ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
04 ธันวาคม 2024, 12:07:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์  (อ่าน 188064 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
01 มกราคม 2019, 12:25:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #80 เมื่อ: 01 มกราคม 2019, 12:25:AM »
ชุมชนชุมชน



สวัสดีปีหมู.. ยิ้มสู้ไว้ !
..กลบทจตุรงคนายก..

               ๐ ปีโชคปีไชย ปีใหม่ปีหมู               
ต้องยิ้มต้องอยู่ ต้องสู้ต้องสร้าง
        เป็นเงินเป็นงาน  เป็นการเป็นกลาง       
 รู้ทำรู้ทาง รู้ต่างรู้ติง

๐ เลือกปลูกเลือกเป็น เลือกเข็นเลือกข้าม     
ถึงง่ายถึงงาม ถึงยามถึงยิ่ง
                             ใครรอใครรัก ใครพักใครพิง                             
อิ่มใจอิ่มจริง อิ่มนิ่งอิ่มนาน

          ๐ มุ่งสร้างมุ่งเสริม มุ่งเติมมุ่งไต่           
ตามคว้าตามไขว่ ตามใส่ตามสาน
            เต็มเหนี่ยวเต็มนิจ เต็มกิจเต็มการ             
กล้าให้กล้าหาญ กล้าทานกล้าทัน

    ๐ รู้ควรรู้ครอง รู้ตรองรู้แต่ง         
จักแบกจักแบ่ง จักแกร่งจักกลั่น 
             ไม่ใช่ไม่ชิด ไม่ติดไม่ตัน               
จึงผ่านจึงผัน จึงดั้นจึงดล   
     
            ๐ ปีหมูปีใหม่ ปีไทปีทอง               
ปีคุ้มปีคล่อง ปีผ่องปีผล
       เมืองแก้วเมืองโก้ เมืองโตเมืองตน       
สร้างคุณสร้างคน สร้างชนม์สร้างชัย

๐ สุขศรีสุขสันต์ สุขพลันสุขพร้อม     
ยิ่งนบยิ่งน้อม ยิ่งยอมยิ่งใหญ่ 
                      แจ่มคิดแจ่มคำ แจ่มจำแจ่มใจ                         
งามนอกงามใน งามวัยงามวงศ์ฯ

“โชคดีปีหมู อยู่ดีมีสุขตลอดปีและตลอดไปค่ะ”

  ..พี.พูนสุข..
 ๑  มกราคม  ๒๕๖๒


อู๊ดอู๊ด..อู๊ดอู๊ด..มาแล้วจ้า..




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ระนาดเอก, Mr.music, @free, masapaer, panthong.kh, พิณจันทร์

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 มกราคม 2019, 05:48:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #81 เมื่อ: 16 มกราคม 2019, 05:48:AM »
ชุมชนชุมชน


                             เคารพรัก

            นมามิหํ
       (กลบทสิงหลวาท)

ปาเจราจริยาอาจารย์ก่อน     
โหนฺติย่อมสั่งสอนทุกสิ่งสรรพ์
คุณุตฺตราคุณานันต์               
นุสาสกามั่นบอกบ่มบุญ
ปญฺญาวุฑฺฒิผลิผลเลิศ           
กเรเตเตเกิดก่อเกื้อหนุน
ทินฺโนวาเทคำคอยค้ำจุน       
นมามิหํคุณขอบูชา
 

         ครูสอน ก. ข.
         (กลบทตรีเพชรพวง)

ครูสอนกอก่อก้อขอคอเขียน                  
เรารู้เรียนอักษรซ้อนซอนสอน
ผันกาก่าก้าก๊าก๋าอาทร                           
ออนอ่อนอ้อนอ๊อนอ๋อนยังย้อนจำ

เสียงว้านหวานหว่านเสียงสำเนียงใส     
ครูสอนให้ทุกคำค่ำค้ำขำ
จากก่อก้อกอกามาเป็นคำ                     
ยังยั้งยั่งยืนย้ำดื่มด่ำคุณ

อ่านกอไก่ไกไก๋เขียนให้ถูก                     
เฝ้าฝังปลูกปรานีนี่นี้หนุน
ไม่ลืมคุณคุ้นขุนในนาบุญ                       
ครูการุญสอนกอขอข้อคอ   
   
          วันเนาว์  ยูเด็น
  รอยทราย : ชุดวรรณกรรมนำสุขใจ
  (กวี  "รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์"  ปี ๒๕๖๑)

 


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : วลีลักษณา, ระนาดเอก, รพีกาญจน์, @free, masapaer, panthong.kh, Mr.music, พิณจันทร์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 มกราคม 2019, 05:56:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #82 เมื่อ: 16 มกราคม 2019, 05:56:PM »
ชุมชนชุมชน



             ครูศิษย์

      ครูรักศิษย์ศิษย์รู้ว่าครูรัก
จะคึกคักแข็งขยันหมั่นศึกษา
เติบโตไปได้ดีมีหน้าตา
ไม่ลืมว่ารักของครูชูชีวิต

ศิษย์รักครูครูรู้ว่าศิษย์รัก
จะคึกคักแข็งขยันด้วยมั่นจิต
เมตตาธรรมบำเพ็ญอยู่เป็นนิจ
ยามเห็นศิษย์ดีได้ชื่นใจแท้.

