มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 12:21:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 ... 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน  (อ่าน 85007 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 ตุลาคม 2018, 09:19:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #120 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2018, 09:19:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                        หน้า  ๑๑๗


     ๏ อันพระนลรูปงามรู้นามทั่ว
มิมีใครพบตัวเหมือนสาบสูญ
แต่พระองค์ทรงธรรมเจิดจำรูญ
เทพเกื้อกูลต้องรอดชีพปลอดภัย”
     ๏ ทมยันตีฟังที่เอ่ยเฉลยพจน์
ครบทั้งหมดก็เชื่อครึ่งกึ่งสงสัย
ฤๅวาหุกนี้แหละหนาคือราชัย
เกิดมั่นใจขึ้นมาว่าจริงจัง
     ๏ จึงประทานรางวัลอันสมค่า
แก่ทิชาจารย์พราหมณ์ตามที่หวัง
แม้นเป็นผลคือพระนลจนคืนวัง
สุขสมดังหมายเดิมเพิ่มรางวัล
     ๏ ทมยันตีมีคำวอนมารดรท่าน
เริ่มแผนงานดังจิตที่คิดฝัน
ณ การณ์นี้งดทูลภีมราชัน
มิถึงขั้นกวนพระทัยไม่บังควร
     ๏ พระมารดาอนุญาตประกาศหา
สุเทพพราหมณ์เข้าพารามาโดยด่วน
ต่อหน้าพระมารดามาชี้ชวน
ตามกระบวนที่ตั้งจิตร่วมคิดการ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 ตุลาคม 2018, 09:20:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #121 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2018, 09:20:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                             หน้า  ๑๑๘



     ๏ “สุเทพพราหมณ์จงนำนัยนี้ไปสู่
ท้าวฤตุบรรณรับรู้ด้วยโวหาร
ความว่าข้าร้างคู่อยู่เนิ่นนาน
ขอประทานทวิสยมพร*
     ๏ แลขอเชิญราชันท่านพิเศษ
ด้วยมีเหตุนับถือกันแต่กาลก่อน
ทำเหมือนว่าส่งข่าวมาทุกนาคร
และวิงวอนขออภัยนัยเวลา
     ๏ เหลืออีกวันท่านเดินทางอย่างเร็วยิ่ง
รับผิดจริงที่เราส่งข่าวล่า
งานลับให้ใช้วาทะเจรจา
กรุณารับคำทำดั่งใจ”
     ๏ สุเทพพราหมณ์รับคำทำตามสั่ง
เดินทางยังอโยธยาใหญ่
กราบทูลท้าวฤตุบรรณชาญชัย
ความเป็นไปไม่เพี้ยนหรือเปลี่ยนแปลง
     ๏ เมื่อท่านทราบกราบลามิช้าอยู่
คล้ายมีผู้ต้องส่งข่าวคราวหลายแห่ง
บทบาทแบบแยบยลไม่ให้ระแวง
เมื่อสำแดงจบปั๊บลากลับพลัน



ทวิสยมพร*    สยมพรครั้งที่สอง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 ตุลาคม 2018, 09:04:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #122 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2018, 09:04:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                            หน้า  ๑๑๙


     ๏ ครั้นยินข่าวท้าวฤตุบรรณรีบผันผาย
มาหานายวาหุกกะทันหัน
“ไปเถิดเราเลือกเอาม้ามาด้วยกัน
งานสำคัญด่วนมากข้าอยากใช้
     ๏ ดังที่เจ้าเฝ้าถวายตัวไว้ว่า
ขับรถม้าปานลมกรดพูดปดไหม
เวลาน้อยเร็วเถิดหนาอย่าช้าไย
ร้อยโยชน์ไกลนักจึงถึงวิทรรภ์
     ๏ สรรเอาม้าครานี้ดีที่สุด
เร่งเร็วรุดวันหนึ่งถึงที่นั่น
ซึ่งยากนักที่จักไปได้เช่นนั้น
เจ้ายืนยันไว้กับข้าจึงน่าลอง”
     ๏ วาหุกถามความว่า “ไปการใดหรือ
วาระคือ สุข เศร้าเล่าจิตข้อง”
จึงท่านท้าวเล่าขยายดังใจปอง
“สยมพรครั้งที่สองทมยันตี
     ๏ ด้วยเหตุผลนลบดีสามีเก่า
ทอดทิ้งเขาให้ต้องหม่นหมองศรี
เป็นเวลาจะบรรจบครบสามปี
แต่งานนี้แจ้งข่าวมาล่าเหลือเกิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 ตุลาคม 2018, 09:05:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #123 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2018, 09:05:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                              หน้า  ๑๒๐

