~*~ เพรงกรรม ~*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 07:09:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*~ เพรงกรรม ~*~  (อ่าน 3173 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 พฤษภาคม 2019, 10:31:PM
วลีลักษณา
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 158
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 390

สร้อยศิลป์จินตกานท์ โดยวลีลักษณา


เว็บไซต์
« เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2019, 10:31:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ สายลมพัดพร่างพลิ้วหวีดหวิวแว่ว-
คีตาแผ่วผ่านโสตคล้ายโอดเอื้อน
สะอื้นอึงอลขวัญล่วงวันเดือน
น้ำตาเปื้อนปวดปร่าโศกอาดูร

๐ รุ้งทอลำทาบสรวงเมื่อช่วงสาง
แต่ในกลางทรวงอับราวดับสูร*
มืดบอดบนทางกรรมสิ้นจำรูญ
ทุกข์พอกพูนพลัดพรากบนซากกาล

๐ เพลงพาทย์โหยหวนแผ่วไม่แล้วล่วง
ยังคลอห้วงทรวงเคล้าคอยเผาผลาญ
ร้อนดั่งเพลิงโหมไหม้ประลัยลาญ
ทรมานเจียนกายจักวายวาง
 
๐ กรรณิการ์เชิดช่อเพียงรอหล่น
ยามผ่านพ้นสู่เช้าใดเล่าขวาง
แม้เพียงลมพรมเคล้ากลีบเบาบาง
ก็ร่อนร่วงหล่นคว้างระหว่างเช้า

๐ เช่นคำนึงรอยฝันที่ผันร้าง
ทนอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา
ในเศษซากเลือนรางอันบางเบา
จึงทรวงเคล้าทุกข์เทวษท้นเจตจินต์

๐ สูญสิ้นแล้วแคล้วคลาดวาสนา
เกินด้นฝ่าคว้าหวังดั่งถวิล
จบทางฝันผันลาน้ำตาริน
ป่นลงสิ้นวิญญาณแม้ปราณยัง

๐ กรรณิการ์กลีบบางร่อนคว้างร่วง
พรากช่อพวงซบดินหมดสิ้นหวัง
คล้ายอกหนึ่งขื่นขมจมภวังค์
อันปรักพังย่อยยับมานับนาน

๐ ฤาบาปบรรพ์ตามติดลิขิตให้
สองดวงใจตรึงรั้งสบสังสาร
ให้รู้รสรักแทรกด้วยแหลกลาญ
เป็นซากหวานเจือขมทับถมทรวง

๐ ยอมชดใช้หนี้บาปที่สาปสั่ง
บัดพลีทั้งปราณเช่นเครื่องเซ่นสรวง
กี่รอบวัฏฏ์วงกรรมฝากคำบวง
ขอรานบ่วงโซ่ร้อยให้คอยรอ

๐ สายลมพัดพร่างพรมผสมพาทย์
ราวจะบาดทรวงเทียว..เทียบเรียวขอ
จิกกระชากอุรา..น้ำตาคลอ
มิอาจพ้อเทพแถน ณ. แดนใด

๐ แสงรุ่งสางพร่างสีคลี่ม่านภพ
ค่อยเลือนลบมืดหม่นพ้นฟ้าใส
หยาดน้ำค้างเลือนหยดสิ้นหมดไป
หยาดน้ำใจไหลริน..ก็สิ้นลง

๐ สืบชีพชนม์วนชาตินิราศลับ
ตราบปราณดับยับยุ่ยเป็นผุยผง
เป็นกงเกวียนกำเกวียนที่เวียนวง
สั่งสาปส่งโทษทัณฑ์ผ่านวันคืน

๐ สบกันแล้วแคล้วคลาดสิ้นวาสน์คล้อง
มิอาจครองเคียงขวัญจนผันอื่น
รอนสิ้นแล้วหวานล้ำ..ให้กล้ำกลืน
แต่ขมขื่นล่ามคารอยอาลัย

๐ พลิ้วพลิ้วแผ่วแว่วเพลงบรรเลงบท
ย้อนกำสรดคลอครวญแต่หวนไห้
วิปโยคโศกย้ำหนอกรรมใด
ผูกพันใจ พบพาน แล้วรานทรวง

วลีลักษณา

สูร* แปลว่า ดวงอาทิตย์
แต่ในกลางทรวงอับราวดับสูร แปลว่า ใจมืดเหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีดวงอาทิตย์

ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=03-2011&date=27&group=26&gblog=129

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, สดายุ, เนิน จำราย, พี.พูนสุข, Thikhumporn27

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

รวมกลอนวลีลักษณา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana
28 พฤษภาคม 2019, 08:27:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #1 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2019, 08:27:PM »
ชุมชนชุมชน

กรรมมุนา วัตตะตี โลโก "ย้อน"
กรรมเก่าก่อนซ้ำรอยฤๅปล่อยบ่วง
ปลงเสียเถิดเกิดดับรับทั้งปวง
ปล่อยจิตล่วงโลกธรรมองค์สัมมาฯ

ตัดเสียสิ้นกลิ่นรสยอมอดทน
คลายกังวลป่ายปีนถึงศีลห้า
นานอนาคตหมดห่วงห้วงกามา
สมาธิพาจิตตั้งสมหวังคอย

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : วลีลักษณา, พี.พูนสุข, ไผ่เดียวดาย

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s