...สัตว์ vs คน...เชิญตัดสิน ?
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 06:13:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ...สัตว์ vs คน...เชิญตัดสิน ?  (อ่าน 23109 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 กรกฎาคม 2014, 12:59:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2014, 12:59:AM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพประกอบจากเน็ต...(ลิงใน จ.สมุทรปราการ)



"ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ"
ทางบรรลุวิมุตติพระพุทธสอน
"ผู้ฝึกตนย่อมเลิศ"ประเสริฐพร
เป็นบวรสูงสุด"มนุษย์ชน"

เพราะมนุษย์มีธาตุพอจึงก่อร่าง
พร้อมทุกอย่างสำนึกหากฝึกฝน
ย่อมประเสริฐเลิศหล้าในสากล
ถึงขั้นพ้นกิเลสเหตุสามานย์

ทั้งร่างกายปัญญาสามัญครบ
อยู่ในภพกึ่งกลางสร้างหลักฐาน
หากฝึกจิตถึงขั้นปัญญาญาณ
บัวตูมอาจเบ่งบานสู่ลานธรรม

แม้นไม่ถึงสูงสุดวิมุตติเลิศ
ก็ประเสริฐเพราะใจไม่ถลำ
แม้เป็นคนธรรมดาตาดำดำ
ฝึกประจำก็เด่นกลายเป็นธีร์

อยากจะเก่งเรื่องใดตั้งใจฝึก
เพียงแค่นึกคงพลาดฉลาดหนี
หากหนักเอาเบาสู้รู้หลักดี
ไม่นานปีเก่งกล้าถ้าใจตรง

ฝึกวัวควายไถนาหาประโยชน์
สุนัขโปรดเฝ้าบ้านงานประสงค์
ช้างตกมันลากซุงมุ่งสู่ดง
ตามเจตจงดังฝึกผนึกลาย

ลิงแสนซนอยู่ป่าประสาสัตว์
จับมาหัดฝึกได้ดั่งใจหมาย
เกิดเป็นคนฝึกยากลำบากดาย
ควรละอายใจแท้ถ้าแพ้ลิง

 เคารพรัก

"มุนีน้อย"

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
11 กรกฎาคม 2014, 09:27:AM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2014, 09:27:AM »
ชุมชนชุมชน


จิตมนุษย์ และสัตว์ บัญญัติตั้ง
กฏสมสั่ง สัญชาตญาณ..ท่านชายหญิง
คือ “อีโก้” ชี้วางตามทางจริง
นั่นคือสิ่ง ปริยัติ เรียก ”อัตตา”

แม้เตลิดเปิดเปิง..กระเจิงเหตุ
มิรู้เลศปล่อยทรามตามยถา
ด้วยมัวเมาหลงผิดกติกา
ให้ตัณหาครอบครองต้องพิกล

ดูภายนอกบ่งเห็นเป็นมนุษย์
ในจิตสุดกลอกกลับให้สับสน
เช่นมารร้ายอุบาทเสียชาติคน
ขอนิมนต์ มุนีด้วย..ช่วยฝึกธรรม

อันลิง ค่าง บาง ชะนี หมี แมว หมู
ทำให้ดู สอนกัน เช้ายันค่ำ
พฤติกรรมตามแบบแนบจดจำ
หาใช่เห็นแสงธรรมนำจิตใจ

เป็นโชคดีที่สุด..มนุษย์เอ๋ย
พุทธองค์ทรงเอ่ยคำขานไข
ให้รู้แจ้งแทงเล่ห์แก่เวไนย
หรือว่าใจ ที่แท้ เป็นแค่..ลิง

• แซมค่ะ •
 เคารพรัก

แซมกราบขออภัย ท่านผู้รู้ ถ้าแซมผิดพลาดนะคะ..
แค่..วันนี้แซมเหนื่อย  ไม่มีแรงเขียนกลอนตลกค่ะ..


ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
11 กรกฎาคม 2014, 10:53:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #2 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2014, 10:53:AM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
เกิดต่างหมู่ ต่างเหล่า ฝึกเช้าสาย
ฝึกยากยิ่ง กว่าควาย หมายกลอกกลิ้ง
หลายปีผ่าน มานท้อ หนอเรื่องจริง
อันฝึกลิง อาจง่ายกว่า เพราะหัวไว

ฝึกช้างดอ ช้างพลาย ทั้งหลายแหล่
ฝึกง่ายแค่ ขอสับ บังคับไหว
แสนสงสาร เหลือทน แต่จนใจ
เห็นน้ำตา มันไหล ร่วงหลั่งริน

อันฝึกม้า ท่ายาก ลำบากเศียร
กุมบังเหียน กระดุกที มีดีดดิ้น
ต้องใช้แส้ เฆี่ยนขับ รับว่าชิน
วิ่งเข้าวิน เมื่อไหร่ ใจชื่นชม

ฝึกอะไร ฝึกได้ ไม่เคยบ่น
แต่ฝึกตน เองนี้ ที่ขื่นขม
ต้องล้มเหลว ทุกครั้ง นั่งซานซม
หมดอารมณ์ ที่จะฝึก นึกน้อยใจ
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 กรกฎาคม 2014, 02:08:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #3 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2014, 02:08:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก "พันทอง" ข้างบน...

"อัตตา หิ กิระ ทุททะโม"
องค์พุทโธตรัสย้ำทำไฉน
"ตนนั่นแล ฝึกยาก มากกว่าใด"
เพราะหทัยยึดมั่นอนันตา

มักดื้อดึงขึงปักสลักแน่น
หลงตนแม้นแสนดีมีคุณค่า
เพราะเชื้อร้ายนายจิตอวิชชา
สู่โมหาพาหลงทะนงตน

หากชนะตัวได้ในการฝึก
จึงจารึกว่ายอดเมื่อคลอดผล
ได้ภิญโญโสภิตประสิทธิ์ชน
เป็นยอดคนยอดปราชญ์ชาติเมธี

 เคารพรัก

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
11 กรกฎาคม 2014, 04:11:PM
❀ทะเล้น..กวี บทพิเศษ❀
LV5 ศิลปินเอกแห่งตำบล
*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 21
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 64


« ตอบ #4 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2014, 04:11:PM »
ชุมชนชุมชน

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 กรกฎาคม 2014, 10:45:AM
❀ทะเล้น..กวี บทพิเศษ❀
LV5 ศิลปินเอกแห่งตำบล
*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 21
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 64


« ตอบ #5 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2014, 10:45:AM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก "พันทอง" ข้างบน...

"อัตตา หิ กิระ ทุททะโม"
องค์พุทโธตรัสย้ำทำไฉน
"ตนนั่นแล ฝึกยาก มากกว่าใด"
เพราะหทัยยึดมั่นอนันตา

มักดื้อดึงขึงปักสลักแน่น
หลงตนแม้นแสนดีมีคุณค่า
เพราะเชื้อร้ายนายจิตอวิชชา
สู่โมหาพาหลงทะนงตน

หากชนะตัวได้ในการฝึก
จึงจารึกว่ายอดเมื่อคลอดผล
ได้ภิญโญโสภิตประสิทธิ์ชน
เป็นยอดคนยอดปราชญ์ชาติเมธี

 เคารพรัก

"มุนีน้อย"


เรื่องฝึกตน ไม่ยากดอก จะบอกให้
คุมกายใจ มิให้ใคร่ ไปไหลหลง
มีสติ ตั้งแลอยู่ รู้มั่นคง
สงเคราะห์ลง ตรงธัมมะ วิจะยะ


แม้กายเรา ดำเนินไป ในเบียดเบียน
พึงถอนเปลี่ยน เพียรเพิกถอย ให้คล้อยหนี
อกุศล วจีกาย ที่ไม่ดี
ทรงอยู่ที่ สำรวมกาย และวาจา

ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่พรากทรัพย์ คนรักใคร
เห็นค่าใน ชีวิตเขา เท่าเราหนา
แม้ทรัพย์สิน คนรักเขา อย่าพรากมา
คงคุณค่า อยู่ข้างเขา เรายินดี

อันมิจฉา วาจา ว่าพร้ำเพ้อ
พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด ควรเว้นหนี
มีแต่คำ แห่งวาจา รื่นฤดี
ถ้อยวจี ไม่มีคำ พูดพกลม

พึงตั้งจิต คิดแล ให้กุศล
ไม่หลงตน มัวเมา เคล้าเสพย์สม
ซึ่งสุรา และเมรัย ให้เศร้าตรม
เลิกบ้าข่ม บ่มทรัพย์เลี้ยง พ่อแม่เรา

....... ว่าด้วยการอบรมกายและวาจา .......


อันทางใจ ให้อบรม บ่มที่จิต
เพียรตรึกคิด ปิดปรุงแต่ง อกุศล
สุขเกิดรู้ ดับก็รู้ ไม่เสพย์ปรน
ทำให้ตน เป็นเพียงแค่ ผู้แลอยู่

แม้รักโลภ โกรธหลง ตั้งตรงจิต
ก็รู้ผิด ไม่เสพย์ติด จิตแลรู้
แม้มันเกิด หรือว่าดับ ก็แค่ดู
พึงแลรู้ ตัวทั่วพร้อม ไม่น้อมตาม

นึกถึงธรรม ตามให้รู้ สิ่งที่เกิด
เมื่อเพลินเพลิด นิวรณ์ห้า กันล้นหลาม
ก็ให้รู้ ว่ามันเกิด อยู่ทุกยาม
เพียรไตร่ถาม หาที่มา อย่าละเลย

กำหนดเชย รู้เห็นมัน อันทุกข์นั้น
วิเคราะห์ทัน เห็นสมุ- ทยะเผย
แล้วจึงละ ที่เหตุนั้น จนคุ้นเคย
นิโรธเกย ขึ้นฝั่งด้วย เรือมรรคา

เห็นตามจริง ว่านี่รูป หรือนี่นาม
ขันธ์แยกตาม หน้าที่มัน ไม่กังขา
แยกเป็นกอง แจ้งทะลุ สังขารา
ไม่ใคร่พา นามรูป สิ้นชาติพลัน

....... ว่าด้วยการอบรมจิต .......

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 กรกฎาคม 2014, 01:46:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2014, 01:46:PM »
ชุมชนชุมชน


เห้อ..เข้าวัด.. งง....

เข้าวัดก้อ..เข้าวัด..ม่ะ... อายแบบน่ารักซึ้งๆ เคารพรัก



หิ้วปิ่นโตไปวัดยามขัดสน
ไม่วานใครเลยเบื่อมิเชื่อคน
ด้วยแรงตนด้นดั้นขยันมา

ลูกทั้งหกของน้องท้องไส้แห้ง
ทำทันทีพลีแรงแห้งเหี่ยวขา
ท่าน"มุนีฯ"มีเจตฯโปรดเมตตา
แบ่งข้าวปลาอาหารทานคนจน

..................................
"กัมมุนา วัตตติโลโก"   ยิ้มกวน ล่อกๆ

ดำดิน

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

14 กรกฎาคม 2014, 08:59:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #7 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2014, 08:59:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก "ดำดิน" ข้างบน...

 หัวเราะเยาะ

"อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ"
หิวจึงโผล่ไปวัดยามขัดสน
นึกว่าซึ้งในธรรมฉ่ำกมล
กลับดั้นด้นขอข้าวคราวสิ้นทาง

ยามอยู่ดีมีสุขสนุกชัด
ชวนเข้าวัดขัดเกลาเจ้าเมินหมาง
ยามสลดทดท้อมารอกาง
จึงได้ย่างสังขารมาซานซม

วัดเป็นที่ขัดเกลาเผากิเลส
มิใช่เขตขอทานการเหมาะสม
เป็นแหล่งนำจิตใจใฝ่อบรม
เอาธรรมบ่มภายในฤทัยกรอง

