ที่แล้วไปไม่นับ กลับมาเริ่มใหม่
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
21 พฤศจิกายน 2024, 10:19:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่แล้วไปไม่นับ กลับมาเริ่มใหม่  (อ่าน 139361 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 กันยายน 2020, 09:16:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #80 เมื่อ: 12 กันยายน 2020, 09:16:AM »
ชุมชนชุมชน

     

     




นี่คือกานท์ คุรุสั่ง ประดัง วจนสอน
มอบมิตร ประดิษฐ์กลอน   ประโลม

โหมโรงโยงเริ่มต้น   ชนปลาย
สานเก่าเราสืบสาย   สื่อสร้าง
กานท์กวีเก่งมากหลาย   หลากรุ่งเรืองเฮย
พจน์แต่งตามบทอ้าง   เอ่ยโอ้ฉันเอง

กลอนเสนะเหมาะความตามคำสนอง
เป็นนักลองทายท้าอย่าข่มเหง
กลอนสนานกานท์คีตะประพันธ์เพลง
เป็นนักเลงกลอนศิษย์ภู่ครูสุนทร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, pimonpan, Dildeewana, masapaer, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กันยายน 2020, 12:08:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #81 เมื่อ: 15 กันยายน 2020, 12:08:PM »
ชุมชนชุมชน

     

     
งามไทย ไทยงามทีสุดในโลก
ไทยไพเราะ เพราะที่สุดในโลก
แนะนำ ชวนชม

 




 

เลิศลักษณ์อักขระฉันท์ ประพันธ์ วจะเฉลิม
พูนยิ่งพระยศเพิ่ม   อนันต์

วัลลภแหนแห่ป้อง   สนองบาท
เนาหนึ่งเราเอกราช   ร่วมด้าว
เสรีแห่งธรรมศาสน์   สัจสื่อ ศีลเนอ
จงอย่าแยกแตกร้าว   ร่วมรู้ไทยภัคดิ์

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา
พัชรสุธาภิมลลักษณ์
พระบรมราชินีผู้มีศักดิ์
ทรงพิทักษ์ราชันเป็นราชวัลลภ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 กันยายน 2020, 08:48:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #82 เมื่อ: 25 กันยายน 2020, 08:48:AM »
ชุมชนชุมชน

     
   

    เป็นนักเลงกลอนศิษย์ภู่ครูสุนทร


   

   
     

แสนแหนแห่ วิระชน พหล พละนิกร
ไททาสอุทาหรณ์   ประกาศ

ชาติชนตนต่อสู้   ชูไท
เห็นต่างพรางพาทไย   อย่าอ้าง
เท็จจริงแน่ฤๅไฉน  นะเพื่อน เผยรา
วาดแต่หวังมลายม้าง   เมื่อได้มีเสีย

เพื่อนเอ๋ยพร้อมย่อมอาจพลาดเสมอ
ใจที่เผลอผิดได้จงไกล่เกลี่ย
เพื่อนเอ๋ยพลั้งดั่งไฟไหม้ลามเลีย
ใจที่เพลียแพ้ผองทั้งสองทาง

   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, pimonpan, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 กันยายน 2020, 01:02:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #83 เมื่อ: 27 กันยายน 2020, 01:02:PM »
ชุมชนชุมชน


ถ้าแม้นว่าข้าศึกมันโจมจับ
จะรบรับสารพัดให้ขัดสน
เอาปี่เป่าเร้าโลมน้ำใจคน
ด้วยเล่ห์กลโลกาห้าประการ

คือรูปรสกลิ่นเสียงเคียงสัมผัส
เกิดกำหนัดลุ่มหลงในสงสาร
ให้ใจอ่อนนอนหลับดังวายปราณ
จึงคิดอ่านเอาชัยเหมือนใจจง
.....
สุนทรภู่

       

       

        .



เตือนตนเอง ภวจิต พินิจ  อคติขวาง
ควรที่จะปล่อยวาง   นะกู

ดูจิตคิดใคร่โอ้   อัตตา
โกรธส่อเกลียดโทสา   สื่อเศร้า
ฤๅเราโง่โมหา   เหตุจ่อม จมนอ
ทุกข์เท่าไฟรุมเร้า   รุ่มร้อนเองรา

อคติสี่มิดีแน่แก่ฝ่ายไหน
ควรคิดไกลอย่าลำเอียงเยี่ยงทาสขัา
อคติส่อถูกล่อหลอกกลอกมายา
ควรคิดกล้าทั้งทาสาขี้ข้านาย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, masapaer, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 กันยายน 2020, 12:31:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #84 เมื่อ: 30 กันยายน 2020, 12:31:PM »
ชุมชนชุมชน

     

   
ระบำเทพบันเทิง เป็นระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อแทรกในละครในเรื่องอิเหนา ตอน ลมหอบ เป็นระบำเทพบุตร และนางฟ้า ฟ้อนรำบำเรอองค์ปะตาระกาหลา ประดิษฐ์ท่ารำโดย หม่อมศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก (หม่อมต่วน) และอาจารย์ลมุล ยมะคุปต์ ประพันธ์คำร้องประกอบเพลงแขกเชิญเจ้าและยะวาเร็วโดย ศาสตราจารย์มนตรี ตราโมท
…..
อัปสรฟ้อนส่ายกรีดกรายออกมา
ฝ่ายฝูงเทวาทำท่ากางกั้น (ซ้ำ)
เข้าทอดสนิทไม่บิดไม่ผัน (ซ้ำ)
ผูกพัน ผูกพันสุขเกษม
ปลื้มเปรมปลื้มเปรมปรีดา
…..