         
     ๏ การเดินทางสู่วิทรรภ์วันเดียวถึง
ต้องประหนึ่งรถม้าพาเหาะเหิน
รู้แล้วเจ้าอย่าช้าเจรจาเพลิน
ต้องดำเนินคัดม้าอาชาไนย”
     ๏ พระนลฟังยังอึ้งตะลึงคิด
โอ้มิ่งมิตรเป็นฉะนี้ได้ไฉน
สุดจะห้ามความวิโยคโศกอาลัย
ดวงฤทัยวุ่นวายหลายกังวล
     ๏ “โอ้จอมนางกลางใจในครานี้
ฤๅความดีสิ้นสายไร้กุศล
นาเรศแก้วร้าวเสียแล้วกลางกมล
ทำเช่นชนทั่วไปที่ใจทราม
     ๏ อาจวิโยคโศกศัลย์ฟั่นเฟือนนัก
หรือแค้นหนักผัวทิ้งหญิงถูกหยาม
ใจหนึ่งมั่นทมยันตียังดีงาม
มิเชื่อความตามว่าสัจจาจริง
     ๏ หรือนารีมีเล่ห์ลวงบ่วงล่อข้า
ให้หึงหวงรีบไปหามิช้านิ่ง
ดีร้ายนั้นฉันใดไม่ประวิง
ทั้งมิทิ้งสัญญากับราชัน”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ตุลาคม 2018, 05:06:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #124 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2018, 05:06:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                 หน้า  ๑๒๑
   


     ๏ ฟังสิ้นศัพท์รับคำดำเนินกิจ
“พระทรงฤทธิ์โปรดเชื่อใจอย่าไหวหวั่น
จักขอนำพระองค์ไปให้จนทัน
เพียงหนึ่งวันเร่งบึ่งถึงกรุงไกร”
     ๏ เมื่อตกลงเวลากะทันหัน
รีบไปสรรเอาม้ามิช้าได้
ถึงอัศวศาลาของราชัย
ซึ่งภายในมีม้าเกินห้าร้อย
     ๏ วาหุกเข้าไปชิดพินิจหา
เดินไปหน้าหยุดยั้งบางครั้งถอย
คัดตัวดีได้สี่ม้ามายืนคอย
แต่ราชัยเคืองไม่น้อยคอยเกียดกัน
     ๏ “ข้าเห็นว่าอาชาดีมีอยู่หลาย
อันมีกายอ้วนล่ำกล้ามแข็งขัน
แลไฉนไม่เลือกมาเหล่าม้านั้น
คัดที่มันผอมเหมือนกะพยาธิกิน
     ๏ ถ้าเจ้าทำล้อเล่นอยู่เช่นนี้
การพิธีอันข้าหวังคงพังสิ้น
อับอายเขาเย้ายั่วทั่วธานินทร์
เมื่อเจ้ายินแล้วจักต้องตรองจงดี”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ตุลาคม 2018, 05:08:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #125 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2018, 05:08:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๒๒



     ๏ วาหุกฟังดังว่ามากล่าวเน้น
“การล้อเล่นกับราชาหาใช่ที่
อันกิจซึ่งหม่อมฉันสรรพาชี
เหตุผลมีตามทักษะอัศวการ
     ๏ ม้าเหล่านี้ล้วนดีเลิศประเสริฐล้ำ
เกิดริมน้ำสินธูอู่สถาน
มิอ้วนพีแรงดียิ่งวิ่งทนนาน
รูนาสิกกว้างบานเปิดรับลม
     ๏ “ขวัญม้าดีถ้วนหนาหาได้ยาก
หนึ่งหน้าผากขวัญอยู่ดูเด่นสม
สองขวัญคู่อยู่กลางศีรษะกลม
อกซ้ายขวาเหนือราวนมสองขวัญไซร้
     ๏ ยังอีกสี่สีข้างฝั่งละสอง
โคนหางหนึ่งพึงมองแลเห็นได้
สิบขวัญแห่งอัศวการม้าชาญชัย
ที่เหลือใช้ความเชี่ยวชาญการบังคับ
     ๏ ฤๅพระองค์เห็นว่าอาชาไนย
พึงพอใจตัวอื่นมีที่งามสรรพ
เชิญพระองค์ทรงสรรหม่อมฉันรับ
มาผูกกับราชรถบทจร”


