ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[Silasiroong]

เบื่ออยู่กับตำราเดี๋ยวหน้าแก่
อย่าตอแยชักใยให้ไขว้เขว
ขืนเชื่อเธอคงบ้าหน้าเหยเก
เดี๋ยวตาเหล่หัวใส☼เค้า..ไม่ไปนะ.?  
[/size][/font][/i][/center]

"ดิน"

.

thairath.co.th/media

ลายแทงขุมทรัพย์ของหมอรพี


มิเป็นไรตามใจไร้กังขา
ขอนวลอย่ากังวลจนเป๋ปะ
เรื่องเพียงเล็กน้อยปล่อยไปซะ
มึนศีรษะไปเปล่ามิเข้าการ

หนอนหนังสือเล็ดลอดออกทางเก่า
มิยั่วเย้ายวนใดให้พ้นผ่าน
ปล่อยทุกอย่างวางไว้ไม่ระราน
มิช้านานก็พ้นเขตมนต์ดำ

งานนี้มีหมอมากมายหลายขนาน
ล้วนเก่งการแก้กลกมลถลำ
หมอ"ชลนา"จับยามงามคมคำ
ร่ายลำนำถึงลาภรวยช่วยนำพา

หมอ"แป้งน้ำ"แนะวิธี ..หนามบ่งหนอน
ตั้งไฟก่อนกะทะวางช่างสรรค์หา
ปรุงหนอนทอดกลมกล่อมแกล้มสุรา
เชิญเฮฮาแต่เช้า..เมาทั้งวัน

หมอ"รพี"มีลายแทงแหล่งขุมทรัพย์
คณานับหลายโกฏิทวนมิถ้วนนั่น
แอบฝังไว้หลับเผลอ..ละเมอพลัน
ให้โจรมันขุดไปสบายเลย




ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗

                             ขอบคุณภาพจาก internet ครับ

[Silasiroong]

bloggang.com/data

พี่หมอ"ไพร"มุ่งไปอวกาศ
ดาวเสาร์คลาดกับดาวศุกร์ว่าถูกเผย
ดาวพวกนั้นแสนไกลใครคุ้นเอย
มีหรือเคยส่งแรงให้ทำร้ายเรา

พลังก็ไม่มีนี่เห็นไหม
ร้อนเย็นใช่อาทิตย์จันทร์นั่นสิเล่า
ดาวดวงอื่นคุณโทษใดในที่เนา
เทียบแสงเจ้าหิ่งห้อยพลอยมิเจอ

แล้วแก้ไขโบกผ้าไล่ไม่ถึงเมตร
ก็พ้นเหตุดาวโทษร้ายพาให้เผลอ
ขู่ไม่เชื่อจะต้องพรากจากญาติเธอ
ฉันคงเก้อคำหมอดูแต่ผู้เดียว

หมอ"มุนี"โปรฯแถมแบบสุดแสบ
เลี้ยงผีแอบเสกคาถาพาเฉลียว
หมออิ่มอ้วน..แต่ผีผอมตรอมซีดเซียว
พูดลดเลี้ยวคนหลงปลงใจตาม

ครั้นใกล้ค่ำหนอนหนังสือมาถึงบ้าน
ก็จัดการภาระไปไม่เพ้อพร่าม
แล้วนอนดูเดือนเด่นฟ้าพางดงาม
ส่งใจถามถึง"ดิน"นั้นนะจันทร์เอย


ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗

                      
                      therainyseason.files.wordpress.com


                      ขอบคุณภาพจาก internet ครับ

[D]

"หมอดูไพร"ทายแม่นแสนเข้าท่า
เสียแต่ว่าค่าครูพธูหมอง
จ่ายทั้งตัวหัวใจให้หมอครอง
แก้กลัดหนองน้องจงอย่าหลงกล

ค่าครูแพงเกินไปอย่าได้เชื่อ
แม่บุญเหลือมานี่มุนีสน
ค่าหมอถูกแถมขลังพลังมนตร์
"หมอมุนี" ถึงจนแต่ใจงาม

