ที่แล้วไปไม่นับ กลับมาเริ่มใหม่ by บ้านกลอนไทย klonthaiclub.com
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
30 ตุลาคม 2024, 10:43:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
 
  หน้าแรก ภาพตกแต่งเว็บ ค้นหา ติดต่อเรา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 5 6 7 8 [9]
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่แล้วไปไม่นับ กลับมาเริ่มใหม่  (อ่าน 136812 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 มีนาคม 2023, 06:21:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #160 เมื่อ: 09 มีนาคม 2023, 06:21:PM »

     

     
                      บาทสกุณี
           


                  กลบทผสม


สุมซอนรัอนเร่าเพลิงเริงเพลง
เร้าเร่งรุมแรงแสงแข่งเสียง
ค่อยควรคุมควบเยี่ยงพอเพียง
สร้อยเสี่ยงเศร้าแสนเผลอเหม่อเพลิน




เลือนอย่าลาพงศ์ผู้     เพื่อนพ้อ(ออ(เจ้า)เอง)


เพลงเริงเพลิงเร่าร้อน     ซอนสุม
เสียงแข่งแสงแรงรุม     เร่งเร้า
เพียงพอเยี่ยงควบคุม     ควรค่อย (พลอยเฮย)
เพลินเหม่อเผลอแสนเศร้า     เสี่ยงสร้อย(พลอยหวล)

มายาปนล้นลามในความจริง     โลกสองสิ่งตรงข้ามในความผวน
มายาปัดสัตว์เขวคนเรรวน     โลกสองส่วนมิเห็น ฤ เป็นคน

ไม่มีจ(ริ)ตพิศหางก็ว่างหัว     
ไม่มีตัวเพียงชื่อคือเหตุผล
ไม่มีจริงสิ่งหมายว่ากายคน
ไม่มีตนคืนกลับลับอย่าคอย

กุหลาบขาวราวพุทธพิสุทธ์ธรรม
กุหลาบดำคงใคร่ค่าใช้สอย
กุหลาบเขาเจ้าคู่ภูสูงลอย
กุหลาบดอยจึงหนาวทนร้าวใจ






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, โซ...เซอะเซอ, พิณจันทร์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 มีนาคม 2023, 07:26:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #161 เมื่อ: 13 มีนาคม 2023, 07:26:PM »

       
                     
    เพลงขอมสุวรรณ เถา

(สามชั้น)
ขอเดชะ ฝ่าละออง ธุลีพระบาท
บงกชมาศ ปกเกล้า เกษมสานต์
ข้าพระบาท ขอกราบ ทูลการณ์
ผิดพลั้ง ขอประทาน ซึ่งอภัย

ได้ยิน ข่าวฤา ระบือมา
ว่าพระร่วง พ่อเมือง ผู้ใหญ่
ผู้ครอบครอง ละโว้ นั้นไซร้
ชาวไทย นิยม บารมี

(สองชั้น)
ชาวไทย รักใคร่ พระร่วงนัก
ชวนชัก เชื่อถือ อย่างเต็มที่
จนเขาว่า วาจา ก็สิทธี
พอวจี เธอลั่น พลันสมปอง

(ชั้นเดียว)
ชาวไทย เข้าไป สู่ละโว้
มากอะโข เล่าฤา ระบือก้อง
ว่าพระร่วง มีบุญ เรืองรอง
และคิดปอง จะกู้ คณาไทย"


           

           
           

  เกือบดีละ เผลอพลาดจุดสำคัญจุดนึง
   ครั้งนี้ฝีกมากฝีกนานฝึกยากจริง


หลายแลแน่น้องครองปองใคร
เฝ้าใฝ่ฟายเฟือหวังดั่งไหว
คลี่แคลงคลายคลุมจ่างวางใจ
ชี้ใช่เช้าชนคืนชื่นเคียง
/

กุหลาบดอยจึงหนาวทนร้าวใจ

ใครปองครองน้องแน่     แลหลาย
ไหวดั่งหวังเฟือฟาย     ใฝ่เฝ้า
ใจวางจ่างคลุมคลาย     แคลงคลี่ ดีแล
เคียงชื่นคืนชนเช้า     ใช่ชี้ดีหลาย

ใจมีเจ็บเหน็บหนาวนะสาวหนุ่ม     หากแคลงคลุมระแวงจักแหนงหน่าย
ใจมีจริงมิ่งมิตรคิดเคียงกาย         หากแคลงคลายพึงรักสมัครกัน

หวังจะเลือกเกลือกกล้ำทำไฉน     คืดจงไกลลึกตื้นฝืนหรือฝัน
หวังจะเลิกเบิกบ่ามตามกระนั้น     คืดจงกลั้นใหม่เก่าไหนเข้าตา

รักเผื่อลองน้องพี่มึคน ครึ่ง        หลังครั้งหนี่งแน่สองต้องตามหา
รักเพื่อเล่นเน้นหนักรักแล้วลา    หลังครั้งหน้าเรื่อยนานส้นดานแล













   






 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 มีนาคม 2023, 07:21:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #162 เมื่อ: 22 มีนาคม 2023, 07:21:PM »

       

             
           อะไรของล้านนา ผมค่อนเว้น
นาฏศิลป์ คีตศิลป์ จะว่าไม่สวย ไม่เพราะก็ไม่จริง ล้านนานะ คือ ถิ่นไทยงาม ใครก็ยอมรับ
ครั้งนี้ เป็นการ เทิดพระเกียรติ พระราชชายาเจ้าดาราร้ศมี

                    ม่านแม่เล้

                   

                   


        ม่าน=ชาวพม่า   
        แม่เล้=คำเรียกตัวเองของหญิงสาวชาวพม่า


        กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ

จบกลอนเจ็ดสัมผัสถอยหลังเข้าโคลงสึ่สุภาพสุนทรภู่   แหะ ทุกคนคง เฮ้อ โล่งใจ จะได้เลิก(...เครียดกะมึ.จิ๊ง…) ซะที สรุป ได้เคล็ดการแต่งให้ได้ตามฉันทลักษณ์ เพียงสำนวนความ ยัง ไม่สละสลวยสมบูรณ์

กลบท สำหรับผม เป็นสิ่ง ที่น่าชื่นชม เพียงแต่ไม่ใช่ว่า ผมจะชื่นชอบทั้งหมด ส่วนมาก คำประพันธ์ ที่มากข้อบังครับ ฉันท์ลักษณ์ยาก สลับซับซ้อน ก็ยากที่จะแต่งได้ ความ สมบูรณ์ อย่างเช่นคำกล่าว กลอนพาไป
 จึงขอ ชื่นชมอัจฉริยภาพทางฉันทลักษณ์กวี
แต่ที่ทั้งชื่นชม ชื่นชอบตลอดกาลก็มี หนึ่งก็คือ 1,สร้อยสลับคู่สะคราญ ผมค้นไม่เจอว่าใครคือผู้ประพันธ์ต้นแบบ ซี่งน่าจะปรับแปลงจาก 2,สร้อยคู่สะคราญ ของ
                         (คุณชาญชนะ ฆังคะโชติ) ผู้ประพันธ์ต้นแบบ

                         เมื่อกายแกร่งแข็งจิต ใฝ่คิดฝาก
                         ผลงานจากชีวิต ใฝ่คิดฝัน
                         เรียบเรียงถ้อยร้อยพจน์ บทรำพัน
                         ร่วมสร้างสรรค์ภาพพจน์ บทรำพึง

                         ด้วย สร้อยคู่สะคราญ ผลงานนี้
                         ฝากไว้ที่วงการ ผลงานหนึ่ง
                         มิอาจหวังจะให้ ใครติดตรึง
                         ขอเพียงครึ่งหัวใจ ใครติดตาม

                         ปีสองสี่คิดได้ ไม่คิดหวง
                         ใครตักตวงเล่นได้ ไม่คิดห้าม
                         สร้อยคู่สะคราญเห็น เป็นนิยาม
                         อย่ามองข้ามความเห็น เป็นนิยาย

                         ขอปลอบขวัญคนที่ มีความหมอง
                         ยินร้อยกรองกลนี้ มีความหมาย
                         คนรักเคยเคียงคู่ อาจดูดาย
                         เล่นลวดลายให้รู้ อาจดูดี

                         นักเลงกลอนร้อนใจ ไม่หลบหน้า
                         ร่วมศรัทธาคว้าไว้ ไม่หลบหนี
                         เล่นกลกลอนสนุก ทุกท่าที
                         เสริมศักดิ์ศรีมีสุข ทุกท่าทาง

                         นำเน้นมาอย่าเห็น เป็นตัวยุ่ง
                         เพียรมั่นมุ่งให้เห็น เป็นตัวอย่าง
                         งาม สร้อยคู่สะคราญ สวย ด้วยสื่อกลาง
                         เชิญชวนสร้างสรรค์ชื่อ ด้วยสื่อกลอน

                        .....-๐ ชาญชนะ ฆังคะโชติ ๐-.....
                           จาก หนังสือ ลีลา อารมณ์

(เครดิต และ ขอบคุณ )

              ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม
               ...-๐  Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)
….แห่งเว็บ บ้านกลอนน้อย
       …………..


