O วสันตลีลา .. O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 พฤศจิกายน 2024, 05:09:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: O วสันตลีลา .. O  (อ่าน 16912 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
24 มิถุนายน 2014, 06:04:AM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« เมื่อ: 24 มิถุนายน 2014, 06:04:AM »
ชุมชนชุมชน





วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
00101110 - - - 110102
00101112 - - - 110103
1=ลหุ นอกนั้นครุ
เลขเดียวกัน = สัมผัสสระ


O กำลูนผอูนกมละมาตุ
ระบุภาษะรำพัน
กล่อมเยาวะเร้าสุขะถวัล-
ยะประจัน ณ ห้วงใจ
O เนื่องหนุนกะสุนทริยะคัม-
ภิระคำก็เพื่อใคร-
เสพรสสุพจนะประไพ
เฉพาะให้ถวิลถึง
O เมื่อฝนละหล่นนภะสวรรค์
ขณะนั้นก็คำนึง
ฤๅงามจะลามบทะจะพึง-
สุขะซึ้งเขษมศานติ์
O พร่างพินธุรินระดะ ณ คาบ
ดละภาพะพิมพ์พาล-
งามเพ็ญ ฤ เป็นปทัสถาน
บริบาละเบิกบุญ
O ลมโรยประโปรยชละละออง
ผัสะต้องก็เตรียบคุณ-
เต็มตวงกะปวงวตะละมุน
และพิรุณละหลั่งสาย
O หยาดหล่นสุชลผัสะกระทบ
ตฤณะภพก็พร่างพราย
ขอบเขตและเจตนะก็ผาย-
พฤติบ่ายพโยมบน
O บวงไท้ ณ ในทิวะสวรรค์
ตละชั้นและต่างชนม์
โปรดช่วยอำนวยทิฐิพิมล
อนุสนธิด้วยศรี
O สัมมาประการะปฏิบัติ
เหมาะสมรรถภาพมี
มิจฉาประดาฉละกลี
นิระที่จะเอื้อมถึง
O โดยธรรมะนำนยะพระพุทธ
จิตะนุชะคำนึง
โดยชาติปราศจิตะจะพึง-
ทะนุซึ่งบ่ควรสรร
O เพียบพูนประยูระบริรัก-
ษะประจักษะผ่านจรร-
ยาเยาว์เฉลาวัตระกระนั้น
ดละฉันทะเฉิดฉาย
O งามวัยพิไลพฤติวิวรณ์
ก็ขจระกำจาย
งามคำเพราะคัมภิระสยาย
ก็ระบายระบือเสียง
O เจ้าเอยเพราะเผยวุฒิวิภาษ-
ะพิลาสพิไลเพียง-
พอกานท์จะผ่านนยะเผดียง
พิเราะเสียงจะบรรสาร
O กำลูนผอูนกมละมาตุ
ดละภาษะเพื่อพาล
ชื่นชีวะปรีดิพิสดาร
อุปการะนานเทอญ


แปล ..


O เจ้าเอยแต่เผยความก็งามนัก
ทุกถ้อยวรรคอักษร .. ออดอ้อนเหลือ
จึงเตรียบภาษอบอุ่นเข้าจุนเจือ-
มอบความสุขโอบเอื้อ .. สู่เนื้อใจ
O เพียงจะผ่านกานท์กรองทำนองเสนาะ
หลั่งรินเซาะโสตสดับความขับไข
สุนทรีคมคำรสอำไพ
พร้อมความนัย .. เพรียกถวิลในจินตนา
O พร้อมฟายฝนหล่นหลั่ง .. อยู่ยังพื้น
ภาพยิ้มรื่นก็รายล้อมอยู่พร้อมหน้า
ปานฉะนี้อยู่ไหน .. ผู้ไกลตา
ละห้อยหาถึงใคร .. หนอใจนั้น ?
O หยาดน้ำฟ้าร่วงหล่น .. อยู่บนยาม
หรือ-แววตาวับวาม .. ถึงยามสั่น ?
จากฟากฟ้าฝุ่นฝน .. คล้ายหม่นควัน
แววตานั้น .. ยามเต้น .. หรือ-เช่นเดียว ?
O ลมร่ำ, น้ำหล่นสาย กำจายหยาด
เมื่องามภาษงามภาคเริ่มกรากเชี่ยว-
เข้าลูบโลมอกอุ่นให้หมุนเกลียว-
คำนึง-ทุกส่วนเสี้ยว .. ในเปลี่ยวยาม
O หล่นลิ่วหยดหยาดแล้ว .. ไม่แล้วล่วง
ราวเทียบทวงบทโศลก .. สู่โลกสาม
ขณะบางบริบทอันงดงาม
ราวข่มข้ามเจตนา .. แนบปรารมภ์
O เทพเอย .. ทิพแถนถ้วนแดนฟ้า
โปรดอวยค่าเจตนัง .. ลูกสั่งสม
สอดเสริมเจตพิสุทธา .. คลื่นคารม
เข้าเกลียวกลมด้วยคะนึง .. ใครหนึ่งมี
O สัมมาการณ์ผ่านประพฤติให้ยึดถือ
เป็น-อยู่-คือ .. อัตตลักษณ์และศักดิ์ศรี
กำลังแห่งมิจฉาการณ์ราคี
จงปลีกลี้เลือนพรากไปจากใจ
O องค์ธรรมแสนบริสุทธิ์ .. นัยพุทธา
แนบจิตาตั้งมั่น .. อย่าหวั่นไหว
โดยชาติพิลาศเพ็ญว่าเป็นไทย
และโดยนัยเนื่องระบอบอันชอบธรรม
O อยู่ท่ามกลางเกื้อกูลประยูรญาติ
ที่โดยชาติเชื้อเถารูปเยาว์สัม-
ผัสต้องด้วยอบรม .. ผ่านคมคำ
เพื่อร่วมทำนุใจ .. ด้วยใคร่ครวญ
O โดยวัยงามทรามสวาดิพิลาสลักษณ์
เมื่อประจักษ์ก็แต่คอยละห้อยหวน
กอปรความหมายแห่งคำ .. ร้อยสำนวน-
นั้นเตรียบตรวนล่ามคา .. ผูกอาลัย
O เพียงเผยภาษก็พอเพียงจะเรียงพจน์
เพื่อปรากฎพิเราะศัพท์ร่วมขับไข
งามนั้นพอจะส่งรับลำดับนัย
บรรโลมใจรื่นรมย์ด้วยคมคำ
O เยาว์รูปเอย .. แต่เห็นก็เอ็นดู-
ดวงใจผู้มาตุชาติ .. จึงภาษพร่ำ-
พร้องปรารมภ์รำบายด้วยหมายทำ-
นุ-ใจสัมผัสค่า .. วรรณาเทอญ


ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 มิถุนายน 2014, 07:47:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #1 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2014, 07:47:PM »
ชุมชนชุมชน


O แอบใจ .. O





วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
00101110 - - - 110102
00101112 - - - 110103
1=ลหุ นอกนั้นครุ
เลขเดียวกัน = สัมผัสสระ


O แผ่นน้ำ ณ ยาม-ศ-ศิ-นะเพ็ญ
ดุ-จะ-เต้นระลอกรอ
ผืนกว้าง ณ กลาง-ว-ตะ-พะนอ
ดุ-จะ-รอระริกผืน
O ลมโรยประโปรย-ช-ละ-ระลอก
ดุ-จะ-หยอกจะยั่วคืน
แนวพฤกษ์ผนึก-นิ-ละ-ทะมื่น
ระ-กะ-ตื่นระรื่นตาม
O ดวงจันทร์ถวั-ล-ยะ-โพยม
ด-ละ-โคมนะส่องคาม
ดวงใจไฉนจะผละละหวาม
ฤ-จะ-ห้ามละห้อยเห็น
O ใจคนระคน-ทุ-ขะ-สภาพ
ฤ-จะ-บาปะสาบเป็น-
บ่วงล่าม ฤ ห้าม ฤ ละ ฤ เร้น
ข-ณะ-เค้นก็สุดคลาย
O ฝ่าขวัญประจัน-ฤ-ดิ-พิมล
ปะ-ทุ-ผละพริ้งพราย
แผ่วผ่านประสาร-ก-ม-ละหมาย
สุ-ขะ-ผายก็พร่างพรม
O โหยเห็นบ่เว้นระยะถวิล
ข-ณะ-จินตะจ่อมจม
ห่างเห็นก็เข็ญ-อุ-ระ-ระทม
ฤ-จะ-ข่มฤดีคอย
O หลับฝันก็มั่นจะเจอะจะเจอ
ข-ณะ-เผลอก็เหม่อลอย
ตื่นตาผวา-นั-ย-นะพลอย-
จะ-ละห้อยระโหยเห็น
O เต็มตรองคระลอง-ร-หั-สะนัย
ก็-พิไลพิลาสเพ็ญ
อกใจไฉน-ผิ-วะ-จะเร้น
ก็-จะ-เค้นซะเค็มขม
O อบอุ่นละมุน-ข-ณะ-คะนึง
ระ-ยะ-หนึ่งก็นานนม
รูปหนึ่งก็ถึง-บ-ทะ-ปฐม
ระ-ดะ-ห่ม ณ ห้องใจ
O เมื่อ .. งามละลาม-น-ยะ-ระบัด
ป-ฏิ-พัทธะอำไพ
ดวงมานสมาน-กะ-พิ-สมัย
ระ-ยะ-ใจก็เชื่อมถึง
O เที่ยวทางระหว่างระยะกมล
ร-ติ .. ดละเหนี่ยวดึง
อ่อนเอนกระเวน-บ-ทะ-คะนึง
ด-ละ-ซึ้งผสานเสริม
O ลมรื่นระผืน-ท-กะ-สะท้อน
อุ-ระ-ตอนก็ตวงเติม
หวานซึ้งก็ถึง-ภ-วะ-กระเหิม
ร-ติ-เริ่ม .. ก็เพิ่มแรง
O เหมือนหวานจะซ่าน-นิ-ระ-จะสุด
จะ-ประทุษและเสียดแทง
โอ้ใจ .. ไฉนจะผละจะแผลง
ยุ-ติ-แว้งบ่วกเวียน
O หอมกรุ่นกะสุน-ท-ริ-ยภาค
จะ-ประจาคก็จวนเจียน-
เกินหมายจะถ่าย-น-ยะ-เสถียร-
ฤ-ดิ-เพียระผูกพัน
O เกินการณ์จะผ่าน-น-ยะ-ประพจน์
ม-ธุ-รสะโรมรัน
สุดที่จะลี้จะผละจะผัน
ร-ติ-นั้นนิรันดร

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 มิถุนายน 2014, 08:33:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #2 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2014, 08:33:PM »
ชุมชนชุมชน

.
.
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=01-01-2014&group=164&gblog=43