พอรุ่งอรุณก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เทวดาฝ่ายฟ้อนร่อนรำถวายเป็นพุทธบูชา
…..
คำฝ่ายฟ้อน ค้นไม่พบคำแปล แต่พบเห็นมีที่ใช้ในหลายแห่ง ผมว่าเพราะดี จึงอยากใช้คำนี้
…….



     

ควรคิดกล้าทั้งทาสาขี้ข้านาย


     

    เมฆหมอกเลือน สิสว่างนภางค์ สุริยะฉาย
จึงฟ้อนระบำร่าย   ระเริง

เทพบันเทิงฝ่ายฟ้อน   กรกราย
ทรงเครื่องเคราเพราพราย   พรั่งพร้อม
อัปสราช่างชวนชาย  ชมชื่น นวลนา
นามหนึ่งนคราน้อม   แน่นั้นเฉลิมชัย

เชิญประชามาพร้องร้องประชัน
ชวนทุกวันรำเล่นเช่นนิสัย
เชิญประชุมกุมสมานสานวินัย
ชวนทุกวัยนับญาติชาติเดียวรา
….. 


สวยอ้ะ อย่างนี้สิ อัปสรา ที่อยากเห็น ทั้ง แต่งหน้า ระบำ ห้ามเถียง


     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, เพรางาย, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 ตุลาคม 2020, 03:10:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #85 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2020, 03:10:PM »
ชุมชนชุมชน

     

         


ปฏิปทา 4 (แนวปฏิบัติ, ทางดำเนิน, การปฏิบัติแบบที่เป็นทางดำเนินให้ถึงจุดหมายคือความหลุดพ้นหรือความสิ้นอาสวะ — Paṭipadā: modes of practice; modes of progress to deliverance)
ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิญฺญา (ปฏิบัติลำบาก ทั้งรู้ได้ช้า เช่นผู้ปฏิบัติที่มีราคะ โทสะ โมหะแรงกล้า ต้องเสวยทุกข์โทมนัสเนื่องจากราคะ โทสะ โมหะนั้นอยู่เนืองๆ หรือเจริญกรรมฐานที่มีอารมณ์ไม่น่าชื่นใจ เช่น อสุภะ เป็นต้น อีกทั้งอินทรีย์ก็อ่อน จึงบรรลุโลกุตตรมรรคล่าช้า พระจักขุบาลอาจเป็นตัวอย่างในข้อนี้ได้ — Dukkhā paṭipadā dandhābhiññā: painful progress with slow insight)
ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิญฺญา (ปฏิบัติลำบาก แต่รู้ได้เร็ว เช่น ผู้ปฏิบัติที่มีราคะ โทสะ โมหะแรงกล้า ต้องเสวยทุกข์โทมนัสเนื่องจากราคะ โทสะ โมหะนั้นอยู่เนืองๆ หรือเจริญกรรมฐานที่มีอารมณ์ไม่น่าชื่นใจ เช่น อสุภะ เป็นต้น แต่มีอินทรีย์แก่กล้า จึงบรรลุโลกุตตรมรรคเร็วไว บาลียกพระมหาโมคคัลลานะเป็นตัวอย่าง — Dukkhā paṭipadā khippābhiññā: pleasant progress with slow insight)
สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิญฺญา (ปฏิบัติสบาย แต่รู้ได้ช้า เช่น ผู้ปฏิบัติที่มีราคะ โทสะ โมหะไม่แรงกล้า ไม่ต้องเสวยทุกข์โทมนัสเนื่องจากราคะ โทสะ โมหะนั้นเนืองนิตย์ หรือเจริญสมาธิได้ฌาน 4 อันเป็นสุขประณีต แต่มีอินทรีย์อ่อน จึงบรรลุโลกุตตรมรรคล่าช้า — Sukhā paṭipadā dandhābhiññā: pleasant progress with slow insight)
สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิญฺญา (ปฏิบัติสบาย ทั้งรู้ได้ไว เช่น ผู้ปฏิบัติที่มีราคะ โทสะ โมหะไม่แรงกล้า ไม่ต้องเสวยทุกข์โทมนัสเนื่องจากราคะ โทสะ โมหะนั้นเนืองนิตย์ หรือเจริญสมาธิได้ฌาน 4 อันเป็นสุขประณีต อีกทั้งมีอินทรีย์แก่กล้า จึงบรรลุโลกุตตรมรรคเร็วไว บาลียกพระสารีบุตรเป็นตัวอย่าง — Sukhā paṭipadā khippābhiññā: pleasant progress with quick insight)
….
ที่มา: พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม — พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)


คำทีผสมด้วยสระ ำ บางกรณีอาจเป็นได้ ทั้งคำ ครุ และคำ ลหุ
แต่ผมบังเอิญได้อ่านพบว่าฉันทลักษณ์ คำลหุแบบเคร่งครัดที่ใช้ในการตัดสินประกวดแต่งร้อยกรอง  ไม่รับ สระ  ำ เป็นคำลหุ

ส่วนคำ"ก็" เป็นคำลหุ ผมก็บังเอิญอ่านพบเช่นกันว่า บางคนเลี่ยงไป ว่า ก็เป็นคำ ครุ ได้ โดยอ้างตามหลักการอ่านออกเสียงเป็นสระเสียงหนัก (ผมนี่ไงก็ด้วยคิดจะอ่านออกเสียง"ก็"เป็นสระเสียงยาวอ่านว่า ก้อ)
ภายหลังผมจำได้ว่าคุณ สุวัฒน์ ไวจรรยา บอกว่า ก็ เป็นสระเสียงสั้น คือ เก้าะ
ฉะนั้นจากนี้ผมจะวาง " ำ" ตรงตำแหน่ง ครุ และวาง "ก็" ตรงตำแหน่ง ลหุ เท่านั้น ในทุกกรณี


 




     

     
ชวนทุกวัยนับญาติชาติเดียวรา
….. 

