|
29 ตุลาคม 2007, 11:28:PM |
VJ - Kim
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2007, 11:28:PM » |
ชุมชน
|
ผมมีกลอนที่อยากจะแนะนำให้คุณ webmaster ลองอ่านและวิจารย์ดูน่ะครับ ดูแล้วจะเป็นกลอนที่บอกความหมายถึง ความมีมานะพยายาม และชนชั้นอะไรแบบนี้น่ะครับ... ชื่อกลอนนั้นก็คือ....ชนชั้น... ส่วนที่มานั้นคือผมเป็นคนแต่งเองเมื่อประมาณ 3 - 4 เดื่อนที่ผ่านมา แต่ไม่มีโอกาสที่จะเสนอ.. แม้จะสูง เทียมฟ้า เกินกว่าเอื้อม เฝ้าคอยเตือน ใจเจ้า อย่าหลงไหล อย่าคิดว่า เราต่ำ กว่าใครใคร จงมั่นใจ ฟันฝ่า และอดทน ถึงฐานะ ต่างชนชั้น อย่าไปคิด ถึงจะผิด เส้นทาง อย่าสับสน กลัวทำไม เราก็เกิด มาเป็นคน แค่ความจน อย่าให้เผา เข้าจิตรใจ
จงตั้งมั่น ทำในสิ่ง ที่เคยคิด จงผลิต ความฝัน อย่างสดใส ค่าของคน อยู่ที่คน อยู่ที่ใจ ให้รู้ไว้ ถึงจะจน ก็คนจริง.. โดย...VJ - Kim....นิราศสุโขทัย...
ยังมีอีกนะครับ ผมลองนำมาเสนอให้คุณ webmaster และเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนอ่านดู ก่อน เดี๋ยวจะจัดมาให้ใหม่...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
16 พฤศจิกายน 2007, 07:33:PM |
ayakoko
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2007, 07:33:PM » |
ชุมชน
|
หกสิบปีครบรอบเถลิงราชย์ ชนทั้งชาติร่วมน้อมเกษมศรี ประดับธงสะบัดชัยทั่วธานี พระบารมีปกเกล้าเหนือแดนดิน แม้ผืนดินไทยระอุร้อน มินั่งนอนทรงเมตตาดับไฟสิ้น ให้สายฝนดับร้อนปลูกแผ่นดิน นวมินทร์สถิตย์ก้องเจ้าชีวัน หกสิบปีพระคุณเลิศแดนสยาม สมญานามกษัตริย์ไทยจารึกมั่น ขอสรรเสริญสดุดีนามนิรันดร์ จอมราชันย์ผู้จุดฝันสร้างประชา ทั้งไทยพุทธ...มุสลิมมิแบ่งแยก มิจำแนกชาติเชื้อไทยต่างภาษา ทั่วพื้นถิ่นดินสยามพ่อรักษา กษัตรา ธ โอบอุ้มแหลมดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
16 พฤศจิกายน 2007, 07:38:PM |
ayakoko
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2007, 07:38:PM » |
ชุมชน
|
ถึงจะโง่โง่เง่าดังเต่าตุ่น... ยังหอมกรุ่นพฤกษากลิ่นราศี ถึงจะโง่เหมือนลาตามวาที... แต่ยังครองความดีมิเสื่อมคลาย เพราะถ้าโง่ก็คงโง่ต่อชั่วช้า... ยังฉลาดจรรยามิรู้หน่าย อันความโง่เขาว่าโง่ก็คงใช่... แต่คนโง่มิได้หมายสิ้นปัญญา แม้ฉลาดดังจิ้งจอกจอมกลอกกลิ้ง... แม้นฉลาดเหมือนลิงจอมมายา แม้นฉลาดดังกระต่ายเจ้าปัญหา.. จงรู้ว่าความฉลาดมิอาจดี อันความโง่ความฉลาดควรมีครบ... โอบแขนนบรับไว้อย่างหน่ายหนี ถึงจะโง่ขอให้โง่แบบรู้ที่... ครั้นฉลาดพาทีควรรู้กาลฯ