O เพลงซอ .. ที่รอสี .. O





วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O ศัพท์แสงแสดง-ทิ-ฐิ-วิ-กฤต
ระ-บุ-มิจฉะมากมาย
ลูบคลำพระธรร-มะ-อ-ภิ-ปราย-
ระ-บุ-คล้ายจะเคยเห็น
O กาลามะสู-ต-ระ-ประ-การ
พระ-ประ-ทานเสมอเป็น -
หลัดยึดประพฤติ-ท-ศะ-ประ-เด็น
ฤ-จะ-เร้นจะเลือนสูญ
O "เขาว่า" .. เพาะสา-ว-กะ-ส-ภาพ
ประ-ลุ-คาบทวีคูณ
เหนี่ยวรั้งพลัง-ฐิ-ติ-วิ-ทูร
ก-ละ-กูณฑะมอดเชื้อ
O เกรงว่าจะหา-ย-นะ-พระ-ศาสน์
เพราะ-ประ-ภาษะคลุมเครือ
ลุ่มหลงพะวง-ภ-พะ-อะ-เคื้อ
อรร-ถะ-เพรื่อสิพร่ำเผย
O ไพศาลประการ-อ-ริ-ยะ-วาท
จะ-ป-ลาตะล่วงเลย
เกรงเขลาคละเคล้า-บ-ทะ-เฉลย
น-ยะ-เปรยจะปลอมปน
O ยากเย็นประเด็น-อ-ริ-ยะ-สัจจ์
ภ-วะ-วัฏฏะเวียนวน
เสกสรรคะคัน-ถะ-อ-นุ-สน-
ธิ-วิ-กลวิการเขียน
O กำจายสยายอุ-บั-ติ-จิต
ระ-บุ-ทิศะดุจเธียร
รอบกรรมะนำ-ภ-วะ-เสถียร
นิ-ระ-เปลี่ยนกระทั่งปลาย
O เห็นไกลกระไร-นั-ย-นะ-ทิพย์
กระ-แดะ-หยิบมุบรรยาย
เกรงว่าจะพา-ข-ยะ-ข-จาย
มรร-คะ-ปลายจะเปล่าเปลือง
O เหตุต้น .. เพาะผล-กรร-มะ-กระ-ทบ
ด-ละ-ภพะรองเรือง
สัมผัสกระหวัด-ร-สะ-เมลือง
ทะ-นุ-เนื่องเขษมสันต์
O การณ์เหตุและเจ-ต-นะ-ผ-จง
อุ-ป-สงคะร่วมกัน
ก่อกรรมะนำ-ทุ-ก-ระ-ทัณ-
ฑะ-ผ-ชันเผชิญชนม์
O กรรมเหตุและเด-ชะ-จะ-ส-ลาย
ก็-เพราะ-คลายระดับ .. "ตน"
รู้วัตรขจัด-อ-ดุ-ระ-ผล
ละ-ก-มละพ้นหมอง
O เพียงคุมผชุม-จิ-ตะ-ส-มา-
ธิ-ส-ภาวะตามตรอง
ใคร่ครวญชนวน-มุ-หะ-ละ-ออง
เฉพาะต้องจะตัดเตียน
O ติดหล่มเพราะสม-มุ-ติ-พิ-การ
วิ-ญ-ญาณะจำเนียร
สิ้นร่าง บ่ ร้าง-ภ-วะ-เสถียร
จะ-ผละ-เปลี่ยนและเวียนไป
O ดวงเดียวจะเหนี่ยว-อ-ม-ระ-ภาค
กระ-แหนะ-พากย์เพราะอำไพ
ลอยลิบกระพริบ-บ-ทะ-ไสว
ภ-พะ-ใหม่ตะบึงมอง
O แห่ตามเพราะพราห-ม-ณะ-ประ-สิทธิ์
นิ-ร-มิตะรับรอง
อวลอรรถเพาะปรั-ช-ญะ-ส-นอง
ผิ-วะ-ต้องก็เป็นตาย
O กาลล่วงก็ห่วง-ทิ-ฐิ-พิ-สุทธิ์
ธรร-มะ-พุทธจะเปล่าดาย
แผกผันเพาะคัน-ถะ-อ-ภิ-ปราย
อ-ธิ-บายะเบี่ยงเบน
O หลงมุขะยุค-อุ-ป-นิ-ษัท
พิ-เคราะห์-อรรถะโอนเอน
หลงรสประพจน์-อุ-ต-ริ-เถร
ด-ละ-เวระแฝงไว้
O แยบคายอุบาย-มุ-สะ-ประ-โยค
ระ-บุ-โลกะครรไล
พรางปมเพาะสม-มุ-ติ-พิ-สัย
ระ-บุ-ให้พิกลเห็น
O แปลกตอนสะท้อน-ร-หั-สะ-วา-
ก-ยะ-พาหะแผกเพ็ญ
ข้ามภพบ่จบ-ประ-ทุ-ษะ-เข็ญ
ต-ละ-"เป็น"เพราะกรรมปรุง
O เหตุนำเพราะคัม-ภิ-ระ-ก-ถา
อรร-ถะ-ราชะอำรุง
ภาษปวงพระร่วง-ลิ-ขิ-ตะ-ฟุ้ง
ก-ละ-รุ้งจรัสเหลือ
O ต้นเงื่อนเสมือน .. วิ-สุ-ทธิ์-มรรค
เพราะ-ประ-จักษะจุนเจือ -
คลี่คลายสยาย-ภ-พะ-อะ-เคื้อ
ต-ละ-เหยื่อก็พร้อมยิน
O เหตุร้อน ณ ก่อน-ม-ร-ณะ-กาล
ฤ-จะ-ผ่านทลายภินท์
ย้อนสางมล้าง-ภ-วะ-อ-จิน-
ต-ยะ-สิ้นจะได้หรือ ?
O เมื่อเหตุเภท-ด-ละ-ประ-ภพ
ฤ-จะ-กลบซะด้วยมือ ?
รูปนาม ฤ ข้าม-ภ-พะ-กระ-พือ
ประ-ลุ-รื้ออดีตกรรม
O การณ์ใดกระไร-ด-ละ-เพราะเหตุ
บ-ริ-เฉทะเนื่องนำ -
ส่งผลทุรน-อ-ดุ-ระ-ล้ำ
ฤ-จะ-ห้ำประหัตหาย
O ความดับระงับ-ฤ-จะ-ประ-สบ
ผิ-วะ-ภพะวอดวาย
หนทางจะล้าง-ทุ-ระ-ส-ลาย
ฤ-จะ-หมายจะมองไหน ?
O เหตุ-ผล ณ บน-ระ-ยะ-ระ-หว่าง
ภ-พะ-ต่างจะอย่างไร ?
หรือเพียงจะเบี่ยง-ทิ-ฐิ-พิ-สัย
ระ-บุ-ไว้เพราะสับสน
O มืดมัวสลัว-รั-ฐะ-ไผท
ม-ติ-ไหนก็จำนน
แซ่ศัพท์สดับ-จิ-ตะ-ฉ-งน
เสนาะพ้นวิหคไพร !

O แม้นห้วงอรรณพนั้น - - - ไพศาล
ใช่กักทุกข์ทรมาน - - - หมดสิ้น
แต่อบายจดพรหมสถาน - - - ถ้วนหมู่
นับเนื่องเพียงกระผีกริ้น - - - รอด, พร้อม-นฤพาน !