ทุกคำถาม ก็จะนำ ก็จำ ปฏิปทา
ไม่รู้ก็ศึกษา   ก็ทำ

นำวิถีท่วงท้าย   สายกลาง
เกาะมั่นก็มิหมาง   หม่นไหม้
สุขทุกข์ถ่วงทิศทาง   ถึงเท่าหลงนา 
มีแต่มัชฌิมได้   เด่นด้วยพอพียง

เดินถูกทางห่างราคะละโมหา
ทุกข์สุขพายากง่ายคล้ายไม่เที่ยง
เดินถูกทนพ้นโทสาอย่าลำเอียง
ทุกข์สุขเพียงอคติสี่นี่มายา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
10 ตุลาคม 2020, 09:27:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #86 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2020, 09:27:AM »
ชุมชนชุมชน

         

     
 

เราคือเพื่อน สหชาติ นิวาส ปะเหมาะประสา
ชวนชิด สุมิตรา   นิรันดร์

สัมพันธ์เหมือนเพื่อนพ้อง   มองเมียง
มิแบ่งแยกแตกเสียง   ส่อเศร้า
มีมากแบ่งปันเพียง   พออยู่ ดูรา
มิตรเท่าเทียมมือเท้า   ที่แท้กายเรา

ฟังเพลงร้องต้องใจมอบให้เพื่อน
ทั้งผู้เยือนมาถึงพึงอย่าเหงา
ฟังเพลงรำนำศิลป์ถิ่นของเรา
ทั้งผู้เหย้าพักผ่อนก่อนก้าวไกล               


     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Montree Pratoom, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 ตุลาคม 2020, 06:34:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #87 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2020, 06:34:AM »
ชุมชนชุมชน

     

     
       

พรุ่งนี้ ๑๓ ตุลา.

คล้ายวันสวรรคต “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” รัชกาลที่ ๙
ใส่เสื้อสีเหลืองกันนะครับ
ใส่ให้โลกรู้ ทุกคนรู้…….
ว่ากาลเวลาไม่เคยทำให้ทุกหยาดพระเสโทของพ่อที่หลั่ง ทุกย่างพระบาทที่พ่อย่ำทั่วแดนทุรกันดาร เหือดหายไปจากใจสำนึก-รำลึก-ภักดี ของลูกๆ ที่มีต่อพ่อบนฟ้าเลย

ประเทศชาติร่มเย็นเป็นปึกแผ่น ประชาชนมีที่อยู่ ที่ทำมาหากิน มีลมหายใจอิสระเสรี ถึงทุกวันนี้
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ด้วยพระบารมีพ่อบนฟ้าโดยแท้
ด้วยจิตกตัญญู-รู้คุณนี้…….
ข้าพระพุทธเจ้า กราบเบื้องพระบาท สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนั้น ตลอดไป
…..
เปลว สีเงิน แห่ง "ไทยโพสต์"
…..


หมอบราบกราบ มนะหมาย ถวาย มธุรวาท
สมเด็จชนกนาถ   กษัตริย์

วัดวังยังคู่บ้าน   ทานทน
กษัตริย์อยู่ในใจชน   ชั่วฟ้า
แดนดินทั่วทุกหน   หวนห่วง แหนเฮย
ผันผ่านกาลภพหน้า   แน่น้อมนิรันดร์

รำลึกคำนำผลชี้หนทาง
แดนสว่างประชาชนล้นสุขสันต์
รำลึกคุณบุญกุศลดลราชัน
แดนสวรรค์ธ.สถิตเนานิตย์พิมาน   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เพรางาย, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 ตุลาคม 2020, 10:34:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #88 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2020, 10:34:AM »
ชุมชนชุมชน

   

   เพลินๆฟังเพลง  สลับฉาก
คลายความเครียด

     
     

  พึงทราบ กาพย์ยานี
จังหวะดี ด้วยสิบเอ็ด
วรรคสี่ นี่คือเคล็ด
วรรคแรกเริ่ม เติมตอนท้าย

กลอนดี มีไม้เด็ด
วรรคเดียวเสร็จ สำราญหมาย
อาหาร สารมากมาย
เนื้อสัตว์ดี ที่ผักแนม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เพรางาย, โซ...เซอะเซอ, พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 ตุลาคม 2020, 06:44:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #89 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2020, 06:44:PM »
ชุมชนชุมชน

     

     

ฟังเพลงสลับฉากไปอีก สองสามวันครับ ยังไม่ได้อารมณ์กลอน
เขียนถึงกาพย์ยานี11 ก็บังเอิญเห็นกาพย์ยานี โดยผู้หนึ่ง ซี่งข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เขียนไว้ให้กำลังใจดีมากและไพเราะด้วย
จึงเอามาฝากนักสู้ เพื่อนของเรา