       ฐะปะนีย์  นาครทรรพ
       ศึกษาภาษิต และ ร้อยกรอง 
(กวี  "รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์"  ปี ๒๕๔๕)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : วลีลักษณา, ระนาดเอก, รพีกาญจน์, @free, masapaer, panthong.kh, Mr.music

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 มกราคม 2019, 02:35:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #83 เมื่อ: 17 มกราคม 2019, 02:35:PM »
ชุมชนชุมชน



             สวัสดีครับคุณครู
          ..กลบทดวงเดือนประดับดาว..

๐ ครูครับ.. นับ "หนึ่ง"  จึงจดจ่อ
เติมต่อ คลอเคียง เสียงเซ็งแซ่
"สิบ" ไซร้ ใคร่ครวญ ถ้วนถ่องแท้
เหลียวแล แผ่พบ ลบเลือนราง

๐ ครูครับ.. ขับขานอ่านเอื้อนออก
ใบ้บอกพอกเพิ่มเติมแตกต่าง
กอ ไก่ ไล่เลียงเพียงพากย์พลาง
ออ อ่าง วางไว้ใส่เสียงซ้อม

๐ ครูครับ.. รับรู้สู้สอนศิษย์
กอปรกิจจิตแจ้งแหล่งหล่อหลอม
เสริมส่งจงใจในนอบน้อม
พรักพร้อมล้อมเรียนเพียรเพิ่มพูน

๐ แนะแนวแวววางสร้างสรรค์สุข
ปลอบปลุกทุกข์ท้อส่อสิ้นสูญ
ขันแข่งแต่งตนกลเกื้อกูล
ค้ำคูณทูนธรรมล้ำเรืองรอง

๐ ครูครับ... ขับเคี่ยวเชี่ยวเชิงชาญ
เบิกบานงานงามยามยกย่อง
ปรับแปลงแบ่งบั่นกลั่นกล่อมกรอง
ปกป้องผองภัยใจเจือจุน

๐ ครูครับ.. จับจิตศิษย์สรรเสริญ
ดั่งเดินเพลินแพร่งแสงสีสุนทร์
ครูครับ.. จับใจใบบ่มบุญ
โอบอุ่น ..คุณครู.. ชูเชิดชม ๚ะ๛

        "ด้วยจิตคารวะ"
                    เคารพรัก
                 พี.พูนสุข



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, รพีกาญจน์, @free, masapaer, panthong.kh, Mr.music

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มกราคม 2019, 02:18:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #84 เมื่อ: 29 มกราคม 2019, 02:18:PM »
ชุมชนชุมชน

     
        ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                     เพลงโคราช

     ๏ พ่อมารำมาร่าย          แม่ก็รับก็ร้อง
ใช่สำหรับจะรับรอง           หรือว่าเล่นร่ำไร
รักแม่หน่อไม้อ่อน             นึกสะออนอยู่ไม่อิ่ม
เดินรำตามริม                    ได้แต่กระแอมกระไอ

     ๏ พี่อยากอยู่ร่วมวัง       เหมือนอย่างสังข์ทอง
น้องทำไมไม่มอง                เห็นเป็นมายาสาไถย
ดูแต่สำเภาทอง                   เขายังปองสร้างท่า
งามหมดจดรจนา               ขอเชิญเจ้าจาระไนฯ

      ๏ พรำพรำหน้าฝน        บนลานย่าโม
พ่อตอบแม่โต้                      ไชยะฉ่าไช
ยกมือป้องหู                        รู้จิตรู้ใจ
รำแต้แก้ไข                          ด้นคิดด้นคำ

      ๏ แสนเสนาะสำเนียง      น้ำเสียงโคราช
จังหวะฉะฉาด                      ช่างร้องช่างรำ
จำแลงใจลง                           ยืนยงคงคำ           
ครึ้มครึ้มพึมพำ                    บทเพลงแผ่นดิน ๚ะ๛
         (กลอนเพลงผสมกาพย์ : เขียนแผ่นดิน)

              เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์
                   พ.  ๒๓  ต.ค.  ๒๕๓๔
                        อ.เมือง  จ.นครราชสีมา

   (กวี  “รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์”  ปี ๒๕๖๑)

 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, @free, masapaer, ระนาดเอก, Mr.music

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มกราคม 2019, 09:34:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #85 เมื่อ: 30 มกราคม 2019, 09:34:AM »
ชุมชนชุมชน

งง....