กลบทประสม

คนคำย้ำเยี่ยงพลาดบาดแผล
แย้งแหย่ยลยินเอือมเสื่อมเสีย
พล่อยเพียงพลพรรคแค่แฉเชียร์
ละห้อยละเหี่ยแห้งระแหงหัวทั่วธาร

                     

     หลังครั้งหน้าเรื่อยนานส้นดานแล


แผลบาดพลาดเยี่ยงย้ำ     คำคน
เสียเสื่อมเอือมยินยล         แหย่แย้ง
เชียร์แฉแค่พรรคพล         เพียงพล่อย ถอยรา
ธารทั่วหัวระแหแห้ง       ละเหี่ยละห้อยถอยหรือ

รักเธอมากจากใจเยื่อใยจิต     เพราะรักคิดปกป้องย่องเทิดถือ
รักเธอหมายจ่ายจองทองทุ่มซื้อ   พราะรักคือตรงตรองไม่หมองตรม

แน่ะไม้นั่นผันผกนกนี่หว่า     คำมีค่าเทียบทองกองทับถม
แน่ะไม้นกผกผินลิ้นคารม     คำมีคมสะบั้นบาดขาดเยื่อใย

มอบด้วยรักพรักพลีไม่หนีหน่าบ   จักมิหายพร้อมพร่ำคำเฝ้าใฝ่
มอยด้วยรับจับแจกแลกจากใจ     จักมิให้หน้าน้องนองน้ำตา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 มีนาคม 2023, 07:38:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #163 เมื่อ: 28 มีนาคม 2023, 07:38:PM »

     

     

      โคลงสี่สุภาพ

ผม ระดับ นักกลอนสมัครเล่นเคยบอกว่า เพิ่งรู้ว่า โคลงต่างๆมีจำนวนมาก จนท้อว่าถ้าจะฝึกทั้งหมดคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิต
วันนี้ ได้ข้อสรุปว่า ถ้าฝึกโคลงสี่สุภาพได้ โคลงที่เหลือทั้งหมดก็คือ ประวัติศาตร์เพื่อศีกษา ของกวีระดับครู  ระดับผมแต่งได้ แต่งไม่ได้  ได้แต่ง ไม่ได้แต่ง ก็ ไม่จำเป็นแล้ว เพราะ โคลงสี่สุภาพ คือหลอม เจียรไน โคลงอื่นทั้งหมดขึ้นมาใหม่ได้ สุดยอด สง่างาม สูงศักดิ์ ล้ำลึก ไพเราะ สุดยอดแล้ว ผมเองยกว่าเป็นราชา คำประพันธ์ร้อยกรองไทย เบียดแซง ฉันท์ เป็นราชินี แล้ว
   ผมชื่นชอบโคลงสุนทรภู่ แต่ ถ้าจะชื่นชม ก็ต้องโคลงสี่สุภาพคลาสสิคมาตรฐาน เป็นที่สุด
    เพิ่งมารับรู้ความสุดยอดนี้ ไม่กี่ วัน มานี่เอง พร้อมรู้สึกตัวเอง ระดับ ยัง ต่ำชั้นมากสำหรับโคลง ห่าง มาก

   กลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ
   กลอนหวานที่ผมแต่งไม่ได้ แต่งได้แค่เพียงสนุกๆ

ผมพบเห็น สร้อยสลับคู่สะคราญ ก่อนที่จะพย   กลบทสร้อยคู่สะคราญ ของ
                         (คุณชาญชนะ ฆังคะโชติ) ผู้ประพันธ์ต้นแบบ
     เห็นแล้วคิดเอาเอง ว่า นักกลอน หลานท่านต่าง แปลง สร้อยคู่สะคราญ ไปหลายแบบ หลายฉันทลักษณ์ ต่างไปกัน แล้วตั้งชื่อใหม่ ไม่พบว่าใครเป็นคนต้นแบบ
    แต่พบว่า ครูพี พูนสุข จากบ้านกลอนเรา แต่งได้ไหเราะ หวานมาก


     
     ชมแขคิดใช่หน้า                นวลนาง
     เดือนตำหนิวงกลาง            ต่ายแต้ม
     พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง     จักเปรียบ ใดเลย
     ขำกว่าแขไขแย้ม               ยิ่งยิ้มอัปสร

       
    โคลงนิราศนรินทร์
ประวัตินายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน)
นิราศนรินทร์
สรุปเส้นทางเดินของนายนรินทร์ (อิน)
อธิบายศัพท์
ประวัตินายนรินทร์ธิเบศร์ (อิน)
นิราศนรินทร์ เป็นวรรณคดีที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่ง ของกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยมีความไพเราะเป็นเยี่ยม ผู้แต่งไม่บอกไว้ชัดเจน นอกจากปรากฏอยู่ในโคลงบาทสุดท้ายของเรื่องว่า “โคลงเรื่องนิราศนี้ นรินทร์อิน รองบาทบวรหวังถวิล ว่าไว้”


     


จักมิให้หน้าน้องนองน้ำตา



นารีดีเด่นด้วย          สวยสม
รสกลิ่นระรินรมย์     อร่อยลิ้ม
รูปบางร่างขำคม     ขอคู่ ดููรา
นางน่านักลักยิ้ม     ย้่วเย้ยเชยชิม


ขอพี่หยิบยื่นนาอย่ากระซิก     เพียงน้องหยิกเจ็บง้ำจำจะหงิม
ขอพี่หยอกบอกรักพร้อมพักตรพริ้ม     เพียงน้องยิ้มแน่ะนับรับสัญญา

อย่าลักยิ้มพิมพ์หน้าตาจะปิด      เพราะชีวิตสูญขวัญที่ฝันหา
อย่าลักย้ายถ่ายแย้มแก้มแก้วตา   เพราะชีวามือาจขาดแก้มเธอ

ไม่ลืมวันจันทราคราคืนค่ำ    เมื่อแรกจำแรกนัดบัตรคิวเสนอ
ไม่ลืมวารผ่านไวไม่เยิ่นเย้อ   เมื่อแรกเจอครั้งแรกแทรกบัตรคิว

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 เมษายน 2023, 02:06:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #164 เมื่อ: 11 เมษายน 2023, 02:06:PM »

     

              ดำเนินพราห์ม
         


พรรณ พันธุ์

          พรรณ หมายความว่า ชนิด ใช้กับคำว่าพืช เป็น พืชพรรณ เพราะไม่ปรากฏเป็นวงศ์ญาติ เช่น พรรณข้าว พรรณปลา

           พันธุ์ หมายความว่า เผ่าพงศ์ ใช้กับคำว่า เผ่า เป็นเผ่าพันธุ์ กับคำว่า พงศ์ เป็นพงศ์พันธุ์
         พรรณ” คือ วรรณ หมายถึง ผิว สี รูป เพศ เช่น ผิวพรรณ สีสันวรรณ รูปพรรณ

เรไร    ผมแปลเองว่า    ชื่อ (พรรณ)จักจั่น(วรรณ) สีน้ำตาลหลายชนิดใน(พันธ์)สกุล Pomponia, Tosena, Cryptotympana และ Platylomia วงศ์ Cicadidae
ตัวผู้มีอวัยวะสำหรับทำเสียงให้เกิดเสียงสูงต่ำมีกังวานสลับกันไปเป็นจังหวะ



“นมามิ” รูปคำกริยาสามัญ เป็น “นมติ” (นะ-มะ-ติ)

อภิปรายขยายความ :

ประมวลความหมายตามรากศัพท์ในบาลีแล้วจะเห็นได้ว่า อภิวาเทมิ – นมสฺสามิ – นมามิ ไม่ได้มีความแตกต่างกันในสาระสำคัญ แต่ในคำแปลภาษาไทย รสภาษาอาจชวนให้เกิดจินตนาการที่ต่างกัน





  เมื่อแรกเจอครั้งแรกแทรกบัตรคิว
…….