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 ตุลาคม 2018, 05:14:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #126 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2018, 05:14:PM »
ชุมชนชุมชน

   
 
                                                             หน้า  ๑๒๓


  ๏ ราชาฟังดังแจงเหตุเป็นเด็ดขาด
ยอดวิชาอัศวราชมิอาจค่อน
กล่าวเห็นชอบตอบความตามสุนทร
มิเกี่ยงงอนแต่ไว้ท่าในพาที
    ๏ “เจ้ามั่นใจก็ไม่ห้ามตามที่ว่า
จักสรรม้าร่วมไว้มิใช่ที่
ถ้าเกิดไปไม่ทันในงานนี้
เจ้าโทษม้าข้ามิดีเสียปะไร”
     ๏ ในครานั้นพระนลคนรูปชั่ว
เมื่อเตรียมตัวจะผูกม้าหาได้ไม่
สี่ม้าคู้เข่านอนเหมือนอ่อนใจ
มิคึกคักเลยไฉนยอดพาชี
     ๏ วาหุกเดินเข้าไปใกล้ใบหน้า
มือสัมผัสกายาม้าทั้งสี่
แล้วเอื้อนเอ่ยสุนทรอ่อนหวานดี
จ๊ะจ๋ามีจำนรรจ์ฉันคนรัก
     ๏ สี่ม้ายืนขึ้นพลันสั่นหางหู
ร้องก้องอยู่ด้วยคึกเต้นกึกกัก
จึงผูกม้าเสร็จได้ไม่ช้านัก
จับสายชักสายขับกระชับพลัน
[/size]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 ตุลาคม 2018, 10:38:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #127 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2018, 10:38:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                          หน้า  ๑๒๔

     ๏ ขอราชาอนุญาตประกาศหา
ซึ่งนายวาร์ษไณยอยู่ใกล้นั่น
มาขึ้นรถเร็วไวไปด้วยกัน
เผื่อได้ช่วยหม่อมฉันขับรถทรง
     ๏ รถวิ่งแล่นลิ่วไปดังใจคิด
ด้วยมหิทธิเดชาพระนลส่ง
ดุจธนูจากแหล่งลำแสงตรง
ฝ่ารกพงมิพรั่นพรึงคำนึงใด
     ๏ วาร์ษไณยใคร่ครวญหวนรำลึก
ความรู้สึกกลางจิตคิดสงสัย
ดูลีลาวาหุกนี้ที่เป็นไป
เหมือนกันในเชิงทักษะของพระนล
     ๏ ฝีมือม้าคราอยู่กันนั้นบ่งชี้
ละเอียดล้วนถ้วนถี่มีเหตุผล
เกิดเหมือนกันฉันใดให้พิกล
มิพูดบ่นแต่คิดพลางกลางพนา
     ๏ ท้าวฤตุบรรณนั้นนั่งนึกกำหนด
ราชรถพุ่งไปไวแกล้วกล้า
ไม่ผิดคำที่เคยเอ่ยวาจา
องค์ราชาเพ่งพิศพินิจเพลิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 ตุลาคม 2018, 10:40:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #128 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2018, 10:40:AM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๒๕
                                           