เสียงกวี

๏ ไม่มีกวีโลกนี้ก็อยู่ได้ 
จะอยู่กันอย่างไรนั่นน่ะหรือ 
ก็อยู่กันอย่างช้างม้าโคกระบือ 
อยู่กันอย่างกึ้งกือไส้เดือนดิน 

๏ อยู่กันอย่างมดแมงแมลงเม่า 
อยู่กันอย่างหอยเต่าหมดทั้งสิ้น 
อยู่กันอย่างยุงเหลือบเรือดริ้น 
จ้องเกาะกินดูดเลือดไปวันวัน 

๏ หากโลกนี้มีกวีเป็นศรีศักดิ์ 
ย่อมมีรักหว่านโรยโปรยสีสัน 
ห้ามสงครามนิวเคลียร์ได้ทันควัน 
สร้างสวรรค์บนแผ่นดินกินดาวเดือน 

๏ ห้ามมนุษย์ฉุดคร่าข่มขืนโลก 
ลบรอยทุกข์โศกที่เปรอะเปื้อน 
ปลุกสำนึกค่ำเช้าทุกเหย้าเรือน 
ดุด่าตักเตือนสัตว์เทคโนโลยีเอย ฯ

             ขุน รำยอง
นามปากกาของ "เสมอ  กลิ่นหอม"
(กวี  “รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์”  ปี ๒๕๖๑)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, @free, Mr.music

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 กุมภาพันธ์ 2019, 09:10:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #86 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2019, 09:10:AM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

            แม่

ดื่นดึกหนาวดาวเด่นเย็นยะเยียบ
เสียงความเงียบเสียดแทงในแท่งหิน
ล้อแห่งกาลผ่านเลื่อนเหมือนโบยบิน
เสียงแม่ดินรินร่ำคำห่วงใย

แม่โอบเอื้อเผื่อแผ่แก่ลูกสิ้น
อกแม่ดินตระหนี่เคยมีไหม
หากลูกรักรักคืนแม่ชื่นใจ
แม้ลูกไหนไม่รักไม่หักราน

ในรวงข้าวแม่ผสมนมอร่อย
ในลำอ้อยแม่ผสมน้ำนมหวาน
กลีบดอกเอื้องแม่แต่งสีแบ่งบาน
ชูช่อก้านคลี่พวงยวงระย้า

เรียงลำไผ่แม่สอนให้อ่อนพลิ้ว
ขับเพลงผิวแผ่วกล่อมถนอมป่า
หยาดน้ำค้างพร่างแพรวแนววนา
คือน้ำตาเต็มตื้นแม่ชื่นชม

ขอลูกผอง ของแม่ แผ่ความรัก
ร่วมทอถัก แทนแพร ให้แม่ห่ม
คุ้มแรงร้อน ผ่อนแสง ร้อนแรงลม
หยุดเคืองข่มงอแงรังแกกัน

        มะเนาะ   ยูเด็น
ข้ามขอบฟ้า  :  พิมพ์เผยแพร่ปี ๒๕๔๒
(กวี  “รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์”  ปี ๒๕๖๑)


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, รพีกาญจน์, Mr.music

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 กุมภาพันธ์ 2019, 08:31:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #87 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2019, 08:31:AM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

"วันที่ดอกไม้โรย"

"ดอกโสนโรยร้าว
ดอกคัดเค้าโรยรา
ดอกประดู่ร่วงนักหนา
ไม่มีวันกลับมาแล้วเอย"

ทุกทุกสิ่งแล้วล้วนชวนถวิล
ดูด่วนสิ้นโรยราผกาเอ๋ย
ขอมองไว้อีกสักนิดไว้ชิดเชย
เมื่อยามเลยลาลับไม่กลับคืน

จะเก็บภาพประทับใจไว้ถวิล
ไว้แอบรินน้ำตาแอบสะอื้น
ไว้เยือกเย็นกับน้ำค้างที่พร่างชื้น
เก็บไว้ตื่นตาฝันนิรันดร

นับแต่นี้น้ำตาจะหาง่าย
ขาดคนหมายซับมันเหมือนวันก่อน
มือเย็นเยียบเมื่อสายัณห์ตะวันรอน
ใครจะซ้อนมือนุ่มเกาะกุมมัน

จะเดินเปลี่ยวเดียวดายในสายแดด
ชีวิตแวดด้วยความหลังและความฝัน
ฝันถึงวันที่ผกานานาพันธุ์
ปลิดดอกอันเหลืองอร่ามท่ามกลางเรา

         นิภา  บางยี่ขัน
              24/01/2510
หรือ “บุษบาท่าพระจันทร์”  สมญาของ นิภา  อยู่ถาวร
     (กวี  “รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์”  ปี ๒๕๖๑)
   

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : @free, รพีกาญจน์, panthong.kh, Mr.music

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2019, 03:15:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #88 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2019, 03:15:PM »
ชุมชนชุมชน

 
ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                                   วิมานน้ำค้าง
                                   