ให้คะแนนด้วยนะค่ะ+1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
16 พฤศจิกายน 2007, 08:38:PM |
Alpha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2007, 08:38:PM » |
ชุมชน
|
หกสิบปีครบรอบเถลิงราชย์ ชนทั้งชาติร่วมน้อมเกษมศรี ประดับธงสะบัดชัยทั่วธานี พระบารมีปกเกล้าเหนือแดนดิน แม้ผืนดินไทยระอุร้อน มินั่งนอนทรงเมตตาดับไฟสิ้น ให้สายฝนดับร้อนปลูกแผ่นดิน นวมินทร์สถิตย์ก้องเจ้าชีวัน หกสิบปีพระคุณเลิศแดนสยาม สมญานามกษัตริย์ไทยจารึกมั่น ขอสรรเสริญสดุดีนามนิรันดร์ จอมราชันย์ผู้จุดฝันสร้างประชา ทั้งไทยพุทธ...มุสลิมมิแบ่งแยก มิจำแนกชาติเชื้อไทยต่างภาษา ทั่วพื้นถิ่นดินสยามพ่อรักษา กษัตรา ธ โอบอุ้มแหลมดิน
ถึงจะโง่โง่เง่าดังเต่าตุ่น... ยังหอมกรุ่นพฤกษากลิ่นราศี ถึงจะโง่เหมือนลาตามวาที... แต่ยังครองความดีมิเสื่อมคลาย เพราะถ้าโง่ก็คงโง่ต่อชั่วช้า... ยังฉลาดจรรยามิรู้หน่าย อันความโง่เขาว่าโง่ก็คงใช่... แต่คนโง่มิได้หมายสิ้นปัญญา แม้ฉลาดดังจิ้งจอกจอมกลอกกลิ้ง... แม้นฉลาดเหมือนลิงจอมมายา แม้นฉลาดดังกระต่ายเจ้าปัญหา.. จงรู้ว่าความฉลาดมิอาจดี อันความโง่ความฉลาดควรมีครบ... โอบแขนนบรับไว้อย่างหน่ายหนี ถึงจะโง่ขอให้โง่แบบรู้ที่... ครั้นฉลาดพาทีควรรู้กาลฯ
ให้คะแนนด้วยนะค่ะ+1
รบกวนลงที่มาให้ด้วยนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
16 พฤศจิกายน 2007, 10:50:PM |
webmaster
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2007, 10:50:PM » |
ชุมชน
|
^ ^ ^ กระทู้ บนๆ ให้คะแนนทุกๆคนแล้วนะ แตกต่างกันไป บวก 1-3 คะแนน คุณหนูอินเตอร์หากใส่ที่มาด้วย จะให้บวกเพิ่มอีก 1 คะแนนนะจ๊ะ ไปแก้ก่อนไป๊....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
18 พฤศจิกายน 2007, 12:50:PM |
Alpha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2007, 12:50:PM » |
ชุมชน
|
เว้นวรรคหัวใจโดย นางสาวใบไม้ ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/my_home.php?mid=7439ขอเว้นวรรคให้ความรักได้พักบ้าง ก่อนหัวใจเดินทางอย่างสับสน แม้หวั่นไหวด้วยไร้ใครบางคน จะยอมทนยิ้มรับกับชะตา
ใช่หมดสิ้นในศรัทธาค่าแห่งรัก แต่ประจักษ์ซาบซึ้งถึงคุณค่า ใช่เพียงแค่แววหวานผ่านสายตา หากลึกซึ้งเกินกว่า..ภาษาใด