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
29 มิถุนายน 2014, 03:59:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #3 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2014, 03:59:PM »
ชุมชนชุมชน



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2010&date=07&group=41&gblog=10


O ผู้หลงโลก..? O






วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร
ก-ละ-พิศพิมานบน
โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล-
ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ
O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ
จิตะยึดและยกยอ
โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ-
คณะขอจะอาจขืน ?
O บุญบาปและลาภขณะประนอม-
บทะย้อม ฤ อาจยืน-
หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน-
ระอุตื่น ณ ในตน
O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค
อติพากยะเพียบพล
กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน-
ธิพิกลพิการสอน
O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ
ก็ระส่ำระสายตอน
ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน
ฤ จะผ่อนพลังหลง
O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย-
มรรคะเอย..ฤ แอบองค์
ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง-
เคราะหะบงกะชาติบัว
O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้
ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว
โอภาสจะพาดภวะสลัว
ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ?
O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด
นยะพุทธะรัดพัน-
จิตสู่ประตูอริยะนั้น
ทะนุนันทิรูปนาม
O โดยภาษประกาศพระชินวร
ระบุสอนระบิลความ
ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม
ยุติทราม บ สืบสาย
O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด
กิจะวัตระวุ่นวาย
ท่วงทีพจีนยะสยาย
บุญะถ่ายสิทั่วถึง
O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต
มุประดิษฐะเพื่อดึง-
สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง-
บทะซึ่งจะคอยสรรค์
O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร-
วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน
ศรัทธาสถาปนะสวรร-
คะถวัลยะในทรวง
O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย
เกาะอุบายะบำบวง-
ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง
นิระห่วงจะเสียหาย
O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม
ฤ จะชม..ระลมชาย
สบทราบประภาพสุริยะฉาย-
รุจิบ่ายประโลมบัว ?
O โดยตรรกและหลักอริยะวาท
อธิชาติชมชัว
เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว-
อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์
O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ
เหมาะ, สมรรถะดวงมาน
เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน
จะทะยาน - ก็อาจยั้ง
O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก
สติตรึกและตรองฟัง
โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง
ทิฐิตั้งประคองตน
O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ
เหมาะจะยึดและตามยล
เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน-
ธิกะลมระลอกสาย
O เพียงนั้น..จะบันดละสมา-
ธิสภาวะในกาย
เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย
สุขะศานติซ่านซ้อน
O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์
พระ-เลาะลัดพเนจร
ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน-
ทุขะรอนปลาตร้าง
O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก-
ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง
ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง-
และมล้างพลังลม
O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ
ระบุทราบกะอารมณ์
รู้ครวญชนวนทุขะระทม
พิษะถมกระทบถึง
O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น-
รุจิแสนยะตราตรึง
ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง
ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย
O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา-
คมะวาระวุ่นวาย
ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย-
เฉพาะขายกะหมู่เขลา !
O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์
นิรมิตะมอมเมา-
จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า-
สติเฝ้าประโลมฝัน
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
พิเราะคีตะล้อมพัน-
ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์
ละสวรรคะรับเสียง !
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
เสนาะคีตะคล้อยเคียง-
ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง-
พฤติเบี่ยงประโคมบุญ !
O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม
ทะนุโสมนัส, จุน-
เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน-
ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม !

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 มิถุนายน 2014, 08:30:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #4 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2014, 08:30:PM »
ชุมชนชุมชน


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2010&date=01&group=41&gblog=1



O โวหารภาพพจน์ .. O

 
 
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
 
O ความ-คำเพราะคัมภิระประพจน์
ระบุบทะบาทมี
เหมือนคอยจะปล่อยทิฐิวิถี
บทะธีระหนักหนา
O ยั่วแย้งแสดงวุฒิวิภาษ
ผิวะปราศก็แต่ปรา-
รมภ์ตนจะป่นอัตะสถา-
นะสภาวะรูปรอย
O จึงคำเพราะคำระบุระบือ
ก็กระพือซะเลิศลอย
เชื่องเชื่อก็เหลือจะผละจะถอย
จิตะคล้อยบ่อาจขืน
O พากย์ชี้วิถีวัตระประพฤติ
อัตะยึดก็หยัดยืน
นำทางระหว่างนิละทะมื่น
จะลุตื่น ณ ในตน ?
O แว่วเสียงก็เพียง..อุระระรัว
นิระกลัวจะหลงกล
แห่ห้อมตะล่อมสัทะระคน
นยะล้นพิมลหลาย
O สรรสรรพะศัพท์ธิระประดิษฐ์
ตละคิดก็คมคาย
ว่อนวางพยางคะอภิปราย
จิตะคล้ายจะเคลิ้มฝัน
O หวั่นไหวกระไร..สุภะประพจน์
มธุรสะโรมรัน
หลักการก็ควานและเสาะกระสัน
อภินันทนาไทย
O การเมือง ณ เบื้องปุระสยาม
ขณะทรามละลามนัย
เสียงสู่ก็รู้มุสะสมัย
สุตะใด-ประดาเดียว
O เมื่อทราม..ละลามระยะประเทศ
นยะเลศะกรูเกรียว
คมคำกระหน่ำ..ฤจะเฉลียว
ผิวะเขี้ยวจะขบลง
O พรรณนาประดานยะประดุจ-
บริสุทธิแผ่วง
ไหนเลยจะเคยจะพิสวง-
อุปสงคะดั้งเดิม
 
 
 
