ผมแค่ คนเดินทาง สุดหยั่งได้
เขาอาจสูงส่ง เกินหมายใจ
เธอจะมา สนอย่างไร คนไร้รัง
เธออาจเพียง ทักทาย หน่ายก็จาก
ผืนปฐพีนี้มีมาก ชายในหวัง
เพียงเศษดิน มีกลิ่นโคลน มิอาจรั้ง
ประดุจดัง เจ้าหมานั่ง เห่าเครื่องบิน
หวังจะเด็ด ดอกฟ้า มาเชยชิด
เพียงเท่านี้ รู้สึกผิด ปิดทางสิ้น
เข้าใจดี พี่ชาย ผมเป็นดิน
จะไปหวัง ให้แดดิ้น อยู่ทำไม
เพียงได้ต่อ สำนวนกลอน สุนทรหวาน
เพียงเท่านี้ ก็เป็นทาน สุดฝันใฝ่
เธอให้เกียรติ ตอบกลอนมา ก็ชื่นใจ
มิกล้าหวัง สิ่งใด มากกว่านี้
นักเดินทางผู้ร้างเปล่า มิอาจคว้ากิ่งดาวมาเชยชม คงไม่อาจทำให้สม ดุจดั่งคำชมที่ว่าไว้...
หากจะมีวันที่พี่ว่า ถามเธอผู้มีราคาเองเถิด...
ขอบคุณที่พี่เปรียบ เทียบดอกฟ้า
แต่คงสูงเกินคว้า...ไร้ค่าเท่า
น้องอยากเป็นเพียงดอกไม้ในใจเรา
ยามน้องพี่เศร้า...เฝ้าปลอบกัน
ตอบไม่ได้ว่าคิดอย่างไร...กับพี่แน่
ในอนาคตพี่เจอคู่แท้...อาจแปรผัน
ให้เวลาเราเรียนรู้...ซึ่งกันและกัน
เรื่องของอนาคตนั้น...ปล่อยให้มันเดินไป
บางคนได้อ่านกลอน...สุนทรกล่าว
อาจคิดว่าเรื่องราวของเรา...คือรักใหญ่
เพียงแค่อารมณ์กลอน...เอนอ่อนไหว
ได้โปรดอย่าคิดไกล...กว่าใจเรา
มีบางครั้งยังรู้สึก...นึกอ่อนไหว
แค่เพียงบทกลอนอ้อนใจ...ใช่หรือเปล่า
ฤา เพียงความรู้สึก..นึกเหงาเหงา
เลยไม่แน่ใจว่าพี่คิดอะไรอยู่เล่า...เดาไม่เป็น
ขอขอบคุณกำลังใจที่มอบให้
แต่ทุกทุกเรื่องไม่ได้เป็นไป...อย่างที่เห็น
ปล่อยให้เกิดให้เป็นไป...ตามกรรมเวร
แม้คำตอบที่ได้อาจไม่เป็น...เช่นต้องการ อันที่จริง น้องก็เปรียบ เทียบดอกฟ้า
ที่พี่ยา มิอาจเอื้อม เงื้อมไม่ถึง
ดั่งเอ่ยปาก ว่าไว้ เพียงคนึง
มิอาจเอื้อม ปองถึง น้องนวลนาง
พี่เป็นดิน ถวิลดาว คงร้าวแน่
อย่าเลยน้อง พี่เพียงแค่ หัวใจว่าง
เลยเอ่ยทัก นักกวี เพียงเดินทาง
นี่อาจเป็นระหว่าง ทางสัญจร
พี่เข้าใจ ในเรื่องราว เท่าบันทึก
ไม่กล้านึก เพ้อฝันไกล ให้หนาวร้อน
อย่างน้องว่า สำนวนจา พาอาวรณ์
ทำให้เห็น เช่นบทกลอน อย่างที่เป็น
ให้เวลา พาเดินไป นัยน้องว่า
มิปรารถนา กำหนดใจ ให้คับเข็ญ
วันเวลา จะพิสูจน์ สิ่งที่เป็น
เอาละข้อนี้พี่เห็น และเข้าใจ
ใจของเรา เราสอง ตรองรู้แน่
ใจเขา เราอย่างแคร์ จะได้ไหม
เพียงสองเรา เข้าใจกัน สัมพันธ์อย่างไร
เท่านี้พอ ก็สุขใจ ไร้กังวล
พี่เป็นนักเดินทาง ยังย่างก้าว
วันข้างหน้า อาจเรื่องราว ร้าวสับสน
เอาเถอะ ขอใจเรา เพียงสองคน
แม้โลกหล้า อู้อล อย่าสนใจ
เราจะก้าวย่างในหนทางแห่งนักกวี แม้มีเสี้ยวถ้อยแห่งวจีใดทัดทาน...