      ๏ วิมานน้ำค้างสร้างด้วยธาตุฝัน                เอาไกวัลเป็นหอห้องแก้ว
อัจกลับระยับระย้าอยู่พรายแพรว                     คือแววรุ้งรัตนาดาราราย ฯ
      ๏ หาดทรายอ่อนฉะอ้อนดั่งบรรจถรณ์       หมอนท่อนไม้คือเขนยฟ้าถวาย
ธาราบ่าเซาะหินดินทราย                                  คือนางไม้ขับกล่อมอ้อมใจ ฯ
      ๏ ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง                    คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย
อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม                         แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย ฯ
      ๏ น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร                  สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย
หมั้นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย                            สุดสายใจบุรุษรัตน์รมณีย์ ฯ
      ๏ นั่นผาชะโงกโตรกชะง่อนง้ำเงื้อม             อาจเอื้อมเอาดาววาววิเศษศรี
หรือช่อปาริชาตสุดแสนดี                                  หรือวิถีมิติฝันอนันตกาล ฯ
      ๏ พู้นทางช้างเผือกผุดผ่องสกาว                  บางดวงดาวพุทธเจ้าประดิษฐาน
บางเอกภพคือทิพยนิรพาน                               คลื่นอดีตผ่านนานนับกัปป์กัลป์ ฯ
      ๏ ปุยเมฆหอมเกสรรังร่วง                           มาทวงมโนคติหล้าอาถรรพณ์
ดาวไถไถทุ่งฟ้าวิลาวัณย์                                    จะเกี่ยวข้าวขวัญค่าชีวาใด ฯ
      ๏ น้ำค้างดงดึกดื่นสะอื้นโศก                       ชลเนตรโลกวิปโยคหรือไฉน
หมู่มนุษย์น้อยอหังการ์ฆ่าใคร                           ฆ่าพิภพสบสมัยสุดสามานย์ ฯ     
      ๏ ไม่รักทะนุถนอมคุณค่าโลก                      จะทุกข์โศกไปตราบฟ้าอวสาน
ยุคมนุษย์จะสุดสิ้นมิช้ามินาน                            เป็นพยานเถอะสายธารที่จาบัลย์ ฯ
      ๏ น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง                           ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างฝัน
ฆ่าชีวาคือพร่าคืนวัน                                         จะกำนัลโลกนี้มีงานใด ๚ะ๛

                                      อังคาร  กัลยาณพงศ์
                     ลงพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือกวีนิพนธ์  ปณิธานกวี
                              โดยสำนักพิมพ์กะรัต  พ.ศ. ๒๕๒๙

                  

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Mr.music

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2019, 04:31:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #89 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2019, 04:31:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                                          กาพย์กลอน
                                        

    ๏ กาพย์กลอนอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง           เจ้ารู้ซึ้งว่าคืออะไรไหม
ฤๅตามืดหูมิดไร้จิตใจ                                    ไม่รู้รสทิพย์ฝันวรรณคดี ฯ
    ๏ เพชรพลอยแห่งถ้อยคำทิพย์                   จิบดื่มดุจอำมฤตวิเศษศรี
พร้อมแง่ญาณปัญญาบารมี                            ลำนำดนตรีเพริศพริ้งพราย ฯ
    ๏ ลายสือขวัญอันหลั่งไหลหอม                  ย่อมเป็นกาพย์กลอนอันเฉิดฉาย
พร้อมคติธรรมลึกซึ้งคมคาย                          ซ่อนไว้ประเสริฐสวยด้วยอารมณ์ ฯ
    ๏ ดั่งดาริการะย้าระยับสวรรค์                     นั้นคือกาพย์กลอนสวยซึ้งสม
รจนาจากฟากฟ้ามหาพรหม                           ณ ครั้งปฐมกัปป์จับใจรัก ฯ
    ๏ กลอนกาพย์ซาบซึ้งไพเราะเลิศ                 เกิดจากวิญญาณอันสูงศักดิ์
เสียสละปัญญายิ่งยงนัก                                   ประณีตรักค่าวิสุทธิ์ยุติธรรม ฯ
    ๏ โลกนี้มีกาพย์กลอนซ่อนนิ่ง                       ในสรรพสิ่งสุนทรีย์ลึกล้ำ
ทุกดินน้ำลมไฟเก็บงำ                                       คติธรรมอมตะสะอาดงาม ฯ 
    ๏ อดีตมหากวีธรณีและฟ้า                            เคยรจนาภาษากล่อมโลกสาม
กาพย์โศลกขวัญอันนิรนาม                              ละลายลอยตามสวรรค์อนันตกาล ฯ
    ๏ หลายกาพย์กลอนฉะอ้อนลมบน                ปนลมหายใจชีพไหวสะท้าน
นฤมิตกุศลจิตรนานาประการ                           กว่าหว่านทานแก้วแหวนเงินทอง ฯ
    ๏ คืออดีตมหากวีมีมรดก                              ตกทอดหล้าเล่ห์ส่วยฟ้าฉลอง
แววตาใดคมรุ้งเรืองรอง                                    มองเห็นบ่ห่อนหมดบทกวี ฯ
    ๏ ในหฤทัยของใครบ้าง                                 ที่ไร้ร้างกาพย์แก้ววิสุทธิ์ศรี
ในใจสัตว์เศรษฐกิจไม่มี                                     แม้แต่ธุลีละอองของวรรณกรรม ฯ
    ๏ ชาติงกโลภหลงกอบโกยกิน                        ไม่สุดสิ้นกิเลสมารมากล้ำ
รังเกียจนักกักขฬะอธรรม                                 ทำโลกระยำอำมหิตนิจกาล ฯ
    ๏ ขอบทกวีมีขึ้นประดับโลก                          ช่วยดับโศกทั่วฟ้ามหาสถาน
นำสัตว์พ้นอาภัพสรรพภัยพาล                          เริ่มกาลพระศรีอาริย์เมตไตรย ฯ
    ๏ กระทั่งสัตว์กินเมืองเฟื่องฟู                         รู้ฉลาดกว่าสัตว์เลื้อยคลานใหญ่
นั่นแหละยุคทองของกวีไทย                              รอฟ้าใหม่ร้อยกัปป์นับเทอญ ๚ะ๛