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
 
O ลมตื่นระผืนน้ำ - - - ภพะต่ำก็ตวงเติม-
คำหวานประสารเสริม - - - ฤดิเริ่มก็ปรารมภ์
O โกสุมปทุมา - - - ดละภาวะหอมพรม
ผึ้งภู่ ฤ รู้สม- - - - มุติห่มจะร้างหาย
O ดอกขาวอะคร้าวรูป - - - วตะลูบก็รำบาย-
หอมฟุ้งจรุงหมาย - - - ผิวะตายจะยอมตน
O อำนาจและอาชญา - - - เสาะสภาวะเพื่อพล-
อวยเดชวิเศษผล - - - จะผละพ้น ฤ แผดเผา ?
O เนานันทะสรรเสริญ - - - ขณะเพลิน ฤ ผ่อนเพลา
ยศศักดิ์ฉลักเขลา - - - ก็ระเร้าฤดีรมย์
O ขัดแย้งเพราะแย่งยำ- - - - สัทะธรรมะติดตม
เคลิ้มขำกะคำคม - - - ขณะถ่มเลอะดินแดน
O แบ่งข้างระหว่างข้า - - - คุณะค่าก็คลอนแคลน
จึงอานุภาพแสน- - - - ยะจะแม้นจะมอดลง
O อำนาจและอาชญา - - - ดละทาสะรูปทรง
การเลศะเจตมง- - - - คละคงจะมีหรือ
O ร่มบุญ..สกุลคน - - - ธนะพละร่วมมือ
เล่ห์ฉันทะบันลือ- - - - ก็กระพือกระเพื่อมหาง
O เก่งกาจกระไรคน - - - คติวนและว่อนวาง
เชื่องเชื่อ .. ก็เหลือง้าง- - - - จะเสาะอ้างกะเหตุผล
 
 
 
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
 
O อึ้มแอ้มออกเสียง - - - นั้นเพียงเพื่อชน
เหลียวมองจ้องตน - - - คำรนโวหาร
O ฟังเถิดฟังคำ - - - ลึกล้ำหลักการ
อักโขโอฬาร - - - เพื่อบ้านเพื่อเมือง
 
O รับใช้อำนวย - - - ย่อมด้วยศรัทธา
หลงรักนักหนา - - - บอดบ้าเปล่าเปลือง
O ตอกลิ่มทิ่มแทง - - - พวกแดงพวกเหลือง
อกกรุ่นขุ่นเคือง - - - เชื่อเชื่องพอกัน
 
O เป็นไทด้วยชาติ - - - เป็นทาสด้วยใจ
ตื้นเขินเกินไหว- - - - ทันไขรำพัน
O เรื่องนึกตรึกตรอง - - - บกพร่องเกินฝัน
แว่วโจษโทษทัณฑ์ - - - หูหันรอเสียง
 
O ปรุงแต่งภาพพจน์ - - - งามรสวาที
ออกสื่อช่วยชี้ - - - วาดวีสำเนียง
O นั้นถูกนี้ผิด - - - รอพิศรอเพียง-
ความถ้อยร้อยเรียง - - - อยู่เคียงหน้าตน
 
O จับโยงเรื่องราว - - - รู้กล่าวรู้คาด
เพื่อชนทั้งชาติ - - - รู้ภาษรู้พล
O ตราบน้อมใจนับ - - - ตอบรับลุกลน
กี่ครั้งกี่หน - - - ทุกหนทุกครั้ง
 
O คือปราชญ์คอยปราม - - - ป้องทรามเข้าแทรก
จำนรรจ์จำแนก - - - ความแจกให้ฟัง
O จงร่ำจงเรียน - - - ถ้อยเธียรเพียรฝัง
อย่าหยุดอย่ายั้ง - - - ตอบตั้งศรัทธา
 
O เยี่ยงนี้คือชน - - - พล่ามบ่นรักชาติ
เยี่ยงนั้นคือทาส - - - ปลอดปราศอัตตา
O เยี่ยงนี้คือไท - - - ผู้ไร้บัญชา-
จัดตั้งสั่งหา - - - ด้วยค่าของเงิน
 
O ภาพนั้นดูดี - - - แต้มสีแต่งตัว
จากเท้าจดหัว - - - ถ้วนทั่วมองเพลิน
O ภาพงามเร้ารุม - - - ให้อุ้มหยอกเอิน
อิ่มร่ำจำเริญ - - - ปานเหินเวหา
 
O ผ่านหัวผ่านหู - - - รับรู้รับฟัง
ลึกล้ำกำลัง - - - ฝากฝังปัญญา
O ผ่านหูผ่านหัว - - - เร้ารัวศรัทธา
อาทรอ่อนล้า - - - ให้บ้าเข้าเบียน
 
O ความคำทำว่า - - - คิดข้าควรการ
สามารถสามานย์ - - - ควรอ่านข้าเขียน
O ความจูงฝูงชน - - - หวังผลต้องเพียร
ทอทาบภาพเธียร - - - วกเวียนตราบวาย

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
01 กรกฎาคม 2014, 08:07:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #5 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2014, 08:07:PM »
ชุมชนชุมชน

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2012&date=24&group=168&gblog=2