   
     

     

   "ล้มลุก"

พ่ายแพ้มากี่ครั้ง
จะพ่ายพังสักกี่หน
ดื้อด้านและทานทน
จะก้าวย่างบนทางเดิม

ล้มแล้วก็ลุกใหม่
ด้วยแรงใจที่ฮึกเหิม
หนึ่งล้มใช่หนึ่งเริ่ม
เพราะก้าวย่างมายาวนาน

บาดแผลใช่แพ้พ่าย
ไม่ถึงตายยังอาจหาญ
มั่นคงอุดมการณ์
ที่ฝังลึกจนสุดใจ

ก้าวไปดั่งใจหวัง
ถึงพลาดพลั้งไม่หวั่นไหว
หมุดหมายคือเส้นชัย
จะไปยืนเพื่อชูธง

เติมไฟให้พลัง
เพื่อความหวังไม่หลุดหลง
เป้าหมายยังมั่นคง
แม้เนิ่นนานกาลเวลา

หวังไว้สักวันหนึ่ง
คงถึงซึ่งปรารถนา
เชื่อมั่นและศรัทธา
บนเส้นทางที่ทอดยาว

พ่ายแพ้มากี่ครั้ง
เคยพลาดพลั้งกี่ร้อนหนาว
รอยทางคือเรื่องราว
การต่อสู้ของผู้คน...

 อัคระ ธิติถาวร

กาพย์ยานี ๑๑ บทประพันธ์ของคุณอัคระ ธิติถาวร มีความไพเราะมาก อ่านแล้วมีกำลังใจฮึกเหิมในการลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ดีทีเดียวค่ะ

ขอบพระคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ Pixabay.com
[/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เพรางาย, พี.พูนสุข, masapaer, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 ตุลาคม 2020, 12:55:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #90 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2020, 12:55:PM »
ชุมชนชุมชน

   

         
      
       

แต่งเฉพาะกิจ ไม่ได้ต่อกลอนเดิม
.....

เพลงบรรเลง ก็จะโหม ประโคม คุพละเหิม
ดนตรีพิธีเริ่ม แสดง

แจกแจงเจิมเริ่มแล้ว   แหววเหวย
ลืมเรื่องเคืองเราเคย   ขุ่นข้อง
กลองตีปี่ออดเอย   อึงโห่ อลฮา
ฉันพี่ชวนพวกน้อง   แน่โน้มโหมหาญ

ละครเก่าเล่าเฟื่องเรื่องแต่หลัง
ถึงวันหวังหยุดรบพบสันติศานต์
ละครก่อล่อตัณหามายาวนาน
ถึงวันวารจบหมดบทสุดท้าย…(ฤๅตกตามกัน)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 ตุลาคม 2020, 03:36:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #91 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2020, 03:36:PM »
ชุมชนชุมชน

     
       

         


มาเถิดเย้อมาเย่อ มาเยือนเฮือนหมู่เฮา

 

ละครเก่าเล่าเฟื่องเรื่องแต่หลัง
ถึงวันหวังหยุดรบพบสันติศานต์
ละครก่อล่อตัณหามายาวนาน
ถึงวันวารจบหมดบทสุดท้าย
……

อยู่แดนใด พสุธา เวหา ผิว์จระหาย
คืนจิตและสู่กาย   นะขวัญ

แสงแดดสาดส่องฟ้า   คราคราว
ฝนร่ำพรำยืดยาว   อย่าสู้      (ร่ำ=หลายความหมายที่นี้แปลว่ากระหน่ำ พรำ=ฝนเล็กน้อยเรื่อยไป)
เจ็บเจียนป่วยเหน็บหนาว   นึกหน่ายหนักนอ
มาเย่อะมิตรเมืองผู้   ผ่องแผ้วขวัญเอย

ต้อนรับมิตรคิดประโลมโน้มจิตมอบ
เพื่อนผู้ชอบยามยากออกปากเผย
ต้อนรับหมู่สู่ขวัญฉัน(เสมือน)คุ้นเคย
เพื่อนผู้เชยชื่นคำเช็ดน้ำตา

 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ตุลาคม 2020, 09:09:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #92 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2020, 09:09:AM »
ชุมชนชุมชน

     

     คิดมาก็เป็นน่าอนิจจัง
ด้วยกรุงเป็นที่ตั้งพระศาสนา
ทั้งอารามเจดีย์ที่บูชา
ปฏิมาฉลององค์พระทรงญาณ

ก็ทลายยับยุ่ยเป็นผุยผง
เหมือนพระองค์เสด็จดับสังขาร
ยังไม่สิ้นศาสนามาอรธาน
ทั้งเจดีย์วิหารก็สูญไป...

ปรากฏใน
"สุดยอดแห่งการเป็นนักรบของพระองค์ท่าน สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้ารัชกาลที่ 1"
จากเพจ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1928574020512300&id=702874366415611&sfnsn=mo



เพื่อนผู้เชยชื่นคำเช็ดน้ำตา
…..

