พลิกตำนานค้นรอยวิวัฒนาการ - ไม้ขีดไฟไทย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 12:26:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พลิกตำนานค้นรอยวิวัฒนาการ - ไม้ขีดไฟไทย  (อ่าน 3624 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
05 สิงหาคม 2008, 09:37:PM
Nom-See-Khaw
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 05 สิงหาคม 2008, 09:37:PM »
ชุมชนชุมชน

   ไม้ขีดไฟถือกำเนิดขึ้นใน ค.ศ. 1827 โดยนักเคมีชาวอังกฤษชื่อ จอห์น วอล์คเกอร์ ไม้ขีดก้านแรกของโลก ทำขึ้นจากเศษไม้ จุ่มปลายด้วยส่วนผสมของ แอนติโมนีซัลไฟด์ โปตัสเซียมคลอเรต และกาวจากยางไม้ เมื่อเอาไม้ขีด ขีดกับอะไรก็ได้ ที่เนื้อหยาบๆ เช่น กระดาษทราย ก็จะเกิดประกายไฟ แต่ไม้ขีดชนิดนี้ยังมีปัญหาที่ ขีดแล้วติดบ้างไม่ติดบ้าง ต่อมาใน ค.ศ. 1930 ชาร์ลส์ โซเรีย ชาวฝรั่งเศส ได้ผลิตไม้ขีดไฟ ที่ปลายหุ้มด้วยฟอสฟอรัสเหลือง ซึ่งมีคุณสมบัติจุดติดไฟได้ดีขึ้น แต่ต่อมาพบว่า ฟอสฟอรัสเหลืองที่ใช้เป็นวัตถุมีพิษ ทำให้คนงานโรงงานไม้ขีดไฟ ป่วยเป็นโรคที่เรียกว่า Phossy Jaw ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิตทีเดียว

   ใน ค.ศ. 1940 มีการค้นพบฟอสฟอรัสแดง ทำให้เทคโนโลยีการผลิตไม้ขีดไฟเปลี่ยนไป และมีความปลอดภัยขึ้น โดยไม้ขีดไฟแบบใหม่นี้ จะจุดได้ก็ต่อเมื่อขีดลงบนพื้น ที่เตรียมไว้เท่านั้น หัวไม้ขีดจะถูกหุ้มด้วย โปตัสเซียมคลอเรต ขณะที่พื้นที่ที่ขีด ที่โดยปกติจะเป็นข้างกล่องไม้ขีด จะถูกฉาบด้วยฟอสฟอรัสแดง เมื่อโปตัสเซียมคลอเรต กระทบกับฟอสฟอรัสแดง จะเกิดปฏิกิริยาให้ความร้อนมากพอ ที่จะจุดไฟติดได้ ส่วนวัสดุอื่นก็ใช้ทำก้านไม้ขีดไฟได้ด้วย เช่น ด้ายเคลือบขี้ผึ้ง และกระดาษแข็งเคลือบขี้ผึ้ง แต่ไม้เป็นวัสดุที่ใช้ทำก้านไม้ขีด ได้ดีที่สุด

   ไม้สำหรับทำก้านไม้ขีด ควรจะเป็นไม้สีขาว ไม่มีกลิ่น เนือไม้ไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป นิยมใช้ไม้มะยมป่า ไม้มะกอก ไม้อ้อยช้าง ไม้ปออกแตก เป็นต้น ก่อนจุ่มทำหัวไม้ขีดจะต้องเอาปลายก้านไม้ขีด ที่จะติดหัวนั้นไปจุ่มขี้ผึ้งพาราฟินก่อน หากเนื้อไม้แข็งเกินไปก็จะไม่ดูดซึม พาราฟิน พาราฟิน นี้จะเป็นตัวส่งผ่านจากหัวไม้ขีด ไปสู่ก้านไม้ขีดหากไม่มีพาราฟินพอขีดไฟติดปุ๊บไฟก็จะดับปั๊บ และหากเนื้อของไม้อ่อนไป ก้านไม้ขีดก็จะไม่คงรูปเป็นก้านตรงได้

   ไม้ขีดไฟยุคแรกๆ ที่เข้ามาขายในเมืองไทยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของสวีเดนและญี่ปุ่น แต่ของญี่ปุ่นนั้นมีตราต่างๆ จำนวนมากหลายพันแบบ ภาพวาดบนฉลากไม้ขีดไฟนี้ เป็นรูปต่างๆ สารพัดมีทั้งรูปสัตว์ รูปคน รูปผลไม้ รูปดอกไม้ ซึ่งการสะสมหน้าไม้ขีดไฟ (ฉลากไม้ขีดไฟนักสะสมมักจะเรียกว่า หน้าไม้ขีดไฟ) นักสะสมจะเก็บรวบรวมหน้าไม้ขีดไฟ โดยนิยมเก็บไว้ในสมุดบัญชีเล่มใหญ่ๆ ใช้วิธีปิดกาว หรือเจาะกระดาษสำหรับสอดมุมหน้าไม้ขีดเข้าไปได้ โดยพวกบาทหลวง ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนา เป็นผู้นำเข้ามาใช้ก่อน ภายหลังจึงเริ่มมีเข้ามาขาย

   ช่วงสมัยรัชกาลที่ 7 คนไทยสามารถผลิตไม้ขีดไฟเองได้ ทำให้การนำเข้าไม้ขีดไฟจากต่างประเทศค่อยๆ ลดลงจนหมดไปในที่สุด โรงงานไม้ขีดไฟของเมืองไทยในยุคต้นๆ ได้แก่ บริษัทมิ่นแซจำกัด ผลิตตรานกแก้ว ตรารถกูบ บริษัทตังอาจำกัด ผลิตตรามิกกี้เม้าท์ ตราแมวเฟลิกซ์ บริษัทไทยไฟ ผลิตตรา 24 มิถุนา เป็นรูปพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นที่ระลึกในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มาเป็นระบอบประชาธิปไตย บริษัทเอเซียไม้ขีดไฟจำกัด ผลิตชุด ก.ไก่ ข.ไข่ บริษัทสยามแมตซ์แฟ็กตอรี่ ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นบริษัทไม้ขีดไฟไทย ผลิตตราธงไตรรงค์ ตราพระยานาค ซึ่งมีขายมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้


ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : กระทรวงวัฒนธรรม



Credit :: teenee.com
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 สิงหาคม 2008, 01:11:PM
เพรางาย
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 553
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,312


ทุกคำถามจะนำมาซึ่งคำตอบ


« ตอบ #1 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2008, 01:11:PM »
ชุมชนชุมชน

ได้ความรู้เพิ่มขึ้น  เคยเขียนบทความเกี่ยวกับไม้ขีดไฟเอาไว้  หลังจากที่ได้ดูรายการกบนอกกะลา  วันนี้ได้รู้ย้อนกลับไปอีก

สมัยก่อนเขาสะสมฉลากไม้ขีดไฟ  เพราะไม่มี  ภาพอย่างอื่น  ให้สะสมมากนักแหงๆ เลย

สมัยเราเนี่ยดีจัง  มีหลายอย่างให้เลือกสะสม
บันทึกการเข้า

คนที่กำลังไล่ตามความฝัน  ท่ามกลางความผกผันของเวลา
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s