ดูสองครั้งแถมฟรีมีโปรฯให้
แถมหัวใจของหมอต่อครั้งสาม
ครั้งที่สี่และห้าถ้าติดตาม
หมอจะดามหัวใจให้เธอเอง

 

"หมอมุนี โยคีเวทย์"

บัดนั้น..หมอมุนีฯโยคีเวทย์
เฝ้าสังเกตุเดือดดาลจึงขานเปล่ง
ร่ายคาถาท่าทางกร่างนักเลง
เอ่ยโฉงเฉงฉะฉานซ่านซึ้งใจ

ปากโยคีช่างหวานสะท้านอก
เหมือนน้ำตาลร่วงหกตกถึงไส้
นั่งตาเยิ้มเคลิ้มฝันนั่นประไร
ดวงยังไม่ถึงคาดวาดแผนการ

ถ้าอยู่กับโยคีดีไม่น้อย
ช่วยปัดปล่อยทุกข์ครอบภัยรอบด้าน
ด้วยผลพาอานิสงส์ลงจากคาน
แต่เกรงท่านอาบัติ..ขัดตรงเนี้ย..

"ดิน"

[D]

พรายกุมารได้ผลบันดลฤทธิ์
ภูตประสิทธิ์อาคมเธอจมหนอง
เอ็นกระตุกคอพับจับประคอง
จิตร่ำร้อง"มุนี"อยู่ที่ใด

มิถึงขั้นอัมพาตก็อาจแย่
ต้องรีบแก้ทันทีห้ามหนีไหน
หากเพิกเฉยถึงฆาตอนาถใจ
ต้องรีบไปหาคนผูกมนตรา

พร้อมของฝากส้มโอแตงโมหวาน
เงินสิบล้านยกครูรู้เถิดหนา
รถป้ายแดงหนึ่งคันเตรียมกันมา
ส่วนปลาร้าเก็บไว้ไม่ต้องเอา

จะต้อนรับอย่างดีมีห้องพัก
ถอนสลักอาคมระทมเหงา
ทำพิธีในห้องแค่สองเรา
ส่วนควายเล่าขี่มา ฆ่าสังเวย 

 

"มุนีน้อย"

ถึงแล้วเมืองอ่างทองที่ปองหมาย
กับเพื่อนควายแสนซื่อที่ชื่อ"เฟ่ย"
เสียง"มุนีฯ"กู่ก้องร้องทักเฮ้ย
ดั่งกอเตยเตี้ยเต๊อะต๊ะมิน่าเยือน
 
ฉันมิกล้าสบตาประหม่าจิต
ท่านแผลงฤทธิ์มนต์ดำทำป่าเถื่อน
มองหันซ้ายแลขวาท่าฟั่นเฟือน
เงื้อดาบกะจะเฉือนไอ้เพื่อนเรา

พอจะเชือด"เฟ่ย"ร้องปรี๊ด.ดชีวิตขอ
ไว้เถิดหนอ"มุนีฯ"ฤาษีเฒ่า
"เฟ่ย"น้ำตาหยดตรึมทำซึมเซา
กระซิบเบาไหง"มุนีฯ"ไม่บีฑา

อยากรู้ความเป็นไปให้เฉลย
"มุนีฯ"เผยคำถามตามประสา
"เฟ่ย"กระซิบอะไรให้บอกมา
ไยมิฆ่าดั่งเจตฯเพราะเหตุใด

"ดิน"

บอกมา เจ้า"เฟ่ย" กระซิบว่าอะไร

[D]

แม้แต่งงานกับเจ้าได้เข้าหอ
เฝ้าหยอกล้อคนดีสู่ที่หมาย
มิสนว่าปีเคลื่อนหรือเดือนคลาย
เพียงแนบกายสาว(เหลือ)น้อยเจ้าลอยมา

