ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[@free]

เมื่อก่อนเราไม่ขาดทุน เราได้มาฟรี




ไทยหักล้างถางไร่ได้มาเปล่า
ลงแรงเอาแปลงนาได้มาเฉย
ยืมควายต่อพ่อตาได้มาเลย
พันธ์ุกล้าเอ่ยขอป้าได้มาเอา

ทั้งลุงน้าอาด้วยช่วยลงแขก
แต่เริ่มแรกสืบส่อต่อแต่เก่า
 ทั้งข้าวปลาอาหารเต็มลานเล้า
หนุ่มสาวเจ้ารัองรำระบำฟ้อน

ลำประโดงโค้งฝั่งคุ้งวังน้ำ
วัฒนธรรมบรรเจิดเกิดกลุ่มก้อน
ครอบครัวใหญ่ใจเฟื้อเอื้ออาทร
จะเกิดก่อนเกิดหลังเชื่อฟังความ

อารยะประเพณีมีรากเหง้า
กายใจเราสร้างมาอย่าได้หยาม
รากยึดเกี่ยวเหนี่ยวชักรักเขตคาม
 มีคำถามรุ่นใหม่หวังใดปอง

ทิ้งเรือนชานบ้านเกิดเตลิดเมือง
เอ่ยอ้างเรื่องร่ำรวยด้วยผยอง
เงินเดือนงามตามนั้นฝันได้ทอง
ตกงานต้องเปฺ็นทหารผ่านไปรบ


สิ้นไร่นา ปศุสัตว์ เข้าเมืองหวังรวยตามเขาบอก ขาดรากเหง้าเหมือนขาดที่พึ่ง
เดี๋ยวนี้ิออกไปพักค้างแค่1คืนบรรยากาศทุ่งนา ซึ่งเคยเปํนของฟรี อาจต้องจ่ายเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือน
ิสุดท้ายเพื่อเงินเพื่ออนาคตใหม่เพื่อประชาธิปไตย อาชีพฮิต คือเป็นทหาร ไปฆ่ากัน

[@free]

เพลงบทเศร้าเหล่าทหารผู้ผ่านศีก
ใครจะนึกวันกลับจะนับศพ
ครอบครัวขาดญาติไร้อยู่ไม่ครบ
เรื่องไม่จบจดจำเป็นตำนาน

ฟ้าขาดฝนคนเล่าเขาจรจาก
ขาดรกรากพึ่งพิงทิ้งถิ่นฐาน
ลืมเรื่องเก่าเล่ากันเมื่อวันวาน
ฝันพอผ่านใหม่จ๋าประชาธิปไตย

[@free]

https://youtu.be/Hof_5EmyqyI




ปากพอเพียงเอียงใจให้ฝรั่ง
พูดไม่ฟังอ้างทุนหนุนแก้ไข
โอ้เทคโนโลยี่ต้องมีไว้
นาร้อยไร่น้อยหนอไม่พอรวย

นาผืนน้อยพลอยจนทนแทบบ้า
ทั้งพันธ์ุกล้าปุ๋ยแพงจ้างแรงช่วย
ขาดทุนสู้กู้หนี้ถึงทีซวย
หันซื้อหวยจ่ายเงินเกินใบแดง

รอทุนหมดจะอดตายขายนาเสีย
ให้อาเฮียทุ่มซื้อถึงยื้อแย่ง
นาเราขายจ่ายเป๊ะเอ๊ะไม่แพง
ไปขายแรงเงินได้ไหงถูกจัง

จากเจ้าของท้องนามารับจ้าง
เงินมีบ้างหมดไปไงโธ่ถัง
สุขทุกข์หรือคือทุนวุ่นหาตังค์
ดูฝรั่งรุ่นใหม่ใจขาดทุน



ยุคสมัยที่ขาดเงินทุน ขาดความสุขทางใจ

https://youtu.be/YzkiJUBrCi8














/color]

[@free]

   https://youtu.be/UUSjoplSFVk






เทศกาลงานปีมีสืบสาน
ทั้งวัดบ้านโยงเยื่อต่างเกื้อหนุน
ไทยส่งเสริมเติมต่อก่อผลบุญ
ถือเป็นคุณความนี้ดีแน่นอน


  คนรุ่นไหนไม่รู้ดูโง่เขลา
  บอกไม่เอาไทยเดิมเริ่มหลอกหลอน
  มายุแหย่แถถลอกมันยอกย้อน
  ดูไว้ก่อนเขาเลิกหมดเดี๋ยวอดนะ



https://youtu.be/UUSjoplSFVk
   [url]https://youtu.be/UUSjoplSFVk/url]

[@free]

 

ปากเป็นเอกเลขโทโบราณบอก
เข้าตามตรอกมาไหว้ไม่กักขฬะ
พูดคำเพราะเหมาะดีมีจ๋าจ๊ะ
พูดเกะกะขอทีเอ้ามีมวย

