ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[Alpha]

ว่ากันมา ว่าโลก อนิจจัง
แล้วอะไร จีรัง คิดสงสัย
ว่ากันมา ทุกสิ่ง สลายไป
แล้วอะไร คงอยู่ ชั่วนิรันดร์

ว่ากันมา ว่ารัก ไม่สูญสิ้น
ตราบฟ้าดิน สลาย ว่าไปนั่น
แล้วอะไร ที่เห็น นอกใจกัน
หรือว่าฉัน ต้องปลง อนิจจา

ว่ากันมา ว่ารัก นั้นจีรัง
หรือทุกข์ขัง ถาวร กันแน่หนา
แล้วอะไร ไยรัก กลับร้างลา
สู่ความจริง อนัตตา ไร้ตัวตน
******************************

[*คuขี้IหJา*]

ว่ากันไป มากมาย หลายความคิด
จะยึดติด สิ่งใด ได้คงมั่น
บอกจะรัก ตราบฟ้า ชั่วนิรันดร์
ก็ยังจำ จากกัน ลืมสัญญา

ว่ากันมา คนดี หรือคนชั่ว
หน้าตามัว มืดมิด มือปิดหน้า
ว่าความรัก ที่มัก ทิ่มเข้าตา
ความรักหนา ทำให้ ตาบอดเอย
 

แปลก ๆ ไงไม่รู้อะเรา

[รัศมีธรรมส่องทาง]

รักขม

อย่าตรม

เอาต้ม

ทำยา

[Alpha]

ว่ากันมา ว่ารัก ที่มันขม
อย่าปล่อยใจ ให้ตรม ความเศร้าหมอง
แล้วอะไร ควรทำ ริตริตรอง
หรือจะลอง เอาไป ต้มทำยา
********************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ตาบอด - ตาดี

หมู่นกจ้อง  มองเท่าไร  ไม่เห็นฟ้า
ถึงหมู่ปลา  ก็ไม่เห็น  น้ำเย็นใส
ไส้เดือนก็  ไม่เห็นดิน  ที่กินไป
หนอนก็ไม่  มองเห็นคูถ  ที่ดูดกิน

ก็เหมือนคน  ที่มอง  ไม่เห็นโลก
ต้องทุกข์โศก  ไม่เป็นสุข  อยู่นิจสิน
ส่วนชาวพุทธ  ประยุกต์ธรรม  ตามระบิล
เห็นทุกอย่าง  หมดสิ้น  ตามจริงเอยฯ

หัวข้อธรรมในคำกลอน : พุทธทาสภิกขุ

 

[Alpha]

ว่ากันมา ว่านก ไม่เห็นฟ้า
แล้วนภา นั่นคือ อะไรเล่า
ที่บินท่อง ล่องตาม หมู่เมฆเทา
อยากรู้เจ้า ไม่เห็น เช่นว่าฤๅ

แล้วอะไร ไยปลา ไม่เห็นน้ำ
ที่เย็นฉ่ำ ว่ายแหวก กระนั้นหรือ
เอาอะไร มากล่าว ราวคู่มือ
จะยึดถือ เชื่อได้ อย่างไรกัน

เมื่อตัวฉัน นั่งเครื่อง ร่อนเหินฟ้า
ยังเห็นเลย นภา อากาศนั่น
ยามดำดิ่ง ในน้ำ คลื่นโรมรัน
ก็ยังหัน แลเห็น กระแสชล

ว่ากันมา ว่าคน ไม่เห็นโลก
จึงต้องเศร้า ทุกข์โศก ทั่วแห่งหน
แล้วอะไร ที่บัง ดังเล่นกล
จึงซ่อนโลก ได้พ้น จากสายตา
******************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  ว่ามองเห็น  กันทุกสิ่ง
แต่ที่จริง  เห็นได้  แท้จริงไหม
เห็นภายนอก  เหมือนสิ่งหลอก  ฉาบทาไว้
ไม่เห็นใน  ความจริง  ที่มีมา

ว่ากันมา  ที่คน  ไม่เห็นโลก
ต้องทุกข์โศก  เพราะกระไร  นั้นเล่าหนา
เพราะไม่รู้  ถ่องแท้  เท่าทันนา
จึงเป็นทาส  อวิชชา  อยู่ร่ำไป

ถ้าหากมอง  เห็นจริง  ดังที่กล่าว
คงไม่เศร้า  ทุกข์ตรม  กันใช่ไหม
รู้ทันตาม  ความจริง  ทุกสิ่งไป
ก็จะไม่  เป็นทุกข์อย่าง  ที่กล่าวเลยฯ