     ๏ “เออจริงนะวจีที่เปรียบไว้
รถพุ่งไวพลิ้วผ่านปานเหาะเหิน
ท่วงทีขับขยับกายงามหลายเกิน
สุดประเมินความสามารถอัศจรรย์
     ๏ ปรารถนาแห่งข้าวิชานี้
ขอโดยดีเขาจักให้เราไหมนั่น
ฤๅต้องใช้วิชามาแลกกัน
องค์ราชันครุ่นคิดจิตวุ่นวาย”
     ๏ ราชรถทะยานไปกลางไพรกว้าง
ถิ่นแถวทางเถื่อนทุ่งมุ่งที่หมาย
ข้ามเขาเขินเนินดินโดยง่ายดาย
ตะลุยสายธาราฝ่าพงรก
     ๏ กำลังม้าพารถมิลดหย่อน
สุรีย์รอนอ่อนแสงแรงไม่ตก
ราชันนึกตรึกในไวดั่งนก
จึงหยิบยกผ้าคลุมปล่อยลอยลมไป
     ๏ เรียกวาหุกให้สั่ง “รั้งม้าหยุด
อย่ารีบรนจนสุดนักก็ได้
ภูษิตอันพันอังสาข้าคลุมไว้
หลุดลอยไกลระยะพอประมาณ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 ตุลาคม 2018, 10:41:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #129 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2018, 10:41:AM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๒๖

     ๏ รถเรารั้งรอไว้ไม่ต้องย้อน
พักม้าก่อนกินน้ำหญ้าหน้าละหาน
วาร์ษไณยไปเก็บมามิน่านาน”
ก็กระทำตามการที่บัญชา
     ๏ ยามเมื่อวาร์ษไณยคล้อยไปนั้น
องค์ราชันพลันเอ่ยเปรยขึ้นว่า
“อันปวงชนคนทั่วทั้งโลกา
ฤๅประสิทธิ์วิทยาได้มาครบ
     ๏ บุรุษใดใครเชี่ยวชาญทุกด้านถ้วน
บางสิ่งควรดีเด่นเรียนเจนจบ
หากศิษย์ครูคู่กันมาน่าเคารพ
เพื่อนที่คบรู้แจ้งอาจแบ่งปัน
     ๏ ต้นสมอพิเภกไพรกลุ่มไกลโน้น
จำนวนโคนห้าสิบแน่มิแปรผัน
นับเพียงใบแก่ทั้งกอเมื่อรวมกัน
สังขยา*ห้าโกฎิสรรเศษมิเอา
      ๏ ผลสมอทั้งกอใหญ่ได้แสนสี่
กิ่งใหญ่นั้นอันข้าชี้สองพันเก้า
หัวใจสกาใช้มิได้เดา
อยากรู้เจ้าจักเชื่อความตามนั้นฤๅ”


สังขยา*   การนับ,   การคำนวณ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 ตุลาคม 2018, 01:52:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #130 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2018, 01:52:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                      หน้า  ๑๒๗
       
     ๏ “ลูกสกาหามากสักเท่าใด
ยังทำให้เสียสินจวนสิ้นชื่อ
ผลสมออาจขอทายในกำมือ
ทั้งกิ่งคือใจมิเหลือที่เชื่อเลย
     ๏ ให้หม่อมฉันฟันกิ่งหนึ่งซึ่งท่านว่า
นับต่อหน้าสองคนผลเฉลย
จะตกลงดังจงใจได้ไหมเอย
ปรดอย่าเฉยนิ่งช้าพาเสียการ
     ๏ ปรัศนีที่ท่านพูดพิสูจน์ได้
จักมิใช้เวลาช้าเลยท่าน
ม้าได้พักแล้วจักโผนโจนทะยาน
มิเนิ่นนานถึงปลายทางโปรดวางใจ”
     ๏ “ถ้ากระนั้นฟันโดยไวอย่าได้ช้า
แล้วตรวจตรานับให้ดีมีเท่าไหร่
หากหล่นลงตรงโคนนั้นคราฟันไม้
จงนับไว้รวมกันตามกติกา
     ๏ ตกลงความตามใจที่หมายมั่น
วาหุกรีบไปฟันกิ่งพฤกษา
เริ่มนับพลันหวั่นเรื่องเปลืองเวลา
กองละห้าร้อยไล่ไปจนครบ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 ตุลาคม 2018, 01:54:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #131 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2018, 01:54:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๒๘