       ทิวแนวแถวป่าป้อง     ผองพรรณ
แดนถิ่นดืนพงพันธ์     พรั่งพร้อม   
ศิลทอส่อแวววรรณ     วัฒน์ว่า พลาแล
นะโมว่านะมานอบน้อม     หนึ่งนั้นธรรมา

ใครหนอคนวนเวียนเพียรจะพบ     ลับเมื่อหลบเยือกเย็นเห็นเมื่อหา
ใครหนอคอยสร้อยเศร้าหมายเขามา   ลับเมื่อลาร่างเร้นเว้นหรือวาย

ร้อยสร้อยเรียงเคียงคำเนียนสำนวน
คนใจรวนโปรดปรับห่อนลับหาย
ร้อยสร้อยรักยักย้อนเชิงกลอนชาย
คนใจร้ายเหือดแห้งเหมือนแล้งมาลย์

เสียงลมร้อนอ้อนอ้าวลืมหนาวแล้ว     สิ้นคำแว่วเรไรคู่ไขขาน
เสียงลมแล้งแสร้งสร้อยคู่คอยสะคราญ    สิ้นคำหวานสูญสร้อยเจ้ากลอยใจ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2023, 06:41:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #165 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2023, 06:41:PM »

       

     ขัตติยมานะ
        น. การถือตัวว่าเป็นกษัตริย์หรือเชื้อสายกษัตริย์.

          นาฏศิลป์ราชสำนักเป็นราชูปโภค
          อย่าว่าแต่จะเลียนแบบใคร จับมือสอนก็ใช่วาใครจะเรียนจะเป็นได้ เขมรเคยขอให้ไทยสอน



คลิป แห่งความถาคภูมิใจ ราชสำนักไทย
                อิสระไทย


       
       
 เราขัดคำวอนท่านมิได้ ไม่มีแก่ใจจะโต้เถียง
เราขอปฏิญาณไม่เอนเอียง จะตั้งจิตให้เที่ยงในทางธรรม์
เราจะบำรุงกรุงไกร ให้ทวยไทยอิสระเกษมสันต์
ขอองค์ไตรรัตน์คุณอนันต์ ทั้งเทวัญเป็นพยานวาจา


     เขมรชมดง                 
   

     

ร่วง     คำวิเศษณ์ 
=  รุ่ง, เรือง.
"พระร่วง โรจนฤทธิ์

เรืองไร
ว. มีแสงสุกสว่างเหมือนทอง ไรเรือง ก็ว่า

ล่วง
ก. ผ่านจากะจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เช่น เดินล่วงเข้าไปในเขตหวงห้าม เวลาล่วงไปหลายปี.
(ผมหมายถึงล่วงมา มิใช่ล่วงไป)

เนียง
น. นาง (ออกเสียงตามเขมรที่เขียนว่า นาง).

รำ น.
จวนๆ, เกือบๆ, ขยับ, ลำลำ ก็ใช้.
ช้า ลีลา มัวรำ ติดรำ รำคาญ





โคลงกลอนในภาวะ สติกระเจิดกระเจืงต่อกระแสหาเสียงเลือกตั้ง  พูดเท่าไม่พูด





  สิ้นคำหวานสูญสร้อยเจ้ากลอยใจ

   
ใครปองครองทั่วทั้ง     ไทยทอง   
รัฐร่วงโรจน์เรืองรอง     ล่วงแล้ว
เหวยวาอย่าเผยอเผยอง     ยลเยี่ยง เนียงนอ
เพียรร่ำเรียนคลาดแคล้ว    ครึ่งคล้ายขมายขโมย

ไกลอย่ารอพอพรากยากจะพบ
ใกล้อย่ารบเมืองไหม้ไห้จะโหย
ไกลอย่ารักชักช้าท้าขโมย
ใกล้อย่าโรยเหหอกออกทิ่มแทง

แอบรักนางข้างบ้านปานคลุ้มคลั่ง
ไม่ระวังพื้นเพคนเสรแสร้ง
แอบรักเนียงเมียงมองน้องแสดง
ไม่ระแวงจีบเธอเจอจีบรำ

ชอบเสมอเซ่อซ่ารำน่ารัก     ไม่รู้จักเท็จเที่ยงขอเพียงขำ
ชอบเสมือนเพื่อนพ่อยังจัอย้ำ    ไม่รู้จำวันไหว้ถึง ไม่ทัน


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 พฤษภาคม 2023, 11:08:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #166 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2023, 11:08:AM »

         
[
             
ผมเชิาใจเอาเองว่า กลบท"สร้อยสลับคู่สคราญ" คือ กวีได้ดัดแปลง ต่อยอด กลบท "สร้อยคู่สคราญ" ของ (คุณชาญชนะ ฆังคะโชติ) ผู้ประพันธ์ต้นแบบ

ถ้าจะพูดว่า ผมก็ ครึ่งหนึ่ง ได้ทำการ ครึ่งหนึ่ง ไม่ได้ทำการแัดแปลง กลบทสร้อยคู่สคราญ ด้วยเช่นกัน
ก็คือ พูดถูกทั้งสองครึ่ง



            อัปสรา อินเดีย   
           

จากตำนานดังกล่าว ชาวฮินดูเชื่อว่า เมืองจิดัมทรัม  เป็นสถานที่ที่พระอิศวรเสด็จลงมาแสดงการฟ้อนรำบนโลกมนุษย์เป็นครั้งแรก จึงคิดสร้างเทวรูปของพระองค์ ปางฟ้อนรำ เรียกว่า “นาฏราช” หรือ  “ศิวนาฏราช” และช่วยกันจำหลักท่ารำ ๑๐๘ ท่าของพระอิศวรไว้ที่เสาไม้ทางตะวันออกที่ทางเข้ามหาวิหาร ท่ารำเหล่านี้ตรงกับที่กล่าวไว้ในตำรา “นาฏยศาสตร์” ซึ่งรจนาโดยพระภรตมุนี ท่าฟ้อนรำเหล่านี้ถือเป็นแบบฉบับของนาฏศิลป์อินเดีย ซึ่งต่อมาได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และแพร่กระจายมาสู่ดินแดนไทย
……..
จากตำนานข้างต้น กล่าวได้ว่าไทยรับอิทธิพลรูปแบบการฟ้อนรำมาจากตำนานพระอิศวร    พิสูจน์ได้จากท่ารำแม่บทของนาฏศิลป์ไทยนั้นมี ๑๐๘ ท่า ซึ่งมีเค้ามาจากท่า “นาฏราช” ตามตำนาน     ศิวนาฏราช อีกทั้งเทวรูปที่คนในวงการนาฏศิลป์เคารพนับถือคือเทวรูปศิวนาฏราช
……เครดิต    https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.gotoknow.org/posts/387211&ved=2ahUKEwjqlOyC14L_AhU48DgGHXvUB3oQFnoECBUQAQ&usg=AOvVaw3ADCeXYqXuGPvw8eNf4gx_

แต่….นักวิ สายเขมร บอกว่า
…..