กรุงเทพไท้ อมเรศนิเวศน์ อภิบุรา
ยิ่งยศดิลกฟ้า   พิมาน


สถานสถิตเทพแห่งฟ้า   ธานินทร์
เฉลิมแด่นครินทร์   ร่มเกล้า
กรุงนามว่าโกสินทร์   สวยยิ่ง เลิศแล
เถลิงสู่จักรีเจ้า   จึ่งป้องครองผไท

กรุงเทพฯสมคมคำนำเล่าขาน
เมืองของท่านพสกปกอยู่ไหว
กรุงเทพฯสวยด้วยยิ้มพิมพ์ประไพ
เมืองของไทยสมเด็จพ่อก่อตั้งมา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 ตุลาคม 2020, 07:51:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #93 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2020, 07:51:AM »
ชุมชนชุมชน

       

   
 


ระบำชุดไทยพระราชนิยม

เผยแพร่เมื่อ 8 ก.ย. 2016
การแสดงนาฏศิลป์จากโครงการ ศิลปิน ศิลปะ ศิลปากร วันที่6 กันยายน พ.ศ.2559 ณ โรงละครแห่งชาติ
ระบำชุดไทยพระราชนิยมเป็นผลงานสร้างสรรค์ของวิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร ที่ได้คิดประดิษฐ์ระบำชุดนี้ขึ้นมาใหม่ โดยมีจุดประสงค์ในการนำเสนอชุดไทยในแบบต่างๆในยุครัตนโกสินทร์ ตามแนวพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงให้นำชุดไทยแบบต่างๆ มาเป็นเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีไทย อันควรค่าแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่ รวม 8 ชุด ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอัมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ และชุดไทยศิวาลัย จัดแสดงครั้งแรกเนื่องในงานศิลปวัฒนธรรมของสถานศึกษาในสังกัดกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2536 โดยมี ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ แต่ทำนองเพลง อ.เฉลิม ม่วงแพรศรี อ.รัตรวี ยลปราโมทย์ และอ.วารี ไตรเพิ่ม ประพันธ์บท อ.ปราณี สำราญวงศ์ และม.ร.ว.อรฉัตร ซองทอง แก้ไขปรับปรุงบท อ.เรวดี สายาคม ผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย ประดิษฐ์ท่ารำ



    ร่าย สุภาพ



พัสตราภรณ์แห่งชาติ ชุดพระราชนิยม
พระบรมราชชนนี ทรงมีดำริการ ประทานประดิษฐ์ย้ำ
เลิศล้ำลายผ้าปัก เลิศลักษณ์
ผ้าถักทอ
ลออองค์ทรงเครื่องรับ เรืองระยับทับทิม ถนิมพิมพาภรณ์
ราวอัปสรร่ายรำ ชุดประจำชาติไทย

วิไลเลอแหล่งหล้า   เริงรื่นลอยเลิศฟ้า
ทั่วแคว้นแดนใด   เฉลิมรา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สุวรรณ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 พฤศจิกายน 2020, 08:02:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #94 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2020, 08:02:PM »
ชุมชนชุมชน

       

     
   

ผลอยผลอยผงภาสดารา
ศศิรวิมิตินภา
พลันแตะปากกา
สลักรอย

จากคุณ jasmine แห่ง jasmine,ink

สัทธราฉันท์” เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ในสมวุตตินิเทศ ท่านเรียกว่า “สัทธราคาถา” เป็นปกติฉันท์ ฯ “สัทธรา” แปลว่า “คาถาที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจในการฟัง”

จากเพจ วัดโมลีโลกยาราม
….

กล่าวกันว่า สัทธราฉันท์ เป็นฉันท์ที่ มีลีลาวิจิตร เหมือนหญิงงามประดับด้วยพวงมาลัย

จากคุณ jasmine แห่ง jasmine,siam ink
…..


สัทธราฉันท์  ไม่มีความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  เมื่อพินิจภาษาดูให้ดีแล้ว จะพบว่าคำนี้มาจากคำว่า  สัท  รวมกับคำว่า  ธรา   เป็นคำมาจากภาษาบาลีและสันสกฤต  ซึ่ง  สัท  หมายถึง  เสียง   ธรา  เป็นคำโบราณ  หมายถึง  แผ่นดิน

สัทธรา  จึงน่ามีความหมายว่า  “ฉันท์ที่มีลีลาประดุจเสียงร้องจากแผ่นดิน (ดินพิโรธ)”    ซึ่งฉันท์ประเภทนี้ใช้สำหรับดำเนินเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความแตกแยก  โดยเฉพาะเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์  ซึ่งใช้เป็นบทดำเนินเรื่องตอนที่กษัตริย์ลิจฉวีแตกสามัคคี

จาก ครูปิยะฤกษ์ บุญโกศล - WordPress.com



 
       

      วิไลเลอแหล่งหล้า   เริงรื่นลอยเลิศฟ้า
ทั่วแคว้นแดนใด   เฉลิมรา
…..