จากกันไม่กี่ปีมีลูกหก
ยังมายกข้ออ้างสร้างเหตุหมอง
ตอนเป็นสาวใจดำเธอลำพอง
มุนีต้องอกหักเพราะรักใคร

เลยมาบวชฝึกหัดตัดทางโลก
ดับทุกข์โศกทุกอย่างวางเงื่อนไข
จนมาเป็นสมภารสำราญใจ
มั่นคงในพระศาสน์อาตมา

เธอคงเป็นผู้ร้ายหมายงัดตู้(บริจาค)
สังเกตดูลุกลนจนกังขา
จับได้แล้ววันนี้ห้ามลีลา
โถ!.มิน่า "ดินดำ"ทำได้ลง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เอ้อ..จริงว่ะ

( อตฺตา หิ...นะจ๊ะ  มิใช่ อตฺตหิ...เป็นคนละศัพท์กัน ตบมือให้)

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กรกฎาคม 2014, 08:33:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 08:33:AM »
ชุมชนชุมชน



ก็อปเขามาข้อความงามระยิบ
แวววับวิบหยิบปร๋อก็วางส่ง

เรื่องวัดวาอารามฉันคร้าม,ปลง
เจอแต่สงฆ์ส่งเดชก่อเหตุพราว

ผ่านดีกว่าเรื่องพระขอละเว้น
ทั้งเรื่องชีเรื่องเถรเกรงเป็นข่าว
แค่เขียนกลอนรอนแรมแจมบางคราว
ไปขอข้าวสมภารประจานเรา

เดินตัวหงอคอตกโอ้อกเอ๋ย
มิน่าเลยมาวัดหมายปัดเป่า
โพนทะนาว่ายันมิบรรเทา
ขอทานเอาสบายใจใต้สะพานลอย งอนแล้วด้วย

"ดิน"

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 กรกฎาคม 2014, 11:29:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #9 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 11:29:AM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก"ดิน" ข้างบน...

 หัวเราะเยาะ

เพียงแค่เทศน์ลองใจไฉนท้อ
เมตตาหนอจึงว่าอย่าท้อถอย
พอถูกจี้ใจดำทำสำออย
แต่ก่อนหนอยปากกล้าว่าให้เรา

จะไปไหนเชิญไปไม่ว่าหรอก งอนแล้วด้วย
แต่ขอบอกสังคมมันจมเหา
ทุกถิ่นที่แฝงนำอธรรมเงา
หากวัดเศร้ามิปลอดภัยก็ไร้ทาง

คนเลวมีทั่วไปไม่เว้นวัด
ไม่อาจคัดคนบวชตรวจหยินหยาง
อาจเป็นโจรติดยามาชิมลาง
เหมือนตัดหางปล่อยวัดวิบัติคน ไม่ชอบเลย

เมื่อมาขอเมตตามิด่าส่ง
แต่เธอจงจำแม่นแม้นขัดสน
รักษ์ศีลห้ามีธรรมนำกมล
อบรมตนจนมีที่พึ่งพา

เลิกขโมยของวัดหัดสำนึก
เลิกคิดลึกกับพระละตัณหา
เลิกบาปหนักลักเต่าเผาศาลา
เลิกมองหน้าสุดหล่อพ่อ"มุนี" ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กรกฎาคม 2014, 01:04:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #10 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 01:04:PM »
ชุมชนชุมชน


อ้างจากสองคนข้างบน

ใจละเหี่ยเงี่ยฟังหลังวิหาร
เจ้าสมภารพันตูสู้สุดสอย
ฟันฉับฉับกับโยมประโคมพลอย
จนล่าถอยขี้มูกโป่งลงกุฏี

ก็ข้าวเบือเหลือกินบิณฑบาต
เทกองถาดตากแห้งแดงดำปี๋
ข้าวขาวยวงหวงไว้ทำไมมี
เอาให้ชีเลี้ยงดูหมูหมาแมว