“นาฏศิลป์และดนตรีของไทยได้แบบแผนจากอินเดีย” เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ทางนาฏศิลป์ไทยอ้างนิทานอินเดียเรื่องศิวนาฏราช (พระศิวะฟ้อนรำ) ใช้ครอบงำการศึกษาไทยนานมากแล้ว (ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง)

 

แต่เรื่องของศิวนาฏราชเริ่มมีบทบาทสำคัญในอินเดียภาคเหนือแล้วตั้งแต่ราวหลัง พ.ศ.1000 จากนั้นจึงแพร่หลายเข้าสู่ดินแดนกัมพูชาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (สมัยก่อนเมืองพระนคร)

ท่าฟ้อนรำศิวนาฏราชที่หน้าบันปราสาทพนมรุ้ง (จ.บุรีรัมย์) และที่ปราสาทอื่นๆ ทั้งที่อยู่ในดินแดนไทยและในดินแดนกัมพูชา เป็นท่าฟ้อนรำของท้องถิ่น (ดังที่พบในท่าฟ้อนรำของบรรดานางอัปสรทั้งที่ปราสาทนครวัดและปราสาทบายน) ล้วนแสดงลีลาแตกต่างจากท่ารำของอินเดีย
…….



          นาฏศิลป์ อินเดีย ไทย
               



    ไม่รู้จำวันไหว้ถึง ไม่ทัน

…หมองหมาย เป็นเสน่ห์ของคำโคลงคลาสสิค  ถ้าเป็นคำกลอนจะพูดว่า หมองเมื่อหมาย




วันวารการเริ่มล้วน     ควรคน
หลอกเปลี่ยนเลียนแกมกล     เกี่ยงแก้
แปลงปรับเปลี่ยนวกวน     วอนว่า ระอาเอย
วันพ่าย วายพวกแพ้     เพื่อนพ้องหมองหมาย

สุขที่ใจใคร่มักรักกำเรืบ   เจ็บต่อเติบโตตามรู้ความหมาย
สุขที่จำคำแน่ไม่แก้กลาย   เจ็บต่อตายขำขื่นคนคืนคำ

เมื่อเจ้ามาคร่าคล้อยร้อยห้าสิบ   หากขยิบถูกหักยักลงต่ำ
เมื่อเจ้ามีสีส้มอมแอบอำ   หากขยำรุนแรงแดงล่องลอย

            วันวารคลาลาเลือนเตือนเรรวน
            ใครก็ควรรู้รักสู้ศักดิ์สร้อย
            วันวารเคลื่อนเลือนลาปริบตาปรอย
             ใครก็คอยผู้ภักดิ์รักราชเรา

size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 มิถุนายน 2023, 11:36:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #167 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2023, 11:36:AM »

               

             
           อิสริยยศ
พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน

[อิดสะริยะยด] น. ยศอันยิ่งใหญ่ ยศที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ หมายถึง สกุลยศของพระราชวงศ์ที่ถือกำเนิดมาว่ามียศทางขัตติยราชสกุลชั้นใด เช่น เจ้าฟ้า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า ถ้าพระราชวงศ์พระองค์ใดได้ปฏิบัติราชการแผ่นดิน มีความดีความชอบ ก็อาจได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นเจ้าต่างกรมจึงต่อพระนามกรมไว้ท้ายพระนามเดิม เช่น พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์.

               
       วิศวกรรม สถาปัตยกรรม หัตถศิลป์ ศิลปต่างๆ วัฒนธรรม ประเพณี กระทั่ง นาฏศิลป์ คีตศิลปฺ์
  รัชกาลทึ่5 ที่6 ต้านการล่าอาณานิคม รักษาแผ่นดินไทยไว้ได้ ด้วยการพัฒนาทุกด้าน อวดให้ฝรั่งเห็นว่า วัฒนธรรมไทยเจริญไม่แพ้ใครในโลก นานนับร้อยปี ไทยแสดงให้โลกเห็น เราเป็นที่1 มากมาย ถึงขนาดว่าถามต่างชาติว่าไทยที่1เรื่องไหนบ้าง ชาติต่างๆคงตอบได้ อย่างน้อยคนละ1เรื่องไม่ช้ำกัน
   นาฏศิลป์ อาจพูดได้ อินเดียต้นตำรับ นครวัดต้นแบบ แต่ไม่ใช่ไทยลอกเลียนแบบ อย่าว่าแต่ใครก็ไม่อาจเลียนแบบไทยได้ เขมรนั่นแค่เลียนแบบนาฏศิลป์พื้นเมืองล้านนาก่อน ยังไม่ไหว
   เหตุที่ไทยหนึ่งเดียวเท่านั้นไม่มีชาติไหนเลียนแบบได้ ไม่มีใครเข้าใจว่าคนไทย แต่อดีตสรรค์สร้างขึ้นมาได้อย่างไร
   สิ่งที่ทุกช่าติไม่มีคือ ศิลปวัฒนธรรมไทยอดีคแฝงไว้ด้วย
การเทิด พระอิสริยยศ
  ซึ่ง ชาติอื่นๆ ไม่มี


คนจีนบอกตนไทยเก่ง ที่1 เรื่อง อาบน้ำมาก วันละ 5ครั้งก็ทำได้ ไม่รู่ทำได้อย่างไร ไม่มีใครเทียบ

                เพื่อนแพงลงสรง แต่งตัว
                   

คำซ้อนที่มีเสียงสัมผัสคล้องจอง หรือเรียกว่า คำซ้อนเพื่อเสียง ได้แก่คำซ้อนที่มีพยัญชนะต้นตัวเดียวกัน หรือมีสระเสียงเดียวกัน แต่จะมีความหมายเพียงคำเดียวเท่านั้น
……….


ใครก็คอยผู้ภักดิ์รักราชเรา
…….



      เสาปักสักแต่ตั้ง     วังเวียง
      คลอนห่อนแคลนเอนเอียง    โอ่อ้าง
      รำรินกลิ่นเจริญเจรียง     จริตร่าย อายฮา
      รานขื่อคานเลิกล้าง     เล่ห๋ร้ายอายเหย   
   
โลกมนุษย์พิสุทธิ์ใสใหม่กุมกฏ   เก่าละลดล้มเลิกชิงเพิกเฉย
โลกมโนโม้เมินคิดเกินเคย   เก่าละเลยแม่เมียจะเสียใจ

  ควรแล้วคนกลการช่วงสมานฉันท์   โลกที่ฝันจินต์จำสินธ์ุน้ำใส
  ควรแล้วคงตรงตรองเชิงสมองใช้   โลกที่ใฝ่หอกเห ลิเกลิง

แก้วเยาวกัลย์มั่นมิตรโอ้กนิษฐ์เอ๋ย   ต้อยและเต้ยเด่นดีอย่ามีหยิ่ง
แก้วเยาวกุล"คุณ"คำควรจำจริง   ต้อยและติ่งพลาพลดลภราดร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 มิถุนายน 2023, 08:19:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #168 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2023, 08:19:PM »

       


            ดวงดาวดา อย่าแชเชือน
       เคลื่อนเถิดรา คราเดือนคล้อย
(ดาวเคลื่อน พบเห็นได้ในโคลง กลอนไทย เพลงไทย เมื่อยามเดือนคล้อย)

        แขกบันตน
       

 ทำไมแต่งโคลงประกอบกลอนกลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ  เพราะเสน่ห์คำสร้อยของโคลง ผมแปลงเป็น สร้อยคู่สะคราญ


คำซ้อน คือการนำคำมูลที่มีความหมายเหมือนกัน ตรงข้ามกัน ใกล้เคียงกัน มาเรียงต่อกัน แล้วทำให้เกิดคำใหม่ที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำเดิม หรือมีความหมายอยู่ที่คำใดคำหนึ่ง โดยคำมูลใช้สร้างคำซ้อนนั้นอาจเป็นคำมูลจากภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศก็ได้

การซ้อนคำเป็นการสร้างคำใหม่ในภาษาไทยรูปแบบหนึ่ง ทำให้เราได้คำใหม่มาใช้ในภาษาไทยมากขึ้น โดยคำซ้อนในภาษาไทยสามาถแบ่งเป็น ๒ กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ คำซ้อนเพื่อความหมายและคำซ้อนเพื่อเสียง