                                       อังคาร    กัลยาณพงศ์     
                  จากหนังสือ  “ปานมณีรุ้ง”  บทกวีนิพนธ์คัดสรร   
                         ของศิลปินแห่งชาติ   สาขาวรรณศิลป์   
 

              

"อ่านยามอากาศร้อนอบอ้าว.. ตื่นใจนักแล.." เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Mr.music

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
19 กุมภาพันธ์ 2019, 06:02:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #90 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2019, 06:02:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                                    เราชุบด้วยใด?
                                   

      ฉันใคร่เห็นเธอก้าวไป               กลางไพรเกลื่อนพฤกษ์ลึกหนา
กลางแดดแผดลวกมรรคา               กลางฟ้าปริปรวนครวญครืน
      กลางน้ำกรรชากกรากเชี่ยว       กลางเกลียวฝนกราดฟาดฝืน
กลางโคลนคลุกครูดดูดกลืน           กลางคืนครอบคิดมิดมูล
      ก้าวไปแม้ไฟล่มโลก                  ก้าวไปแม้โชคดับสูญ
ก้าวไปแม้ไร้คนทูน                          ก้าวไปแม้พูนคนชัง
      สัจจะอาจถูกถมทับ                   ความดีแหลกยับคับคั่ง
อธรรมอาจเปรื่องประดัง                 ความชั่วฉายชั่งนั่งเมือง
      น้ำตาฟายฟกตกดิน                   รวยรินยิ้มกร้าวเข้าเปลื้อง
ปวดเหน็บเจ็บหายรายเรือง             พิศเฟื่องแสงลิบขลิบฟ้า
      คนแพ้คือคนชนะ                       แม้จะถูกเข็ญเข่นฆ่า
คนล้มเพื่อลุกทุกครา                        เหล็กกล้าเราชุบด้วยใด?

                                        อุชเชนี
                                         (๒๔๙๖) 
                 จากหนังสือ  “ปานมณีรุ้ง”  บทกวีนิพนธ์คัดสรร   
                       ของศิลปินแห่งชาติ   สาขาวรรณศิลป์   

             

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Mr.music, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 กุมภาพันธ์ 2019, 07:45:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #91 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2019, 07:45:AM »
ชุมชนชุมชน

 ซึ้งจัง ซึ้งจัง

ชัยชนะจะสมปองต้องต่อสู้


          ชัยชนะจะสมปองต้องต่อสู้
มิใช่อยู่ที่กราบไหว้ให้เขาหยัน
      ให้พระคุณอุ่นเกล้าเห็นเป็นสำคัญ
  โลกจะพลันเยาะเย้ยเอ่ยให้อาย

               ศักดิ์ของเราเราต้องคงทะนงล้ำ
     ความเป็นธรรมศรัทธาอยู่อย่ารู้หาย
  เกียรติของเราเรารักษากว่าจะตาย
มิยอมขายวิญญาณให้แก่ใครกัน

              เหนืออื่นใดในมนุษย์สุดสูงส่ง
คือธำรงสิทธิ์และศักดิ์รักษามั่น
 สู้เถิดสู้!  สู้ด้วยแรงแกร่งกล้านั้น
 จงร่วมมานสมานฉันท์ต่อสู้ไป!

            ทวีปวร           
    (ธรรมจักร – ๒๔๙๔)
นามปากกาของ  นายทวีป  วรดิลก
ศิลปินแห่งชาติ   สาขาวรรณศิลป์   ปี พ.ศ. ๒๕๓๘



 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Mr.music

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 กุมภาพันธ์ 2019, 08:10:AM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 304
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,397



« ตอบ #92 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2019, 08:10:AM »
ชุมชนชุมชน


@ แลกายใจอย่าท้อ......ถอยสยบ
แพ้พ่ายแม้พันครบ.........คิดสู้
เด็กน้อยไป่หลีกหลบ.....ละเลิก
ผู้ใหญ่วันนี้รู้.................ระลึกย้อนตรองเสนอ

@ จงเสมอซึ่งสติพร้อม.....พลันทวี
ใช้ชีพประโยชน์พลี..........เพื่อหล้า
ปัญญายิ่งประจักษ์คดี.......เด่นกระจ่าง
ธรรมสถิตประเจิดจ้า.........แจ่มฟ้าโลกสวรรค์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ระนาดเอก, Mr.music

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 กุมภาพันธ์ 2019, 08:47:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #93 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2019, 08:47:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

แด่  วัยดรุณของชีวิต
       

      วัยดรุณสุนทรีย์ชีวิต
เนื่องมิตรน้อยนี้ที่เห็น
บริสุทธิ์ผุดผ่องผองเพ็ญ
เปรียบเช่นอรุณโชติโรจน์ฟ้า