O ชละริ้วจรัสรอง .. O






วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O ริ้วพรายผกายสุริยะงาม
ขณะยามนะค่ำเย็น
ยินร้องคะนองวิหคะเห็น
จะละเล่นระเริงลม
O ร่ำร่ำ..ตะวันจะละจะลา
ประลุภาวะจ่อมจม
เห็นเห็น..ก็เพ็ญศศิวิกรม
ชุติห่ม ณ ห้วงหาว
O เหลือบแสงณแหล่งอุทกะผืน
ระบุคืนจะยังยาว
ริ้วลมระดมผิวะจะหนาว
ก็เพราะร้าวอุรารอน
O ครวญใคร่ไฉนอุระถวิล
ระอุจินตะกำจร
ครวญคร่ำระส่ำรตินิวรณ์
ฤจะถอนถวิลถึง
O เยียบเย็นเพราะเย็นศศินะแสง
รติแรงก็รัดรึง
โยกคลอนบ่ผ่อนพิษะคะนึง
ตละตรึงน่ะเต็มตรอง
O ใจเห็นจะเช่นอุทกะผืน
นิละขืนจะเข้าครอง
รูปเห็นก็เช่นกรรมะสนอง
พิศะต้องก็เจียนตาย..
O สืบสร้างระหว่างรหัสะเนตร
ประลุเจตะกำจาย
วาบอุ่นเพราะสุนทริยะสยาย
นยะถ่ายสิทอดถึง
O อาวรณ์สะท้อนประดุจะเถา-
วัลย์เร้ากระหวัดรึง
เช่นใจและใจขณะคะนึง
ภวะซึ้งก็บรรสาร
O ดุจปาริชาตินิรมิต
เฉพาะพิศะพิมพ์พาล
ดาลเดชวิเศษะพิสดาร
ก็สมาน ณ แรกมอง
O เพรงบุญจะหนุนรติพิจิตร
สุจริตะรับรอง
เพรงบาป ณ คาบบ่คละสนอง
ฤดิสองก็บรรสาร
O ร่วมบาตร ณ ชาติบุพะประภพ
ดละภพะร่วมพาล
แม่เอยเพราะเคยอธิษฐาน
อุปการะร่วมกรรม
O สองชาติสวาดิพิสมัย
สมะนัยะน้อมนำ
โอนใจและใจปณิธิสัม-
ผัสะย้ำสมานใย
O สืบจิตเพราะฤทธิ์อธิษฐาน
บุพะกาละก่อนไกล
เห็นพลันก็ปันรติพิสัย
พิสมัย ณ แรกมอง
O อาวรณ์สะท้อนประดุจะผิว-
ชละริ้วจรัสรอง
เนื้ออุ่นเพราะอุ่น ก-ระ .. ตระกอง
กระแหนะต้องก็เจียนตาย !



ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 กรกฎาคม 2014, 10:24:AM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #6 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2014, 10:24:AM »
ชุมชนชุมชน

O อุโฆษ..แห่งคำ O



เหมันตดิเรกฉันท์ ๑๕

O ความคำเพราะสัมผัสะจริต
นฤมิตละมุนละไม
รูปนาม และ งามพฤติพิสัย-
ดุจะให้ถวิละถึง
O เหมือนงามจะลามภวะภวัง-
คะประนังประนอมคะนึง
โดยเลศะเนตระระรึง-
บทะซึ้งผสมผสาน
O บทวรรคะอักษระประพนธ์
ประจุกลประกอบประการ
เพรียกพันธะวันอธิษฐาน
กระแหนะมานประมวลประเมิน
O เสียงคีตประณีตจะเลาะประโลม
ทะนุโฉมผชัญเผชิญ
ใจเอย ฤ เคย จะเคอะจะเขิน
และสะเทิ้นสะทกสะท้อน ?
.
.
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O คิมหันตะบรรลุอุตุช่วง-
ชละสรวงละหลั่งตอน
ฟ้าปลาบประภาพประดุจะศร-
ทิวะซ้อนผสานเสียง
O พากย์กรองสนองรติวิกรม
อภิรมยะร้อยเรียง
ถ้วนตอนสะท้อนนยะจะเพียง
ประลุเคียงกมลใคร
O หวังวรรคและอักขระประพจน์
พิเราะรสและความนัย
เพื่อคราญสมานรติพิสัย
อุระไห้คระโหยหา
O ความหวังจะสั่งกมละศรี
เสนาะมีสนองมา
มนต์ถ้อยจะปล่อยพละสถา-
ปนะฝ่าประโลมฝัน
O ร่ายมนตะดลฤทธิวิเศษ
บริเฉทะร่วมกัน
พลิ้วผ่านและดาลสมระขวัญ
รติมั่น..กะพี่ชาย
O มนต์นี้จะมีสมรรถะภาพ
ผิวะทาบบ่อาจคลาย
เหลือแต่จะแปรจิตะสยาย
ตละฝ่ายจะรวมฝัน
O คอยเจ้า .. ก็ราวจุละกระต่าย
พิศะหมายพระเพ็ญจันทร์
คอยเยือนเสมือนวรรษะวสัน-
ตะละหลั่นและหยาดลง
O คอยนั้น .. นิรันดระจะหมาย
นิระหน่ายกะจำนง
คอยใจและใจสมะประสงค์
กะอนงคะนับนาน


แปล.....


O ด้วยถ้อยคำนำนัยแห่งใจเจ้า
มารุมเร้าแนบชิด..ด้วยพิสมัย
สุดที่จะแอบซ่อน..อาวรณ์ใคร
จึงหวั่นไหวในอกสะทกสะท้อน
O เจ้าเอยเมื่อ..เผยความก็งามนัก
เข้ากุมกักใจอยู่ไม่รู้ผ่อน
ให้เสพทราบเสน่หา..ให้อาวรณ์
ก็สุดทอนทัดทาน..หอมหวานนั้น
O จำนรรจ์จากหัวใจของใครหนึ่ง
บอกซาบซึ้งพิสมัย...บอกไหวหวั่น
ส่งเว้าวอนผ่านย้ำถ้อยรำพัน
ก็สุดกั้นกีดความ..ที่ลามทรวง
O กำเริบความปรีดิ์เปรมด้วยเขมภาษ-
อันพิลาสพิเราะแสน..จนแหนหวง-
นั้นท่วมทับโถมถั่ง..ใจทั้งดวง
จนสุดล่วงพ้นผ่าน..หอมหวานนี้
O เสียงออดอ้อน..ซ้อนซ้ำถ้อยคำรัก
ก็จำหลักลงทรวง..เช่นบ่วงที่-
ผูกล่ามร้อยรัดรึง..คำนึง-มี
ให้ยินดี..ห่วงเห็นไม่เว้นวาย
O ลมอุสุมพ้นผ่าน..ไปนานเนิ่น
ให้เพลิดเพลินบทนิยามแห่งความหมาย
จนวสันต์หม่นคล้ำ..เข้ากล้ำกราย
ฟ้าพร่างพรายระเริงเต้น..ด้วยเส้นไฟ
O จึงร้อยเรียงคำพากย์..นี้ฝากสู่
เพื่อรับรู้..งามนั้นว่าสั่นไหว
เช่นวิชชุประภาพแผ่..เห็นแต่ไกล
คอยขับไขงามสรรพให้รับรู้
O ผ่านอักษรตอนคำมาย้ำจิต
บำบวงฤทธิ์แห่งอิฏฐาให้มาสู่
ผ่านรสความ..รสคำ..ความดำรู-
จะชื่นชูปฏิพัทธ์..รุมรัดใจ
O หอมหวานในความหวังจะปลั่งปลาบ
จะแทรกซาบซึ้งสู่ให้รู้ได้
มนต์แห่งชายจะเหนี่ยวหน่วง..ความห่วงใย
จนวาบไหววนเวียน...สุดเปลี่ยนแปลง
O โอมเทพ..พึงสดับถ้อยลูกร้อยร่ำ
ช่วยเสกซ้ำรำบาย..ความหน่ายแหนง
แทรกสุจริตคมคำลูกสำแดง
เถิด..ถ้วนแหล่งฟากฟ้า..จงอย่าเมิน
O สำทับให้อย่าสิ้น..ถวิลหา..
ร่วมพร่ำพร้องเจตนา...เถิด-อย่าเขิน
ให้เสน่หาก่อระลอกเข้าหยอกเอิน
ร่วมเพลิดเพลินอภิรมย์ที่สมยอม
O คอยเจ้า..เช่นกระต่ายที่หมายจันทร์
เพียงจะปันแสงปลั่ง..ร่วมหลั่งหลอม
เช่นหยาดฝนชื่นล้ำ..ได้ด่ำดอม
หยาดลงล้อมอุระผืนให้ชื่นเย็น
O จัก..รอคอยเช่นนั้นนิรันดร์อยู่
ด้วยหัวใจชื่นชู..ให้รู้เห็น
มองเถิด..ให้ทั่วถ้วน..อย่างควรเป็น
ใจจะเต้น..สั่นอยู่ ไม่รู้ยาม !
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 กรกฎาคม 2014, 09:01:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #7 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2014, 09:01:PM »
ชุมชนชุมชน

