O ตรู่เช้าเดือน ๑๒...O
O ตรู่เช้าหนึ่ง
แสงแรกซึ่งอ่อนโยนเริ่มโชนฉาย
เห็นปีกบางโบกพลิ้ว..อวดริ้วลาย
อยู่ทักทายลมหนาวของเช้าวัน
O ช่อมาลย์เคยช้อยชู..กลับลู่ล้ม
ด้วยแรงลมลูบไล้..จนไหวสั่น-
พาน้ำค้างยามเช้าบนเถาวัลย์
เลื่อนลดหลั่นกลิ้งหยด..ลงรดริน
O ปีกเบาบางกางร่อนออดอ้อนลม
เหมือนจ่อมจมหอมอยู่ไม่รู้สิ้น
จึงเห็นปีกเลื่อมลายค่อยบ่ายบิน
ให้รสกลิ่นกำจายเข้ารายล้อม
O ชื่นลมเช้าอ่อยเอื่อย, ปีกเรื่อยเร่-
ก็ร่อนรอลมเท..มาเห่กล่อม
แสงแรกวัน, หยาดน้ำ, การด่ำดอม-
ก็พรั่งพร้อมให้เห็นความเป็นไป
O แผ่วลม..พลิ้วระลอกราวหยอกยั่ว
ล้างหมอกมัว..เบิกบททุกบทให้-
ค่อยเลื่อนรูปเลาะเลี้ยวผ่านเรียวใบ
พร้อมปีกไหวโบกลายกลางสายลม
O คอยไหวโบก..บ่ายบินล้อมถิ่นที่
ปีก-วาดวีตอบตื่นรสรื่นฉม
เลื่อนล้อมผ่านมาลย์ช่อ..แอบออ..ชม
ด้วยสุดข่มขับหอมที่น้อมรับ
O รูป-รสหวานรับรู้..เมื่อตรู่สาง
ปีกบอบบางกลีบพะยอม..ก็พร้อมสรรพ
แสงดวงวันไกลลิบระยิบระยับ
การขยับการเขยื้อนก็เลื่อนรอ
O กลีบดอกนั้นดอกนี้..ในที่นั้น
ค่อยไหวสั่นจนสะท้านทั้งก้านช่อ
เกสรรูปกลั่นน้ำ..หวานล้ำพอ
การแอบออหวานหอม..ก็ย่อมมี
O เลื่อนผ่านช่อบุปผา..เพ-ลานั้น
เมื่อแสงวันโลมสิ้นทั่วถิ่นที่
การสมยอมผ่านช่วงเผยท่วงที
เมื่อลมวีวาดผ่าน..ช่อมาลย์นั้น
O รูปปีกบางกางแผ่อยู่แค่เอื้อม
แสงเรื่อเหลื่อมรูปลาย..ก็พรายสั่น
ให้มองเห็นภาพงามแห่งยามวัน
บรรโลมฝันแฝงเร้นไม่เว้นวาย
O ลวดลายปีกคลี่โฉบรอโอบกอด-
การพร่ำพลอด..งดงามและความหมาย
รสเรณูรื่นฉมเมื่อลมชาย
ที่ขวนขวาย..รอหอมหรือยอมร้าง ?
O สิ้นแล้วหยดน้ำค้างที่กลางช่อ
เหลือแอบออหวานอยู่ไม่รู้ห่าง
ลมผ่านไล้แผ่วเบา..ปีกเบาบาง-
หรุบรูปค้างคาหอมอย่างยอมตน
O ลมโลกคร่ำครวญสายรำบายล้อม
การหลั่งหลอมเติมเต็มก็เข้มข้น
สีสันปีกลวดลายยังบ่าย-วน
รอหวานปรนเปรออยู่ไม่รู้วาง
O ตามกลิ่นเกสรหอมไม่ยอมล้า
ที่เหมือนว่าหอมจรุงแต่รุ่งสาง
สีสันปีกผีเสื้อก็เหลือพราง-
ลอยเคว้งคว้างล้อแดด..ให้แผดลน
O เหมือนโบกแกว่งรออวด..สี..ลวดลาย
เมื่อแดดฉายแสงช่วงจากห้วงหน
เรื่อยเร่โลมเลาะกลิ่น..จึงบินวน-
เรณูหวานหอมล้น..เฝ้าวนเวียน
O โอ..ปีกสีสวยงาม-แดดวามส่อง
โล้ลมล่องลิ่วลอยแล้วค่อยเปลี่ยน-
ไปลิ้มเล็มหวานรสเฝ้าบดเบียน-
กลีบนุ่มเนียนโกสุม..คอยรุมเร้า
O ลมแผ่วยังโรยตัว..อยู่ทั่วแหล่ง
พาไม้แกว่งกวัดเรียวกลางเปลี่ยวเปล่า
จนปีกน้อยบินคว้างลับร่างเงา
หอมเคยเฝ้าใฝ่อยู่ก็รู้ร้าง
O ปีกลวดลายเคยงามก็ทรามสิ้น
เลือนจากกลิ่นหอมไป..จนไกลห่าง
คงเหงาเงียบเปล่าเปลี่ยว..ในเที่ยวทาง
เมื่อปีกบางเร้นหายจากสายตา
O ภาพงดงามผ่านวาบ..กำซาบรส-
การณ์ปรากฏ..คอยหนุนให้คุณค่า
ปีกเลื่อมลายสลับสี..พ้องลีลา-
ภาพอันเป็นธรรมดา..บรรดามี
.
.
.
O ไม่เห็น..ปีกผีเสื้อที่เหนือลม
เห็นเพียงปมด้อยหงาย..อวดลาย-สี
พร่ำพรรณนางดงาม..คุณความดี
ให้โลกนี้ถ้วนถิ่นได้ยิน..ฟัง
O ต้องสายตามองวาบ..กำซาบรส
หวานทั่วบทถ้วนนัยก็ไหลหลั่ง
ลมโรยสายผ่านแล้ว, ที่แว่วดัง-
ล้วนเสียงคลั่งไคล้ชอบ..อยู่รอบตัว
O ปีกลวดลายงอกพลันขึ้นทันใด
แล้วกางให้คลี่ออก..ทำหยอก..ยั่ว
ลิ่มลมหอมโอบขวัญ..ปีกสั่นรัว-
หรุบ..หู..หัวเกลือกหอม..อย่างยอมตาย !
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2010&date=11&group=41&gblog=12