มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 12:53:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาภรตะนิทาน เรื่องพระนลคำกลอน  (อ่าน 85410 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 กันยายน 2018, 04:31:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #100 เมื่อ: 24 กันยายน 2018, 04:31:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๙๗
  
    ๏ จงเล่าความตามที่มีในจิต
ทุกปัญหาหน้าที่มิตรคิดแก้ไข
เพื่อนกันหนาอย่าเห็นเป็นอื่นไกล
เฉลยนัยเถิดจะนั่งคอยฟังความ”
     ๏ วาหุกจึงซึ้งจิตมิตรเป็นห่วง
ปิดบังต่อก็คงท้วงคอยพร่ำถาม
จำเปิดปากหากมิเอ่ยเผยพระนาม
เล่าเรื่องตามเป็นจริงทุกสิ่งอัน
     ๏ “โอ้เราหรือคือผัวที่ชั่วช้า
เกิดฟั่นเฟือนเหมือนบ้าน่าหยามหยัน
ตกยากพาเมียมาค้างกลางอรัญ
แล้วหุนหันหนีเมียเสียกลางทาง
   ๏ ช่างใจดำทำได้ร้ายกาจนัก
ทั้งเมียรักของพี่ดีทุกอย่าง
เราตกอับเมียรับทุกข์สุขละวาง
ยอมลาร้างพารามากลางไพร
     ๏ จึงหม่นหมองครองเศร้าเพื่อนเราเอ๋ย
ร้างคู่เชยมิรู้นางอยู่ไหน
อาจยังหลงดงหรือด้นถึงหนใด
กลางฤทัยเราตรมระบมจริง”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 กันยายน 2018, 12:33:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #101 เมื่อ: 26 กันยายน 2018, 12:33:PM »
ชุมชนชุมชน




                                                              หน้า  ๙๘


 
    ๏ สองมิตรพลอยสร้อยเศร้าฟังเล่าแล้ว
มิเห็นแนวช่วยใดได้สักสิ่ง
ทั้งที่รักเยาวยอดจำทอดทิ้ง
รู้ทุกข์ยิ่งยามจากรักหักอารมณ์
    ๏ มีแต่คำปลอบใจมอบให้มิตร
ยกชีวิตย่อมมีทุกข์และสุขสม
เมื่อใจสองปองรักมั่นกันเกลียวกลม
กลับชื่นชมกันมิช้าอย่าอาวรณ์
     ๏ เห็นทางใดช่วยให้สมอารมณ์หวัง
มิรอรั้งตั้งจิตช่วยมิตรก่อน
เพียงคำปลอบเพื่อนให้คลายรุ่มร้อน
ทุกข์เหลือถอนกำหนดให้อดทน
     ๏ นึกคำนึงซึ้งในน้ำใจมิตร
ที่มีจิตผ่องเพ็ญเป็นกุศล
ทุกข์อุรากับหน้าที่มิปะปน
ยังเป็นคนอภิบาลการอาชา
     ๏ ทุ่มเทให้ใจภักดิ์พิทักษ์ราช
กษัตริย์ชาติฤตุบรรณขันอาสา
แม้ทุกข์หนักจักไม่ท้อรอเวลา
เป็นจริงจังดังวาจาของนาคี
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 กันยายน 2018, 12:36:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #102 เมื่อ: 26 กันยายน 2018, 12:36:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                         หน้า  ๙๙

    ๏ ย้อนถึงเมืองวิทรรภ์ครั้นรู้ข่าว
ถึงเรื่องราวแต่ต้นหม่นเหลือที่
ทั้งพระนลและทมยันตี
เสียธานีระหกระเหินดำเนินไพร
     ๏ องค์จุมพลภีมราชประกาศว่า
พราหมณ์ทั้งหลายให้มาฟังปราศรัย
เรื่องพระนลราชาหายหน้าไป
พร้อมทรามวัยทมยันตีธิดานั้น
     ๏ “ท่านทั้งหลายกระจายตนไปค้นหา
พระนลและชายากลางไพรสัณฑ์
ใครพากลับคืนวังมีรางวัล
โคหนึ่งพันตัวมอบให้ตอบแทน
     ๏ แม้มิได้กลับมาเพียงว่ารู้
สององค์อยู่แดนใดให้มั่นแม่น
ทรัพย์สินนั้นสรรให้ไม่ขาดแคลน
เกินหมื่นแสนตำลึงจนพึงใจ”
     ๏ ในครานั้นเหล่าพราหมณ์ทำตามตรัส
เที่ยวเลาะลัดค้นหากลางป่าใหญ่
บ้างเดินทางต่างแคว้นสุดแดนไกล
สืบถามไถ่ไปทุกจุดจนสุดแคว้น
[/size][/font]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 กันยายน 2018, 12:38:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #103 เมื่อ: 26 กันยายน 2018, 12:38:PM »
ชุมชนชุมชน