พลั้งคำพล่อยบ่อยหนคนสุ่มสาว
ขุดเรื่องฉาวคุ้ยครบจบไม่สวย
 เอ๋ยพูดมากปากเสียแต่เตี่ยรวย
เถอะทีม้วยอย่าวายตายแดนไกล

จารีตเก่าเล่านานพาขานขับ
ต้นตำรับปู่ย่าพาขานไข
โบราณสู้กู้ฟื้นผืนดินไทย
แปลงนาไร่สร้างถิ่นแผ่นดินทอง

บูชาพุทธพิสุทธิ์ล้ำนำเฉลิม
 สมโภชเสริมฟ้อนรำนำฉลอง
ศาสน์นำศิลป์ยินร่ำเป็นทำนอง
ตามครรลองจดจำเป็นธรรมเนียม

อาจเอื้อมชาติศาสน์กษัตริย์ซัดมาแซะ
เด็กเลี้ยงแกะช่างถนัดซัดมาเสี้ยม
พูดไม่เนียนเลียนย้ำแต่คำเตี๊ยม
พูดไม่เหนียม' พอเพียง 'เยี่ยง' วาทกรรม "

   

[@free]

[


ขบวนการเป็นไปเอง

]

คนอันไรไม่ดูรู้ระเบียบ
เห็นทำเงียบด้านดืัอหรือขื่นขำ
แรกขอทีมีช่อขออืกซ้ำ
ดูขาวดำไม่ออกบอกสีเทา

รุ่นไหนสอนก่อนตายไม่อายขื่น
แซงคิวยืนหน้าตายไม่อายเขา
หน้าระรื่นขื่นขำตัวทำเอา
ทีงานเข้าช่อช้ำตัว ทำเอง

ลิงล้อเจ้าเขาว่ามาร้องหยอก
ไม่มีคอกพุงป่องมาร้องเหยง
ถูกสืบสาวคราวนี้ถึงทีเจ๊ง
ลูกนักเลงแหยะยี้ถึง ทีจำ


/color]

[@free]

ไถสนุกสุขบายควายไม่ต้อง
ขับในห้องติดแอร์แหมเย็นฉ่ำ
 เกลียดความจนคนชังทั้งหน้าดำ
เชื่อผู้นำรุ่นใหม่เผื่อใครรวย

จนไม่เครียด
เฉียดบ้าว่าสดใส
อนาคตใหม่แหกกฎว่าสดสวย
คราวมีตังค์พังผืดยืดไม่ย้วย
ไม่ขื่นขวยพูดไปยืดไม่ยั้ง

ไฮเทคนี้ที่เห็นเป็นความวาด
ใครก็คาดตื่นตามเป็นความหวัง
เชื่อทุกคราวราวเรื่องเนื่องอยากฟัง
เชื่อทุกครั้งหากใคร่ใจอยากมี

เกษตรกรย้อนเวลารอฟ้าฝน
เกษตรกลต่อต่างไม่ห่างหนี
เราสร้างเงินเพลินสนุกไปทุกที

ไทยมั่งมีชื่นสุขไปทุกทาง

โลกก้าวเกินเจริญผลบนเงื่อนไข
โลกก้าวไกลหลุดพ้นคนขัดขวาง
ใครก็ชอบตอบกลับรับแนวทาง
ใครก็ช่างเก่งแท้แหมขอบคุณ

เคียวเกี่ยวฟ้าว่าเดือนเตือนวารผ่าน
น้ำไหลร่านหลากล้นฝนฟ้าหนุน
เคียวเกี่ยวเสาเก่านักหลักค้ำจุน
น้ำไหลขุ่นตะกอนเก่าเขาไม่จำ



 






   

[@free]

 


 

 
มั่นคงคือ อารยธรรม

ตะวันรุ่งพุ่งแสงแรงเติมเต็ม
ดอกเอื้องเข็มชอบแสงสีแดงก่ำ
ตะวันแลงแสงเลือนเหมือนใจช้ำ
ดอกเอื้องคำสร้อยศอพะนอนาง

รักผืนนาหากินถิ่นป่าเขา
เดินสายเก่าบวชเรียนเพียรกระจ่าง
รักผีนน้ำลำแควโค้งประโดงราง
เดินสายกลางกรรมแก่นแผ่แพนพงศ์

ทรัพย์ในดินถิ่นสอาดธรรมชาติสวย
ชายหญิงรวยรื่นสมัครรักประสงค์
ทรัพย์ในแดนแน่นอนันต์สินมั่นคง
ชายหญิงหลงเริงใจใฝ่รักแท้

จารีตเก่าเราดีมีคำสอน
บวชเรียนก่อนแต่งทีหลังฟังคำแม่
จารีตก่อนย้อนเกี่ยวให้เหลียวแล
บวชเรียนแก้บาปภัยพึ่งตรัยรัตน์

พอเพียงใช่ใดหนึ่งพึงโดดเด่น
พอเพียงเช่นศีลธรรมกรรมปฏิบัติ
พอเพียงชี้มีธรรมชาติเป็นมาตรวัด
พอเพียงชัดอารยธรรมนั่นนำพา

