---อัสดงแล้ว---
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 09:13:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ---อัสดงแล้ว---  (อ่าน 14309 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 มิถุนายน 2014, 06:32:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 28 มิถุนายน 2014, 06:32:PM »
ชุมชนชุมชน



อัสดงลงแล้วหนอแก้วขวัญ
ดวงตะวันสิ้นแสงฤาแกล้งหมอง
ความมืดมิดครอบงำอย่างช่ำชอง
ก็จับจองห้องใจ..ทันใดนั้น

อัสดงลงลับกับทิวไม้
ทิ้งอาลัยให้เห็นเป็นของขวัญ
อยากหยุดโลกโคจรอ้อนตะวัน
คงเพียงฝันตามประสาคนอาลัย

อัสดงลงเอยเผยบางสิ่ง
บอกความจริงสมมุติมิหยุดไหว
มีขึ้นลงเกิด-ดับ สลับไป
ประจักษ์ใจในอรรถสัจธรรม

อัสดงบ่งบอกจากซอกลึก
อย่ามัวนึกอาลัยใจเพ้อพร่ำ
หลังม่านมืดราตรีเป็นสีดำ
ประกายคำแสงทอง..จะส่องโชย

 น้อยใจแล้วด้วย เคารพรัก

"มุนีน้อย"

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
29 มิถุนายน 2014, 06:07:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2014, 06:07:AM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตค่ะ

...อัสดง แล้วไย พี่ไม่นึก
โชยลงฉึก คำเดียว น่าเหี่ยวโหย
คำลงท้าย มิตรอง น้องต้องโวย
แถมด้วยโบย แสงทอง ต้องส่องงาม... น้อยใจแถมบ่น

...อัสดง ทุกวัน ใจหวั่นไหว
ตัวอยู่ไกล จริงหนา เหมือนฝ่าหนาม
มีโอกาส  แค่เพ้อ เหม่อฝันตาม
แสงฟ้างาม เริ่มเหงา เศร้าถึงกาล...

...อัสดง ส่องแสง ราวแสร้งโศก
ลมพัดโบก สยิว แผ่วผิวผ่าน
แม้เพียงแค่ คิดถึง ตรึงดวงมาน
รอพบพาน ในฝัน ด้วยวันคอย...

รัตนาวดี
 ลาตายดีกว่าตู
 
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
29 มิถุนายน 2014, 08:00:AM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #2 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2014, 08:00:AM »
ชุมชนชุมชน


ยามตะวันลาจาก..ฝากคำอ้อน
ให้น้องนอนนะเจ้าอย่าเหงาหงอย
อัสดงแสงดับลับเหลี่ยมดอย
พี่จะคอยปัดยุง..จนรุ่งเช้า

โอละเห่..ดึกนี้ราตรีสงัด
พี่จะกวัดไกวเปลเห่กล่อมเจ้า
เล่านิทานร้อยเรียงเพียงเบาเบา
จะพรางเงากองไฟ..ไม่ให้กวน

แม้ลมหนาวซัดซ่าผ่านมาต้อง
จะปกป้องผิวงามทรามสงวน
อุ่นอิงแอบอกอ้อมถนอมนวล
รักรัญจวนหวานหวามยามอัสดง

• แซม •
 ทหารจอมเก๊ก
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
29 มิถุนายน 2014, 07:03:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #3 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2014, 07:03:PM »
ชุมชนชุมชน

...อัสดง แล้วไย พี่ไม่นึก
โชยลงฉึก คำเดียว น่าเหี่ยวโหย
คำลงท้าย มิตรอง น้องต้องโวย
แถมด้วยโบย แสงทอง ต้องส่องงาม... น้อยใจแถมบ่น

...อัสดง ทุกวัน ใจหวั่นไหว
ตัวอยู่ไกล จริงหนา เหมือนฝ่าหนาม
มีโอกาส  แค่เพ้อ เหม่อฝันตาม
แสงฟ้างาม เริ่มเหงา เศร้าถึงกาล...

...อัสดง ส่องแสง ราวแสร้งโศก
ลมพัดโบก สยิว แผ่วผิวผ่าน
แม้เพียงแค่ คิดถึง ตรึงดวงมาน
รอพบพาน ในฝัน ด้วยวันคอย...