                หน้า  ๑๐๐

     
     ๏ กลับมาเฝ้าเล่าการณ์งานขวนขวาย
แล้วแยกย้ายอีกคราอย่างหนาแน่น
ไปถึงแทบทุกถิ่นทั่วดินแดน
แต่มาตรแม้นมิสมตั้งความหวังมา
     ๏ ในครานี้สุเทพทิชพราหมณ์
ซึ่งออกตามทั่วไปในแดนป่า
ย้อนกลับหลังยังเจทีพารา
ทัศนามาถึงซึ่งวังทอง
     ๏ จึงพบทมยันตีธิดาราช
น่าอนาถราศีที่หม่นหมอง
ตั้งสติพินิจพิศตริตรอง
ว่าถูกต้องเหมือนจิตที่คิดแท้
     ๏ รำพึงในใจว่านิจจาเอ๋ย
วงพักตร์เคยเปล่งปลั่งดั่งดวงแข
บัดนี้หมองหม่นไหม้อาลัยแล
เหมือนบัวแผ่กลีบร้างอยู่กลางดิน
     ๏ คงโศกาสาหัสที่พลัดพราก
ทั้งจำจากภัสดามาไกลถิ่น
นัยนางามกว่าตามฤคคิน
เดี๋ยวนี้สิ้นแววสุขทุกข์ล้นใจ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กันยายน 2018, 09:16:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #104 เมื่อ: 28 กันยายน 2018, 09:16:AM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๐๑

    ๏ แม้นกลับคืนผืนดินถิ่นวิทรรภ์
คงมิบั่นทอนสลดออกหมดได้
หากมิพบภัสดานลราชัย
แต่อย่างไรทุกข์นั้นพอบรรเทา
     ๏ จนมั่นใจในจิตมิผิดพลาด
พราหมณ์สามารถติดต่อขอเข้าเฝ้า
คารวะพระธิดาพรรณนาเค้า
ความครั้งเก่าแต่เริ่มจำเดิมมา
     ๏ “องค์ภีมราชันครั้นทราบข่าว
ทุกเรื่องราวพระทรงศักดิ์เศร้านักหนา
ตรัสให้พราหมณ์ทั้งหลายในนัครา
ออกตามหาสองพระองค์จำนงใจ
     ๏ กวลล่วงเกินเนิ่นนานมิพานพบ
พระนลหลบกายพ้น ณ หนไหน
ตัวหม่อมฉันนั้นเดินทางถึงกลางไพร
ย้อนกลับได้พบเทวีวันนี้เลย”
     ๏ ทมยันตีครานี้พิไรร่ำ
“เป็นเวรกรรมพระบิดรมารดาเอ๋ย
มิน่าพลอยโศกเศร้าจริงเล่าเอย
แล้วทรามเชยบุตรสองเราเล่าสุขดี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กันยายน 2018, 09:17:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #105 เมื่อ: 28 กันยายน 2018, 09:17:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๑๐๒

 
    ๏ ถามทุกข์สุขถ้วนพระประยูรญาติ
ถึงทวยราษฎร์ทั่วไปในกรุงศรี
ขอพราหมณ์โปรดได้แถลงแจงวาที
อกข้านี้คิดถึงคะนึงครวญ”
     ๏ สุเทพพราหมณ์เอื้อนเอ่ยเผยความว่า
“พระบิดรพระมารดาสุขทุกส่วน
เพียงเรื่องของพระธิดาเป็นชนวน
ทรงกระอักกระอ่วนพระหทัย”
     ๏ “กุมารากุมารีสองศรีนั้น
เพื่อนเล่นห้อมล้อมกันสุขสดใส
ราชวงศ์ทุกองค์ยังห่วงใย
ชนทั่วไปเป็นอยู่ยั้งดั่งเคยมา”
     ๏ พราหมณ์กล่าวความตามนัยแต่ใจแห้ง
มิอาจแจ้งข่าวพระนลผลคืบหน้า
ทมยันตียังมีความโศกา
ร้อนอุราด้วยห่วงหวงพระนล
     ๏ จำทูลเชิญเดินทางยังวิทรรภ์
โศกคงบรรเทาไปในเบื้องต้น
สนทนาพาหม่นหมองทั้งสองคน
เห็นพิกลสุนันทากุมารี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กันยายน 2018, 09:19:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #106 เมื่อ: 28 กันยายน 2018, 09:19:AM »
ชุมชนชุมชน