กามร้อนเร่าเก่ากรังฝังดวงจิต
บรรพชิตพิสุทธิ์ผุดผ่องแผ้ว
ลดละเลิกเบิกธรรมจำจากแจว
รักห่างแห้วโทษปลงลงที่ดิน

มัคนายกตกใจเมื่อได้เห็น
เด็กทะเล้นร่างดูกจมูกวิ่น
ช่างคลับคล้ายคลับคลาหน้ามุนินทร์
อย่าให้ยินท่านปลดเดี๋ยวอดตาย

 ห้ามพูด

มัคนายกรพี

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กรกฎาคม 2014, 01:08:PM
ป้าโย
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #11 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 01:08:PM »
ชุมชนชุมชน



รวมทั้งหมด ในวัฏฏา เรียกว่า "สัตว์"
ต่างกำหนัด กรรมเวียนว่าย ใต้สังขาร
ถูกกักขัง ชาติภพหน่วง ดั่งบ่วงมาร
แม้นเชียวชาญ จึงหลุดพ้น ซึ่งกลไก

วัฏต่างต่าง ช่างยาวไกล ในกลเหตุ
รูปกลิ่นเพศ สรรพรส โปรดไฉน?
โลภ โกรธ หลง ปลงประสิทธิ์ ที่จิตใจ
ใต้กลไก สุข ทุกข์เฉย เผยความจริง

ภายใต้กล มณเฑียรธรรม กรรมบท
จึงปรากฏ เป็นรูปนาม ตามสิหิงค์
เฉยนิ่งคือ ชื่อว่าผู้ รู้ตามจริง
ละทุกสิ่ง จึงประจักษ์ มรรคบรรณ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

กะเทยไทยใจประเสริฐเลิศที่สุด
เป็นมนุษย์คิดแตกจากใช่ปากหมา
นำพาชาติมิ่งยิ่งใหญ่แต่ไรมา
มีค่ากว่าสัตว์ตัวผู้สมสู่กัน
15 กรกฎาคม 2014, 02:47:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #12 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 02:47:PM »
ชุมชนชุมชน


อ้างจากสองคนข้างบน

ใจละเหี่ยเงี่ยฟังหลังวิหาร
เจ้าสมภารพันตูสู้สุดสอย
ฟันฉับฉับกับโยมประโคมพลอย
จนล่าถอยขี้มูกโป่งลงกุฏี

ก็ข้าวเบือเหลือกินบิณฑบาต
เทกองถาดตากแห้งแดงดำปี๋
ข้าวขาวยวงหวงไว้ทำไมมี
เอาให้ชีเลี้ยงดูหมูหมาแมว

กามร้อนเร่าเก่ากรังฝังดวงจิต
บรรพชิตพิสุทธิ์ผุดผ่องแผ้ว
ลดละเลิกเบิกธรรมจำจากแจว
รักห่างแห้วโทษปลงลงที่ดิน

มัคนายกตกใจเมื่อได้เห็น
เด็กทะเล้นร่างดูกจมูกวิ่น
ช่างคลับคล้ายคลับคลาหน้ามุนินทร์
อย่าให้ยินท่านปลดเดี๋ยวอดตาย

 ห้ามพูด

มัคนายกรพี


หัวเราะเยาะ

ศิษย์ตถาคตเจ้ามิเร่าร้อน
มิอาทรกิน,กาม นิยามหมาย
แค่แนะนำสีกาอย่าดูดาย
พอผ่อนคลายมโนที่โศกี

สมภารหน้าเด็กใช่เก๊กหล่อ
ถูกแล้วหนอมิเถียงหรือเลี่ยงหนี
พ่อทายก*หน้าแก่แน่รพีฯ
มาก็ดีมีงานวานให้ทำ

นายก*ตากข้าวไว้มิใช่หรือ
อย่าไขสือใส่ความมิงามขำ
แอบไปเลี้ยงไก่กาอย่ามาอำ
เห็นประจำตำตาถึงคราเคลียร์

ตักข้าวให้"ดิน"ด้วยช่วยสงเคราะห์
อย่ามัวเลาะแอบฟังนั่งใจเสีย
คอยจับผิดสมภารนานจนเพลีย
ทิ้งลูกเมียอยู่บ้านงานไม่ทำ จ๊าก....กรูไม่อาว..