      แม้เกิดยุคทมิฬถิ่นนี้
อนาคตคงมีเบื้องหน้า
มืดมนอนธการผ่านมา
สุริยาจักกลบลบพลัน

      จงเป็นอาทิตย์เมื่ออุทัย
เกรียงไกรในพลังสร้างสรรค์
เพื่อความดีงามร่วมกัน
แห่งชั้นชาวชนคนงาน

      เข้ารวมร่วมพลังบังเกิด
แจ่มเจิดภพใสไพศาล
ชีพมืดชืดมาช้านาน
หรือจะทานแสงทองส่องฟ้า

      จงเป็นอาทิตย์เมื่ออุทัย
พลังใหม่เข้มแข็งแกร่งกล้า
พากเพียรเรียนรู้โลกา
เปลี่ยนแปลงสู่อารยยุค

      แรงอรุณหนุนเนื่องเรืองล้ำ
แรงดรุณจักนำสันติสุข
มืดมนอนธการทานทุกข์
มือสองจักปลุกประกายพลัน!

                 ทวีปวร
        (อักษรสาส์น - ๒๔๙๕)
จากหนังสือ  “ปานมณีรุ้ง”  บทกวีนิพนธ์คัดสรร   
     ของศิลปินแห่งชาติ   สาขาวรรณศิลป์


     

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 มีนาคม 2019, 07:40:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #94 เมื่อ: 03 มีนาคม 2019, 07:40:AM »
ชุมชนชุมชน

 ซึ้งจัง ซึ้งจัง

หัวใจห้องที่ห้า

หุบลึก  บ้านเรือน  แม่น้ำไหล
รั้วขอบฟ้าสูงขึ้นไปหมู่เมฆขาว
ห่มขุนเขาเหยียดยอดทอดเทือกยาว
พราวพรืดพราวโอบอ้อมแขนกอดแผ่นดิน- -

ดวงใจใฝ่ฝันสันติสุข
ท่ามกลางทุกข์กระพือไฟไม่สุดสิ้น
ชีวิตหยัดอยู่และรู้ยิน
รักและหวังดั่งฝนรินลงดับร้อน

พรมหุบลึก  บ้านเรือน  แม่น้ำไหล
คืนดวงใจใฝ่ฝันอันเก่าก่อน
แผ่นดิน  ผืนฟ้า  เอื้ออาทร
เป็นบ้านเกิด  เรือนนอน  นานแสนนาน
เป็นบ้านเกิด  เรือนนอน  นานแสนนาน…

อังคาร   จันทาทิพย์
ปาย แม่ฮ่องสอน / ฤดูเข้าพรรษา 2550
กวีซีไรต์  ปี  2556


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 มีนาคม 2019, 08:17:AM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #95 เมื่อ: 03 มีนาคม 2019, 08:17:AM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                          ผีเสื้อขยับปีก

สวยแสนผีเสื้อขยับ                         ปีกสยาย
สะพัดแรงลมปลาย                         ปีกน้อย
แสนสีและหลากสาย                       ใยสลัก
ลึกและไกลเกี่ยวร้อย                       ร่วมร้อยรัดกัน

หินโหดหฤหรรษ์ทุ่งเหี้ยม                สังหาร
เลือดหลั่งเลือด เนื้อลาญ                   แหลกสู้
อคติ อุดมการณ์                                รัก  เกลียด
ฝักฝ่าย ฝักใฝ่กู้                                  กอบเนื้อเลือดไฉน?

ไสความตายต่อหน้า                         เติมหนุน
เนื่องฆ่า อาฆาตหมุน                       ใหม่ซ้ำ
ดลดาลเดือดคืนดุล-                          ยภาพเก่า
ย้อนยอกมโนคติย้ำ                           ยอกย้อนร่มเย็น

เร้นใด ดีกับร้าย                                 แรงสะเทือน
สงบสุขหรือดินเฟือน                        ป่วนฟ้า
ไม้ดอกกับดาวเดือน                          เด็ด ปลูก
ใครเด็ดปีกผีเสื้อท้า                            เด็ดท้าทายใคร

ใต้เร้นไฟกรุ่นไหม้                             หมกหวัง
ท้องทุ่งสังหาร สัง-                             โยคเศร้า
ผิดพลาด หวาดระแวง วัง-                 วนว่าย   
ตายขับคนเป็นเข้า                              ขื่นแค้นประหารคน

หมื่นแสนวนว่ายเวิ้ง                           ปีกหวัง
ท่ามประทุษร้ายแรงยัง                       ยืดเยื้อ
สันติสุขสานพลัง                                แรงส่ง
ลมแห่งปีกผีเสื้อ                                 ลึกซึ้งขยับสาย...

