.. อารัมภบท ..
ร่าย ..
๑. กราบบาทองค์ภควันต์ - - - ที่พึ่งอันโลกสาม
หวังก้าวตามบาทบงสุ์ - - - ครรลององค์พุทธะ
ถมสัจจะจองทาง - - - ตราบปล่อยวางจากเวียน
ทุกข์กร่อนเกรียนจากใจ - - - จิตห่างไกลจองจำ
รอนห้วงกรรมกลับกลาย - - - ตราบวอดวายวงวัฏฏ์
ถอนถ่ายอัตตาพ้น - - - ล้างขุ่นข้นหม่นสิ้น
ล่มจิตใจเดือดดิ้น - - - แจ่มแจ้งวิโมกข์ธรรม ท่านเทอญ
โคลงสี่สุภาพ ..
๒. ขอพรคำพระคุ้ม - - - ครองขวัญ
ป้องโศกปัดจาบัลย์ - - - บาปร้อน
ดอกไม้ธูปเทียนพรรณ- - - - นาบท บวงเอย
ถ้วนบทขอ-บวงอ้อน - - - ทุกข์ร้อนทอนแรง ฯ
๓. ใจครวญกายก้มกราบ - - - องค์พระ
ปรุงภาษเป็นสัจจะ - - - บอกแจ้ง
แม้นกรากกรำวัฏฏะ - - - วงกัป อยู่นา
หวังอาสวะเหือดแล้ง - - - ล่วงสิ้นจากใจ ฯ
๔. คงกรรมยังก่อร้อน - - - รุมลน
ใจสบจึงว่ายวน - - - แวดล้อม
รูป, รส, กลิ่นเสียงปรน - - - เปรออยู่ นั้นนา
ล้วนแต่เพื่อจิตน้อม - - - นอบรู้แรงถวิล ฯ
๕. รอยกรรมรอบกัปชี้ - - - บัญชา
วกช่วงกาลเวลา - - - กลับย้อน
เนื่องนำสู่ปริศนา - - - ใครหนึ่ง
ผู้ส่งเสียงแทรกซ้อน - - - โสตให้ถวิลเห็น ฯ
๖. ครืนครืนเสียงฟ้าคร่ำ - - - ลมครวญ
ฝนหลั่งสร้อยกำสรวล - - - โสรจหล้า
ช่วงเส้นวิชชุผวน - - - ผายวาบ นั้นแล
พลัน.!.ขอบสองโค้งฟ้า - - - เลื่อนฟ้าประโลมฝัน ฯ
.. โลกเก่า . .คืน๑๕ค่ำ .. เดือน๑๒ .. พศ.๒๑๕๖ ..
๗. ดาวเกลื่อนเดือนก่ำคล้าย - - - โคมแขวน
ลอยรูปอำไพแดน - - - เด่นฟ้า
ใครหนึ่งนั่งวอแหน - - - รูปแห่ งามเฮย
งามยิ่งงามถ้วนหน้า - - - ทุกหน้าเคยงาม ฯ
๘. อัมพรโอภาสแจ้ง - - - จันทร์ฉาย
ตองจีบแทนบัวราย - - - รอบน้ำ
พากย์ร่ำเพื่อรำบาย - - - โศกถ่วง น้ำเนอ
ถ่วงโศก, ทุกส่วนช้ำ - - - ชอกร้างกลางจันทร์ ฯ
๙. โคมทองประทีปแก้ว - - - ชัชวาล
ลอยประดับถิ่นฐาน - - - แหล่งน้ำ
รูปเอยงดงามปาน - - - ทิพเสก
ลอยจริตประณีตย้ำ - - - ยิ่งแก้วประกายทอง ฯ
๑๐. โสภิตสุวภาพพร้อง - - - รำพัน
รูปแม่สมบูรณ์จันทร์ - - - แจ่มหน้า
ลอยรูปเหนี่ยวรั้งฝัน - - - สู่ฝั่ง ฟ้าเนอ
เชื่อมฝั่งสองดิน-ฟ้า - - - ฝ่าข้ามเอื้อมถึง ฯ
๑๑. เดือนโรจน์ไฟเรื่อยรี้ - - - เรียงราย
ริมฝั่งน้ำหลากสาย - - - เชี่ยวล้น
ตาเพ่งรูปผันผาย - - - เพลินอยู่
สบรูป, รูปผ่านพ้น - - - ยากพ้นคะนึงไฉน ฯ
๑๒. ไฟพร่าง, แผ่นน้ำพลิก - - - พลิ้วลม
โคมค่ำเคลื่อนขึ้นสม - - - เสพฟ้า
พักตร์เชิด-พเยียฉม - - - ชวนเสพ แม่เอย
เสพรูป, หอม-โชยช้า - - - ช่วงฟ้าคลอจันทร์ ฯ
๑๓. วอผู้งามภาค, พ้น - - - เพียงตา
ฤๅอาจพ้นคะนึงหา - - - ห่างได้
แรงกรรมใช่บัญชา - - - ช่วยสบ งามฤๅ
สบภาค, พิมพ์ภาคไว้ - - - หว่างร้อนแรงคะนึง ฯ
๑๔. สรวลเสส่ำศัพท์พร้อง - - - เพรงกาล
ยินสำนวนโบราณ - - - รอบล้อม
ท่าสองฝั่งริมธาร - - - เทียนปลั่ง แสงแฮ
แว่วบทธรรมให้น้อม - - - นอบรู้, ปรารมภ์ ฯ
๑๕. เสียงพากย์เสียงพระท้วง - - - ศรัทธา
ทางชอบทางมิจฉา - - - ท่านชี้
โอนจิตร่วมเจตนา - - - ตรองนิ่ง อยู่เฮย
พากย์กล่อม, ภาพก่อนกี้ - - - แว่ว, ย้อนตา-ยล ฯ
๑๖. คิดหวังอาวาสนี้ - - - แรมนอน
หวังแว่วเสียงธรรมสอน - - - ตัดสร้าง
หวาดหวั่นแต่อาวรณ์ - - - ไหววุ่น นี้นา
ธรรมจักบังตาร้าง - - - รูปเนื้อนวลไฉน ฯ
๑๗. อาทรจากท่านผู้ - - - เพ็ญบุญ
ต้อนรับศัพท์เสียงละมุน - - - ละเมียดพร้อม
เสื่อนอนอีกหมอนหนุน - - - มอบสู่ มือแฮ
มือรับกายกราบน้อม - - - นอบรู้กรุณา ฯ
๑๘. วังเวงทั่วแผ่นพื้น - - - ปฐพี
เสียงหริ่งแต่งราตรี - - - ตอบร้อง
ฉมลดาช่วงฤดี - - - ดลรูป ใครเนอ
เห็นรูป, หอมรื่นพ้อง - - - ผ่านเร้าแรงถวิล ฯ
๑๙. ยามสองวิชชุเยื้อง - - - ทะยานพล
อวดกึกก้องกาหล - - - แห่งฟ้า
เกรี้ยวกราดห่าลมฝน - - - วู่แว่ว ดังเนอ
ปานแว่ว..ให้ปวงหล้า - - - รับรู้ต่ำ-สูง ฯ
๒๐. อึ่งอ่าง, กบ, เขียดซ้อง - - - แข่งเสียง
เช่นร่ำความนัยเรียง - - - บอกรู้
โอกาสเงียบงันเพียง - - - ชั่วขณะ
ชั่วอกใจหยุด, กู้ - - - กลับพ้นห่วงหา ฯ
.
.
.