เคยเรียนรู้ว่ารักไม่เรียกร้อง หรือติดข้องกับการวางเงื่อนไข แต่ความรักต้องการความเข้าใจ ค่อยค่อยเสริมเติมเต็มให้ไม่จืดจาง
หากสิ่งที่ได้รับกับวันนี้ คือช่องว่างหว่างไมตรีที่เหินห่าง เยื่อใยเคยกระชับกลับเบาบาง มองเส้นทางระหว่างเราเงียบเหงาใจ
ขอเว้นวรรคให้ความรักได้พักก่อน พักกับความร้าวรอนและอ่อนไหว เว้นเพื่อว่างวรรคเพื่อวางสร้างแรงใจ เพื่อวันพรุ่งพบทางใหม่ให้ตัวเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
18 พฤศจิกายน 2007, 12:58:PM |
Alpha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2007, 12:58:PM » |
ชุมชน
|
ดินแดนแห่งรักโดย นางสาวใบไม้ ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem103010.htmlจะมีใครกี่คนที่เดินไปถึงดินแดนแห่งนั้น สักกี่คนพร้อมกุมมือกันก้าวไปบนเส้นทางการค้นหา กี่คนแล้ว..กี่คนเล่าที่เคยก้าวผ่านเข้ามา และสักกี่ครั้งกี่ครา..ที่ความหวังต้องพังทลาย
อาจจะไกลแสนไกลจนสุดขอบฟ้า อาจสักกี่ขุนเขาบังตา...ขวางกั้นกว่าจะถึงจุดหมาย อาจต้องข้ามแผ่นน้ำ..ต้องก้าวผ่านทะเลทราย ใครจะเป็นคนสุดท้าย..ที่ยืนรออยู่ปลายทาง
คงจะมีรักจริง..ในดินแดนแห่งนั้น เพียงสักคนเพื่อผูกพัน...เคียงใกล้ไม่เหินห่าง จะไม่ใช่เพียงเงาของความฝันอันเลือนลาง จะมีใครเคียงข้าง...ทดแทนความอ้างว้างเดียวดาย
คนที่เป็นคำตอบของทุกทุกคำถาม คนที่เป็นนิยามของทุกทุกความหมาย คนที่มอบความอบอุ่นละมุนละไมทั้งใจกาย คนที่จุดความสว่างไสวให้ดอกไม้..ทั้งโลกได้เบ่งบาน
....โบยบินสู่ดินแดนแห่งความรัก.. ก้าวสู่อาณาจักรอันงดงามและอ่อนหวาน ที่แห่งนั้นจะมีเพียงเธอฉันตราบนานแสนนาน บทเพลงรักจะก้องกังวาน...ณ ปลายทางที่ใจคอยเฝ้ารอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
18 พฤศจิกายน 2007, 01:04:PM |
Alpha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2007, 01:04:PM » |
ชุมชน
|
หนึ่งใบไม้โดย นางสาวใบไม้ ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem93526.html.....สายฝนบางเบา...... เมฆสีเทากระจัดกระจายในสายลมหนาว อาจค่ำนี้...ท้องฟ้าระยับยิบด้วยแสงดาว อาจคืนนี้...ความปวดร้าวจางหายในสายลม
ฉันเพียงหนึ่งใบไม้ของสายธารเวลา พลิกพลิ้วในทะเลน้ำตาอันเย็นชาและปร่าขม เพียงผู้หญิงธรรมดากับความเหว่ว้าในห้วงอารมณ์ สักครั้ง..ใครชื่นชมก็เพ้อพกเป็นเรื่องเป็นราว