                                                            หน้า  ๑๐๓   

                        
    ๏ กราบทูลพระราชมารดารู้
แล้วทั้งคู่รีบมาหาถึงที่
จึงตรัสถามสุเทพพราหมณ์แต่โดยดี
“สองท่านนี้รู้จักกันหรือฉันใด
     ๏ จงชี้แจงแถลงความไปตามสัจ
ปฏิพัทธ์สัมพันธ์กันไฉน”
พระราชเสาวนีย์ให้เผยนัย
พราหมณ์จึงได้ทูลความตามสัจจา
     ๏ “ขอเดชะพระมารดาอย่าสงสัย
จะเผยนัยให้ฟังดังปุจฉา
พระนางนี้ทมยันตีราชธิดา
แห่งภีมราชากรุงวิทรรภ์
     ๏ สยมพรกับพระนลราชาชัย
ครองนิษัธกรุงไกรไอศวรรย์
สิบสองปีสุขีมาจนครานั้น
ต้องมีอันย่อยยับอัปรา
     ๏ ด้วยพระนลกมลจิตผิดปกติ
สิ้นดำริราชกิจปิดยิหวา
ทรงแน่วแน่แต่จะเล่นสกา
จนต้องเสียพาราออกแรมไพร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 ตุลาคม 2018, 01:12:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #107 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2018, 01:12:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                              หน้า  ๑๐๔

     ๏ พร้อมชายาธิดาทมยันตี
ความจงรักสวามีนั้นยิ่งใหญ่
เกิดวิบัติพลัดพรากจากกันไกล
องค์พระนลอยู่ไหนยังไม่พบ
     ๏ ภีมราชระดมพราหมณ์ออกตามหา
ทั้งวนาเมืองทั้งหลายไม่ประสบ
โชคหม่อมฉันสมมั่นหมายได้นอบนบ
พระธิดาอีกคำรบ ณ ครานี้
     ๏ ขอพระราชมารดาอย่าฉงน
เหตุและผลแห่งธิดามารศรี
หว่างขนงแต่กำเนิดเกิดไฝดี
อันพระพรหมปรานีประทานมา
     ๏ พระจันทร์เสี้ยวหนึ่งในไฝมงคล
คือปิ่นชนประเสริฐล้ำเลิศหล้า
เมื่อมีกรรมจำจรซ่อนกายา
ผงแป้งทาหนาปิดด้วยจิตจง
     ๏ หากเอาน้ำมนต์มาชำระพักตร์
จะประจักษ์ด้วยจิตสิทธิ์ประสงค์
นี่คือสัจวาจาข้าพระองค์
สุดแต่ความจำนงประการใด”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 ตุลาคม 2018, 01:14:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #108 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2018, 01:14:PM »
ชุมชนชุมชน

                                                           หน้า  ๑๐๕

  ๏ พระมารดาฟังวาทีที่เฉลย
มิอาจเอ่ยอึ้งอยู่สุชลไหล
ครางหือฮือ มือทุบอกชกหทัย
เหมือนเสียใจและโกรธโทษตัวตน
      ๏ สุนันทาหาน้ำขอชำระ
จึงเห็นจะแจ้งงามตามนุสนธิ์
พระมารดาอาการท่านชอบกล
ดูร้อนรนทั้งร้องร่ำเพ้อจำนรรจ์
     ๏ “น้าเสียใจในกาลผ่านไปแล้ว
โอ้หลานแก้วทูนหัวของตัวฉัน”
พระเพ้อพร่ำกล้ำกลืนฝืนรำพัน
นัยสำคัญยิ่งล้ำคำพาที
     ๏ “มิฉุกคิดสักนิดหนาว่าเป็นหลาน
ห่างกันนานแปลกไปก็ใช่ที่
พระนลนามความนิษัธธานี
น้าเองนี้ควรจะเฉลียวใจ
     ๏ ยังดีที่มีเมตตาให้มาอยู่
เข้าเป็นคู่สุนันทาแม้นหาไม่
หากปล่อยเป็นทาสีที่ยากไร้
เป็นบาปกรรมตามไปชั่วชีวา
 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 ตุลาคม 2018, 01:16:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #109 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2018, 01:16:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๑๐๖
                  