อายุยืนหมื่นปีถ้ามีทุกข์
ก็ขอสุขสิบปีเท่านี้หนา
ขอเพียงใกล้เนื้อเย็นเป็นบุญตา
มรณาชั่งมั่นฉันไม่แคร์

แต่ถ้าฝืนใจเจ้าไม่เข้าท่า
ก็อย่ามาให้เห็นดั่งเพ็ญแข
หมอจะหลีกทางไกลไม่มาแล
ขอเชิญแม่ขึ้นคานอีกล้านปี เทอญฯ 

หมอไพร พนาเวทย์

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ 

แลเหลียวรอบตัวหมอข้อขาแข้ง
ห้อยเหี่ยวแห้งแรงตกงกงันเงิ่น
ริ้วลายรูหูพับยับยู่เยิน
โดกเดกเดินลำพังยังยากเย็น

คิดใคร่ครวญถ้วนถี่เผลอผลีผลาม
เพ้อพูดพล่ามจังปู่เข้าขู่เข็ญ
ช่างแช่งชักกราดเกรี้ยวเปล่าเปลี่ยวเป็น
ให้เห็นเห็นลองเคี้ยวชายเชี่ยวชาญ...

"ดิน"

[D]

ฯลฯ

ครั้นใกล้ค่ำหนอนหนังสือมาถึงบ้าน
ก็จัดการภาระไปไม่เพ้อพร่าม
แล้วนอนดูเดือนเด่นฟ้าพางดงาม
ส่งใจถามถึง"ดิน"นั้นนะจันทร์เอย

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗

มองดูจันทร์ดวงเสี้ยวเกี่ยวโค้งคุ้ง
แสงพวยพุ่งเวหาสง่าเผย
ดาวดวงน้อยร้อยเรียงอย่างเคียงเคย
บ้างเขนยเกยก้อนเมฆซ้อนเลือน

หลับตาพริ้มยิ้มหวานส่งมานถึง
ลมพัดตึงสะดุ้งพุงเขยื้อน
ลุกขึ้นนั่งฉับไวคล้ายใครเตือน
แหงนมองเดือนกระพริบขยิบตา

จิตกระเจิงเหลิงลิ่ววาบหวิวไหว
ดู๊..เป็นไปได้เราเฝ้าผวา
ไยจึงจ้องมองจันทร์เป็นท่าน"ศิลาฯ"
วันนี้ไป"ศรีธัญญา"เช็คอาการ

"ดิน"

[Silasiroong]

oknation.net/blog

แล้ววันนี้"ศรีธัญญา"คราปั่นป่วน
ต่างเรรวนวุ่นไปในสถาน
ร้อนกันทั้ง ผอ.หมอ พยาบาล
พวกคนงานลำบากยากตามกัน

คนไข้"ดิน"ปล่อยหนอนมาคณานับ
หมอ"แป้ง"จับทอดขายคลายเคล็ดฝัน
ลูกค้ารอต่อแถวแล้วเป็นพัน
ทะเลาะกันมาก่อนหลัง..ฉันยังงง

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗

                                       
                                       thumb7.shutterstock.com/display


ขอบคุณภาพจากinternet ครับ

[muneenoi]

ถึงแล้วเมืองอ่างทองที่ปองหมาย
กับเพื่อนควายแสนซื่อที่ชื่อ"เฟ่ย"
เสียง"มุนีฯ"กู่ก้องร้องทักเฮ้ย
ดั่งกอเตยเตี้ยเต๊อะต๊ะมิน่าเยือน
 
ฉันมิกล้าสบตาประหม่าจิต
ท่านแผลงฤทธิ์มนต์ดำทำป่าเถื่อน
มองหันซ้ายแลขวาท่าฟั่นเฟือน
เงื้อดาบกะจะเฉือนไอ้เพื่อนเรา