     ๏ วาหุกถึงตะลึงหลงงงงันอยู่
ฤตุบรรณท่านถามดูผลประสบ
วาหุกหันมาระยอบนอบน้อมนบ
“ท่านเจนจบจริงถูกต้องมิพร่องเลย
     ๏ ยอดยิ่งนักจักมีใครในโลกนี้
วิชาดีอยากวานท่านเฉลย
หัวใจอาชาไนยให้ชดเชย
แลกเปลี่ยนกันท่านจงเอ่ยมาตามตรง”
     ๏ ใกล้เวลาสายัณห์ตะวันลับ
ต่างรีบรับด้วยจิตคิดประสงค์
“เริ่มหัวใจสกาข้าดำรง
หากจิตจงสังขยากีฬาคณิต
     ๏ ก่อนศึกษาวิชาดีมีข้อแม้
ต้องแน่วแน่จำนงจงในจิต
มิละโมบโลภหลายหมายฆาตมิตร
และมีสิทธิ์เพียงคราละหนึ่งครั้ง
     ๏ เมื่อหัวใจสกาขลังตั้งมั่นแล้ว
จักผ่องแผ้วในฤดีดังที่หวัง
ตัดสินใจไปตามจิตนิมิตภวังค์
มิพลาดพลั้งเป็นแน่แท้จริงเจียว

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 ตุลาคม 2018, 01:55:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #132 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2018, 01:55:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                            หน้า  ๑๒๙

        ๏ ชวนกันนั่งหลังโขดเขินเนินไศล
คาดมิให้ใครจ้องมาข้องเกี่ยว
ขีดเขียนดินโดยใช้กิ่งไม้เรียว
ประเดี๋ยวเดียวเสร็จสมอารมณ์ปอง
     ๏ ฤตุบรรณคะยั้นคะยอ “ขออย่าช้า
สอนให้ข้าเข้าใจไม่เป็นสอง
อันหัวใจอาชาคราเข้าครอง
ตามครรลองตรรกะไฉนกัน”
     ๏ วาหุกทูลราชาว่า “ข้าบาท
มิบังอาจโยกโย้มีโมหันธ์
ก็จักหมายขยายนัยใจม้านั้น
ความสำคัญแม้สักนิดมิปิดบัง
     ๏ หัวใจแห่งพาชีเมื่อมีผล
ข้ามชาติพันธุ์สัตว์คนเกิดมนต์ขลัง
อาชาที่ฝีเท้าเลิศเกิดพลัง
ความดุจดังมุ่งมั่นสรรม้ามา
     ๏ หลักสำคัญอันเน้นเป็นเอกอุ
คือบรรลุข้ามชาติพันธุ์ภาษา
มิคิดเห็นเป็นแต่แค่อาชา
เชื่อมใจกันมิฉันทาพาเลิศแล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 ตุลาคม 2018, 01:08:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #133 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2018, 01:08:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                           หน้า  ๑๓๐
 
     ๏ จุดประสงค์จำนงใดกล่าวให้แจ้ง
ช้าเร็วแรงสำแดงความตามกระแส
ถึงจุดจิตเชื่อมใจได้จริงแท้
ก็คือแง่แห่งตรรกะอัศวการ
     ๏ มีเคล็ดหนึ่งซึ่งพระองค์ต้องทรงคิด
ด้วยดวงจิตเป็นกุศลบนพื้นฐาน
เลี้ยงสมบูรณ์พูนพละอภิบาล
เมตตาทานนั่นคือทุนบุญความดี
     ๏ แล้วจึงชวนฤตุบรรณร่วมผันผาย
พากันย้ายจากเนินดินถิ่นไพรศรี
ออกดำเนินเดินไปหากลุ่มพาชี
ต่อพาทีอธิบายขยายนัย
     ๏ มือสัมผัสผิวกายใช้จิตส่ง
เจตจำนงที่เน้นเป็นไฉน
เคล็ดวิชาดังว่านั้นบรรยายไป
โดยมิให้ใครอื่นดูและรู้ความ
     ๏ เป็นครูศิษย์เสร็จสมหวังกันทั้งสอง
คลายหม่นหมองแห่งจินต์สิ้นคำถาม
วาร์ษไณยกลับมาเวลางาม
ฤตุบรรณนั้นได้ตามน้ำใจจง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 ตุลาคม 2018, 01:09:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #134 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2018, 01:09:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๓๑