รวยรินกลิ่นหอมก็น้อมใจ
นยฤดิปิติใคร่
รูปและรสใด
ก็ชวนเชย

เคยชิดคิดไขว่คว้า   มาหมาย
ยลร่างยวนชวนชาย   ชื่นล้ำ
จำเรียงเยี่ยงจำราย   เริงร่า
เสนาะนา   
รสรื่นกลืนกลมกล้ำ   กลิ่นแกล้มแซมสม

กลกามแรงแกล้งใจให้สะอื้น
เหตุมิขืนห้ามจิตสนิทสนม
กลกามรวนชนวนเศร้าเคล้าโศกตรม
เหตุมิข่มราร่ายพ่ายแย่งชิง

บันทึกการเข้า
26 พฤศจิกายน 2020, 09:46:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #95 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2020, 09:46:AM »
ชุมชนชุมชน

     

     ศัทธราฉันท์ จาก สามคคีเภทคำฉันท์

๒๑ ลำดับนั้นวัสสการพราหมณ์    ธก็ยุศิษยะตาม
เล่ห์อุบายงาม    ฉงนงำ ฯ
๏ ปวงโอรสลิจฉวีดำ    ริหะวิรุธะและสำ
คัญประดุจคำ    ธเสกสัน ฯ
๏ ไป่เหลือเลยสักพระองค์อัน    มิละปิยะสหฉันท์
ขาดสมรรคพันธ์    ก็อาดูร ฯ
๏ ต่างองค์นำความมิงามทูล    พระชนกะอดิศูริย์
แห่ง ธ โดยมูล    ปวัตติ์ความ ฯ
๏ แตกร้าวกร้าวร้ายก็ป้ายปาม    ลุวระบิดระลาม
ทีละน้อยตาม    ณเหตุผล ฯ
๏ ที่เชื่อฟังพจน์อุรสตน    นฤวิเคราะหะเสาะสน
สืบจะหมองมล    เพราะฉันใด ฯ
๏ แลทั้งท่านวัสสการใน    ขณะยละจะเหมาะไฉน
เสริมเสมอไป    สดวกดาย ฯ
๏ หลายอย่างต่างกลธขวนขวาย    ระบิละยุปริยาย
วัญจโนบาย    บเว้นครา ฯ
๏ ครั้นล่วงสามปีประมาณมา    คณขัติยะประดา
ลิจฉวีรา    ชะทั้งหลาย ฯ
๏ สามัคคีธัมมะทำลาย    มิตระภิทนะกระจาย
สรรพะเสื่อมหายน์    ก็เปนไป ฯ
P๏ ต่างองค์ทรงแคลงระแวงใน    พระหฤทสวยยะนิสัย
ผู้พิโรธใจ    ระวังกัน ๚

 

ส่วนกลอนสุภาพวันนี้ คิดอยู่นาน ขออณุญาต ใช้คำสัมผัส ไ ใ อัย รรม อำ
เพราะว่าต้องการ"เล่นคำ"ทั้งสี่วรรค จะไม่พยายามทำเช่นนี้อีก
…..
    เหตุมิข่มราร่ายพ่ายแย่งชิง
…..


ถ้อยคำล้ำเลิศประเสริฐสิ่ง
วจนะมธุรจริง
สัจจะเยี่ยงยิ่ง
ประไพผล

หลายกลหลากเล่ห์ร้าย  หมายหลอก
ยลส่อเสียดเหยียดยอก   อย่าข้อง
คำคนกล่าวกลับกลอก   กลาดเกลื่อน นรกรา
รังแต่มัวมลร้อง   เรี่ยร้ารำไร

วาทการสารนำธรรมนิเวศ
วาทเภทฤๅแตกแยกไฉน
วาทกรรมธรรมดีอยูที่ใจ
วาทภัยกรรมชั่วตัวกาลี
บันทึกการเข้า
03 ธันวาคม 2020, 07:51:AM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #96 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2020, 07:51:AM »
ชุมชนชุมชน

     

   แม้ยาวมากหากพลาดอาจเสียดาย

      

มาด กริยา แปลว่ามุ่ง เช่นมาดหมาย , ฝ่ายฟ้อน คำที่ใช้ในบทกลอน หมายถึง ฟ้อน , วอน ในที่นี้หมายถึง รนหาที่
…….
วาทภัยกรรมชั่วตัวกาลี
……




ยั่วเย้าเจ้าเล่ห์นะเทวี
ผิวะปะทะอสุรี   
เมฆขลานี้   มิเกรงใคร

มาดใจหมายฝ่ายฟ้อน   วอนชาย
กวัดแกว่งกวดลวดลาย   ล่อแก้ว
แวววับส่องสลับสาย   แสงพร่าพรางแล
ครืนครั่นครึกโครมแล้ว   เลี่ยงเร้นเมฆา

ชอบหรือชังกังขาพาฉงน
ฟ้าพลอยฝนคลาคลาดคล้ายปราถนา
ชังหรือชอบตอบยากหากจำลา
ฝนพลอยฟ้าเธอไกลฉันฝันแกมเพ้อ
บันทึกการเข้า
08 ธันวาคม 2020, 03:44:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #97 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2020, 03:44:PM »
ชุมชนชุมชน

   

    ระบำไล่คว้า เมมขลา ไก่แก้ว สุพรรณมัจฉา ชอบครูเจี๊ยบแสดงไว้ เหมาะ ที่สุด สวยงามแก่นแก้วน่ารัก กวนโมโห   
คลิปนี้ แสดงโดยยอดครูศิลปินในดวงใจ
ไก่แก้ว-ครูเสาวรักษ์ ยมะคุปต์ ตัวนาง
พระลอ- ครูสมเจตน์ ภู่นา ตัวพระ
ปู่เจ้า- ครูคมสันฐ ห้วเมืองลาด อัตลักษณ์ความงามอย่างศิลป์ไทย