โดนหยิกซะ

"มุนีน้อย"

(*คำว่า "ทายก" กับ "นายก" ใช้ได้ทั้งสองคำ "ทายก" แปลว่า "ผู้ให้",  "นายก" แปลว่า "ผู้นำ"
"มัคทายก" แปลว่า "ผู้ให้ทาง",  "มัคนายก" แปลว่า "ผู้นำทาง" (ในพจนานุกรมฯจะมีแต่ "มัคนายก")
หมายถึง"นำ" ประสานระหว่างบ้านกับวัด, นำในเรื่องพิธีกรรมทางศาสนาฯลฯ...แต่จริงๆแล้วคำว่า "ทายก"
เป็นคำที่ใช้มาก่อนแต่โบราณ(พจนานุกรม มาทีหลัง) "ทายก" หมายถึง "ผู้ให้"(ประเคน)ของพระ
หรือผู้ใกล้ชิดพระมากกว่าคนทั่วไป ฯลฯ....แม้ปัจจุบันคนก็ยังนิยมใช้คำเดี่ยวๆ ว่า "ทายก" มากกว่า "นายก".. ตบมือให้
)
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กรกฎาคม 2014, 04:23:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 04:23:PM »
ชุมชนชุมชน



มัคนายกจ๋า.....
สมภารด่าประจานพาลเหยียบย่ำ
ช่างใจคอฝาดเฝื่อนเหมือนกาดำ
น้องสุดช้ำกล้ำกลืนขื่นทรวงใน  ไม่เอาๆ

มัคนายกจ๋า....
น้องน้ำตารินร่วงอกกลวงไหม้
ขาดคนอยู่ดูแลเทคแคร์ใจ
คนว่าใช่ก็กลับหายลับกาย ร้องไห้งอแง

มัคนายกจ๋า...
น้องเหว่ว้าหม่นมัวหัวอกหม้าย
แหม!.มีลูกเมียแล้วเนี่ยแสนเสียดาย
หวังเฝ้ามองปองหมายร่วมชายคา ยิ้มแก้มแดง

เรื่องสมภารฟั่นเฟือนขอเบือนห่าง
ชอบทำกร่างจู้จี้เบื่อขี้หน้า
บิณฑบาตผ่านเรือนหากเยือนมา
จะยุหมาไล่บี้จีวรปลิว งอนแล้วด้วย

"ดิน"

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 กรกฎาคม 2014, 09:20:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #14 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 09:20:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ซึ้งจัง

อ้าว อ้าว อ้าว เจ้าดินไยสิ้นคิด.!!
เรื่องเพียงนิดคิดมโนโมโหหิว
จะอ๊บ..หมาไล่พระกะดูวิว
ชิ่ว ชิ่ว ชิ่ว..ทำได้ไง..สงสัยเบลอ..? อะไรวะ...งง ว่ะ

ไม่เห็นหน้าสามวันเจ้าพลันดิ้น
ไม่ได้กินข้าววัดจึงจัดเว่อร์
มันบาปกรรมรู้ไหม?ใครบอกเธอ
สัปเหร่อคนไหนสิงใจนาง? มองไม่ไว้ใจ

ยังดีที่สมภารท่านไม่โกรธ
แถมยังโปรดทายกมาจกอ่าง
ให้เอาข้าวก้นบาตรมาหยาด...วาง
นั่นคือทางทำทานเป็นการบุญ ยิ้มกวนตีน

ทำเป็นร้อง..มัคนายกจ๋า ขึ้นมาอ้าง
เอาสีข้างเข้าจ้ำไปน้ำขุ่น
นี่ก็เข้าพรรษาแล้วหนาคุณ
เลิกว้าวุ่นเถิดหนา...ไพรมาแล้ว..!! ขอจุ๊บ..หน่อย

ไพร พนาวัลย์


 ชอบใจๆ

อ๊บ...คือยุหมาให้ไล่กัด โกรธว๊อย
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 กรกฎาคม 2014, 10:26:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #15 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 10:26:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก"ลุงไพร"ข้างบน...

