อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ
คิดว่านางวันทองตายเพราะ พระพันวษา ด้วยเหตุว่า นางลังเลไม่ทราบว่าจะอยู่กับใคร นิ่งเงียบ พอตอบขึ้นมาก็ไม่ยอมเลือกว่าจะอยู่กับใครอีก
จึงเป็นเหตุให้ พระพันวษากริ้วมาก ถ้าเป็นเรา เราก็คงเลือกไม่ถูกเหมือนกัน นางจึงตอบไปแบบกลางๆ ผลสุดท้ายก็โดนประหาร
แต่ถ้าใครได้อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ จะเห็นว่าชีวิตนางวันทองเป็นชีวิตที่น่าสงสารมาก อ่านแล้วถึงน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว
--------------------------------------------------------------------------------------------ลำดับจับความ, ตอน : สมเด็จพระพันวษาชำระความเรื่องนางวันทอง (ขุนช้างขุนแผน. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย.)
ความตอนนี้สืบเนื่องจากขุนช้างฟ้องร้องขอนางวันทองคืนจากขุนแผน สมเด็จพระพันวษาทรงไต่สวนทวนคดีที่เป็นเหตุยืดเยื้อกันมานานระหว่างขุนช้าง กับขุนแผนในกรณีแย่งชิงนางวันทอง ท้ายที่สุดก็ทรงดำริแล้วมีพระดำรัสว่า
● มันเกิดเหตุทั้งนี้ก็เพราะหญิง จึงหึงหวงช่วงชิงยุ่งยิ่งอยู่
จำจะตัดรากใหญ่ให้หล่นพรู ให้ลูกดอกดกอยู่แต่กิ่งเดียว
อีวันทองตัวมันเหมือนรากแก้ว ถ้าตัดโคนขาดแล้วก็ใบเหี่ยว
ใครจะควรสมสู่อยู่กลมเกลียว ให้เด็ดเดี่ยวรู้กันแต่วันนี้
เมื่อพระพันวษาตรัสถามว่าจะเลือกอยู่กับใคร นางวันทองเกิดความละล้าละลังหวั่นไหวกริ่งเกรงในพระราชอาชญา เหลียวดูขุนช้างก็ทำหูตามีเลศนัยว่ากุมเหตุผลสำคัญของคดีความอยู่ แม้ “พระหมื่นไวยใช้ใบ้ให้แม่ว่า บุ้ยปากตรงบิดาก็หลายหน” ก็ตาม วันทองก็ยังหมองจิตคิดเวียนวนจนใจไม่กล้าทูล หากทูลไปว่าจะเลือกอยู่กับขุนแผน ก็กริ่งเกรงพระไวยจะเดือดร้อน ด้วยเหตุที่ไปขึ้นเรือนขุนช้างแย่งชิงนางมาให้ขุนแผนโดยอุกอาจ
● ครานั้นพระองค์ทรงธรณินทร์ หาได้ยินวันทองทูลขึ้นไม่
พระตรัสความถามซักไปทันใด หรือมรึงไม่รักใครให้ว่ามา
จะรักชู้ชังผัวมรึงกลัวอาย จะอยู่ด้วยลูกชายก็ไม่ว่า
ตามใจกูจะให้ดังวาจา แต่นี้เบื้องหน้าเด็ดขาดไป
เมื่อสมเด็จพระพันวษาทรงสำทับมาอีกครั้งอีกคราเช่นนี้แล้ว นางวันทองก็มิอาจนิ่งใบ้ต่อไปได้อีก
● นางวันทองรับพระราชโองการ ให้บันดาลบังจิตหาคิดไม่
อกุศลดลมัวให้ชั่วใจ ด้วยสิ้นในอายุที่เกิดมา
คิดคะนึงตะลึงตะลานอก ดังตัวตกพระสุเมรุภูผา
ให้อุธัจอัดอั้นตันอุรา เกรงผิดภายหน้าก็สุดคิด
จะว่ารักขุนช้างกระไรได้ ที่จริงใจมิได้รักสักหนิด
รักพ่อลูกห่วงดังดวงชีวิต แม้นทูลผิดจะพิโรธไม่โปรดปราน
อย่าเลยจะทูลเป็นกลางไว้ ตามพระทัยท้าวจะแยกให้แตกฉาน
คิดแล้วเท่านั้นมิทันนาน นางก้มกรานแล้วก็ทูลไปฉับพลัน
ความรักขุนแผนก็แสนรัก ด้วยร่วมยากมานักไม่เดียดฉันท์
สู้ลำบากบุกป่ามาด้วยกัน สารพันอดออมถนอมใจ
ขุนช้างแต่อยู่ด้วยกันมา คำหนักหาได้ว่าให้เคืองไม่
เงินทองกองไว้มิให้ใคร ข้าไทใช้สอยเหมือนของตัว
จมื่นไวยเล่าก็เลือดที่ในอก ก็หยิบยกรักเท่ากันกับผัว
ทูลพลางตัวนางระเริ่มรัว ความกลัวพระอาญาเป็นพ้นไป
● ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ ฟังจบแค้นคั่งดังเพลิงไหม้
เหมือนดินประสิวติดกับเปลวไฟ ดูดู๋เป็นได้อีวันทอง
จะว่ารักข้างไหนไม่ว่าได้ น้ำใจจะประดังเข้าทั้งสอง
ออกนั่นเข้านี่มีสำรอง ยิ่งกว่าท้องทะเลอันล้ำลึก
จอกแหนแพเสาสำเภาใหญ่ จะทอดถมเท่าไรไม่รู้สึก
เหมือนมหาสมุทรสุดซึ้งซึก น้ำลึกเหลือจะหยั่งกระทั่งดิน
อิฐผาหาหาบมาทุ่มถม ก็จ่อมจมสูญหายไปหมดสิ้น
อีแสนถ่อยจัญไรใจทมิฬ ดังเพชรนิลเกิดขึ้นในอาจม
รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ ใจไม่ซื่อสมศักดิ์เท่าเส้นผม
แต่ใจสัตว์มันยังมีที่นิยม สมาคมก็แต่ถึงฤดูมัน
มรึงนี่ถ่อยยิ่งกว่าถ่อยอีท้ายเมือง จะเอาเรื่องไม่ได้สักสิ่งสรรพ์
ละโมบมากตัณหาตาเป็นมัน สักร้อยพันให้มรึงไม่ถึงใจ
ว่าหญิงชั่วผัวยังคราวละคนเดียว หาตามตอมกันเกรียวเหมือนมรึงไม่
หนักแผ่นดินกูจะอยู่ไย อ้ายไวยมรึงอย่านับว่ามารดา
กูเลี้ยงมรึงถึงให้เป็นหัวหมื่น คนอื่นรู้ว่าแม่ก็ขายหน้า
อ้ายขุนช้างขุนแผนทั้งสองรา ก็จะหาเมียให้อย่าอาลัย
หญิงกาลกิณีอีแพศยา มันไม่น่าเชยชิดพิสมัย
ที่รูปสวยรวยสมมีถมไป มรึงตัดใจเสียเถิดอีคนนี้
เร่งเร็วเหวยพระยายมราช ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี
อกเอาขวานผ่าอย่าปรานี อย่าให้มีโลหิตติดดินกู
เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน ตกดินจะอัปรีย์กาลีอยู่
ฟันให้หญิงชายทั้งหลายดู สั่งเสร็จเสด็จสู่ปราสาทชัย
พันทอง
๒๓/๗/๕๗
ลองอ่านแล้วก็พิจารณาเอาเองว่านางวันทองตายเพราะใคร