เคลื่อนคล้อย รกร้าง นิดหน่อย เปลี่ยนแปลง กดขี่ ตัดขาด โขกสับ อ่อนหวาน เก่งกาจ อ้างว้าง
แจกแจง

รา
คำวิเศษณ์
(กลอน)
คำชวนให้อีกฝ่ายหนึ่งทำตาม.
"ไปเถิดรา"
คำสรรพนาม
(กลอน)
เราสอง, เขาทั้งสอง.
"สองรา"
คำกริยา
1.
ค่อย ๆ เลิกกันไป.
"เลิกรา รากันไป"
2.
ลดลง หรือทำให้ลดลง.
"ราไฟในเตา ไฟค่อย ๆ รา"

แลง= ใกล้ค่ำ    แพง= รัก ถ้าจะว่านี่เป็นภาษาลาว ช่าง ผมพบเห็นใน โคลง กสอนไทย เพลงไทย
ก็เหมือน น้องเมียลาว อยู่บ้านเรา กินข้าวเรา  ก็เป็นน้องเมียเรา




ต้อยและติ่งพลาพลดลภราดร





รอนแลงแสงกล่ำกล้ำ     รำไร
จวนค่ำจำหวิวไหว         เหว่ว้าง
เลือนรางช่างเป็นไป      แปรเปลี่ยน เรียนรา 
รอนเพื่อนเลือนราร้าง    เริ่มรู้เรียนหรือ

เพื่อนรักกันพันผูกฝากปลูกฝัง   เรื่องเล่าหลังก่อนเก่าเอาสอนสื่อ
เพื่อนรักเก่าเขาคอยมิปล่อยมือ   เรื่องเล่าลือป่วนไปจึงไม่จริง

ก้าวไกลกว้างย่างโยกมุ่งโลกใหม่   ไก่หรือไข่เกิดก่อนย้อนแย้งยิ่ง
ก้าวไกลกว่าท้าทวงทั้งช่วงชิง   ไก่หรือขิงรอราข่าเริ่มแรง

คราวดาวเดือนเคลื่อนคล้อยพลอยคลาดขลัง   หวาดระวังหมองหม่นคนสิ้นแสง
คราวดาวใดใสสดหมดเพื่อนแพง   หวาดระแวงดูดำทำดูดี



[/color][/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กรกฎาคม 2023, 07:28:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #169 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2023, 07:28:PM »

       

ผมวางคลิปไว้ตอนต้นของโพส เพื่อทุกท่านได้ชมได้ฟัง เพื่อจะได้ไม่เบื่อ โพสที่มีเนื้อหา ข้อความยาวๆ คัดมาน่าชม บางคลิปพ้องเนื้อหา บางคลิปพ้องอารมณ์


เพลงพม่านิสา
เมื่อนั้น……. องค์พระราชธิดา…สง่าศรี…..

เพลงพม่าชมเดึอน
จัดแจง แต่งองค์ ทรงเครื่อง…อร่ามเรือง สุวรรณ อันหมดจด

ชับเสภามอญ
งามองค์ สมองค์ อรชร…..ดั่งกินนร ผิวเนื้อ ระเรื่อเหลือง

เพลงพม่าไสยาสน์


      พระราชธิดาทรงเครื่อง
         
                       
   
ประไพพักตร์ลักษณ์ล้ำล้วนขำคม            ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด                    ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวง
……..  (พระอภัยมณี : สุนทรภู่)

ขนง คือคิ้ว ถ้าเป็นราชาศีพท์ ใช้คำว่า พระขนง



    สร้อยสลับคู่สะคราญ ผมคงจะยังอยู่กลอนนี้อีกหลายโพส ทำเรื่องไว้เยอะ เริ่มที่ครั้งแรกที่กระทู่้ สร้อยสลับคู่สะคราญ ของ ครู พี. พูนสุข

http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=24789.0_
…….
ซึ่งผมทำผิดพลาดไว้อย่างน่าอาย ผิดที่คำสร้อยมันไม่ใชว่าผมดัดแปลง แต่มันไม่ใช่คำสร้อย ผืดเพราะผมไม่รู้ว่าคำสร้อยคือ อะไร ผิดชัดเจนผิด ไม่ต้องพิสูจน์ความผิด
แต่ครูพี. ท่านเมตตาไม่ติสักคำ ตอบกลับด้วยความสนุกสนาน ผมอายมาก ผมรับผิดชอบ ด้วยการปล่อยความผิดนั้นไว้ประจานตัวเอง ไม่แก้ไข ถือเป็นการยอมรับผิดต่อครู พี. ครัย
…….



หวาดระแวงดูดำทำดูดี


     

     สีสันอันแต่งแต้ม       แซมสม
ตูมเต่งตึงกลืงกลม     กล่อมกล้ำ
คิดเคียงคู่เชยชม       ชิดช่อง ปองนอ
หวลใคร่ครวญเหลือล้ำ   เร่าร้องปองนาง

มยุราหน้าขาวสาวทุ่งข้าว   อย่าราร้าวทุ่งทองจะหมองหมาง
มยุุเรศเกศเกล้าเพราสรรพางต์   อย่าราร้างค้อนคว่ำทำแก้มพอง

สิ้นประโดงโค้งรุ้งที่ทุ่งทิว   ยังโค้งคิ้วน้องวงขนงสนอง
สิ้นประดาชลารางลอมฟางกอง   ยังโค้งของสะโพกพิศบิดกระบวน

วัยแรกรุ่นวุ่นวายหมายแสงสี   อยากเอ่ยชี้แนะนำคำทั่วถ้วน
วัยแรกเริ่มเดิมใดใจเรรวน   อยากเอ่ยชวนคำทัก "ฉันรักเธอ"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 สิงหาคม 2023, 06:28:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #170 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2023, 06:28:PM »

           

     ตับลาวเจริญศรี
        ยอยศเพื่อนแพง
   จะเว้น ไม่ได้ นี่ก็เป็นตำนาน
       
         

ลำเภา  คือ  โฉมงาม
เพรา   คือ  งาม
 
อ่าว แล้ว พร่างแง้ม คืออะไร ทำไม่ไม่ พร่างแพร้ว พร่างพร้อย

ชี้แจง ขออภัย ครั้งที่เท่าไร อีกแล้ว ว่า
ความพยายาม แผลงคำเพื่อสร้างสัมผัส เพราะต้องการเน้นฉันทลักณ์ จนเกิดอาการ กลอนพาไป เริ่มเป็นเมื่อ ครั้ง

เมื่อคิดยอมแพ้ต่อกลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ จำไม่ได้ว่าสิ่งไหนเกิดก่อน กับ การคิด แต่ง กลอนแปดสัมผัส(ต่อมาพํฒนาเรียกสัมผัสล้วน) คือ  คำทุกคำในกลอนแปดต้องไม่มีคำใดเป็นอิสระ จะต้องรับ ส่ง สัมผัสกับคำอื่น ทั้งหมดทุกคำ
แลเเนื่องจาก "กลอนสุนทรภู่"ถูกวางสัมผัสสระไว้ครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว สิ่งที่จะเพิ่มไดิ คือ สัมผัสพยัญชนะ ผมก็เลือกใช้ คำพ้อง คำสร้อย คำซ้ำ คำซ้อน
ก็ได้ฉันทลักษณ์ ที่ต้องการ สิ่งที่แลกเปลี่ยนไป คือ ถ้าต้องการเน้นสัมผัสมาก ก็เสีย ความไพเราะ หรือสาระ เนื้อความสำคัญ
    แต่งกลอนลักษณะนี้ ไประยะนึง นาน พอสมควร ถามว่า เพราะไหม ก็ เพราะอยู่นะ ไม่งั้น
"ตาตี๋ตกต้นตาล ตอตำตูดตาตี๋ตาย" เพราะมั้ยล่ะ
      กระทั่ง นาน พอสมคิดว่า กลอนเรา ไม่ค่อยมีสาระ ไม่พอ ยังมีปัญหาว่า ไม่สามารถแต่งให้รับ ส่ง สัมผ้สได้กันได้ ถ้าเป็นคำนามหรือคำเฉพาะ ที่มีสามพยางค์ เช่น มีนาคม
       เกิดปัญหาแก้ไม่ได้ เกิดความรูัสึก แพ้ อีก คราวนี้
   เลิก คิด อ่าน เขียน ทุกสัมผัส กับ กลอน เหมือนจะเกลียดหรือเปล่าไม่รู้ แต่ ไม่ยุ่งเกี่ยว เหมือนไม่รู้ว่าโลกนี้มี การแต่งกลอน นานหลายปั ไม่ได้จำว่านานเกินห้าปีแน่ๆหรือไม่
     ตอนั้นไม่เก่งพอ แก้ไม่ได้ จนกระทั่งภายหลัง  "บังเอิญ"......
      ต่อไปจะค่อยเสนอ กลอนแปดสัมผัส หรือ  สัมผัสล้วน ซึ่งพัฒนาแล้ว ทะยอยสลับไปบ้าง…..
     