[@free]

 

             

   หมอบคลาน มงคลประเพฌีเราหมอบอกราน



ฝนฟ้าชุ่มอุ้มสรรพ์พรรณชาติ
นบไหว้ศาสน์นำบวชสวดคาถา
ฝนฟ้าฉ่ำพรำหล่อช่อผกา
นบไหว้สาคุ้มเกล้าเราหมอบกราน

บูชาพระเก็ตถะหวาค่าพิสุทธ์
บูชาพุทธสะบันงามาผสาน
บูชาเพียงเคียงเครื่อง
เอื้องผึ้งมาลย์
บูชาพานยอนบครบสาม
มาลี

อารยชาติศาสน์สร้างทำผู้นำถิ่น
นาฏสร้างศิลป์เริงใจใคร่วิถี
อารยชนก่นสร้างทางความดี
นาฏสร้างศรีอวดเด่นเช่นนี้ไทย

กุศลส่งมงคลเกิดเทิดเกษา
จะร้างราละหรือคือ ไฉน
กุศลเสริมเติมสง่าค่าเวไนย์
จะร้างไร้ค่า
มนุษย์ควรหยุดคิด

หมอบกราบเท้าเกล้า
อุ่นคุณพ่อแม่
ผู้เที่ยงแท้กำเนิดเราเฝ้าถูกผิด
หมอบกราบไท้ได้ทรงคงทศพิธ
ผู้เที่ยงทิศธรรมราชศาสดา

   

[@free]

 

 เพียงดอกไม้ไหว้ครูคือรู้คุณ


   






ดูอ่อนไหว ไกวกร ช่างอ่อนหวาน
  ท่านที่เลื่อนผ่านเลยมาถึงตรงนี้อยากบอกว่าน่าเปิดคลืปชมครับ ชอบหรือไม่ชอบก็ชวนชมครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไรคนรุ่นใหม่เค้าจะเลิกราไป หายไปเยอะแล้วด้วย พลาดชมถือว่าน่าผิด


..........
 มาลีพรรณสรรแปลงตกแต่งสวน
คนรู้ควรคุณวุฒิรุดศึกษา
มาลีพร้อมน้อมครูเพื่อบูชา
คนรู้ค่ารู้บุญแทนคุณครู

อ้างอวดรู้ตู่โต้โง่แต่เกิด
ช่อดอกเชิดเชยสวยด้วยผึ้งภู่
อ้างอวดรวยด้วยเล่ห์เป๋ตามปู
ช่อดอกชูเด่นสลอนภมรล้อม

เป็นดอกไม้ไหว้ครูผู้เพาะบ่ม
เชยดอกดมเสน่หาว่ากลิ่นหอม
เป็นดอกมาลย์กรานหมอบด้วยนอบน้อม
เชยดอกดอมจึงรู้ว่าคู่ควร

คุณครู"เพรา"เฝ้าคาดคั้นฉันทลักษณ์
ครูเชิญชัก"ระนาดเอก"เลขถึ่ถ้วน
คุณครู"พี"นี่รักอักษราล้วน
ครูเชิญชวน"เนินจำราย"หมายติดตาม

รำลึกนอบมอบจิตด้วยคิดค้อม
รำลึกน้อมเอ่ยอวยด้วยเกรงขาม
รำลึกนบจบไหว้ได้ทุกยาม
รำลึกนาม"สุนทรภู่"ครูกลอนไทย

......

ขออนุญาติเอ่ยนามครูที่เคยได้แนะนำผมฝึกฝนเขียนกลอนมาตั้งแต่ผมเริ่มเข้าบ้านนี้ครับ
รวมถึงขอบคุณท่านอื่นๆในทื่นี้ผู้เป็นแบบอบ่างให้ผมได้ฝึกฝนจดจำตลอดมาครับ

..........


 

[เนิน จำราย]

 ครู"พรายม่าน"ขานขับประดับร้อย
เยิ้มหยดย้อยช่อกานท์เบ่งบานไสว
รู้ดินฟ้าป่าดงพงทั่วไพร
ศรีวิไลคุณค่าดุด่างาม

ครู"เพรางาย"หมายพบประสบตา
เงียบหายมาเนิ่นนาน"เนิน"พาลพล่าม
"คู่รักกลอน"นอนไหนไปขอความ
เชิญนงรามเชลงเจ็ดเถิดเผ็ดร้อน

คุณพี่"พูน"ทูนหัวข้อยกลัวหลาย
เสียเชิงชายมากหนทั้งล้น,กร่อน
เขียนตะบันขยันผิดต้องลิดรอน
บัวเป็นบอนลิงเป็นค่างบ่างเป็นชนี

แค่กล่าวเกริ่นเผินผาศิลาล้วน
มีมากมวลแม่นหลักสมศักดิ์ศรี
ตัดโอ้เอ้เร่มาหาสักที
เชิญน้อง,พี่ เพื่อน,พ้อง ขับร้องคลอ

เนิน จำราย

[@free]

       


 
           

   

   







ไทยพรรณไหน ดูไว้ นี่ไทยยิ้ม
……….