 
    ๏ ขอหลานน้าอย่าฉงนและหม่นหมอง
น้าเป็นน้องแท้แท้แม่หลานหนา
สุทามันอันนามท้าวพระเจ้าตา
ครองธรรมมิกพารามานานปี
     ๏ พี่สาวน้าวิวาห์ภีมราชเจ้า
ครองวิทรรภ์นานเนาชนสุขี
ส่วนตัวน้าคู่นราธิปบดี
บุตรสุพาหุภูมีคือราชัน
     ๏ เราว่านเครือเชื้อสายใกล้ชิดแท้
ยามกายแก่ยากไปมาหากันนั่น
ครั้งหลานยังเยาว์วัยได้พบกัน
พอนานวันนั้นมิน่ามาลืมเลือน”
     ๏ จำนรรจ์พลางนางเจ้าเฝ้าจุมพิต
ด้วยปลื้มจิตปลื้มใจหาใดเหมือน
ทมยันตีก็ไม่ได้แชเชือน
ค่อยค่อยเคลื่อนบังคมก้มชุลี
     ๏ สุนันทาซึ้งซาบกราบแทบอก
ฐานะยกขึ้นสู่ญาติผู้พี่
ทั้งสามตระกองกอดทอดไมตรี
เป็นนาทีอันสดชื่นรื่นฤทัย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 ตุลาคม 2018, 08:55:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #110 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2018, 08:55:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                            หน้า  ๑๐๗

    ๏ ทมยันตีมีความนำปรึกษา
“ขอท่านน้าโปรดดำริวินิจฉัย
บัดนี้องค์พระบิดาราชาชัย
ทรงห่วงใยไร้สุขทุกข์ระทม
     ๏ พระช่วยเหลือเอื้ออวยด้วยเต็มที่
ให้พราหมณ์หาทุกธานียังมิสม
ทั้งบุตราบุตรีมีแต่ตรม
เคยเชยชมมาร้างห่างมารดร
     ๏ ขอพระอนุญาตคืนราชฐาน
เพื่อตามหาพระภูบาลอดิศร
พระองค์ยังห่างหายไกลนาคร
ในอกหลานนั้นยังร้อนมิผ่อนคลาย
     ๏ ทั้งที่พอรู้ความลำดับญาติ
ถือโอกาสลากลับใช่ลับหาย
ในวันหน้าแม้นว่ายังมิตาย
ใจมาดหมายย้อนมาหาพระองค์”
      ๏ พระมารดาสั่งหาสีวิกามาศ*
ประดับปวงบุปผชาติขบวนส่ง
จัดพลพฤนท์*ราชพิลาสทรง
พร้อมทิวธงสวยสล้างเดินทางไป


สีวิกา*  เสลี่ยง,  คานหาม, --  มาศ*   ทอง
พฤนท์*   กอง,  หมู่,  จำนวนมาก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 ตุลาคม 2018, 08:56:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #111 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2018, 08:56:AM »
ชุมชนชุมชน