 

[Alpha]

ว่ากันมา ว่าหลง อวิชชา
สิ่งลวงตา บังปิด ความจริงไว้
จึงต้องเศร้า ทุกข์ตรม อยู่ร่ำไป
เฮ้อ...เมื่อไหร่ จะเห็น ความจริงกัน

แล้วอะไร ที่บอก สัจธรรม
ให้น้อมนำ มองเห็น เพียงภาพฝัน
หรือนี่ก็ ส่วนหนึ่ง ที่กางกั้น
เอ๊ะ...หรือฉัน รู้เพียง ทฤษฎี
*****************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  สัจธรรม  มองอย่างไร
ดูดูไป  เหมือนเป็น  เพียงภาพฝัน
สำคัญว่า  เธอดู  อย่างไรกัน
เธอจึงเห็น  เป็นภาพฝัน  กางกั้นใจ

ถ้าเพียงมอง  ตามเข้าใจ  อย่างชาวโลก
จึงทุกข์โศก  เพราะอวิชชา  พาสงสัย
ปัญญาจึง  ไม่ได้เกิด  ความเข้าใจ
ที่มองไป  เพียงแค่คิด  ทฤษฎี

หากเรามอง  ด้วยปัญญา  เข้าใจแท้
ก็จะแล  เห็นตามจริง  ไม่หลีกหนี
รู้เท่าทัน  สิ่งทั้งปวง  ใยจะมี
ความทุกข์ลี้   ไกลห่าง  สว่างเอย ฯ

 

[Alpha]

ว่ากันมา ผืนน้ำ สะท้อนฟ้า
ตลอดกาล เวลา มิเปลี่ยนผัน
ว่ากันมา ว่าจริง ทุกคืนวัน
สัจธรรม ของฉัน มิแปรไป

ภาพท้องฟ้า สะท้อน อยู่ในน้ำ
มีใครเคย เอ่ยถาม ดูบ้างไหม
กับคำกล่าว โบราณ ที่ว่าไว้
ว่านี่หรือ หนึ่งใน สัจธรรม
***************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  ผืนน้ำ  สะท้อนฟ้า
เป็นสัจธรรม  ไม่ร้างลา  แปรเปลี่ยนผัน
แต่คิดดู  เป็นไป ได้  อย่างไรกัน
ฟ้าน้ำนั้น  ก็ไม่เที่ยง  เสมอไป

หากวันนึง  น้ำเหือดแห้ง  แล้งลงไป
ฟ้าจะสะท้อน  เงาใดใด  ที่ตรงไหน
หรือวันนึง  ไม่มี  ขอบฟ้าไกล
แล้วสิ่งใด  จะมี  ได้จีรัง

สัจธรรม  ก็คือธรรม  ที่มีอยู่
โปรดจงดู  ว่าอันใด  ไม่ขึงขัง
สิ่งใดเกิด  ย่อมดับไป  ไม่จีรัง
ไม่อาจตั้ง  อยู่ไป  ไร้ตัวตน

 

[Alpha]

ว่ากันมา ธรรมะคือ ธรรมชาติ
เดินชายหาด มองทะเล ที่กว้างใหญ่
ก็ยังเห็น สะท้อนฟ้า อยู่ร่ำไป
ก็นี่ไง ธรรมชาติ เขาสร้างมา

แล้วอะไร มาบอก ไม่จีรัง
บอกว่ายัง ไม่แน่ แท้จริงหนา
เช่นนั้นแล้ว ธรรมที่ มีอยู่มา
แน่หรือว่า หาได้ ความแน่นอน
*******************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  สรรพสิ่ง  ล้วนเกิดดับ
ต้องล่วงลับ  ไปสิ้น  ไม่เหลือหรอ
เกิดแล้วต้อง  ดับไป  ไม่รีรอ
แม้จะขอ  อย่างไร  ก็ไม่ฟัง

น้องนางเจ้า  โปรดเข้า  ใจสักนิด
อย่าเห็นผิด  คิดใหม่  ไม่ขึงขัง
ไม่มีสิ่ง  ใดหรอกเจ้า  อยู่จีรัง
โปรดได้ฟัง  คำข้าฯนี้  วิสัชนา