ชุมชนหนึ่งพึงพอสิบริบูรณ์
เริ่มแรกศูนย์จากใจคำใดขอ*
ชุมชนไหนได้ดีเพิ่มมีพอ
เริ่มแรกส่อเป็นไปต้องได้ตาม
…..

*ขออนุญาติ ครู  "เนิน"ผ่อนผันให้  "ขอ"สัมผัสกับ"คลอ"ครับ หากว่าไม่ควร งั้นแก้ไขเป็น นั้นใดหนอ*
…..

คำครูล้วนถ้วนทำสอนนำเสริม
ร่ำเรียนเติมยามสยายยิ้มสยาม
คำครูหลายถ่ายทอดคือยอดความ
ร่ำเรียนตามวาดมโนว่ามนุษย์

รู้จำรายเราจำเริญขอเชิญขาน
แพร่พิศาลภูมิพ่อบอกต่อบุตร
รู้จำรูญร้อยจำเรียงพร้อมเพรียงพุทธ
แพร่พิสุทธิ์สืบสรรเยี่ยงปัญญา

อยู่อย่างไรไยยิ้มทื่จิ๋มถาม
เย้ยเหยียดความข่มขู่หมูหรือหมา
อยู่อย่างเราเท่าทันไก่พรรณกา
เย้ยเหยียดค่าจึงจำคนรำคาญ

นานาชาติคาดขานรักบ้านเรา
ดินแดนเหย้ายิ้มย้อนว่าอ่อนหวาน
นานาชนยลเยือนชมเรือนชาน
ดินแดนย่านถิ่นไทยเต็มไมตรี

[เนิน จำราย]

ยิ้มสยามงามวิไลคือไทยแท้     
ทั้งเฒ่าแก่หนุ่มสาวแวววาวสี
คำพูดฟังดั่งเรียงเสียงดนตรี
วาจามีพิกุลร่วงชื่นทรวงนัก

กิริยามารยาทสะอาดแผ้ว
สัมผัสแล้วรู้สึกรำลึกประจักษ์
ชนต่างชาติต่างแดนแสนหลงรัก
เพราะจำหลักตีตราคุณค่าเรา

เนิน จำราย

[@free]

           
     

         



     

   



ไทยเดิม ยังไม่พอ ยังโบราณอีก
หรือว่า อุ๊บ……

ผมนึ่เพิ่งพบว่า เวลา เขียน อ่านกลอน เปิดคลิป ชม ฟัง เพลงไทยไปพร้อมกันด้วยถึงจะได้อารมณ์สอดรับเหมาะสมกันดีจริงๆ
           ……

สุริยันผันผ่านคือวารคล้อย
วารีลอยไหลกรากจากภูเขา
สุริยาลาค่ำย่ำเช้า*เนา…..ช้าว*
วารีเล่าไหลลงไม่คงคืน

เรื่องของคนล้นจริตมีผิดชอบ
 คนรู้ตอบเลือกคาดมิอาจฝืน
เรื่องของควายหายคึกฝึกยอยืน
คนรู้ตื่นคิดเป็นจึงเห็นมรรค

ฝึกฝนจิตอุทิศตนจนสามารถ
ผู้เลิศศาสตร์ศิลป์เด่นเช่นประจักษ์
ฝีกฝนใจใครเห็นเป็นที่รัก
ผู้เลิศศักดิ์อัจฉริยะสละตน

รู้ดีชั่วกลัวบั่นคืนวันคิด
ใจหลงผิดลอยไหลไม่คืนหน
รู้ดีชอบกรอบแก้ไขได้เป็นคน
ใจหลงพ้นเกินไหลของไม่จริง

ฝีกฝนดีมีตำแหน่งถึงแห่งชาติ
อวดรู้จ๊าดบอกเก่าไปไม่สุงสิง
ฝึกฝนเด่นเช่นนี้หรือคือจะทิ้ง
อวดรู้จริงถามหนคนหรือควาย






 

     


     

[@free]

             


     

   






นับวันนับยาก ดุมมากเม็ด
……….


ดุมแกนั้นฉันบ้างต่างมีหนี่ง
พูดท้าถึงใหม่เก่าเอาความหมาย
ดุมแกเน่าเขาเบื่อเชื่องมงาย
พูดท้าทายดุมใหม่ใช้เม็ดนำ

เถียงกันไปไม่จบสบตาขวาง
มีเม็ดกลางเสนอหน้ามาให้ขำ
เถึยงกันเป็นเข็นครกยกมาย้ำ
มีเม็ดก้ำกี่งเก่าเอาสองเม็ด

เดี๋ยวมีเพิ่มเติมดุมคุมส่วนใหญ่
บอกว่าใส่สิทธิ์พูดสูตรสำเร็จ
เดี๋ยวมีพามาพ่วงถ่วงแก้เคล็ด
บอกว่าเสร็จมากน้อยค่อยประชัน