..คิดเอื้อมจะเทียบใครอื่น.. ใบไม้เอ๋ย..ยิ้มชื่นทั้งที่ใจเหน็บหนาว หนึ่งใบไม้ในไพรพฤกษ์..กระไรจะเทียบดวงดาว ดาริกากระพริบพราว..หากใจเจ้ากลับมืดมน
....บทเพลงใบไม้ไหว.... เคยกระซิบสั่งคนไกลให้คลายหมองหม่น มาวันนี้..ท่วงทำนองเดียวดายมีไว้เพื่อปลอบใจตน ถ้าใบไม้สักใบจะร่วงหล่น..จะมีไหมใครสักคนเสียน้ำตา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
18 พฤศจิกายน 2007, 01:25:PM |
Alpha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2007, 01:25:PM » |
ชุมชน
|
บางถ้อยคำโดย นางสาวใบไม้ ที่มา http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem92341.html โดยถ้อยคำอาจไม่ต่างกัน จากใครหนึ่งนั้น...กลับเย็นชาในความรู้สึก หากจากบางใครกลับก้องในทุกอณูสำนึก จนที่สุด....ตกผลึกในความทรงจำ
เพราะถ้อยคำของเธอเป็นความหวานของใจ เป็นสายธารรินไหล...ผ่านเนื้อใจอันชื่นฉ่ำ เป็นความอุ่นละมุน...แม้ยามสายฝนพรำ เป็นบทลำนำเอื้อนเอ่ยกล่อมขวัญ..ยามนิทรา
..นับแต่นี้ไป... อีกกี่ยาวไกลกับหนทางที่ทอดไปข้างหน้า เพื่อฉันจะมีเธอเป็นความหมายของวันเวลา เถิดนะ..เพียงว่านาทีนี้เราต่างมีกันและกัน
"คิดถึงนะ..เหนื่อยไหม...คนดี" วลีสั้นสั้นเท่านี้..อาจดูคล้ายไม่เลือกสรร แต่คือสายใยที่เชื่อมเราไว้ในวันที่ไกลกัน ถ้อยคำหนึ่งนั้นแทนอีกร้อยล้านคำ..ที่ดังก้องในใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
21 พฤศจิกายน 2007, 11:18:AM |
vendetta
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2007, 11:18:AM » |
ชุมชน
|
ถ้าเธอเป็นฝน ฉันจะเป็นที่รองน้ำ ถ้าเธอหน้าดำ ฉันจะทำให้เธอหน้าแดง ถ้าเธอยิ้มแฉ่ง ฉันจะแกล้งเธอร้องไห้ ถ้าเธอหวั่นไหว ฉันจะทำให้เธอเข้มแข็ง ถ้าเธอออ่อนแรง ฉันจะเพิ่มพลัง ถ้าเธอพูดเสียงดัง ฉันจะผ่อนวอลุ่ม ถ้าเธอเสียงทุ่ม ฉันจะปรับเสียงถี่ ถ้าเธอกลัวผี ฉันจะคอยคุ้มภัย ถ้าเธอจะไป ฉันจะขอให้อยู่ ถ้าเธออยากรู้ ฉันก็จะบอก ฉันจะไม่หลอก ว่าฉันรักเธ�
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:28:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:28:AM » |
ชุมชน
|
มันทนพาธา (อินทรวิเชียรฉันท์ 11)ปรากฎ เมื่อราวๆปี 2510 โดยชมรมกลอนจุฬา ยามใดมิได้เห็น จิตะเช่นพระเพลิงสุม
ร้อนผ่าวฤทัยชุม ชละอาบฤดีครวญ
รักนี้ประหลาดนัก ฤ จะหักก็กำสรวล
ชอกช้ำกมลจวน อุระร้าวจะทนทาน
เมื่อเห็นก็เป็นสุข นิระทุกข์ประจักษ์มาน