รัตนาวดี
 ลาตายดีกว่าตู
 


อัสดงลง"โชย" เธอโวยแหลก
ท้ายศัพท์แปลก กานดา ต้องล่าถอย
หาศัพท์แสง ต่อยาก ลำบากกลอย
มุนีน้อย อภัย ในพจี

อัสดงลงแล้วแก้วอย่าหมอง
เธอจงมองขอบฟ้าดูราศี
ก่อนสิ้นแสงอัสดงคงสุรีย์
ความรักพี่ฝากมาจากฟ้าไกล

อัสดงส่งแสงมิแกล้งโศก
เพียงคล้ายโบกมือลาก่อนมาใหม่
เก็บความรักความคิดถึงที่ตรึงใจ
มอบทรามวัยในวันพรุ่งพร้อมรุ้งงาม

 ส่งจูบจ้ะ

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
29 มิถุนายน 2014, 08:38:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #4 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2014, 08:38:PM »
ชุมชนชุมชน


ยามตะวันลาจาก..ฝากคำอ้อน
ให้น้องนอนนะเจ้าอย่าเหงาหงอย
อัสดงแสงดับลับเหลี่ยมดอย
พี่จะคอยปัดยุง..จนรุ่งเช้า

โอละเห่..ดึกนี้ราตรีสงัด
พี่จะกวัดไกวเปลเห่กล่อมเจ้า
เล่านิทานร้อยเรียงเพียงเบาเบา
จะพรางเงากองไฟ..ไม่ให้กวน

แม้ลมหนาวซัดซ่าผ่านมาต้อง
จะปกป้องผิวงามทรามสงวน
อุ่นอิงแอบอกอ้อมถนอมนวล
รักรัญจวนหวานหวามยามอัสดง

• แซม •
 ทหารจอมเก๊ก

ใช่จะอ้อนเพียงคำที่นำฝาก
ดวงใจหากมอบตามแม่งามหงส์
โปรดรับฝากเถิดหนาอย่าพะวง
หวังยืนยงผูกพันนิรันดร

โอ้ละเห่..คืนนี้พี่จะกล่อม
ฝากกานท์หอมพวงแก้มแซมสมร
เปรียบพี่เป็นภุมรินที่บินจร
เฝ้าแทรกซอนเชยผกาเพียงยาใจ

หนาวแสนหนาวลมโชยที่โบยโบก
กล่อมวิโยคอาภัพจนหลับใหล
บนอ้อมตักชายอุ่นละมุนไอ
จะกล่อมให้เธอหลับกับฝันดี

 ส่งจูบจ้ะ

"มุนีน้อย"

(หวานมา หวานตอบ สาวน้อยหัวเราะ อายแบบน่ารัก)
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
30 มิถุนายน 2014, 05:06:AM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #5 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2014, 05:06:AM »
ชุมชนชุมชน

" ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ "

หวานแสนหวานกานท์กลอน..ใครอ้อนเอ่ย
ทำเหมือนเคย เสน่หา..มารศรี
หรือแค่เป็นเรื่องกุ..ของมุนี
คารมนี้ท่านได้แต่ใดมา

ฤๅเป็นศิษย์ขุนแผนแสนกระเดื่อง
รักลือเลื่องชุมชุกทุกทิศา
หากตกหลุมคลุมเครือเหลือระอา
แก้มประภาฯ ต้องช้ำ..ทำไงกัน

จะหลับนอนผ่อนพักแนบตักพี่
ตัวน้องนี้หวั่นไหวหัวใจสั่น
เกรงภู่ผึ้งหักโหมเข้าโรมรัน
จะเสียขวัญสิ้นสุข..ทุกอัสดง

• แซมค่ะ •


ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
30 มิถุนายน 2014, 02:26:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #6 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2014, 02:26:PM »
ชุมชนชุมชน

หัวเราะเยาะ

อ้างจากแซมข้างบน...