 
    ๏ แต่วาหุกครานั้นมิทันย่าง
กลีออกจากร่างดังประสงค์
ดิ้นเร่าเร่าอยู่บนพื้นมิคืนทรง
“ขอเมตตาข้าพระองค์อย่าทำลาย
     ๏ ยอมต่อพระเมตตาบารมีท่าน
ข้าสุดจะทรมานเจ็บปวดหลาย
คำสาปทมยันตีมีฤทธิ์ร้าย
เข้ากล้ำกลายวิญญาณผลาญย่ำยี
     ๏ คาบที่สองต้องพิษฤทธิ์แรงร้อน
ดังกองฟอนสุมกายไม่อาจหนี
นั่นคือพิษรุนแรงแห่งนาคี
จนชีวีแทบมลายอยู่หลายครา
       ๏ และถึงคาบที่สามในยามนี้
พระองค์ได้วิชาดีมากมีค่า
คือหัวใจตรรกะแห่งสกา
ล้วนนำพาข้าแดดิ้นสิ้นพลัง
     ๏ บุญฤทธิ์อิทธิสร้างแต่ปางก่อน
ถูกลิดรอนมลายพ้นด้วยมนต์ขลัง
พระองค์ย่ำซ้ำก็ดิ้นสิ้นเอวัง
หากว่ายังเมตตาข้าขอจร”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 ตุลาคม 2018, 01:11:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #135 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2018, 01:11:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                           หน้า  ๑๓๒

   
  ๏ เมื่อพระนลมิมีจิตคิดจะปราบ
กลีกราบกระย่องกระแย่งเรี่ยวแรงอ่อน
แล้วลาลับวับไปในดงดอน
นลราชามาผ่อนร้อนกายใจ
     ๏ เหลือแต่รูปร่างกายภายนอกแล้ว
จิตราชันนั้นดั่งแก้วเปล่งแววใส
ดั่งร่างองค์เบาลงเสียกระไร
สำนึกได้ไร้อธรรมครอบงำครอง
      ๏ จึงรีบขึ้นไปนั่งเตรียมตั้งท่า
ขับอาชาต่อไปไม่หม่นหมอง
เถื่อนวิถีเหมือนมีใจให้สมปอง
สนธยาฟ้าทองถึงวิทรรภ์
     ๏ นายประตูผู้ใหญ่ครั้นได้พบ
เป็นคำรบที่มากะทันหัน
 รีบกราบทูลองค์ภีมราชัน
แล้วเชิญท้าวฤตุบรรณเข้าวังใน
      ๏ รถทะยานผ่านประตูสู่วังราช
กัมปนาทลั่นเลือนสะเทือนไหว
มีทั้งเสียงรถม้าที่คลาไคล
ม้าต้นของพระนลไซร้ประสานกัน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ตุลาคม 2018, 12:02:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #136 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2018, 12:02:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                        หน้า  ๑๓๓
   
      ๏ อยู่ในโรงคงรู้ว่านายมานี่
เหล่าพาชีคะนองเสียงร้องลั่น
จากกันครานำบุตราบุตรีนั้น
งานสำคัญวาร์ษไณยรับใช้มา
      ๏ ราชรถบทจรมิหย่อนยั้ง
คล่องแคล่วดังรู้วิถีดีนักหนา
ทมยันตียินดีจนล้นอุรา
เฝ้าจับจ้องมองอยู่หน้าพระบัญชร
      ๏ ทั่ววังทองผ่องสีสันสวรรค์แสง
เจิดแจรง*เรืองจรัสประภัสสร
เหนือเมฆายินเสียงฟ้าประทานพร
มองอมรรุ่งอร่ามงามพิไล
     ๏ ที่สวนขวัญนกยูงงามรำแพนหาง
ร่ายรำอย่างสนุกสุขสดใส
ช้างลำพองร้องเสียงสังข์ดั่งอวยชัย
ทมยันตีมั่นใจในครานี้
      ๏ แม้นภัสดามิมาชมให้สมรัก
ไม่พบพักตร์ขององค์พระทรงศรี
ตัดสินใจไม่ขออยู่สู้ชีวี
จะขอพลีร่างให้พระเพลิงมลาน



แจรง*   กระจายออก,   ขยายออก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ตุลาคม 2018, 12:04:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #137 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2018, 12:04:PM »
ชุมชนชุมชน