O คุรุชาติ O






O อักษรสะท้อนรัถยะปราชญ์
คุรุชาติควรชม
สูงค่าสุภาษิตะผสม
อธิคมะควรหมาย
O บาลีวิถีอนัญะมรรค
บริรักษะบรรยาย
ปลดเท็จเผด็จมุหะสลาย
อภิปรายะเปรียบเปรย
O ซับซ้อนบวรธรรมะประจักษ์
สัจะลักษณ์รำเพย
ขับเขลาระเร้าอรรถะเฉลย
นยะเผยบ่อำพราง
O ปรารมภะข่มทิฐิวิบัติ
ทุระวัตระตัดวาง
ชูหลักมุนินทระถะถาง
ระดะขวางและคอยไข
O พ่างพูนจรูญสุริยะรัง-
สิมะปลั่งประกายไกล
โลมแถนและแดนทิพะไสว
ฤ ไฉนบ่เห็นสรวง
O อำพนพิมลรัศมิแข
ฤ จะแผ่จะเผยดวง
ยามวันถวัลยะยะยวง
บ่มิล่วงมิเลือนสี
O ร่วมปลงดรงคะพจนารถ
วิปลาสะวาที
ร่วมปรามเพราะทรามวุฒิวิถี
ปรัศนีประโคมขรม
O แด่...ผู้เพราะรู้อนัตต์ลักษณ์
พิเคราะห์หลักมุปรารมภ์
แด่...ผู้เพราะรู้ภิสะปฐม
ศิระก้มประนมกร



ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 กรกฎาคม 2014, 08:24:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #8 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2014, 08:24:PM »
ชุมชนชุมชน


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2010&date=25&group=1&gblog=58



โสมส่องแสง ..






วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
(คำที่มีสระอะทั้งหมดให้อ่านแบบมีเสียงสระด้วย)

๗๕๑. คืนค่ำทิฆัม-พ-ระ-สะท้อน
ศ-ศิ-ธระรูจี
ส่องสาดเพราะปราศ-สุ-ริ-ยะสี
ธ-ร-ณีก็เหน็บหนาว

๗๕๒. โผแผ่วระแนว-ช-ละ-ระริก
ว-ตะ-พลิกก็พลิ้วพราว
วงแล่น ณ แผ่น-ท-กะ-สกาว
ข-ณะ-หาวพิลาสเห็น

๗๕๓. วังเวง ณ เพรง-บุ-พะ-สยาม
ข-ณะ-ยามนะเยียบเย็น
อกนวละล้วน-ถ-วิ-ละเพ็ญ
ฤ-จะ-เว้นประหวั่นไหว

๗๕๔. นับกาละผ่าน-ร-ติ-พิลาส
ด-นุ-นาฏะร่วมนัย
รวมพันธะนัน-ทิ-พิ-สมัย
ห-ฤ-ทัยะสุดถอน

๗๕๕. นานเนิ่นเผชิญ-ทุ-ขะ-ระรุม
พิ-ษะ-ทุมนัส-ทอน
ห่วงเห็นบ่เว้น-ฤ-ดิ-นิวรณ์
ฤ-จะ-ซ่อนจะรอนสูญ

๗๕๖. ไกลห่างระหว่างระยะประเทศ
ยุ-พ-เรศะอาดูร
ภพเห-ตุ-เชษ-ฐะ-และ-ผอูน
ต-ละ-สูรยะต่างแสง

๗๕๗. รุมร้อน ฤ ผ่อน-วิ-ต-กะขวัญ
ร-ติ-ทัณฑะทิ่มแทง
สาปใดกระไร-บ่-ผละ-บ่แผลง
ข-ณะ-แว้ง ฤ เหลือหวัง

๗๕๘. ห้อมห่อพะนอ-น-ยะ-ฉะอ้อน
ฤ-ดิ-อระแอบอัง
เคลื่อนครองสนอง-ภ-วะ-ภวังค์
ต-ละ-ครั้งก็สุดขืน

๗๕๙. เหยียบย่างระหว่างระยะตะวัน
ทะ-ลุ-คั่นระหว่างคืน
บรรจบประภพ-นิ-ละ-ทะมื่น
ข-ณะ-คลื่นระลอกวน