ร่าย

๓๑๘ ปู่กระสัลถึงไก่ไพรพฤกษ์ ปู่ลำฦกไก่ไก่ก็มา …………..   
ครั้นถับถึงพระเลืองลอ ยกคอขันขานร้อง ตีปีกป้องผายผัน ขันเอื้อยเจื้อยไจ้ไจ้ แล้วไซ้ปีกไซ้หาง โฉมสำอางสำอาจ
ท้าวธผาดเห็นเปนตระการ ภูบาลบานหฤไทย งามพอใจพอตา มิทันทาธารทำรง ทรงมกุฎภูษาสรรพ จับพิไชยอาวุธราชพล บัดดลธลุกไล่ หวังได้ไก่ตัวงาม ยกทัพตามจอมราช ครั้นคลาศไก่อยู่ท่า เห็นธช้าไก่ขันเรียก ไก่กระเหวียกตาดู ครั้นภูธรจะทัน ไก่ค่อยผันค่อยผายระร่ายรายตีนเดิร ดำเนิรหงส์ยกย่าง ครั้นเห็นห่างไก่หยุด ครั้นจะสุดแดนป่า ครั้นจะผ่าแดนบ้าน ไก่ทำคร้านมารยา เห็นไก่ช้าธก็สราว ไก่เหิรหาวหายเนตร ภูเบตร์ดูอับทิศ บพิตรคิดพระองค์ โอ้กูมาหลงแก่ไก่ ไก่ผีไขว่เอากู ท้าวธเหลียวดูพี่เลี้ยง สองพี่กล่าวคำเกลี้ยง ถี่ถ้วนทั้งมวล ฯ
…..จาก ลิลิตพระลอ

มาลินีฉันท์ 15
ชื่อฉันท์แปลว่า ดอกไม้ เป็นฉันท์ที่แต่งยากแต่ทว่ามีความงามประดุจดอกไม้ ทำนองฉันท์สั้นกระชับในตอนต้น แล้วราบรื่นในตอนปลาย เป็นฉันท์ที่มีท่วงทำนองเคร่งขรึมน่ายำเกรง กวีมักใช้แต่งเพื่ออวดความสามารถในการใช้ศัพท์และเป็นเชิงกลบท
หนึ่งบทมี 15 พยางค์
ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ   ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ   ลหุ-ครุ-ครุ
…..วิกิพีเดีย
    

    ฝนพลอยฟ้าเธอไกลฉันฝันแกมเพ้อ
…..

ปิติมนะขณะผาดเจอ   คิดสนิทเน้อ   เสน่หา
สหจตุทวิบาทา   เล่ห์และมายา   ก็รู้กัน

ทันกลยลยิ่งล้วน   ชวนดู
ทำเล่ห์หยันขันคู     ขุ่นข้อง
รุกรับไก่กับงู   งกงุ่น งงเฮย
ฝักฝ่ายหมายตนต้อง   ต่างสู้เป็นไป

ชั่วหรือดีที่ใจใครจะรู้
ไก่เห็นงูย่อมเห็นเป็นไฉน
ดีหรือชั่วตัวบอกหลอกเอาไว้
งูเห็นไก่รู้ลับจับกลลวง

บันทึกการเข้า
14 ธันวาคม 2020, 07:38:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #98 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2020, 07:38:PM »
ชุมชนชุมชน

     

      ครูเจี๊ยบ เสาวรักษ์ ยมะคุปต์     

     

ชี้แจงครับชี้แจง แจงชี้นะครับ
อนุรักษ์  คือการนำมาใช้ ภาษาถ้าไม่ใช้คือภาษาตาย
ข้าพเจ้าพยายามเขียนกาพย์กลอนให้ได้หลายชนิดที่สุด
มีบางครั้งที่เขียนแล้วลบทิ้งไม่กล้าโพส บางครั้งโพสแล้วก็กลัวว่าผิดข้อห้ามของเว็บ บางโพสก็กลัวว่าโพสแล้วจะมีคนเกลียด  ซึ่งถ้าพยายามว่าควบคุมดีแล้ว ยังจะมีความรู้สึกนั้นอยู่ บางครั้งก็เกิดความ คิดว่า เลิกเขียนกลอนเถอะ หรือ ไปเขียนในสถานที่ ของตัวเอง จะเลวร้ายก็เดือดร้อนไปเองเฉพาะตัว นี่เป็นคำตอบที่ชอบธรรมที่สุด
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ขอชี้แจงอีกสักครั้งสุดท้ายและยินดียอมรับวิจารณญาณจากเว็บ และ ผู้เยี่ยมชมทุกท่าน
หลายครั้ง ข้าพเจ้าเขียน ฉันท์ โคลง โดย
ที่คำประพันธ์นั้น มักใช้คำ ประดิษฐ์วาทะกรรม ชึ่งปกติไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าพูดถึงฉันท์ ใครๆก็ตาม จะต้องยกแบบอย่างนายชิต บุรทัต และสามัคคีเภทคำฉันท์ ทั้งเนื้อหาและรสคำ เข้มขลัง แข็งกร้าวและไพเราะ
วาทกรรมนี่แหละที่โฉบเฉี่ยว เพราะไม่ค่อยใช้ในชีวิตประจำวัน แต่พบได้ใน ผู้พูดที่เป็นนักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผูัแสวงหาและเสนอสนองความเจ็บแสบเป็นอารมณ์
หากข้าพเจ้านำวาทกรรทเหล่านั้นมาใช้บ้าง ขอความเข้าใจว่าใช้เพราะเป็นภาษาวรรณกรรม ใช้เพื่ออนุรักษฺ์
ฉันท์ลักษณ์คำประพันธ์ มิใช่พูดแทนใคร มิใช่เป็นตัวแทนฝ่ายใด เด็ดๆ100%
แต่ถ้าตัวเลขจำนวนผู้เปิดอ่านน้อยลง นั่นคือ ไม่เป็นที่ต้องการ สมควรที่จะหยุดเขียน
ด้วยความ ขอโทษและขอบคุณบ้านฯไว้ล่วงหน้า ที่ให้โอกาสข้าพเจ้าได้สนุกกับการเขียนกลอน
ขอบคุณตลอดการ ไม่มีเงื่อนไข
…..
       