พอจะเชือด"เฟ่ย"ร้องปรี๊ด.ดชีวิตขอ
ไว้เถิดหนอ"มุนีฯ"ฤาษีเฒ่า
"เฟ่ย"น้ำตาหยดตรึมทำซึมเซา
กระซิบเบาไหง"มุนีฯ"ไม่บีฑา

อยากรู้ความเป็นไปให้เฉลย
"มุนีฯ"เผยคำถามตามประสา
"เฟ่ย"กระซิบอะไรให้บอกมา
ไยมิฆ่าดั่งเจตฯเพราะเหตุใด

"ดิน"

บอกมา เจ้า"เฟ่ย" กระซิบว่าอะไร

ตอบ"ดิน" สองกลอนใน "กลอนเดียว" (ประหยัด )

กลัวอาบัติยังซึ้งถึงเพียงนี้
มิกลัวทีจะแย่ถึงแค่ไหน
อาบัติเขาคนดีมีน้ำใจ
แล้วทำไมเธอกลัวมั่วเหลือเกิน

"อาบัติ" คือน้องพ่อขอขยาย
แปลความหมายตรงตัวมิกลัวเขิน
น้องของพ่อชื่อ"บัติ" ขัดเจริญ
แต่ชอบเดินข้างพระเห็นประจำ

คุยกันเรื่องของเราเข้าท่ากว่า
ควายเธอหนามันป่วยซวยจนหนำ
"ดิน"ใช้งานเกินไปใจระกำ
มันเอ่ยคำตัดพ้อต่อ"มุนี"

ควายบ้านเธอพูดได้ให้ฉงน
แปลกพิกลจนอึ้งทึ่งควายผี
ฤาเจ้าของควายบ้าจึงพาที
เอ่ยวจีกับทุยคุยถูกใจ

มันอ้อนวอนมุนีขอชีวิต
ด้วยดวงจิตโอนอ่อนจึงผ่อนให้
มันบอกรักสวาท"ดิน"ยินกว่าใคร
เธอทำไรควาย"เฟ่ย" เฮ่ย!.บอกมา

 

"มุนีน้อย"

[D]

ฯลฯ

คนไข้"ดิน"ปล่อยหนอนมาคณานับ
หมอ"แป้ง"จับทอดขายคลายเคล็ดฝัน
ลูกค้ารอต่อแถวแล้วเป็นพัน
ทะเลาะกันมาก่อนหลัง..ฉันยังงง

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

                                     

ศูนย์สองห้า.สองห้าศูนย์.เก้าแปดหนึ่ง
ติดต่อถึง"หมอศรีฯ"มีบอกบ่ง
เมื่อวานไปหามาเวลาตรง
มิเคยหลงทางหรอกเข้า,ออกประจำ

แต่ใจฉันหงุดหงิดตะขิดตะขวง
นี่โดนลวงไหมน้อ..รอจนค่ำ
ยาก็หมดทำไงหมอใจดำ
เดินหน้าคว่ำกลับบ้านผ่านร้านยาย

เห็นกะทะตั้งไฟใจฉุกคิด
แวะถามนิดเอาไหมหนอนไว้ขาย
ดีเหมือนกันหญิงฯตอบชอบจะตาย
ว่าแล้วร่ายเวทย์ว่อนหนอนมาพลัน

ทั้งหญิงชายหลายหลากมากเนืองแน่น
รวมลุงแว่น"ศิลาฯ"ก็มานั่น
ซื้อเป็นเข่งแปลกใจอะไรกัน
คงกินหนอนทุกวันสิ..ท่าน"ศิลาฯ"..