   
  อยากเอ่ยชวนคำทัก "ฉันรักเธอ"




             ยอยศสองเรา

เลอลักษณ์ศักด์เฟื่องฟุ้ง   จรุงจำราย
เพราท่ามงามเพรางาย   พร่างแง้ม
ควรเคยเอ่ยยศขยาย     ยอย่อง สองรา
นงหนุ่มกุมกลอนแกล้ม   กลั่นกล้องสองเรา
(กล้อง=เกลา, โกลน.)

สวยเอยสาวราวอรุณละมุลหมอกไหม   เพรารำไพเมฆม่านย่านขุนเขา
สาวเอยสวยด้วยเดิมเติมบางเบา   ไพรลำเพาคู่คงนงพนา


หนุ่มบ้านเนินเจริญรุ่งท้ายทุ่งสวย   ประดาด้วยสีสรรพรรณพฤกษา
เนินบ้านหนุ่มรุ่มร่ายจำรายรา   ด้วยประดาอายอวลมวลมาลี


โลกนี้สวยด้วยดุลย์คุณคู่ธรรม   น.หนุ่มนำ ญ.หญิงอยู่คู่ศักดิ์ศรี
โลกนี้สองรองรับนับหนึ่งนรี        น.หนุ่มนีัพลั้งพลาดถ้าขาดเธอ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 สิงหาคม 2023, 06:06:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #171 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2023, 06:06:PM »

         

   
            ลาวดอกไม้เหนือ
           


จำไม่ได้ว่า เหตุบังเอิญใด ทำให้กลับเข้ามาบ้านกลอน ทั้งที่นานมากที่ไม่อยากแต่งกลอนแล้ว

เข้ามาแล้วก็นึกถึงกลอน สร้อยสลับคู่สะคราญ จนกระทั่งคืดออกว่า คำ สร้อยคู่สะคราญ นี่เอง คือคำที่นำมาใช้แต่งกลอน แปดสัมผัส ที่ผมติดปัญหาแก้ไม่ตกจนถึงชั้นเลิกแต่งกลอนไป

ดังนั้น การกลับมาแต่งกลอนอีกครั้ง คือคิดแต่ง กลอนกลบท "สร้อยสลับคู่สะคราญแปดสัมผัส"

หลังจากนั้น ก็ แปลงสร้อยสลับคู่สะตราญ ไปหลายแบบมาก




       
          โคลงสี่สุภาพสัมผัสล้วน
           กลอนสุภาพแปดสัมผัส

คิดว่า ฉันทลักษณ์กลบททเหมาะแต่งสลับ ไม่เหมาะแต่งครบทุกบททุกกลอน 
กลอนวันนี้ ไม่เพราะ ขออภัย..อีกแระ




         


       วอน
(ปาก) ก. รนหาที่ เช่น วอนตาย
(วรรณ) ร่ำขอ ขอด้วยอาการออดเฝ้าร้องขอให้ทำตามประสงค์

   เสมอรักมักล่วงล้น     ทนทุกข์
    เคยชื่นคืนสองสุข     ส่อเศร้า
    รักเราเท่าแทรกซุก    ทรวงซ่อนวอนเอย
     รักนั่นฉันท์แรงเร้า   รุ่มร้อนวอนเอง

ฉันท์คติริเริ่มเติมตัณหา    เพราะมิกล้าตรอมตรมเขาข่มเหง
ฉันท์คตาพาผิดจิตวังเวง     เพราะมิเกรงเอียงอ้างเข้าข้างตน

รักบันเลงเพลงเพราะเสนาะสำเนียง   ใจหวังเพียงลองรักหาสักหน
รักบันลือสื่อสารท่านทุกคน  ใจหวังผลมอดม้วยก็ด้วยกัน

กระแสน้ำคำคนพรมฝนพรำ    สุขแทนช้ำครบเครื่องราวเรื่องฝัน
กระแสสนุกทุกข์ท้นปะปนกัน    สุขแทนฉันนอกนั้นฉันทุกข์แทน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พิณจันทร์, โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กันยายน 2023, 07:37:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #172 เมื่อ: 15 กันยายน 2023, 07:37:PM »

   

   ส่วนที่ 1 กล่าว


             คู้ม คุ้ม คุ้ม คลิปนี้คุ้ม
ดนตรี กลอนร้อง ขับร้อง รำ ระบำ สมแล้วว่า ไทยงาม
                           



มาณวกฉันท์ ๘
วันนี้แกะจาก พระนิพนธ์ใน พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ (น.ม.ส.)
ซึ่งวางสัมผัสแบบกลอน

จงจรเที่ยว      เทียวบทไป
พงพนไพร      ไศลลำเนา
ดั้นบถเดิน      เพลินจิตเรา
แบ่งทุขเบา     เชาวนไว

ปมาณิกฉันท์ ๘ -                (จากคัมภีร์วุตโตทัยโดยนายฉันท์ ขำวิไล)

ประดิษฐ์ประดับ    ประคับประคอง
เลบงลบอง            จำแนกจำนรรจ์
ระเบียบและบท       สุพจน์สุพรรณจะเฉิดจะฉัน                วิเรขวิไล



           กลบทสร้อยคู่สะคราญ
             (คุณชาญชนะ ฆังคะโชติ  ผู้ประพันธ์ต้นแบบ)

                         สองสี่คิดได้ ไม่คิดหวง
                         ใครตักตวงเล่นได้ ไม่คิดห้าม
                         สร้อยคู่สะคราญเห็น เป็นนิยาม
                         อย่ามองข้ามความเห็น เป็นนิยาย


กลบทสร้อยคู่สะคราญ เป็นที่ นักกลอนนิยม และดัดแปลงกันมาก เป็น "สร้อยสลับคู่สะคราญ" ไม่ทราบใครคือต้นแบบ
     
ผมเองก็ดีดแปลงไปหลายแบบ
     วันนี้ ยกตัวย่างจาก กลอนสร้อยสลับคู่สะคราญ ในกระทู้ของครู พี พูนสุข บ้านกลอนไทยนี่เอง



ถึงยุพิน.. ถวิลร่ายพร่างพรายฟ้า
ถึงยุพา.. ใจรักษ์ทรงศักดิ์ศรี
ไม่ท้อถอยสร้อยคล้อง.. สองบุรี
สานไมตรีสมสนอง.. สองบุรินทร์
………. พี พูนสุข

สร้อยคู่ คู่ที่สองอยู่ท้ายวรรค ทำให้เกิดสัมผัสซ้ำของคำตำแหน่งที่ 5กับ6ในวรรคที่ 3 และ4
      คล้อง.. สองบุรี
      สนอง.. สองบุรินทร์

ได้ ไม่คิดหวง
ได้ ไม่คิดห้าม
                  เห็น เป็นนิยาม
                   เห็น เป็นนิยาย

และคุณ ศรีเปรื่อง ดัดแปลง แก้ไข ได้ถูกต้อง ดีงาม ดังนี้


พิรุณโปรย...โรยหลั่งถั่งเป็นสาย
พิรุณปราย...พาหทัยเรียมไหวหวั่น
ไร้กนิษฐ์เนื้อเย็น...เป็นเพื่อนกัน
มีเพียงจันทร์ลางเลือน...เป็นเพื่อนไกล
………ศรีเปรื่อง

ส่่งคำที่5 ไปสัมผัส คำที่ 6 แลเ7 ในวรรค3และ4 เพื่อให้สัมผัส ต่างตำแหน่งกัน
 ………เย็น...เป็นเพื่อนกัน
…..เลือน...เป็นเพื่อนไกล

ผมก็แต่งเช่นนี้ไประยะหนึ่ง จนกระทั่ง รู้สึกไม่ถนัดเหมือนอิสรภาพถูก จำกัด

จึงดัดแปลงอีก 
คราวนี้
ให้คำสร้อยทั้งสองคู่ เปลี่ยนเป็น อยู่ ต้นวรรค ของทุกวรรค
    ………..