ดั่งทิพย์สุธาธาร ปฏิโลมลุบรรจง
ทั้งรู้จะผิดหวัง มนะยังเตลิดหลง
คิดลืม มิเลือนลง ดุจะเพิ่มทวีคูณ
บาปใดนะเคยทำ ผละนำมนาดูร
รักเขา บ่ เกื้อกรูล จะติใครก็ใจเรา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:33:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:33:AM » |
ชุมชน
|
มองดวงเดือนคิดถึงดวงใจ จาก คมเย็น http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6068617/W6068617.html
ก่อนดวงเดือน เคลื่อนคล้อย ลอยลับล่วง เหลือดาวดวง ประดับฟ้า คราใกล้สาง ผ่านค่อนดึก นึกถึง คำนึงนาง หนาวน้ำค้าง พร่างฟ้า ผ่านราตรี
ยังคิดถึง คะนึงหา ใช่ลาหาย ห่างเพียงกาย หมายใจ ไม่หลีกหนี นับดวงจันทร์ ผันเวียน เปลี่ยนรวี คอยวันที่ พี่จะคืน ชื่นขวัญตา
โอ้ละหนอ ดึกแล้ว น้องแก้วพี่ ดึกคืนนี้ ยังฝัน รำพันหา ผ่านคืนวัน ว้าเหว่ ทุกเวลา อยากพบหน้า แนบนวล รัญจวนใจ
ดูดวงเดือน เคลื่อนลอย คล้อยหลังเมฆ คืนวิเวก คอยหวัง ยังหวามไหว โอ้ดึกดื่น คืนนี้ ไม่มีใคร นั่งอาบไล้ ละอองจันทร์ ฝันคนเดียว
ในสายลม พรมพร่าง น้ำค้างหนาว ราตรียาว คราวร้าง กลางคืนเปลี่ยว ดูเมฆลอย คล้อยเคลื่อน เดือนรูปเคียว ดังจะเหนี่ยว ใจหนึ่ง ถึงคนไกล
กระซิบเสียง เพียงแผ่ว ให้แว่วหวาน กระซิบผ่าน ลมพลิ้ว ที่หวิวไหว ฝากเสียงหรีด กรีดกริ่ง หริ่งเรไร ฝากดวงใจ ไปด้วย ช่วยรับที
ซับน้ำตา บ่านอง ที่สองแก้ม รับรอยแย้ม ยิ้มใส ด้วยใจพี่ ชื่นน้ำค้าง พร่างฟ้า ในราตรี ชื่นใจนี้ ขอมีใจ ตอบใจมา
รอถึงวัน ฝันสม ได้ชมชื่น หวังรักรื่น ร่วมหอ เสน่หา ร่วมครองคู่ อยู่สุข ทุกเวลา แนบนิทรา ไม่ห่าง ไม่ร้างเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:42:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:42:AM » |
ชุมชน
|
ฝน-ฟ้า-ดิน-ลม จากผู้หญิงคนหนึ่ง http://www.oknation.net/blog/sthnc/2007/10/04/entry-1สายฝนพรำฉ่ำชื้น..................................พรมสกล
เอิบอิ่มดวงกมล.......................................อะเคื้อ
สาดพรูพรั่งนฤมล.................................คนเหม่อ
พราวแผ่วผิวนวลเนื้อ..................สะท้าน คำนึง
ไกลสุดตาฝั่งฟ้า...........................แลลาง..
เกินฝ่าฟันหนทาง..........................ไป่ได้..
เสรีแห่งใจนาง..........................โบยโบก..
ไปสู่ฟากฟ้าได้.....................ใช่แล้ว เสรี..