"ดิน"

[Silasiroong]

 

 


khonmuang.com


หนอนเหล่านี้โปรทีนยอดอาหาร
คุณค่าสารมากมายมีให้หนา
เสริมสร้างส่วนสึกหรอได้ในกายา
สมองโปร่งโล่งอุรามากินกัน

ปรุงนั่นนี่สบายหลากหลายอย่าง
ดูลิงค่างปักษาต่างขยัน
เสาะหาหนอนแซบลิ้นกินทุกวัน
คนก็ดูตามมันจึงสรรค์กิน

ราคาแพงกว่าเนื้อโกเบ
มิพูดเขวเล่ห์ใดให้ทั้งสิ้น
นับสุดยอดอาหารโลกลือระบิล
ได้ยลยินราคาน่าตกใจ

จึงชักชวนเนื้อเย็นเป็นหุ้นส่วน
ตั้งกระบวนขายหนอนอ้อนแก้มไฝ
ขอแม่ดินควักตังค์อย่างเร็วไว
ส่งหนอนไปทุกถนนมีคนรอ

ใครมีตังค์สิบบาทก็ซื้อได้
เนื้อโกเบต้องไปในห้างหนอ
มีเงินไปสี่พันบาทอาจไม่พอ
เจ้าหนอนขอซาเล้งขายได้ทุกทาง
ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗




4.bp.blogspot.com


   

ขอบคุณภาพจาก internet ครับ

[D]

ตอบ"ดิน" สองกลอนใน "กลอนเดียว" (ประหยัด )


มันอ้อนวอนมุนีขอชีวิต
ด้วยดวงจิตโอนอ่อนจึงผ่อนให้
มันบอกรักสวาท"ดิน"ยินกว่าใคร
เธอทำไรควาย"เฟ่ย" เฮ่ย!.บอกมา

 

"มุนีน้อย"

กาลครั้งหนึ่งนานมา เมื่อตะกี้
ด้วยฤดีฉันรักชายหนักหนา
ให้รู้สึกอัดอั้นตันอุรา
ชายมิมีทีท่าว่าสนใจ

จึงเสาะหาหมอผีที่ท่าพระ
รากราคะว่าแน่จะแค่ไหน
นำเจ้า"เฟ่ย"ลองยาที่ว่าไง
มันหลงใหลฉันจัดหัดพูดจา

ฉันมีชายหลายหลากอยากเกี่ยวข้อง
หลายคนจองห้องใจไม่ซ้ำหน้า
ฉันสวมเขาให้มันในทันตา
"เฟ่ย"มิว่าสักคำน้ำใจควาย

ผิดกับท่าน"มุนีฯ"หนีหน้าเที่ยว
แอบไปเกี้ยวสาวแส้และแม่หม้าย
"บ้านกลอนน้อย"เกรียวกราวข่าวกระจาย
น่าหมันไส้จริงชายไม่อายทุย

"ดิน"

[muneenoi]

(ขอบคุณภาพประกอบจากเน็ต...)

อ้างจาก"ดิน"ข้างบน..

แค่หยอกเอินเพลินจิตอย่าคิดลึก
ไยเธอนึกขัดใจให้เคืองขุย
ชายยังคงตรงแน่มิแค่คุย
ยังรอลุยกับ"ดิน" มิบินลา

ตามตัวอยู่ตั้งนานเพิ่งพานพบ
เธอแอบหลบอยู่นี่หนีปัญหา
ผู้สวมเขาให้คนจนปัญญา
รีบรีบมารับโทษโจษคดี

สวมเขาคนไม่พอยังขอเสริม
สวมเขาเพิ่มบักตู้ดูบัดสี
โทษอาญาสาหัสตัดปรานี
ตราบชีวีจำคุกซุกตาราง

อาจถึงขั้นประหารพยานแน่น
หลายคนแค้นชี้ตัวตบหัวหาง
ประชาทัณฑ์ขั้นโหดเพราะโกรธนาง
ยำเอวบางจมดินถึงสิ้นใจ

กลายเป็น"ดิน"สมชื่อคนลือสม
หญิงบ้าจมดินดับต้องหลับไหล
จบนิทาน "สวมเขา" เล่าลือไกล
ควายก็ได้เขาแลแต่นั้นมา..

 

"มุนีน้อย"

แหม...เล่นถึงตายเชียวนะ  เลยจบกัน
ละอองดิน