 หัวเราะเยาะ

ทายก"ไพร"ใจงามตามมาช่วย
คงไม่ม้วยช่องทางกระจ่างแถว
หิ้วปีก"ดิน"กลับบ้านคลานเหมือนแมว
คงสิ้นแววคลุ้มคลั่งอหังการ์

สัปเหร่อสิงใจไม่มีดอก
ปอบอาจหลอกสิงแทนแสนกังขา
เลยหิวโหยโอยครางสร้างมายา
ปรารถนาเนื้อดิบหยิบเป็นเป็น

ปอบไม่สิงกระสืออาจถือไพ่
จากป่าใหญ่ครานั้นฉันยังเห็น
คงเป็นคู่กรรมเก่าเข้าประเด็น
แม่เนื้อเย็นรอดยากหากเรื่องจริง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 โอว...ซวยละตรู

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กรกฎาคม 2014, 10:37:PM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 10:37:PM »
ชุมชนชุมชน


ซึ้งจัง ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู ซึ้งจัง



ทำเป็นร้อง..มัคนายกจ๋า ขึ้นมาอ้าง
เอาสีข้างเข้าจ้ำไปน้ำขุ่น
นี่ก็เข้าพรรษาแล้วหนาคุณ
เลิกว้าวุ่นเถิดหนา...ไพรมาแล้ว..!! ขอจุ๊บ..หน่อย

ไพร พนาวัลย์


 ชอบใจๆ

อ๊บ...คือยุหมาให้ไล่กัด โกรธว๊อย




หายไปไหนมาเนี่ยเดี๊ยะล่อหัน
ดูลูกนั่นนั่งจ้องมองตาแป๋ว
ทิ้งไปได้ลูกก้อย,ลูกพลอย,แพรว
เก่ง,กล้า,แก้ว ทั้งหกคอตกคอย

หายไปเสียนานเนิ่น เงินน่ะมีไหม..?
กลับบ้านไยหน้าง้ำแหมทำหงอย
ยังเข้าข้างสมภารเดี๋ยวขวานลอย
ช้าอีกหน่อยเห็นดีมีใหม่แทน งอนแล้วด้วย

"ดิน"

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

15 กรกฎาคม 2014, 10:45:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #17 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 10:45:PM »
ชุมชนชุมชน



มัคนายกจ๋า.....
สมภารด่าประจานพาลเหยียบย่ำ
ช่างใจคอฝาดเฝื่อนเหมือนกาดำ
น้องสุดช้ำกล้ำกลืนขื่นทรวงใน  ไม่เอาๆ

มัคนายกจ๋า....
น้องน้ำตารินร่วงอกกลวงไหม้
ขาดคนอยู่ดูแลเทคแคร์ใจ
คนว่าใช่ก็กลับหายลับกาย ร้องไห้งอแง

มัคนายกจ๋า...
น้องเหว่ว้าหม่นมัวหัวอกหม้าย
แหม!.มีลูกเมียแล้วเนี่ยแสนเสียดาย
หวังเฝ้ามองปองหมายร่วมชายคา ยิ้มแก้มแดง

เรื่องสมภารฟั่นเฟือนขอเบือนห่าง
ชอบทำกร่างจู้จี้เบื่อขี้หน้า
บิณฑบาตผ่านเรือนหากเยือนมา
จะยุหมาไล่บี้จีวรปลิว งอนแล้วด้วย

"ดิน"



 
หัวเราะเยาะ

ไม่ใส่บาตรยังไล่ให้หมากัด
นรกชัดตัดสินเพราะ"ดิน"หิว
ดุทั้งคนทั้งหมาบ้าตะคริว
พระเผ่นลิ่วเดือดร้อน"จีวรบิน" ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