                        อังคาร  จันทาทิพย์
          จาก  “หัวใจห้องที่ห้า”   รวมบทกวีนิพนธ์
      รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์)
                                ปี  2556

     

 ยิ้มหน้าใส เป็นหนังสือซีไรต์เล่มเดียวที่ไม่ได้ซื้อเอง 
ได้เป็นของขวัญจากเพื่อนนักกลอนคนหนึ่ง
ตอนนี้เขาหายไปค้นหาหัวใจห้องที่ห้าอยู่..  คงเจอบ้างแล้ว..  รีบกลับมาไว ๆ เถิด...
  ยิ้มหน้าใส หัวเราะยิ้มๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, Mr.music, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มีนาคม 2019, 04:45:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #96 เมื่อ: 05 มีนาคม 2019, 04:45:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

แลแผ่นดินทุ่งถิ่นไทย...  ฟังน้ำเสียงของกวี 
จากบทกวี...

อู่ข้าว – อดข้าว
บนแผ่นอกของแผ่นดิน
นิทานข้าวกับคน

 ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้

 งง....

อู่ข้าว – อดข้าว

          อู่ข้าวอดข้าวคราวนี้
เคยมีคิดมั่นขันหมาย
    เริดร้างห่างมอดวอดวาย
ปรากฏอดตายใกล้มา

                      เมืองข้าวอดข้าวข่าวใหญ่
นาไร่แลโรยโหยหา
          เปลี่ยนคนเป็นควายไถนา
       กินหญ้าแทนข้าวข่าวดี

              ไชโยโห่ร้องก้องกึก
     อึกทึกอู่เปล่าข้าวหนี
นังนุงยุ่งยิ่งสิงคลี
      คนมีข้าวหมดอดตาย

              อู่ข้าวอดข้าวคราวยาก
       ชอกช้ำลำบากเหลือหลาย
 ในน้ำมีปลาน่าสบาย
อับอายข้าวไร้ในนา

             ชาตินี้เกิดมาอาภัพ
         รอกลับเกิดใหม่ชาติหน้า
ตื่นเช้าทำไร่ไถนา
    โลกบ้าหน้ามืดฝืดคอ

              อู่ข้าวอดข้าวคราวยาก
ทรกรรมลำบากลูกพ่อ
ข้าวหมดอดตายใจคอ
 จักรอชาติหน้าบ้าแล้ว !

          ทวีปวร
       เอกราช – ๒๔๘๙


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มีนาคม 2019, 05:01:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #97 เมื่อ: 05 มีนาคม 2019, 05:01:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

                      บนแผ่นอกของแผ่นดิน

                                      ๑

      ๏ แผ่นอกแผ่นดินถิ่นไทย             สุดหล้าฟ้าไกล
มิสุดน้ำใจจากทรวง
      ๏ หล่อร่างเลี้ยงแรงแต่งรวง           เลือดรินเหงื่อร่วง
ก่อรูปเกิดรอยแห่งเรา
      ๏ หน่อเนื้อชาวนาแนบเนา             พลิกทุ่งสีเทา
เป็นทุ่งเป็นทางสีทอง
      ๏ เขียวเอยใบข้าวประคอง             เหลืองเรืองรวงรอง
ขาวเอยคำข้าวขาวหอม

                                       ๒

       ๏ กี่ดินกี่ด้าวเคยดอม                  กี่ตรมกี่ตรอม
เกิดดับกี่กัปกี่กัลป์
       ๏ กี่แรงเคยโหมโรมรัน                คันไถกี่คัน
คมเคียวกี่คมเคยคน
       ๏ กี่วัวกี่ควายว่ายวน                    กี่ทาสกี่ทน
กี่ทุกข์กระทั่งเกิดไทย
       ๏ กี่เหน็บกี่หนาวนอกใน              กี่ฝนกี่ไฟ
กี่ช้ำกี่ชัย - ชาวนา

                                        ๓

       ๏ แต่เบื้องแต่บรรพ์นานมา            เลือดเนื้อใครหนา
กระดูกใครหนอต่อนาม
       ๏ ต่อเนื่องตำนานนิยาม                 นิยายเขตคาม
ขานเล่าให้โลกได้ยิน
       ๏ ข้าวปลาปรานีชีวิน                      แผ่นน้ำมีสิน
แผ่นดินมีทรัพย์เสาะแสวง

                                       
 
        ๏ ล้อเกวียนเวียนหมุนรุนแรง          โลกาเปลี่ยนแปลง
แผ่นอกแผ่นดินสะเทือนไหว
        ๏ พิมพ์ภาพประทับกับใจ                พิมพ์คำเพื่อไข
คำนึงคำนับชาวนา
        ๏ ก่อนล้อแห่งกาลเวลา                    รุกรานผ่านมา
เหยียบย่ำหัวใจเกษตรสลาย ๚ะ๛


                          ไพวรินทร์   ขาวงาม
                      ม้าก้านกล้วย - ซีไรต์ ปี  ๒๕๓๘     


       


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มีนาคม 2019, 07:22:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #98 เมื่อ: 05 มีนาคม 2019, 07:22:PM »
ชุมชนชุมชน

 งง....