ดุมทองหล่อช่อสวยมาช่วยกลัด
มากเม็ดขัดแน่นบีบหนีบสวรรค์
ดุมทองรวยด้วยกลัดรัดชนชั้น
มากเม็ดขั้นปริแยกถึงแตกเชียว

กระดุมเด่นเช่นกลัดแต่งไม่แบ่งสี
กระดุมดีกลัดก่อพอแน่นเหนียว
กระดุมเด็ดเคล็ดสมว่ากลมเกลียว
กระดุมเดียวเกี่ยวกุมดุมศูนย์รวม




  /color]

[@free]

         

   

    ภาษาสื่อถือรักชักชวนเชื่อ
หมัดหุ้มเนื้อดุเดือดถึงเลือดท่วม
    ภาษาส่อต่อถามหัามกำกวม
หมัดหุ้มนวมยึกยักหนักเบาครบ

ต่างก่อต่อปากยากจบ
เนิ่นนานขานศพ
เฉไฉไร้อัตสัตยา


คำพูดคือถือมั่นว่าสันติ
หรือจะริอาเพศเหตุมุสา
คำพูดคนดลจิตสุมิตรา
หรือจะราล้างญาติขาดสัมพันธ์

จารีตขีดทางสร้างสรรค์
ประเทศเขตขัณฑ์
หากอบายสลายล่มจมเอง

อารยชนก่นสร้างวางรากเหง้า
ขาดคนเก่าสร้างสม
เขาข่มเหง
อารยชาติกาจศักดิ์ใจนักเลง
ขาดคนเก่งไร้พรรคสามัคคี

อวดคิดสิทธิวิถี
อ้างรักศักดิ์ศรี
เสกสรรครรลองของตน

ข้าพูดส่งตรงเผงแกเองฟัง
ทั่วทุกครั้งคือคงประสงค์ผล
ข้าพูดสั่งตั้งใจใครขวางชน
ทั่วทุกคนเชิญเชื่อเพื่อสบาย

แตกสองช่องทางต่างหมาย
สองเส้าเงาหาย
ข้าแถแกเถือเหลือใด

รุ่นใหม่เผยเย้ยหยันถึงวันแก้
ปลดผู้แย่เก่าชราหน้าไม่ใส
รุ่นใหม่พูดสูตรช่วยรวยทันใจ
ปลดผู้ใหญ่น่าเคืองว่าเชื่องช้า

เชื้อชาติญาติมิตรจิตหา
สนิทวงศ์พงศา
 ซอสีปี่ดังฟังนอ

ฟังปี่วอนอ้อนอวยมวยถลึง
ว่าเสียงซึง
กล่อมใจให้จดจ่อ
ฟังปี่หวานสานมิตรยังคิดทัอ
ว่าเสียงซอกลับร้ายแค่ควายฟัง




   

[@free]

         
         


   

  สิ้น'หม่อมถนัดศรี'หลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กระจายทั่วร่าง

27 สิงหาคม พ.ศ. 2562   

ต่อมาเพจครอบจักรวาล โพสต์แจ้งว่า แจ้งให้ทุกท่านทราบ คุณพ่อ. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ได้ ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 11 35วันนี้ที่โรงพยาบาลเปาโล
……….


กาสรผิว์เสร็จนา
บติว่าสิเนื้อหนัง
เขาโง้งกระดูกยัง
มรณาก็เป็นคุณ

ขุนพลเก่งเคร่งกลมีคนกราบ
ถือหมดบาปควรเอื้อจึงเกื้อหนุน
ขุนพลเก่าเปล่าเลี้ยงเสี่ยงเปลืองทุน
ถือหมดบุญใคร่แค่นเลี้ยงแทนควาย

เหล่านาฎโสภา
รุจิราชะเฉิดฉาย
รำฟ้อนชะอ้อนอาย
อรองค์ประโลมใจ

อนงค์น้อยลอยสถานพิมานหรือ
วอนว่าคือวาวแววเพชรแก้วใส
อนงค์นางข้างกายเคียงชายใด
วอนว่าใคร่เทพปองครองเทวี

ปูนเสร็จบำเหน็จกิจ
พลสิทธิ์ก็ถ้วนถี่
ทรัพย์สินสิมากมี
ชำระกฎเสมอเทียม

ความดีชอบตอบด้วยอวยกุศล
รู้ต่างตนต่างจิตอย่าคิดเหนียม
ความดีชั่วตัวตนคนรู้เจียม
รู้ต่างเตรียมต่างถ้อ ยพลอยพอดี

กราบนึกระลึกน้อม
ศิรค้อม" ถนัดศรี "
คุณชายสกุลดี
นรชาติก็ติดตาม

อาหารดีดนตรีเพราะเสาะประจักษ์
คุณชายนักร้องเพลงเชลงหวาม
อาหารเด่นเล่นเพลงสุขทั่วทุกยาม
คุณชายนาม "ถนัดศรี สวัสดิวัตน์"

……..
ผมลองฉันทลักษณ์ให้เข้าบรรยากาศเพลงละคร เป็นเพราะไม่เก่งสำนวนความ แค่ฝึกฉันทลักษณ์เป็นขั้นต้น อาจจะเป็นที่รำคาญ ขออภัยว่าฝึกเขียนหนอครับ
……….