"โกยแล้วโยม"โอมเพี้ยง..เพียงชาตินี้
พอกันทีสีกาลาถวิล
โดยเฉพาะคนงามนามว่า"ดิน"
ธรณินผินกลับมิรับเอา

เชิญไปหาทายกแก่งกนั่น
คงสมกันมั่นหมายพอคลายเหงา
ดังนรกบนดินถวิลเนา
เป็นน้อยเขาเร่าร้อนเหมือนนอนไฟ

ทั้งเมียหลวงเมียน้อยคอยสับโขก
จะวิโยคตกอับเธอรับไหม
ยิ่งน้องเมีย"สีลา"จะว่าไป ขำแบบกระแดะหน่อยๆ
ทายกไซร้เขาหวงดั่งดวงตา

แนะสิ่งดีมีทางกระจ่างหมอง
เธอกลับร้องไห้ฮือมิถือสา
ปกติเธอทำประจำมา
ชลนาหลั่งไหลคือไม้ตาย

ทายกป่วนสีกาก็มาแขวะ
รุมกันแทะสมภารรำคาญหมาย
คงต้องลาวิเวกอุเบกกาย
ปล่อยให้ชายหญิงแก่ดูแลกัน ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 หัวโขมย ไปเที่ยวกันดีกว่า

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
15 กรกฎาคม 2014, 11:53:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #18 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2014, 11:53:PM »
ชุมชนชุมชน



รวมทั้งหมด ในวัฏฏา เรียกว่า "สัตว์"
ต่างกำหนัด กรรมเวียนว่าย ใต้สังขาร
ถูกกักขัง ชาติภพหน่วง ดั่งบ่วงมาร
แม้นเชียวชาญ จึงหลุดพ้น ซึ่งกลไก

วัฏต่างต่าง ช่างยาวไกล ในกลเหตุ
รูปกลิ่นเพศ สรรพรส โปรดไฉน?
โลภ โกรธ หลง ปลงประสิทธิ์ ที่จิตใจ
ใต้กลไก สุข ทุกข์เฉย เผยความจริง

ภายใต้กล มณเฑียรธรรม กรรมบท
จึงปรากฏ เป็นรูปนาม ตามสิหิงค์
เฉยนิ่งคือ ชื่อว่าผู้ รู้ตามจริง
ละทุกสิ่ง จึงประจักษ์ มรรคบรรณ


อะนะมะตัคเคมิเฉไฉ
สังสารไกลเกินคาดจะวาดฝัน
มีเบื้องต้นจุดจบอย่างครบครัน
ผู้ตามนั้นมิรู้อยู่หนใด

วัฏฏะเวียนเปลี่ยนวนบนเกลียวคลื่น
หลับแล้วตื่นยืนงงยังสงสัย
อเนกกัปป์นับกัลป์อันยาวไกล
เหมือนดวงใจหยั่งลึกจะนึกเดา

อริยะเท่านั้นจะสรรหา
อเนญชาลาเหตุกิเลสเผา
ขจัด"ข้อง"คือ"สัต"สลัดเงา
จึงบรรเทาสงสัยในวังวน

 อายจัง

"มุนีน้อย"

(ขอบคุณที่มาร่วมแจมจ้า... ตบมือให้)

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
16 กรกฎาคม 2014, 12:00:AM
พยัญเสมอ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 674
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,044


ไม่มีเหตุจำเป็นห้ามรบกวน


« ตอบ #19 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2014, 12:00:AM »
ชุมชนชุมชน


อันกลอนยาวมิค่อยกล้าเข้ามาอ่าน
จำขอผ่านขอหลบมิพบเห็น
แต่มิใช่ใจดำ...หากจำเป็น...
ที่หลีกเร้นก็จำใจ...ใช่อยากทำ



 เอ้อ..จริงว่ะ หัวโขมย ชอบใจๆ


ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย,
เทพเจ้าไก่
หน้า: [1] 2
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s