ตามที่กล่าว  ธรรมะคือ  ธรรมชาติ
มีเกลื่อนกลาด  ที่เป็นอยู่  แท้จริงหนา
แต่อย่างไร  ก็ไม่พ้น  ความอนิจจา
ไม่เที่ยงว่า  จะอยู่ไป  ไม่มีวาย

โลกกว้างใหญ่  ผืนน้ำ  มหาสมุทร
ก็สิ้นสุด  เมื่อโลก  ดับสลาย
ตามทฤษฎี  บิ๊กแบง  ของไอน์สไตร์
ได้ช่วยคลาย  กำเนิดดาว  โลกจักรวาล

พระอาทิตย์  ยังมีวัน  ที่จะดับ
ดวงจันทร์ลับ  ดับแน่  ไม่แปรผัน
โลกจะอยู่  ตลอดไป  ที่ไหนกัน
เพราะฉะนั้น  น้องนาง  โปรดพิจารณา

อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา
กฎไตรลักษณ์  ธรรมา  ต้องศึกษา
เพื่อรู้แจ้ง  ตามรอย  พระศาสดา
ทุกข์ไม่หา  เป็นสุขได้  ทุกคืนวัน

 

[คนรักษ์ถิ่น]

ว่ากันมา..อนิจา..ไม่เที่ยงแท้
โลกผันแปร..ทุกยุค..ทุกสมัย
ว่ากันมา..ว่าแล้ว..ก็ตอบไป
ทำยังไง..ถึงได้..เข้าใจกัน
..องค์พระพุทธ..ท่านหยุด..ตรงจุดนี้
มรรค์นั้นมีองค์แปด..มาดับขันธ์
เป็นหนทางดับทุกข์ในโลกัน
เพราะจริงนั้นมีทุกข์..สมุทัย
มี..นิโรจน์.มีมรรค์..ที่องค์แปด
..อยากช่วยบอก..ให้งงหายสงสัย
ว่ากันมา..ว่าแล้วก็ว่าไป
ทำยังไง..ฉันก็งง..สงสัยตาม
 

[Alpha]

ว่ากันมา...ปริศนา แห่งพระธรรม
อ่านกี่ครั้ง กี่คำ ก็สงสัย
อาจเป็นเพราะ ลึกล้ำ จนเกินไป
เอ...หรือไม่ ก็ฉัน นั้นโง่เอง

แล้วอะไร...ได้โปรด ช่วยชี้แนะ
ค่อยครุ่นแคะ ความคิด ที่โหรงเหรง
ให้รู้เท่า รู้ทัน มิกลัวเกรง
อย่าปล่อยให้ คว้างเคว้ง ในภวังค์
**********************************

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  ปริศนา  ในพระธรรม
ที่ต่างพร่ำ  สอนกันไป  นั้นมากหลาย
แต่ชาวโลก  ไม่รู้ทัน  ทั้งใจกาย
จึงมิได้  นำพา  น่าเศร้าใจ
 
แล้วอะไร  วุ่นวาย  หาที่พึ่ง
จึงเที่ยวดึง  เที่ยวดัน  พลันสงสัย
ว่าธรรมะ  ที่แท้  อยู่ที่ใด
มัวหาไป  แล้วเมื่อไร  ได้รู้ความ

อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา
หรือเรียกสา  มัญลัก  ษณะสาม
คือไม่เที่ยง  เป็นทุกข์ไร้  ทั้งรูปนาม
ไม่ควรตาม  ยึดมั่นถือ  เพราะไม่จริง

อริยสัจ  ทรงตรัส  โปรดชาวโลก
ให้หยุดโศก  ทุกเศร้า  เคล้าผีสิง
เมื่อเจอทุกข์  ให้หาเหตุ  ต้นตอจริง
ดับทุกข์ยิ่ง  ด้วยมรรคแปด  เป็นแนวทาง

หากดำเนิน  ตามรอย  พระบาทนี้
ก็เห็นที  มีทางพ้น  วัฏฏ์เมินหมาง
จงดำเนิน  ด้วยวิธี  ทางสายกลาง
ให้ปล่อยวาง  ความถือมั่น  ในใจกาย

 

[เพลงผ้า]

รสพระธรรม คําสอน ศาสนา
ด้วยปัญญา นั้นยัง ไม่หยั่งรู้
เพราะท่านช่วย ชี้แนะ แกะให้ดู
เป็นดั่งครู สั่งสอน จนแจ้งใจ