/color]

[@free]

     

   
คลิปที่วางนี้ ชอบเพลง  ท่ารำ ของนันทวดี(อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ) มังตรา(ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์) ระดับปรมาจารย์ทังสองท่าน สุดยอดครับอาจารย์  เป็นสองท่านที่ผมชอบที่สุดยิ่งกว่านักแสดงอื่นทุกท่าน



นันทวดีช่างเป็นได้ทุกสิ่งอย่างอันเลิศลักษณ์ทั้งสิ้น  อ.วันทนีย์ท่านก็ช่างถ่ายทอดมาได้หมดสื้นทุกสิ่งทุกอย่างน่าประทับใจจริงเลย

             
   
 

  บุคลิกและความสง่างามของนันทะวดี สะท้อนออกมาเป็นบทเพลงชื่อ"นันทาวดี" ซึ่งประพันธ์คำร้อง โดย ชาลี อินทรวิจิตร ทำนอง โดยสมาน กาญจนะผลิน

 นันทาวดี ยอดชีวา
 อ่อนช้อยแช่มช้า ด้วยอิริยาแห่งนางหงส์
 เนตรชม้ายคล้ายศรอนงค์
 ยั่วพี่รัก ยั่วพี่หลง หลงจนเหลือคณา

 น้ำใจเธองาม เย็นกว่าน้ำค้างพร่างพรม
 หอมทวนลมยิ่งเสียกว่าบุบผา
 เพราะทั้งสวย เพราะทั้งซื่อ เพราะทั้งซน ไร้กลมายา
 ก็ใครเล่าหนา ถ้าหากไม่ใช่..นันทาวดี

……….

หญิงงามณ.ลุ่มอิรวดี
ดรุณีพระมิ่งฉัตร
มิ่งขวัญหทัยรุจิประภัสร์
วจะศาสตร์ถวายครบ

หญิงงามหนี่งถึงขั้นหยาดสวรรค์ฟ้า
งามสง่าชาติชายหมายประสบ
หญิงงามนี่ที่ในฝันขวัญจอมภพ
งามสงบเสงี่ยมเห็นก็เย็นทรวง

ยิ่งลักษณ์พิลาส*ภววิสัย
พระหทัยธ.แหนหวง
พลาดรักจะเด็ดจะละจะล่วง
อุระหลงพะวงชาย

ไออุ่นอังดั่งไฟไล่เหน็บหนาว
จะเด็ดชาวตองอูผู้นางหมาย
ไออุ่นอ้าวผ่าวนักรักกลับร้าย
จะเด็ดชายชักสื่อ
ใคร่ให้มังตรา

เมืองแปรนภานวนคร
สิริอรเสน่หา
โชอั้วสตรีอภิรดา
ดำริหมายจะแทรกแซง

สงสารนางร้างฝันนันทวดี
ดังรวีแข่งจันทร์พลันยื้อแย่ง
สงสารนวลหวนคิดในจิตแล้ง
ดังระแวงโชอั้วชู้ยั่วยวน

โชอั้วประกาศวจะจำนงค์
ลุประสงค์มิผันผวน
ตำแหน่งสนมสิคะสิควร
ระอุสองหทัยนาง

จะเด็ดเองเร่งรัดจัดเรื่องราว
เหตุให้สาวโชอั้วมั่วบาดหมาง
จะเด็ดเอ่ยเผยเห็นเป็นคนกลาง
เหตุให้สางศึกรบครบทั้งรัก


           …..
([พิลาด] ก. กรีดกราย เยื้องกราย
ฟ้อนรํา. ว. งามอย่างมีเสน่ห์ งามอย่างสดใส)

ลองแต่งแล้ว พออ่าน โอ้...ได้แค่พอขำ
โอย ...เรานี่อาจเอื้อมหนอ ขออภัยด้วยครับ

วันนี้ไม่ดีเลย วันหน้าจะให้ดีกว่านี้

 

[@free]

 
     
   
     

         24 กันยายน

ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2528 บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาศิลปะ ด้านนาฏศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2529 วิกิพีเดีย
เสียชีวิตเมื่อ: 24 กันยายน 2543,


………...
ความรู้ทางนาฏศิลป์
                   ได้รับการฝึกหัดอบรมจากครูนาฏศิลป์ในราชสำนัก  เช่น  เจ้าจอมมารดาวาด (ท้าววรจันทร์)  ในรัชกาลที่ 4  เจ้าจอมมารดาเขียน  (ร.4)  เจ้าจอมมารดาทับทิม (ร.5)  หม่อมแย้ม  (อิเหนา)  ในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริวงศ์   หม่อมอึ้ง ในสมเด็จพระบัณฑูรฯ  จนมีความชำนาญและแสดงเป็นตัวเอกในการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่งหลายเรื่อง  เช่น  เป็นตัวอิเหนา และนางดรสา ในเรื่องอิเหนา  เป็นตัวทศกัณฐ์และพระพิราพในเรื่องรามเกียรติ์  เป็นตัวนางเมขลาฯลฯ
 