ส่วนที่ 2 กลอน


        

      สุขแทนฉันนอกนั้นฉันทุกข์แทน


ทองกวะถิ่น          ดินปิตุแดน
สรวงสุระแสน       แมนและวิมาน
สองยุวสาว           คราวผลิสะคราญ
แม้นกุสุมาลย์        บานกะอุบล

ก็"เปรื่อง"น่ะปราด     ลุศาตร์กุศล
แกะบท(ะ)กล            และอักษรา
เจาะจรรจ์วจี             วสีวิสา
ยุพินยุพา     (เมื่อไร)..มิเป็น..(ก็)..มิไป..(สะที)

ค่าบุรินทร์ถิ่นทองครองศักดิ์ศรี     "เปรื่อง"ฉะนี้(พิ)โธ่ถังว่ายังไหว
ค่าบุุรีทวีถวิลสินเศรษฐ์ไทย     "เปรื่อง"ฉะไหนแอบเอื้อนเพื่อนวไม่มี

ฝนเอยรำทำท่ามาพรั่งพรู     ดาลฤดูวาดวนดลสุขศรี
ฝนเอยรินถวิลว่าน่ำตานี้     ดาลฤดีฝอยฝนล้นนัยนา

ฤๅฝนสุดหยุดหยาดสายสวาทสิ้น     ตอบยุพินพุ่มพวงทวงถามหา
ฤๅฝนซัดพลัดพรากยากไขว่คว้า     ตอบยุพาเรไรยันไม่ยอม


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 ตุลาคม 2023, 06:36:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #173 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2023, 06:36:PM »

     

     ส่วนที่ 1 กล่าว
     ระนาดเอกทำหน้าที่เป็นผู้นำวงดนตรี
               
หากท่านผู้ใด มีคำถาม ครูมนตรี ตราโมท แน่ขนาดไหน

ข้อสรุปของผมเอง
นี่คือ อัจฉริยภาพ บรมครู มนตรี ตราโมท
           


        กลอนกลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ ทวิสัมพันธ์..

      หลังจาก ย้ายตำสร้อยทั้งสองคู่มาวางไว้ด้านหน้าของทุกวรรค คำสร้อยคู่แรกอยู่ที่วรรคหนึ่งและวรรคสอง  คำสน้อยคู่สองอยุ่ที่วรรคสามและวรรคสี่
      การดัดแปลงต่อมา เกิดจากพบว่า คำสร้อยส่วนมากที่แต่งกัน มักมักเป็นคำพ้องความหมาย
กลอนทีแต่งก็มักมีเนื้อหาสาระคล้ายคลึงกันในวรรคหนึ่งกับวรรคสอง และวรรคสามกับวรรคสี่ จึงเป็นความหมายที่คับแคบ
   ผมจึงสลับตำแหน่ง วางตำสร้อยคู่แรกที่วรรคหนึ่งกับวรรคสาม และคำสร้อยคู่สองที่วรรคสองกัยวรรคสี่ กลายเป็นคำสร้อยคู่แรกวางที่วรรคหน้า คำสร้อยคู่สองวางที่วรรคหลัง
       และเพื่อให้บทกลอนมีเนื้อหาสารกว้างขึ้น จึงแต่งให้ คำสร้อยของวรรคหน้ากับคำสร้อยของวรรคหลัง สัมพันธ์กันll "ปฏิสัมพันธ์" เช่น สัมพันธ์กันแบบ เป็น เหตุ-ผล ถาม-ตอบ อธิบาย-ขยายความ โต้-แย้ง ฯลฯ..
       บทแรกที่แต่งต้นแบบ เป็นแบบ วรรคหน้าเป็นเหตุ วรรคหลังเป็นผล..
        ซึ่งแต่งไว้ดี น่าพอใจมาก
        ได้แต่พูด แต่ ไม่ได้บันทึก จำเนื้อความไม่ได้ จำไม่ได้ว่าแต่งไว้ที่ไหน จะแต่งซ้ำใหม่ก็ไม่ดีเหมือนเดิม ก็เหมือนศิลปินชั้นเลิศย่อมไม่สามารถวาดภาพสายน้ำเดียวกันได้เหมือน้ดิมเมื่อเวลาต่่างไปไม่ใช่เวลาเดิม…ว่าาวว ???



     ระนาดเอก ทำหน้าที่เป็นผู้นำวงดนตรี

ระนาดเอกพเนจรกลอนร้างบ้าน
แต่จิตกานท์เต็มเปี่ยมเลี่ยมราศี
บ้านกลอนไทยใครรู้ผู้อารี
นักกลอนดีล้วนมิตรจิตงดงาม

๐ ผ่านด้อมมองลองวางกลอนสร้างสรรค์
ช่วยสานฝันกลอนไทยให้อร่าม
เพียงผู้น้อยพลอยเขียนเรียนรู้ตาม
นิรนามไร้ชื่อสื่อด้วยใจ..

ระนาดเอก webmaster


     ส่วนที่2 กลอน
       
       



         

   ตอบยุพาเรไรยันไม่ยอม



     ปลงหะมิปล่อย   น้อยก็ถนอม
     อยู่เพราะมิยอม   ตรอมจะมิตรม
     คีตละคร  ย้อนก็นิยม
     สานเหมาะผสม   ชมวจะเชย

     เสน่่ห์ระนาด     ฉลาดเฉลย
     จะเปรียบก็เปรบ     บรมครู
     คณาขนบ          มิลบมิหลู่
     หะเชิดและชู      ณ ภูมิสุพรรณ

ระนาดเอกเสกสรรค์บรรสานศิลป์.   ร้อยเสียงรินเร่งรั้งทั้งผัดผัน
ระนาดโอดอ้อนอ้างว่าบางวัน.    ร้อยเสียงลั่นสั่งเสียเมียเอกเอง(รู้น่ะมีเมียแล้ว)

คือผู้คุมกุมกฏกำหนดเกณฑ์   ไม่บิดเบนบอกบ่งผู้ตรงเผง
คือผู้คอยหงอยเหงาเขาวังเวง   ไม่บิดเบ่งแค่ขอเกลอต่อกลอน

ระนาดหนุ่มลุ่มหลงคงวาดหวัง   มาเมื่อตั้งกานท์โก้สโมสร
ระนาดหน่ายร้ายเล่ห๋จึงพเนจร  มาเมื่อตอนโสดไซร้เมียไม่มี  (ขออภัยกลอนพาไป)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 ธันวาคม 2023, 06:21:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #174 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2023, 06:21:PM »

     

     ส่วนที่1 กล่าว
บุษบา   

       


      แต่งกลอนกลบทครั้งแรก เรียนจาก ครู “คอนพูทน”
           กบเต้นสามตอน

กล่อมไพร
๏ แรมทางร่างถ้อยร้อยถัก
โชยลมชมลักษณ์ชักหลง
บัวจางบางจันทร์บรรจง
เสกขานสานคง..ส่งคำ


๏ ชื่นห่มชมห่อช่อเหิน
เพียงชิดพิศเชิญเพลินฉ่ำ
พลอยรินพิณเร่งเพลงรำ
คืนพราวคราวพร่ำ..ค่ำไพร


๏ มืดล่องมองลานม่านเลื่อน
รอยหมายรายเหมือนเรือนไหม
อุ่นจันทร์อันจรอ้อนใจ
ชุ่มเน้นเช่นใน..ใช่นี้