 
                                                            หน้า  ๑๐๘

 
    ๏ แล้วมินานการเดินทางอย่างแข็งขัน
บรรลุถึงซึ่งวิทรรภ์เมื่อวันใหม่
ทราบข่าวทมยันตีล้วนดีใจ
แต่ท้าวไทถึงอาณาประชาชน
     ๏ จัดพิธีพลีทานการบวงสรวง
สิ่งทั้งปวงเกื้อหนุนบุญกุศล
พุทธบูชาจาคะวาระมงคล
พราหมณ์ไพร่พลพร้อมสรรพรับรางวัล
     ๏ โดยเฉพาะสุเทพพราหมณ์ตามกล่าวไว้
ราชันให้เกินที่จิตคิดหมายมั่น
ทมยันตีกราบบิดร มารดาพลัน
แล้วรับขวัญบุตรทั้งสองหายหมองมัว
     ๏ มีแม่ลูกผูกพันจิตอยู่ชิดใกล้
ยังหมองไหม้เหลือที่มิมีผัว
ปลอบประโลมลูกว่า “เจ้าอย่ากลัว
พ่อทูนหัวต้องกลับมาพร้อมหน้ากัน”
     ๏ หนึ่งราตรีที่พักผ่อนนอนวังเก่า
ตื่นแต่เช้ากลับเหมือนเดิมเริ่มโศกศัลย์
พระแม่เจ้ารู้ข่าวมาไม่ช้านั้น
ฟังรำพันหวนละห้อยพลอยโศกา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 ตุลาคม 2018, 08:58:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #112 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2018, 08:58:AM »
ชุมชนชุมชน

 

                                                             หน้า  ๑๐๙

     ๏ “พระชนนีที่ทูนเทิดบังเกิดเกล้า
ลูกแสนเศร้าโศกหนักยิ่งนักหนา
นลบดีที่พรากไปในพนา
ได้ตามหานานมิพบประสบองค์
     ๏ มิรู้ว่ามาเจอกันต่อวันไหน
กลัวดวงใจลูกจะแยกแตกเป็นผง
วอนมารดาขอเมตตาปิตุรงค์
หนุนจำนงค้นหานลราชัย”
     ๏ รับภาระพระมารดาอาสาช่วย
เอื้ออำนวยทำการประสานให้
ภีมราชรู้เรื่องราวเข้าพระทัย
พระองค์ได้เรียกหาทิชาจารย์
     ๏ ผู้ตรวจตราปรางค์ปราสาทราชกิจ
ระดมพลรณฤทธิ์ทวยทหาร
คัดที่คล่องท่องแคว้นแดนกันดาร
และเหล่าพราหมณ์เชี่ยวชาญการเดินทาง
     ๏ ร่วมผนึกกำลังกันทั้งหลาย
ออกกระจายทั่วไปถึงไพรกว้าง
ทุกย่านบ้านกันดารใดไม่ละวาง
จนถึงกลางพาราทุกธานี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 ตุลาคม 2018, 08:35:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #113 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2018, 08:35:AM »
ชุมชนชุมชน


                                                            หน้า  ๑๑๐

 

    ๏ ผู้หมายใจไปดั้นด้นสืบค้นหา
ยามทูลลาคลาไคลออกไพรศรี
รับลำนำคำคมทมยันตี
เมื่อจรลีถึงแดนดินถิ่นใดใด
     ๏ “จงขับร้องท่องกลอนสุนทรว่า
(โอ้ยอดรักนักสกาข้าอยู่ไหน
แบ่งเอาผ้าคลุมกายแล้วหายไป
ช่างกระไรไม่หันมาเมตตากัน
    ๏ หรือหลงลืมสัญญาว่ารักแท้
มิเปลี่ยนแปรจนชีวาเราอาสัญ
โอ้หงส์เอ๋ยเคยพร่ำเทิดจำนรรจ์
คำที่บอกหลอกฉันหรือหงส์ทอง
     ๏ มาทิ้งเมียเสียได้กลางไพรสณฑ์
สุดจะทนหม่นไหม้ฤทัยหมอง
เหลือผ้าครึ่งผืนไว้ให้เมียครอง
เฝ้าร่ำร้องหาผัวทั่วอรัญ
     ๏ เมียดีต้องร่วมเรียงอยู่เคียงผัว
ใกล้ชิดตัวชิดใจไม่แปรผัน
ผัวดีรักเมียลูกผูกสัมพันธ์
ทั้งสองนั้นคือคู่ครองครรลองธรรม

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 ตุลาคม 2018, 08:38:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #114 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2018, 08:38:AM »
ชุมชนชุมชน