นิทานข้าวกับคน
บทรำพึงโพ้นบรมสมกัลป์

ความสุขเรา  ความเศร้าใคร
หยั่งรากยากไร้
นับวันยิ่งลึกผนึกลง
บรมสมกัลป์ผันกง-
ล้อรอยทยอยยง-
หยัดเรื่องเคยเล่าเก่ากาล
เนิ่นแล้ว  ลำนำ  ตำนาน
แห่งรักหักราน
ข้าว คน เคยตระหนัก รักถนอม
เผื่อแผ่แต่โพ้น  โอนอ่อนพร้อม
พุทธ ผี ประนีประนอม
บ่งนัยตำนานผสานผสม
แปลงสาร เปล่งสุข ทุกข์ระทม
เป็นอื่น  กลืนกลม
เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่  ถ่ายเท

“ขวัญเอย ขวัญข้าว...
ขวัญชาวนาอุษาคเนย์
ขวัญอย่าลา  อย่าเร่
อย่าแรมร้าง  คว้างขวัญ...”

ซ้อนรอยบรมสมกัลป์
เคยสดับ  นับวัน
ยิ่งใกล้เรื่องเก่าเล่ามา
แต่ละเม็ด  แต่ละคำ  ล้ำค่า
เคยตระหนัก  รักษา
ถนอมข้าวกล้าธัญญาหาร
แทนรักดูแล  แม่เจือจาน
เมื่อรักหักราน
แม่เร้นหลบลี้หนีไกล
บรมสมกัปกัลป์สมัย
หน่วงเหนี่ยวเกี่ยวนัย
หยั่งรากยากไร้ใหญ่หลวง
ฝากรอย  ปล่อยร้าง  ห่างรวง
น้ำตาใครไหลร่วง
เหงื่อใครไหลหลั่งถั่งเท...

“ขวัญเอย  แม่ขวัญข้าว...
ขวัญชาวนาอุษาคเนย์
ไยขวัญร้างห่างเร่
ไยแม่ลี้หนีหาย...”


บรมสมกัลป์  ผันกลาย
เรื่องเล่าเงาร้าย
ทาบรอยชัดเจนเป็นจริง!...


อังคาร   จันทาทิพย์
(13-15  ตุลาคม  2555)
หัวใจห้องที่ห้า - ซีไรต์ ปี 2556


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, Mr.music

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 มีนาคม 2019, 01:00:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #99 เมื่อ: 08 มีนาคม 2019, 01:00:PM »
ชุมชนชุมชน

ซึ้งจัง ซึ้งจัง

มาฟังน้ำเสียงที่ต่างออกไป..
         ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้ ตบมือให้

       ยิ้มของแม่โพสพ


        เกร็งน่องเหยียบสากยกปล่อยตกตุบ                                 
ข้าวเปลือกยุบสากซ้ำลงตำใหม่
ขาท่อนแกร่งแข็งขยับรับทันใด
เหยียบลงไปตึกตักตุบยุบย้ำดัง
        ขาแคล่วคล่องน่องสาวไม่ขาวนิ่ม
ตวัดริมผ้านุ่งผึงดูขึงขัง
เท้ายกทับรับคานทะยานยัง
ย่ำแล้วยั้งสากกระดกตกกระทบ
        ตึกตักตุบ!   ตึกตักตุบ!   ยิ่งทุบถี่
พราวเหงื่อปรี่ปาดป้ายหลายตลบ
หากรอยยิ้มยินดียังมีครบ
มิรู้จบจากจริงใจให้ตื้นตัน
        หลายหลายคนขึ้นเรียงยืนเคียงไหล่
เหยียบต่อไปยกย่ำย้ำกระชั้น
เสียงครกตำต้ำตอกเสียงหยอกกัน
เสียงสรวลสันต์สาวเจ้ายิ่งเร้าใจ
        กระทั่งปริเปลือกข้าวร้าวแยกแล้ว
สารสวยแพรวเม็ดพราวขาวข้าวใหม่
สองมือน้อยค่อยกวาดรอบกอบขึ้นไป
จากครกใส่กระด้งบรรจงริน
        ทะระและ  แชะ  แชะ!   ทะระและ  แชะ  แชะ!
เม็ดข้าวแตะกระด้งกระดอนดิ้น
รำกระพือร่อนหลงลงกองดิน
ข้าวก็หมิ่นเหมือนจะหกแต่ตกตรง
        กระด้งเอียงเบี่ยงบ่ายยักซ้ายขวา
ด้วยลีลาอ่อนไหวชวนใหลหลง
ในความงามนี้แฝงแข็งมั่นคง
ในกระด้งนั้นมีข้าวเคล้าเหงื่อใคร?
        เมื่อเหงื่อไคลไร้คนมาปล้นปลิ้น
เหงื่อก็รินแรงหลั่งลงครั้งใหม่
เป็นน้ำแรงที่ละลายสายน้ำใจ
และเหงื่อไร้รอยร่ำริ้วน้ำตา
        ...ข้าวประชาชนนี้มีมามอบ
สนองตอบนักสู้ผู้หาญกล้า
แม่โพสพแบกกระบุงเดินมุ่งมา
ยิ้มในหน้า,   ปาดเหงื่อเหนือไรคิ้ว


     จิระนันท์   พิตรปรีชา
        (ริมแม่จัน,  เขตอุ้มผาง)
   ใบไม้ที่หายไป - ซีไรต์ ปี ๒๕๓๒

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, @free

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s