ข้ามันลูกทุ่ง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 มกราคม 2025, 12:15:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้ามันลูกทุ่ง  (อ่าน 107 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เมื่อวานนี้
จ้าวทุ่งภูเขาทอง
LV2 วัยเร่ร่อนผจญภัย
**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9



« เมื่อ: เมื่อวานนี้ »
ชุมชนชุมชน

อยู่กับทุ่งกับท่า ข้าลูกทุ่ง
ที่คนกรุง ชิงชังดังบ้านป่า
เรียกบ้านนอกคอกตื้อคือชาวนา
ข้าก็อยู่ของข้า ประสาควาย

เอ็งกรีดกรายฉายเล่ห์เสน่ห์ฟุ้ง
หอมจรุงเครื่องเคราเช้าจรดบ่าย
ข้ากลิ่นฟางฟอนฟัดระบัดกาย
ก็ใช่หมายว่าเหม็น ประเด็นมี

เอ็งเดินห้างกางโก้โชว์หวาบหวิว
ผ้าขาวม้าข้าก็ปลิวลิ่วทุกที่
ห้างนาน้อยลำประโดงโค้งนที
ข้าสุขปรี่มิพกตังค์ดั่งคนกรุง

สวรรค์ใครสวรรค์มันล้วนสรรสร้าง
ขออยู่นาป่าร้างสร้างเตาหุง
เคเอฟซี เอ็มเค.เก๋จรุง
สู้ผักบุ้งน้ำพริกข้า.อย่ามาเทียม.

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, แป้งน้ำ, ViVee, นานะ, โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
เมื่อวานนี้
ViVee
LV6 ศิลปินเอกแห่งตำบล
******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 68



« ตอบ #1 เมื่อ: เมื่อวานนี้ »
ชุมชนชุมชน

แม้นมิได้เป็นชาวนาอยู่กลางทุ่ง
ก็มิได้อยู่เมืองกรุงมุ่งถือเสียม
ตื่นเช้ามืดหุงหาพาจัดเตรียม
ก้นหม้อข้าวไหม้เกรียมเทียมถ่านฟืน

บางวันบ้างถือจอบพร้อมหมวกสาน
เป็นชาวบ้านทำสวนชวนแช่มชื่น
ผลผลิตออกดอกเพียงข้ามคืน
ก็ระรื่นยินดีได้ทุกวัน

งานหลายหน้าพาทำไร้วันหยุด
ไม่มีหมุดพักร้อนมานอนฝัน
ไม่มีแม้โบนัสอันสำคัญ
ที่คนกรุงหมายมั่นยามท้ายปี

มีแต่เพียงยอดแขนงแข่งยอดไม้
แม้นแสงแดดแผดใส่จนเปลี่ยนสี
ยังได้น้ำฉ่ำรดรื่นขจี
ใต้ฟ้าครามแห่งนี้คือบ้านเรา

คนเมืองกรุงจึงแขยงพวกเรานัก
ยามกลิ่นเหงื่อเรื่อทักดูขลาดเขลา
ดูซ่อมซ่อเหมือนขอทานยามจ้องเอา
ไม่มีเค้าราศีของคนรวย

สุขของเราเขานั้นมันแตกต่าง
สิ่งที่สร้างคือจิตใจไม่เจ็บป่วย
ถ้อยคำที่ถากทางอย่างเป็นมวย
มิได้ช่วยยกเจ้าแต่อย่างใด.

ViVee

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, นานะ, โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

11 ชั่วโมงที่แล้ว
นานะ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 90
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 45



« ตอบ #2 เมื่อ: 11 ชั่วโมงที่แล้ว »
ชุมชนชุมชน


เสียงปี่ซังหลังเคียวเกี่ยวข้าวเสร็จ
ข้าวสะเด็ดน้ำพร้อมหอมข้าวใหม่
ที่ลอยลมผ่านนามาแต่ไกล
คือกลิ่นฟาง กลิ่นไฟ ถ่านในเตา
เก็บผักบุ้งริมนาหน้าน้ำหลาก
ตำเครื่องปรุงแกงจาก สาก ครกเก่า
ชิมรสปรุงมือยาย ถูกใจเรา
รู้สึกเข้ากันได้กับไข่เจียว
หลังล้อมวงกินข้าวเราล้างจาน
รอนักเล่านิทาน ท่ามจันทร์เสี้ยว
เห็นหิ่งห้อยพริบพราวดุจดาวเชียว
ประเดี๋ยวเดียวมุ้งกาง อย่างตั้งใจ

เรา…ตื่นหลับนับดาวจนเก้าขวบ
เวลารวบรัดเรื่องสู่เมืองใหม่
ก้าวเท้าออกนอกอกนกบินไกล
ฮึบ! น้ำตาซ่อนไว้เดี๋ยวยายรู้

ปิดเทอมใหญ่อยากฟังปี่ซังข้าว
และเรื่องราวมากมายหลายเช้าตรู่
สูดลมเมืองฝุ่นคลุกทุกฤดู
นอนคุดคู้ห้วงจิต ‘คิดถึงยาย’
หนอ...รอวันซบตักเรือนรักแรก
ได้ยินเสียงนกแสก ใจแตกสลาย
ดาวตกจากฟากฟ้าจนตาลาย
กลิ่นควันธูปกระจายถึงปลายนา

จึงขาดการเยี่ยมเยือนและเรือนร้าง
นานนานทีมีบ้างเดินทางหา
มองจันทร์ผ่านหมอกเมือง เริ่มเคืองตา
ยายยิ้มร่ามองหลาน…จากจันทร์แล้ว!

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แค่รู้ว่า ที่ นี่ มี ฉั น แ ล ะ มี เ ธ อ เ ป็ น จุ ด ห ม า ย ข อ ง ค ว า ม ผู ก พั น ก็พอ  ยิ้มแบบรักนะ..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s