 
                                                หน้า  ๑๓๔

 
    ๏ รำพึงใจใช่พระนลคนพูดปด
ทรยศต่อใครให้หักหาญ
สิ่งเลวทรามยามจิตดีมิแผ้วพาน
จะพิจารณ์ร้ายใครไม่เคยยิน
     ๏ พระทัยงามตามจิตจริตแท้
พระดูแลเมียดังหวังถวิล
ความจงรักมิจางใจไปจากจินต์
ตราบจนสิ้นชีวันจากกันไกล
     ๏ เทวีพิไรครวญป่วนในจิต
พบทรงสิทธิ์ชิดใกล้ได้ไฉน
 เป็นจริงจังดังคิดหรือผิดไป
ร้อนฤทัยระทมมิสมประดี
     ๏ ท้าวฤตุบรรณครั้นลงราชรถ
จุดกำหนดชานชาลาสารถี
เสด็จสู่ปราสาทในไม่รอรี
จึงท้าวภีมราชามาทักทาย
      ๏ มิได้รู้เบื้องลึกนึกฉงน
ถามเหตุผลที่แท้แก่สหาย
“ท่านรีบมาฉะนี้เหตุดีร้าย
ขอขยายให้แจ้งประจักษ์ใจ”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
31 ตุลาคม 2018, 12:05:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #138 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2018, 12:05:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                      หน้า  ๑๓๕

      ๏ ครานั้นฤตุบรรณอันมีศักดิ์
ทรงฉลาดยิ่งนักด้วยรู้ได้
หากมีการสยมพรแน่นอนไซร้
เจ้ากษัตริย์น้อยใหญ่เต็มพารา
      ๏ พราหมณ์ทุกหมู่ผู้ชาญการพิธี
มาร่วมงานวันนี้มิพบหน้า
นึกคำนึงจึงเจ้าอโยธยา
เอ่ยความว่า “มาเยี่ยมองค์พระทรงธรรม์”
      ๏ ภีมราชก็รู้นัยว่าใช่ที่
อยู่ดีดีจะมาหาดังว่านั่น
 ร้อยโยชน์ไกลมิใช่ว่ามาเยี่ยมกัน
โดยไร้เหตุสำคัญอันบ่งชี้
       ๏ ชวนให้พักผ่อนกายหลายวันก่อน
นัยแฝงอยู่รู้แน่นอนมิอาจหนี
จึงเชิญเจ้าอโยธยาจอมธานี
“ขอจงมีสำราญพระหฤทัย”
      ๏ ครานั้นหนาวาหุกสารถี
นำพาชีสู่โถงโรงม้าใหญ่
ปลอบม้าเดิมที่พรากจากกันไกล
และม้าใหม่ให้ชินคุ้นกลิ่นกัน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 พฤศจิกายน 2018, 01:00:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #139 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2018, 01:00:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                       หน้า  ๑๓๖

 
     ๏ แล้วทำความสะอาดราชรถ
โศกกำสรดถึงเทวีฤดีสั่น
สยมพรที่ว่ามาก่อนนั้น
ดูเงียบงันมิจริงจังดังวจี
      ๏ ทมยันตีมีใจดั่งไฟร้อน
จะพักผ่อนนอนมิได้ใจเต้นถี่
หากพระนลจำแลงมาในครานี้
หาวิธีให้เผยร่างได้อย่างไร
      ๏ รับสั่งเรียกเกศินีสาวพี่เลี้ยง
มานั่งเคียงปรึกษาฟังปราศรัย
อยากรู้ซึ้งถึงวาหุกถ้วนทุกนัย
ต้องซักไซ้เค้าความตามกระบวน
     ๏ เกศินีพี่เลี้ยงผู้ฉลาด
ไปสัมภาษณ์วาหุกสิ้นทุกส่วน
ด้วยลีลาคารมอันสมควร
เรื่องมาด่วนอยากรู้เหตุเจตนา
     ๏ “สยมพรพิธีที่กล่าวขาน
ท้าวอโยธยาท่านหมายมาหา
ด้วยพระองค์ทรงฤทธิ์คิดเมตตา
ช่วยธิดาพ้นโศกวิโยคใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s