                                                             หน้า  ๑๑๑



     ๏ ขอมีจิตคิดเมตตาถ้ายังรัก
เมียผู้ภักดิ์ไห้หวนคอยครวญคร่ำ
แม้กินข้าวลงคอได้ไม่เต็มคำ
ยามกินน้ำก็ยังแค้นแน่นในทรวง
        ๏ อันสมบัติพัสถานพิมานแก้ว
ล่มลงแล้วดวงจิตมิคิดหวง
สวามีที่บูชากว่าทั้งปวง
อย่าลาล่วงโปรดจงคืนให้ชื่นใจ)
     ๏ ขับลำนำเพลงชีวีนี้ทุกหน
อารมณ์คนที่ฟังคำแล้วร่ำไห้
ขอให้เชื่อไว้ก่อนว่านลราชัย
จงเข้าไล่เลียงถามความเป็นมา
     ๏ อาจปลอมแปลงแต่งตนจนรูปชั่ว
หรือหมองมัวยากไร้อนาถา
ดูอาการมิใช่หมายกายา
เรื่องรูปร่างหน้าตามิสำคัญ
     ๏ ความแต่ต้นคนทั้งปวงมิล่วงรู้
นอกจากภูวนาถแลตัวฉัน
พบผู้มีทีท่าดังว่านั้น
สืบความอันเป็นมาสารพัด

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 ตุลาคม 2018, 08:39:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #115 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2018, 08:39:AM »
ชุมชนชุมชน




                                                             หน้า  ๑๑๒



     ๏ แล้วกลับมาพาราพลันเป็นการด่วน
เสนอคำสำนวนให้ถนัด
ฉันค่อยคิดวินิจฉัยความให้ชัด”
พระนางตรัสบทแบบอันแยบยล
     ๏ ครานั้นให้นายทหารออกควานหา
เหล่าพราหมณ์จาริกไปในทุกหน
ทั้งใกล้ไกลนอกในแดนแคว้นมณฑล
ออกสืบค้นพ้นพาราสู่อารัญ
     ๏ ขับลำนำคำกลอนจรทั่วทิศ
มิพบองค์ทรงฤทธิ์นลรังสรรค์
ไม่เกิดผลจนผ่านมานานครัน
ยังยืนยันพยายามตามต่อไป
     ๏ ผู้ฟังกลอนวอนกล่าวเขาซึ้งซ่าน
เพลงรักหวานกล่อมอารมณ์สมสมัย
หาคิดเห็นเป็นจริงจังแต่อย่างใด
มิรู้นัยแฝงไว้ในวาที
     ๏ ดัดแปลงศัพท์สำเนียงไปหลายภาษา
ตามลีลาเคยชินทุกถิ่นที่
เสริมสังคีตดีดพิณศิลป์ดนตรี
มิเห็นมีใครเศร้าคราวยินกลอน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2018, 04:05:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #116 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2018, 04:05:PM »
ชุมชนชุมชน



                                                              หน้า  ๑๑๓

    ๏ กาลล่วงมาทิชาจารย์ชาญฉลาด
ปรรณาท” ได้เค้าเรื่องราวก่อน
เข้ารายงานทมยันตีที่นคร
ตามขั้นตอนต่อเทวีวิลาวัลย์
     ๏ “ครั้งข้าบาทบทจรนครอื่น
ชนล้วนชื่นรสกวีที่ร้องนั่น
มิมีใครไห้หวนครวญรำพัน
ทุกเขตขัณฑ์สังเกตดีมิพบพาน
      ๏ ถึงมหานครบวรสมัย
อโยธยาเวียงชัยอันไพศาล
ฤตุบรรณราชาผู้เชี่ยวชาญ
เป็นเลิศการสกาลือชาไกล
     ๏ ขอเมตตาราชาท่านสรรค์สนอง
ประกาศก้องท้องพระโรงโอ่โถงใหญ่
ที่ประชุมเหล่าเสนาข้าวังใน
หมู่อำมาตย์ทั้งกรุงไกรมากมายครัน
     ๏ ในดวงจิตคิดว่าน่าได้ผล
เพราะมากคนสนใจจึงหมายมั่น
เปล่งเสียงดังกังวาน ณ กาลนั้น
ฤตุบรรณท่านก็พอพระทัย


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2018, 04:09:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #117 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2018, 04:09:PM »
ชุมชนชุมชน

 