ขอนับถือ ชื่อนี้ รัสมีธรรม
ที่ชี้นํา แจกแจง แถลงไข
ทุกถ้อยคํา วาจา น่าเลื่อมใส
สมควรให้ ด้วยเหรียญ เปรียญเก้า

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  ยกย่อง  รัศมีธรรม
เป็นผู้นำ  ชี้แจง  แถลงไข
จึงมาขอ  โมทนา  มาจากใจ 
สุขนั้นให้  เกิดแก่ท่าน  กันทุกคน

น้องเพลงผ้า  วาจา  ช่างอาจหาญ
แสนเบิกบาน  ด้วยกวี  ที่ฝึกฝน
มีวิชา  ความรู้  จักช่วยดล
ให้เกิดผล  มีปัญญา  น่าดีใจ

หวังเพียงช่วย  เผยแผ่  คำสั่งสอน
เป็นบทกลอน  พระธรรม  นำจิตใส
ให้กิเลส  ตัณหา  ลดจากใจ
ร่วมทางไป  มรรคผล  ดลนิพพาน

ขอขอบคุณ  กำลังใจ  ที่มีให้
เป็นแรงใจ  ได้นำไป  พ้นสงสาร
ขอให้ท่าน  ได้เห็นธรรม  นฤพาน
ทุกวันวาร  มีแต่สุข  ไม่ทุกข์เลย

 

[เพลงผ้า]

ว่ากันมา ควรแล้ว ที่ยกย่อง
สมเป็นทอง เนื้อแท้ แก่พระธรรม
ให้ข้อคิด สะกิดใจ ลดในกรรม
อย่าถลํา เข้าห่วง ของบ่วงมาร

มาชื่นชม ด้วยเนื้อ ของผืนผ้า
งามนักหนา ถักทอ ก่อประสาน
ช่วยขัดเกลา จิตใจ สร้างผลงาน
เมื่อได้อ่าน บทกลอน จึงย้อนดู

แต่ละบท ของกลอน ซ่อนความหมาย
สาธยาย เรื่องเล่า ของความรู้
หากจะเปรย เปรียบเทียบ คือประตู
ก้าวเข้าสู่ มรรคผล จนนิพพาน
 

[รัศมีธรรมส่องทาง]

ว่ากันมา  เพลงผ้า  มายกย่อง
แม่เนื้อทอง  คนดี  มีความเห็น
มาชื่นชม  ยินดี  ทุกเช้าเย็น
มิได้เป็น  เช่นว่า  น่าเศร้าใจ

ผมเป็นเพียง  ผู้ศึกษา  ผู้อาภัพ
มุ่งตรงดับ  ทุกข์ทั้งปวง  ที่สงสัย
ได้อาศัย  พระธรรม  นำใจไป
ได้สดใส  สงบ  สว่างพลัน

แต่ความรู้  เท่าทัน  ยังน้อยนิด
ในดวงจิต  ยังข้องยึด  กิเลสผัน
ยังสุขทุกข์  เปลี่ยนแปร  ทุกคืนวัน
เราท่านนั้น  ยังเหมือนกัน  นะเพื่อนเอย

แต่ได้มา  มีโอกาส  ได้ประสบ
หวังได้พบ  ดวงแก้ว  ที่เฉลย
จึงชักชวน  เพื่อนพ้อง  น้องพี่เอย
ให้ได้เกย  ถึงฝั่ง  พระนิพพาน

ขอขอบคุณ  ที่มี  ไมตรีจิต
ทั้งชีวิต  มอบให้  ได้สืบสาน
ได้บำเพ็ญ  บุญใหญ่  ธรรมทาน
ซึ่งเป็นงาน  ที่เบิกบาน  เมื่อทำไป

หากมีใคร  ต้องการ  ช่วยวานบอก
หนังสือธรรม  ซีดี  ได้ช่วยไข
ยินดีส่ง  ไปให้  ทุกผู้ไป
ขอเพียงให้  ร่วมศึกษา  ได้มาดู

อนุโม  ทนา  สาธุการ
แก่ทุกท่าน  ที่มีใจ  ไม่อดสู
ขอให้สิ่ง  ที่ดี  จงพรั่งพรู
ได้เชิดชู  ด้วยธรรม  นำหทัย

ขอให้เพลง  เจริญไป  ในธรรมะ
ได้แจ่มจะ  สว่างจ้า  จิตสดใส
มีแต่ความ  สุขล้ำ  ทุกวันไป
ได้เดินไป  สู่ทาง  อันร่มเย็น