๏ วาดฟ้าว่าฟ้อนวอนฝัน
กรุ่นน้อมกล่อมนั่นกลั่นนี่
แขดวงควงดลคนดี
ศิลป์ช้อยสร้อยชี้..ศรีชม


๏ กลางไพรไกลเพื่อนเกลื่อนพร่าง
เพลินสรรพลันสร้างพลางสม
เชิญครวญชวนคลายฉายคม
ผ่องเถิดเพริศถม..พรหมทัก


๏ จารพจน์จรดเพียงเจรียงผอง
ขัดสานขานซ้องครองศักดิ์
หยาดนิ่มยิ้มนวลยวนนัก
โปรดรินปิ่นรักษ์..ปักเรียง ๚ะ๛
                 คอนพูทน


เมื่อรักมักร่ามาร่าย
เชิงยักชักย้ายชายหยิง
เริงอ้อนร่อนอ้างร่างอิง
ช่างยวนชวนยิ่งชิงเย้า

สุดร้างสร่างรินสิ้นรัก
เมินสิ้นหมิ่นศักดิ์มักเศร้า
เสียรอยสร้อยร้องสองเรา
มัวท่องหมองเท่าเมาๆทาง
                             @free


          กลอนแปดสัมผัสพัฒนา
                             
               กลอนวันนี้ยากมาก ยากจริง เขียนแลัวติด ติดแล้วแก้ แก้วแล้วรื้อเขียนใหม่ อยู่หลายวัน ยากระดับเดียวกับ คิดแล้วติดขัดกลอนแปดสัมผัสรอบแรก จนต้องเลิกเขียนกลอนไปหลายปี เกือบเลิกไปตลอดชีวิต
          การแก้ไขแปดสัมผัสครั้งแรก ใช้คำคู่สร้อยจากกลบทสร้อยคู่สักคราญ เพื่อต้องการคำสร้อย มาส่งสัมผัสกันแทน ตำหรือวลีที่เป็นสามพยางค์ แต่ว่าผมสลับคู่คำสร้อยวางไว้ต้นวรรคโดย คำสร้อยคู่หนึ่งอยู่ที่วรรค1กับวรรค3  อีกคู่หนึ่งอยู่ที่วรรค2 กับวรรค4
กลายเป็นการส่งสัมผัสข้ามวรรค แบบวรรคเว้นวรรค ซึ่งพูดได้ว่า ไม่มีผังสัมผัสแบบนี้ ในฉันทลักษณ์กลอนใดๆ
จึงจะต้องพัฒนา ให้คำแปดสัมผัส ครบอยู่ในวรรคเดียวกันทุกวรรค
และพบว่ากลบทสร้อยสลับคู่สะคราญ ไม่สามารถนำมาแต่งเป็นแปดสัมผัสได้

นึกถึงกลบทกบเต้น เพราะครู คอนพูทน บอกว่า ยังมีกบเต้นที่เป็นสามพยางคฺ์.
นึกอยู่ว่าจะนำมาใช้กับกลอนแปดสัมผัส

       

ค้นหาดูจนพบ
            กลบทกบเต้นสลักเพชร   คำ/ประพันธ์ในตำรากลบทiศิริวิบุลกิตติ์


             ใจรำคิดจิตรรำคาญจ้านแรงแค้น                                           โศกอกเหน้าเศร้าอกแน่นแสนอางขนาง                                  เจ็บทรวงร้อนจรทรวงรักจักทรงร้าง                                               สุดใจหมางส่างจิตรหมายสายจวนมรณ์
               
ใจแรกหากจากรักหวนจวนร่ำหา                                               รักใจถ้าราใจถึงรึงใจถอน                                          สุดจะแรงแสงจะรั้งสั่งจักรอน                                               กำม์มาทอนก่อนมากแท้แก้มือแทน……

เป็นกลอนเก้า มีข้อน่าสังเกตุว่า ส่งสัมผัสระหว่างวรรคโดย คำสุดท้ายของวรรคแรก ส่งสัมผัสไปได้ทั้งคำทีสามหรือคำที่หกของวรรคหลัง

อย่างไรก็ตาม คิดว่านำมาแปลง เป็นสร้อยสลับคู่สะคราญแปดสัมผัสได้ ด้วยการตัดคำในทุกวรรคพเหลือแปดคำ และ เพื่อไม่ให้ดูรกสัมผัส ควรตัดสัมผัสลงหนึ่งตำแหน่งทึ่ตำที่หกกับคำที่เจ็ด หรือไม่ตัดก็ ”ตามใจ”





ส่วนที่2 กลอน



    ......มาเมื่อตอนโสดไซร้เมียไม่มี....


               
     กบเต้นสามตอน

ไพรสงบพลบสงัดผลัดสงวน   ครูทบครบถ้วนครวญถี่
วารเร่เวลาวารี   หวังแพรวแววพลีกวีไพร

กบเต้นสลักเพชร

คำบาทกลค้นบทกานท์ขานแบบก่อ   เริ่มแตกหน่อรอเติบเนียนเรียนแต่ไหน   
ขีดใช้เวียนเขียนช่องวงคงชื่อไว้   คนผู้ไทย(เชื้อ)ไขภูธรคอนพูทน

กบเต้นสร้อยสลับคู่แปดสัมผัส

สายลมหนาวสาวและหนุ่มเกรงกรุ่น     รักมักวุ่นรุนเหมือนวัยสับสน
สายลมหนอส่อลาแนวผ่านพ้น     รักมักวนรนเมื่อวันจากจร

เตือนเรื่องจริงติงรู้จรรจ์กลกานท์    คิดเพื่อสมานชานเพียงเสมือนสื่อสอน 
เตือนเรื่องจำตำราแจงเกลากลอน   คิดเพื่อสมรค่อนเพื่อหมายคอยเคียง
 
ลมหนาวแปรแลนางแปลงหันหวล     แผกสำนวนผวนสำเนาหลบเลี่ยง
ลมหนาวปรวนรวนหนอเปลี่ยนเมินเมียง    แผกสำเนียงเพียงเสียนางครางครวญ



             [cenemo_79[/center]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 มกราคม 2024, 09:56:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #175 เมื่อ: 06 มกราคม 2024, 09:56:AM »

     

      ขออณุญาต นอกเรื่อง สลับฉาก แต่งกลอนเริ่มไว้แล้วแต่ฃต่อไม่ได้ ขอค้างไว้ชั่วคราว
        ผมเชียนกลอนกลบท ฉันทลักษณ์ใหม่ วางแบบแผนฉันทลักษณไว้แล้ว  ถ้าจัดหมวดหมู่ตามข้อบังคับฉันทลักษณ์  น่าจัดเช้าหมวดหมู่เดียวกันกับ โคลงสี่สุถาพ และ ฉ้นท์ จึงนำทั้งสามประเภทมาแต่งประกอบกันได้

     ผมเริ่มแต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ และ ภุชงคป(ระ)ยาตฉันท์  แล้วแต่งต่อไม่ได้(ดั่งใจ) ขอค้างไว้ชั่วคราวครับ
        นึกว่าไม่ยาก เอาจริง ยาก

       ..........

  ลืมความคุ้นเคยเก่าก่อน
และไม่ได้จดจำไว้ในใจ หรือเปล่า?
      ลืมความคุ้นเคยเก่าก่อน
และปล่อยให้มันผ่านเลยไป หรือเปล่า?
….นิรนาม…ผู้แปล
         



แผกสำเนียงเพียงเสียนางครางครวญ


นวลงามนามเฟื่องฟ้า        นารี
เนียนอย่างนางดูดี           เด่นล้ำ
นวลกลายหน่ายแหนงหนี    นึกอย่า ลาเลย
เกรงกริ่งจริงชอกช้ำ        ช่างชู้ดูดาย

ภุชง

ดิถีวารลุกาลใหม่     ระทึกใจระทมหลาย
ฤดูนึ้ฤดีกลาย          จะชื่นชู้มิรู้เลย     

    โปรดติดตาม เร็วๆนี้

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 7 8 [9]
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:   Policy
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!