       

มาลินีฉันท์ ๑๕ - วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร
แบ่งจังหวะ
3 - 3 - 2   1-3   3
ลหุลหุลหุ ลหุลหุลหุ ครุครุ
ครุ ลหุครุครุ
ลหุครุครุ


งูเห็นไก่รู้ลับจับกลลวง
…..
หะอริ ผิว์ปะทะ จาบจ้วง
วาย จะเปล่าป่วง   เพราะโมหา
นิสย อคติ มายา
หวาด ก็อาจกล้า   มิเจียมตน

คนหลายหมายขู่ขั้น   คุกคาม
มากกว่าบุกลุกลาม   ไล่ท้า     
ทีสูย่ำทำหยาม   เหยียดข่ม ขืนเฮย
ทวงซึ่งถึงทีข้าฯ   ขี่ค้ำคอคา

แกล้วหรือกลัวหัวหมายอย่าหายหด
ปลากินมดเมื่อน้ำมากหลากผืนผา
กลัวหรือแกล้วแววน้ำแล้งแห้งคงคา
มดกินปลาคราวนั้นมันถึงที

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : โซ...เซอะเซอ

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 ธันวาคม 2020, 07:47:PM
@free
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 100
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 581



« ตอบ #99 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2020, 07:47:PM »
ชุมชนชุมชน

     

 อีกหนึ่งศิลปินทึ่ชอบมาก
อ.พิมพ์รัตน์ นวศิริ(เคยแสดงเป็นคาวี) เป็นกวางทอง  น่าจะได้รับถ่ายทอดท่ารำจาก อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ(ซึ่งรับการถ่ายทอดจากท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี) รำสวย กวน ชอบทั้งสองท่าน

       

การกำหนด คณะ ในการแต่งฉันท์ เท่ากับการแยกชนิดของฉันท์
…….

…..จากเพจ ร้อยกรอง คะนองเพลงยาว
นอกจากคำครุและลหุแล้ว ยังมีวิธีจดจำเป็นกลุ่ม เรียกว่า "คณะ"(คือการจัดคำครุแลหลหุเป็นกลุ่ม กลุ่มละสามเสียง)
…..


มาลินีฉันท์15

โดย
โชติช่วง นาดอน (ทองแถม นาถจำนง) จากเพจ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย…..

     “เสือโคคำฉันท์” ของพระมหาราชครูอ่านง่าย อ่านสนุก เพราะผู้ประพันธ์เลือกใช้ ฉันทลักษณ์ฉบัง 16 , สุรางคนางค์ 28 , อินทรวิเชียร 11 เสียมาก แต่งเป็นคำฉันท์ที่ยากๆ น้อยฉาก และในฉากนั้นๆ ก็เขียนสั้นๆ….
เรื่อง “เสือโคคำฉันท์” ยังมีฉันท์ อีกสองฉันทลักษณ์ คือ “สัทธราฉันท์ 21” และ “มาลินีฉันท์ 15”
 
   
      เมื่อท้าวมคธ จะปูนรางวัลยกราชธิดาให้คาวี ใช้ฉันทลักษณ์ “มาลินีฉันท์ 15” สั้นๆ เพียงแปดบทเท่านั้น ดังนี้


มคธพจนปูนปอง   
ซึ่งจะแทนสนอง    คุณาใน
๏ ตรุณวิบุลยมีไชย    ชลยักษไกษย    สรเสริญคุณ
๏ มหิทธิพิพิธอดุลย์    เดชสนองสุน    ทราภาพ
๏ มนุษประทุษฐอันอาบ    ทุกขแทรกทราบ    ก็เสบย
๏ ศิขรศิขรินทรก่ายเกย    เจ้าทั้งสองเผย    อุราราษฎร์
๏ อมรนิกรจักจากสาธุ์    ธุการแต่อาตม์    สองสมร
๏ อนงคองคธิดาอร    เราจักสวยมพร    พระคาวี
๏ บวรบรมบุตรี    เปนรางวัลศรี    สุโรพล
…..
    มดกินปลาคราวนั้นมันถึงที
…..
วสภ ผิว์จร ไพรศรี
พบ พยัคฆฺี ระวังภัย
สมถะ ปกติ นิสสัย
พึง พินิจนัย   กมลมาร

คนพาลแผลงหน้าใหญ่   ใจเสือ
ยลยิ่งยากมากเหลือ   เล่ห์ร้าย
ดูดีเด่นควรเขือ   คิดใคร่ แคลงเนอ
บุญว่ารับคลับคล้าย
   เคร่งแล้วคลับคลา

ชีวิตฝันวันวานผ่านแต่หลัง
ดูแต่หวังเสือโค ละโทสา
ชีวิตใฝ่ใจคนล้นเมตตา
ดูแต่ว่าหน้าเนื้อใจเสือร้าย


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s