          การรับราชการ
                   เข้ารับราชการเป็นลูกจ้างชั่วคราว  ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย  กองการสังคีต  กรมศิลปากร  กระทรวงศึกษาธิการ  เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายวิชานาฏศิลป์ของสถาบันการศึกษา  องค์การ  และเอกชนอื่นๆ
 

          ผลงาน
                   ผลงานเกี่ยวกับการแสดงศิลปะนาฏกรรม  เช่น  ท่ารำของตัวพระ  นาง ยักษ์  ลิง และตัวประกอบ การแสดงโขน  ละครชาตรี  ละครนอก  ละครใน  ละครพันทาง  และระบำฟ้อนต่างๆ  เป็นผู้คัดเลือกการแสดง  จัดทำบทและเป็นผู้ฝึกสอน  ฝึกซ้อม  อำนวยการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่ง  ในวโรกาสต้อนรับพระราชอาคันตุกะ  อาคันตุกร  และงานของรัฐบาล  หน่วยงานองค์กรต่างๆ  จัดต้อนรับเป็นเกียรติแก่แขกผู้มาเยือนประเทศไทย  เป็นผู้คัดเลือกตัวละครให้เหมาะสมตามบทบาทในการแสดงต่างๆ  เป็นผู้คัดเลือกการแสดงวางตัวศิลปินผู้แสดงต่างประเทศเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี  และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นผู้ฝึกสอนและอำนวยการฝึกซ้อมในการแสดงโขน  ละคร  การละเล่นพื้นเมิง  ระบำรำฟ้อนต่างๆ ที่กรมศิลปากรจัดแสดงแก่ประชาชน  ณ  โรงละครแห่งชาติ  สังคีตศาลา  ในต่างจังหวัดและทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ  ตลอดทั้งร่วมในงานของหน่วยราชการ  องค์กร  สถาบันการศึกษา  และเอกชน  เป็นวิทยากรบรรยายและตอบข้อซักถามในการอบรมวิชานาฏศิลป์และวรรณกรรม และเป็นที่ปรึกษาในการสร้างนาฏกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นด้วย
                   ในด้านบทวรรณกรรมสำหรับใช้แสดง  ได้ค้นคิดปรับปรุง  เสริมแต่งให้เหมาะสมกับยุคสมัย  ดำเนินไปโดยถูกต้องตามระเบียบแบบแผนอันมีมาแต่ดั้งเดิม  เช่น  บทละครเรื่องอิเหนา  ตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา  ตอนลมหอบ  ตอนอุณากรรมชนไก่  ตอนบุษบาชมศาล  ตอนศึกกระหมังกุหมิง  ตอนประสันตาต่อนัก   เรื่องสังข์ทอง  ตอนเลียบเมือง  ตอนเลือกคู่หาปลา  ตอนตีคลี  ตอนนางมณฑาลงกระท่อม  เรื่องขุนช้างขุนแผน  ตอนพลายเพชรพลายบัวออกศึก  ตอนพระไวยแตกทัพ  เรื่องไกรทอง  ตอนที่ 1 ตะเภาแก้ว  ตะเภาทอง  และบริวารไปเล่นน้ำ  ตอนที่ 2 ตามนางวิมาลากลับไปถ้ำ  เรื่องพระอภัยมณี  ตอนพบนางละเวง  ตอนนางละเวงพบดินถนัน  ตอนหนีนางผีเสื้อสมุทร  เรื่องไชยเชษฐ์  ตอนนางสุวิญชาถูกขัน  ตอนที่ 1  และตอนที่ 2  เรื่องมโนราห์  บางตอนเกี่ยวกับพรานบุญ เรื่องรถเสนบาง เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก เรื่องสังข์ศิลป์ชัย ตอนท้าวเสนากุฏเข้าเมือง เรื่องเงาะป่า  เรื่องคาวี  ตอนได้นางใจกลองศึก  เรื่องสุวรรณหงส์  ตอนเสี่ยงว่าว-ชมถ้ำ   บทโขน ตอน ปราบกากนาสูร  ตอนไมยราพสะกดทัพ  ตอนศึกบรรลัยกัลป์  ตอนปล่อยม้าอุปการ

นอกจากนี้  ยังได้คิดประดิษฐ์กระบวนท่ารำขึ้นใหม่ไว้อีกมาก  เช่น  กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์  พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1-2  กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงนาฏกรรมของกรมศิลปากร  และกระบวนท่าร่ายรำชุดต่าง ๆที่กรมศิลปากรจัดแสดง
                   ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฏีมาลา  เข็มศิลปวิทยา  เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514
ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ถึงแก่กรรมเมื่อ 24 กันยายน พ.ศ. 2543 อายุ 98 ปี