                                                              หน้า  ๑๑๔

     ๏ ลำนำกลอนตอนนั้นรำพันว่า
(โอ้ยอดรักนักสกาข้าอยู่ไหน
แบ่งเอาผ้าคลุมกายแล้วหายไป
ช่างกระไรไม่หันมาเมตตากัน
     ๏ หรือหลงลืมสัญญาว่ารักแท้
มิเปลี่ยนแปรจนชีวาเราอาสัญ
โอ้หงส์เอ๋ยเคยพร่ำเทิดจำนรรจ์
คำที่บอกหลอกฉันหรือหงส์ทอง
     ๏ มาทิ้งเมียเสียได้กลางไพรสณฑ์
สุดจะทนหม่นไหม้ฤทัยหมอง
เหลือผ้าครึ่งผืนไว้ให้เมียครอง
จนร่ำร้องหาผัวทั่วอรัญ
     ๏ เมียดีต้องร่วมเรียงอยู่เคียงผัว
ใกล้ชิดตัวชิดใจไม่แปรผัน
ผัวดีรักเมียลูกผูกสัมพันธ์
ทั้งสองนั้นคือคู่ครองครรลองธรรม
     ๏ ขอมีจิตคิดเมตตาถ้ายังรัก
เมียผู้ภักดิ์ไห้หวนคอยครวญคร่ำ
แม้กินข้าวลงคอได้ไม่เต็มคำ
ยามกินน้ำก็ยังแค้นแน่นในทรวง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 ตุลาคม 2018, 04:13:PM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #118 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2018, 04:13:PM »
ชุมชนชุมชน


                                                             หน้า  ๑๑๕



     ๏ อันสมบัติพัสถานพิมานแก้ว
ล่มลงแล้วดวงจิตมิคิดหวง
สวามีที่บูชากว่าทั้งปวง
อย่าลาล่วงโปรดจงคืนให้ชื่นใจ)
     ๏ จบลำนำกำหนดตาจดจ้อง
ดูทั่วท้องพระโรงโอ่โถงใหญ่
คนดาษดื่นชื่นบานซ่านฤทัย
ล้วนยิ้มแย้มแจ่มใสใจเปรมปรีดิ์
     ๏ เหล่าเสนาอำมาตย์แออัดอยู่
พิศทุกผู้ซึ้งซ่านเกษมศรี
เหลียวแลไปไร้คนหม่นฤดี
จึงจรลีทูลลารีบคลาไคล
        ๏ ครั้นออกมาหน้าโรงราชรถ
เห็นกำสรดเพียงผู้หนึ่งจึงสงสัย
เข้าไปถามทราบนามว่าวาหุกไซร้
อัศวชาญชัยในธานี
     ๏ ด้วยปราดเปรื่องเรื่องโภชนาการ
ปรุงอาหารพระราชาอีกหน้าที่
แต่รูปชั่วทั่วกายาล้วนราคี
หน้าตามีแผลเกรอะกรังหนังหย่อนยาน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 ตุลาคม 2018, 09:17:AM
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 207



« ตอบ #119 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2018, 09:17:AM »
ชุมชนชุมชน

                                                           หน้า  ๑๑๖

 
       
     ๏ ห่างลิบลับกับกายาความสามารถ
อันฉลาดรอบรู้อยู่หลายด้าน
หม่อมฉันเพ่งพิศดูอยู่เป็นนาน
จึงถามความร้าวรานนั้นฉันใด”
     ๏ (“ฉันเกลียดชังเจ้าผัวที่ชั่วช้า
ทิ้งภรรยาง่ายง่ายได้ไฉน
โอ้แม่นางช่างระกำช้ำฤทัย
แต่ทำไมมิโกรธผัวที่ชั่วนัก
     ๏ ผ้าเพียงกึ่งซึ่งให้ไว้ต่างหน้า
ต้องเอกากลางไพรทุกข์ใจหนัก
เมื่อผัวบ้าสการ้ายเหมือนคลายรัก
ใจเมียจักมิเคืองจิตนิดฤๅนา
     ๏ ทั้งที่ตนตกระกำชอกช้ำยิ่ง
แม่ยอดหญิงมิมีจิตคิดถือสา
ใจแม่นั้นเยี่ยงเทวัญบนชั้นฟ้า
ความดีแท้แลมาเป็นเกราะทอง”)
     ๏ “หม่อมฉันจำคำไว้ไม่แปรผัน
ดูโศกศัลย์ทุกข์ทนแสนหม่นหมอง
แม้แตกต่างทางกายเป็นก่ายกอง
แต่จำต้องถือสารามากราบทูล

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s