พสุธากว่ากว้าง......................เกินกล่าว
ยืนหยั่งนานแนบเนา...................ก่อเกื้อ
รับหนักหน่วงใช่เบา...................แบกบ่า
ประดุจพี่โอบเอื้อ.............อุ่นแก้ว พักพิง
ลมโชยพร่างแผ่วพริ้ว...........ปลิวปลาย
สะบัดผ่านผิวกาย........................บ่ยั้ง
นวลหนาวหน่วงทรวงใน.........หายห่อน
รออกอุ่นเคียงข้าง......ห่อหุ้ม กันหนาว [/color]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:44:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:44:AM » |
ชุมชน
|
สานใจ จาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nakamol&month=05-12-2007&group=9&gblog=40...ลมหนาวผ่านผิวเนื้อ.............ไอหนาว
พรมพร่างน้ำค้างพราว................ห่มหล้า
พรมพรูพร่างคำราว....................คำบ่น
พรมพัดผะแผ่วช้า......................ม่านนั้นหมอกเอย
...ลมเพยพัดผ่านพริ้ว..................ยามดึก
เร้าปลุกจิตสำนึก.......................หนึ่งนั้น
บาดผิวผ่าวหนาวลึก....................ถึงจิต
พิษคิดถึงกระชั้น........................เห่ไห้หทัยครวญ
...ราวตรวนตรึงเหนี่ยวรั้ง...............ยังหทัย
โยงมัดรั้งสายใย.........................อุ่นเอื้อ
ใยโยงสู่คนไกล..........................พันผูก
แอบคิดจิตก่อเกื้อ........................ผูกรั้งสายใย
...หนอสายใยมัดร้อย....................เกลียวใจ
พลันขาดวิ่นแหว่งไป.....................หนึ่งข้าง
เพียงเพราะเฉลยนัย......................กลายกลับ เปลี่ยนสิ้น
จึงหทัยเราคว้าง............................โศกแล้วทรวงเอย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:47:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:47:AM » |
ชุมชน
|
repของสานใจ จากhttp://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nakamol&month=05-12-2007&group=9&gblog=40 ..จินตนาพาท่องฟ้า...............แดนสรวง
ผิวผ่าวหนาวถึงทรวง..............โศกเศร้า
ส่งคำฝากลมทวง..................ถามไถ่
ทุกข์อยู่ ฤๅสุขพร้อง..............พรั่งพร้อมรายเรียง..
..เพียงเมฆลอยผ่านฟ้า...........แดนใด
ลองเบิ่งตาแลไป...................เมฆนั้น
เขียนคำรักจากใจ..................แลเด่น
ประทับตรึงด้วยปั้น.................แต่งไว้โดยจินต์ [/b]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
06 ธันวาคม 2007, 09:54:AM |
prtza
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2007, 09:54:AM » |
ชุมชน
|
.... " หลอกฟัน " .... ...... + เสียงรำพึง + ...... จาก sarasiri http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6075157/W6075157.html วงการเมือง "หลอกฟัน" เอาเงินก้อน
ภาพสะท้อน วุ่นวาย ก่อนเลือกตั้ง
เดี๋ยวโยกกลุ่ม เดี๋ยวย้ายพรรค เทาพลัง
ลับ-ลวง-พราง ซ่อนฝัง .. "นักการเมือง"
ทั้งนายทุน ทั้งพรรค โดนหลอกล่อ
ยุทธการณ์ก่อ ต่อรอง ร้อยพันเรื่อง
ระดมพล ระดมทุน หวังครองเมือง
เสบียงตุน กระสุนเปลือง .. ล่อเป้าพราง
ทั้งนายทุน ทั้งพรรค ต่างหัวหมุน
มั่วชุลมุน พัลวัน มัวเทาขวาง
หวังผู้แทน สาดกระสุน ทุกทิศทาง
แจก-โปรย-ขว้าง ทุนเสบียง หูตามัว
เทศกาล หลอกเงินพรรค หลอกนายทุน
ให้หัวหมุน ตาลาย จ่ายกันมั่ว
นักการเมือง(บางคน) กลุ่มการเมือง(บางกลุ่ม) ล่อเป้าชัวร์
ไม่ต้องกลัว พ้นเลือกตั้ง อิ่มพลีมัน
เทศกาล เลือกตั้ง หลายคนชอบ
ได้โกยกอบ ทุนเสบียง เกษมสันติ์
รวมกลุ่มก้อน เข้าประยุทธ์ ล่อ"หลอกฟัน"
ครื้นเครงกัน นักเลือกตั้ง ทรัพย์สมบูรณ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|