ข้อมูลจากgoogle
https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://sites.google.com/site/ajanthus/thanphuhying-phaew-snith-wngs-seni&ved=2ahUKEwjG8IqgkunkAhWU8XMBHX44DBYQFjASegQIAxAB&sqi=2&usg=AOvVaw09EFvrjG2s3EKBIV8hrGgk

……….
การแสดงนาฏศิลป์ไทยในโอกาสรำลึก 109 ปีชาตกาล “ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย) คนแรกเจ้าของสมญานาม “นาฏยาจารย์ 5 แผ่นดินผู้สืบสร้างทางรำไทย” อันเป็นที่รู้จักอย่างดียิ่งของแฟนๆใจนาฏศิลป์ไทย

…..
“109 ปีชาตกาล ท่านผู้หญิงแผ้วฯ” ซึ่งจะแสดง 2 รอบ (10.00 น. กับ 14.00 น.) วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคมนี้ ณ โรงละครแห่งชาติ

มีลูกศิษย์ลูกหาของท่านซึ่งก็เป็นมือระดับอาจารย์ในโอกาสต่อมาร่วมแสดงเพียบเลยครับ อาทิ อ.จตุพร รัตนวราหะ, อ.รัจนา พวงประยงค์, ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์, อ.จันทนา ทรงศรี, อ.ปกรณ์ พรพิสุทธิ์, อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ ฯลฯ

109 ปี ท่านผู้หญิงแผ้ว นาฏศิลปิน "5 แผ่นดิน"
ซูม16 ธ.ค. 2555 05:01
แห่งไทยรัฐ
……….

ขออนุญาตงดบทกลอน
เนื่องจาก บุคคล  เรื่องราว เหตุการณ์และผู้เกี่ยวขัองทุท่าาน ลัวนยิ่งใหญ่เกินความสามารถของข้าพเจ้าจะพรรณนาเป็นบทกลอนได้ เพียงบริสุทธิ์ใจ ต้องการกราบเคารพเชิดชูมาด้วยความชื่นชม
              

    

 

 
         
         
               

[@free]

     

  มาดู ท่ารำของ อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ
มาดูอาจารย์ร้องไห้ คนอ่ะไร ร้องไห้น่ารักจัง


         

         

พวกคุณก็เดินทางมาหาความหวังจากพวกเรา เยาวชน คุณกล้าดีอย่างไร คุณขโมยเอาความฝันและวัยเด็กของเราด้วยความพูดจอมปลอม นี่ฉันถือว่าเป็นกลุ่มคนที่โชคดีแล้วนะ ผู้คนอยู่อย่างทรมาน คนบาดเจ็บล้มตาย และระบบนิเวศทั้งหมดกำลังล้มลง เรากำลังจะสูญพันธุ์กันอยู่แล้ว แต่พวกคุณกลับพูดกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ และผลการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร (น้ำตาไหลตามด้วยเสียงปรบมือ)
…………………..
สุนทรพจน์ของ เกรต้า ธันเบิร์ก
……….

   

   นันทวดีนี้มิสงบ
แม้ยศะครบเลิศศิริศักด ิ์
พรรณกวะทองผ่องภวพักตร์
ทุกข์อุระหนักเคืองรติตน

พิศหน้างามยามช้ำน้ำตานอง
เบือนแก้มหมองหลบตาอายฟ้าฝน
พิศหน้างอนค้อนคว่ำน้ำตาล้น
เบือนแก้มมนก้มฝืนสะอื้นอาย

แค้นอริรักชักมหภัย
เภทหฤทัยอันจะมิหมาย
สั่งวจะความห้ามจรกราย
ป้องอริร้ายเขตพระพิมาน

ประกาศห้ามปรามข่มสนมเจ้า
มิให้เข้าเด็ดขาดราชสถาน
ประกาศหวงทวงสิทธิ์อย่าคิดราน
มิให้ขานคำน้อยอย่าสร้อยแซง

สิทธิพินิจอิสระคง
สิ่งจะประสงค์ศักดิ์วจะแจ้ง
แม้สิระวังยังสิระแวง
พ่ายรติแคลงคงบมิควร

สิทธิ์แห่งเจ้าเข้าครองปองรักษา
ถนอมหน้าคือศักดิ์หักกำสรวล
สิทธิ์แห่งใจใครอย่ามาลามลวน
ถนอมนวลคุณค่าพรหมจารี

อ้างอภิสิทธิ์คิด อกุศล
อวดพละตนเศรษฐิวิถี
จงดำริชอบตอบดรุณี
กล้าผิวะดีคนกวะควาย

เด็กวันนี้มีหรือคือความฝัน
อาจถึงวันน้ำเน่าเขาฝันสลาย
เด็กวันหน้าอากาศพิษคิดอันตราย
อาจถึงวายผู้ใหญ่หนอทรยศ