ผึ้งตัวใดบังอาจสวาสดิ์น้อง
จะยิงม่องให้ตายกลายเป็นผง โกรธว๊อย
เราเป็นผึ้งเจ้าถิ่นยินแล้วคง
เลิกประสงค์บุปผาที่ข้าจอง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

มิใช่ศิษย์ขุนแผนแสนเสน่ห์
แต่ก็เททั้งใจมิใฝ่สอง
แม้นสูญสิ้นดินฟ้ามาครอบครอง
จะขอปองนางเดียวทุกเสี้ยวบรรพ์ อายแบบน่ารัก

ไม่ได้ขุดหลุมพรางวางกับดัก
แค่หลุมรักนิดหน่อยคอยจอมขวัญ
แม้นเธอพลาดตกหลุมขุมโลกันตร์
พี่จะฟันฝ่าด่านเข้าหาญชิง ตบมือให้

นอนเสียเถิดคนดีพี่จะกล่อม
เฝ้าถนอมน้องนางข้างไฟผิง
จะปกป้องราคีที่หมายอิง
มิให้สิงนวลแก้ม "แซม" ประภาฯ  สาวน้อยหัวเราะ

 ส่งจูบจ้ะ

"มุนีน้อย"

(บทบาทสมมุติเน้อ เผื่อมีคนอ่านเคลิ้มตาม  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
30 มิถุนายน 2014, 04:45:PM
ดารกะ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 261
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 377


ขอขอบพระคุณทุกภาพ และ เพลงที่นำมาใช้ประกอบกลอนค่ะ


« ตอบ #7 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2014, 04:45:PM »
ชุมชนชุมชน

 
เธอนั่นแหละจ้ะ


เบื่อมุนีฯชีกอจ้อไม่หยุด
เดือดปุดปุดแล้วฉันอยากฟันหน้า
ไยทิ้งลูกทิ้งเต้าเฝ้าเถียงนา
ภรรยาอย่าง"ก้อย"พลอยชิงชัง

แค่อ้วนนิดอ้วนหน่อยหนอยข่อนขอด
บ่นกระปอดกระแปดแผดเสียงสั่ง
แล้วหลบลี้หนีกายอยู่ท้ายรัง
แอบมานั่งเขียนกลอนอ้อนสาวกรุง มองไม่ไว้ใจ

ก้อย

 
แบร่ๆ
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


อย่าหวังให้ใคร...มารักเรา
30 มิถุนายน 2014, 05:48:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #8 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2014, 05:48:PM »
ชุมชนชุมชน

 
เอ้อ..จริงว่ะ

อ้วนไม่พอปากจัดหัดทำหยิ่ง
เลยต้องทิ้งเฝ้าเถียงไม่เสี่ยงยุ่ง
ทั้งเตี้ยต่ำดำตอถ่อลงพุง
นั่งตบยุงเฝ้าทุย อุ๊ย! สมควร

ให้อยู่นาเฝ้าเถียงเลี้ยงลูกน้อย
เธอแอบผล็อยลอยหน้ามาทำป่วน
เดี๋ยวความลับพี่แตกแยกกระบวน
กำลังชวนสาวเคลิ้มอย่าเติมไฟ

ตอนสาวรุ่นมิเห็นเป็นแบบนี้
สวยโสภีขี้อายชม้ายใส่
จนมุนีหลวมตัวมอบหัวใจ
บัดนี้ไยแปลงร่างเป็นนางมาร

ไปไปไป! กลับเถียงเลี้ยงดูลูก
ประเดี๋ยวถูกแข้งชายหมายประหาร
ทำเสียฤกษ์คารมล่มกระดาน
ประภาคาร "แซม" จ๋า อย่าเชื่อนะ  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 แบร่ๆ

"มุนีน้อย"

(มาไงเนี่ย!  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
01 กรกฎาคม 2014, 02:42:PM
Silasiroong
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 189
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 113



« ตอบ #9 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2014, 02:42:PM »
ชุมชนชุมชน


ยามตะวันลาจาก..ฝากคำอ้อน
ให้น้องนอนนะเจ้าอย่าเหงาหงอย
อัสดงแสงดับลับเหลี่ยมดอย
พี่จะคอยปัดยุง..จนรุ่งเช้า

โอละเห่..ดึกนี้ราตรีสงัด
พี่จะกวัดไกวเปลเห่กล่อมเจ้า
เล่านิทานร้อยเรียงเพียงเบาเบา
จะพรางเงากองไฟ..ไม่ให้กวน

แม้ลมหนาวซัดซ่าผ่านมาต้อง
จะปกป้องผิวงามทรามสงวน
อุ่นอิงแอบอกอ้อมถนอมนวล
รักรัญจวนหวานหวามยามอัสดง

• แซม •
 ทหารจอมเก๊ก




c2phuket.com/image_ans




ตะวันแฝงเงาไม้ 


ยามตะวันอ่อนแรงแฝงเงาไม้
แสงทองไล้ท้องฟ้าพาจินต์หลง
นั่งเหม่อมองไปไกลให้พะวง
ส่งจิตตรงนงพงาเคียงฟ้าไกล

ผืนราตรีคลี่ม่านผ่านเวหน
ฤดีหม่นกมลหมองสุดตรองได้
คนฟากโน้นจะรู้ซึ้งถึงความนัย
หรือยากใจจะรับประทับทรวง

คราดวงเดือนเด่นดาวพราวเกลื่อนฟ้า
ฝากวาจากระซิบความนำผ่านสรวง
ส่งคิดถึงคะนึงหาใช่ว่าลวง
ขอพุ่มพวงรับรู้อยู่ในจินต์

ผิวต้องลมพรมพัดระบัดสาย
เหมือนดั่งหมายใยมิตรจิตถวิล
สุคนธาพาซึ้งตรึงชีวิน
ดุจนารินกล่อมบรรเลงเพลงอัสดง


ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗


                                                                  






                                                                  ขอบคุณภาพจาก internet ครับ

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กรกฎาคม 2014, 12:07:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #10 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2014, 12:07:PM »
ชุมชนชุมชน


ตะวันแฝงเงาไม้ 

ยามตะวันอ่อนแรงแฝงเงาไม้
แสงทองไล้ท้องฟ้าพาจินต์หลง
นั่งเหม่อมองไปไกลให้พะวง
ส่งจิตตรงนงพงาเคียงฟ้าไกล

ผืนราตรีคลี่ม่านผ่านเวหน
ฤดีหม่นกมลหมองสุดตรองได้
คนฟากโน้นจะรู้ซึ้งถึงความนัย
หรือยากใจจะรับประทับทรวง

คราดวงเดือนเด่นดาวพราวเกลื่อนฟ้า
ฝากวาจากระซิบความนำผ่านสรวง
ส่งคิดถึงคะนึงหาใช่ว่าลวง
ขอพุ่มพวงรับรู้อยู่ในจินต์

ผิวต้องลมพรมพัดระบัดสาย
เหมือนดั่งหมายใยมิตรจิตถวิล
สุคนธาพาซึ้งตรึงชีวิน
ดุจนารินกล่อมบรรเลงเพลงอัสดง

ขอบคุณครับ

ศิลาสีรุ้ง
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗


ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะ


คีตกานท์ผ่านฟ้าส่งมาให้
ถ้อยคำหวานซ่านใจจนใหลหลง
คนฟากนี้หวั่นไหวใฝ่พะวง
ยามอัสดงหม่นหงอยเฝ้าคอยเธอ

รอจนจันทร์เคลื่อนคล้อยลอยจากฟ้า
ดาวก็ลาจากสรวง..ยังห่วงเสมอ
เห็นเงาไม้ไหวไหว..ใจละเมอ
คิดว่าเธอเคียงคลอพะนอรัก

คงเป็นเพียงความฝัน..เช่นวันก่อน
วันที่เผลอออดอ้อน..ขอนอนตัก
เพิ่งจะรู้.. เรานี้..ขี้ตู่นัก
แอบคิดว่า มีใครรัก..จากฟากโน้น


• แซมค่ะ •


ขออภัยที่แซมมาช้านะคะ.. เถลไถล !!
 

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
24 กรกฎาคม 2014, 07:14:PM
martinfranck
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 38
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62



« ตอบ #11 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2014, 07:14:PM »
ชุมชนชุมชน

อัสดงลงลาฟากฟ้ากว้าง
ใจเคว้งคว้างห่างกลิ่นยุพินศรี
ทิวากรรอนแรงสิ้นแสงมี
ดั่งฤดีพี่ล้มระบมใน
อัสดงลงดับลับขอบฟ้า
แต่ยุพานารีอยู่ที่ไหน
ทิวากรรอนล้าสิ้นคราใด
ช่างเหมือนใจได้ช้ำระกำรวน
อัสดงลงแล้วไม่แคล้วสิ้น
แต่ยุพินกลิ่นเจ้ายังเคล้าหวน
เมื่อทิวาลาพลันให้รัญจวน
พี่ก็ควรเลิกคิดสนิทเธอ

มาร์ติน
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtube ครับ
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s