๗๖๐. แจ่มแจ้งเพราะแรง-อ-ธิ-ษ-ฐาน
พิ-ส-ดารก็บันดล
ด้วยอิทธิฤทธิ์-สั-ต-ยะผล
อ-นุ-สนธิสืบสาย

๗๖๑. ชาติใดฤทัย-ก็-จะ-กระหวัด
ป-ฏิ-พัทธะหนึ่งชาย
ช่วงภพจะลบ-ระ-ยะ-สลาย
จิ-ตะ-หมายจะผูกพัน

๗๖๒. ชาติใดฤทัย-จะ-ป-ฏิพัท-
ธะ-กระ-หวัดเสมอวัลย์
รัดล้อมประนอม-ร-หั-สะฝัน
กระ-จะ-มั่นกระจ่างหมาย

๗๖๓. โดยกาละผ่าน-อุ-สุ-มะยาม
ผิ-วะ-หวามและวุ่นวาย
ย่อมเนตรและเจ-ต-นะ-สยาย
น-ยะ-คล้ายจะรอคอย

๗๖๔. กี่คืนสะอื้น-วิ-ต-กะเศร้า
ทุ-ขะ-เร้าและหยัดรอย
เดือนปี ฤ มี-สุ-ขะ-ทยอย
ยุ-ติ-สร้อย .. และคืนสรวล

๗๖๕. คืนเปลี่ยวและเสี้ยว-ก-ม-ละเยา-
วะ-ก็-เคล้ากะคร่ำครวญ
ห่วงหา .. และอา-ดุ-ระ-กระบวน
ก็-กระ-อวละบีบเค้น

๗๖๖. เคลิ้มคลอพะนอ-ร-ติ-นิวรณ์
ดุ-จะ-อ้อนจะรอเอ็น-
ดูต้อง .. ตระกอง-ประ-ทุ-ษะเข็ญ
ยุ-ติ-เร้นปลาตเลือน

๗๖๗. รูปเอย .. เพราะเผย-ประ-ลุ-สุบิน
อุ-ระ-ถิ่นสะท้าน-เทือน
เพรงภพตระหลบ-บ-ทะ-เสมือน-
ก-ละ-เคลื่อนจะรับคน

๗๖๘. รูปเอย .. เพราะเผย-ป-ฏิ-ปทา
ดุ-จะ-ว่าจะเวียนวน-
รอบกรรม .. เพราะคำ-บุ-ร-พะพ้น
ด-ละ-บนและบำบวง

๗๖๙. ค่ำเปลี่ยวก็เหนี่ยว-บ-ทะ-คะนึง
ระ-อุ-ซึ้ง ณ ในทรวง
หล่อหลอมประนอม-ห-ทั-ยะดวง
ด-ละ-ห่วงคระโหยเห็น

๗๗๐. คาบรัตติกาล-บุ-พะประภพ
ก็-สงบและเงียบ-เย็น
อีกฟากนภา-ลั-ยะ ฤ เว้น-
ชิ-วะ-เล่นระเริงร้อง

๗๗๑. เพรางายผกาย-ป-ฐ-มะแสง
ทะ-ลุ-แทงประเทียบทอง
โชนฉายสยาย-รุ-จะ-ละออง
นิ-ละ-ผองก็ต้องผลาญ

๗๗๒. ผ่านคืนก็คืน-จิ-ตะ-ประหวัด
กิ-จ-วัตระวันวาน
อิ่มเอมเขษม-ก-ม-ละคราญ
บ-ริ-บาลบำเพ็ญบุญ


ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กรกฎาคม 2014, 08:29:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #9 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2014, 08:29:PM »
ชุมชนชุมชน



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2014&date=18&group=2&gblog=78



O หนึ่งในดวงใจ...O









ทวนไฟฉันท์ ๓๙

O พากย์นี้กรองเฉพาะหมายจะร่าย-วรร-ณะ-ขบวร
ประสาทะคิดประสิทธิควร - - - สงวนความ
หวังจะเอื้ออุบัติรหัสะงาม
"คนใกล้"จะไหวตาม - - - ลุตา

O ให้รับรู้ภวะซึ่งคะนึง-ส-หะ-ส-ถา-
นภาพกะรอพะนอสภา- - - - วะอารมณ์
เพื่อภวังคะผ่านผสานผสม
ข้องเกี่ยวและเกลียวกลม - - - ประการ

O สำนึกเถิด-บ-ทะนั้นจะสรร-คะ-พิ-ส-ดาร
ประดุจะล่วง ณ ห้วงสถาน - - - พิมานทอง
จังหวะแห่งถวิลฤสิ้นคระลอง
เมื่อนัยพิสัยนอง - - - ประนัง

O แม้นดวงเดียว-ร-พิ-แผงแสดง-พ-ละ-ประ-ดัง
วิโร-จ-นาประภานภัง- - - - คะปลั่งแดง
ช่วงระหว่างเพราะวาระกาละแปลง
ปรับเห็นและเร้นแสง - - - กะโสม

O ดั่งโรจน์แรง-สุ-ริ-ยันถวั-ล-ยะ-โพยม
กระอุกกระไอสมัยะโหม - - - ตระโบมหา
ดั่งประจบประจันบุหลันนภา
โลมคลื่นระรื่นถา - - - ผทม

O ตาวันบอกระยะต่างระหว่าง-ภ-วะ-ป-ฐม
วิตกะวัตรและทัศน์นิยม - - - ภิรมย์ยล
บอกจะเพียงจะเพื่อจะเอื้อพิมล
รอยห่างระหว่างหน - - - ฤเห็น

O ห่างเพียงรูปเฉพาะหมายเพราะปลาย-พิ-สั-ยะ-เร้น
กมละสรรค์อนันตะเป็น - - - จะเช่นปอง
คาบระหว่างประสิทธิ์วิจิตรสนอง
หวังเพียงจะเคียงตรอง - - - ตริตาม

O คาบคำนึง-ผิ-วะ-ตรงประสงค์-ร-หั-สะ-ความ
ผจงสมัยพิสัยะขาม - - - จะข้ามไข
ร้อยละเมียดละมุนกรุณะใคร
ผ่านวอนเลาะอ่อนไหว - - - ระแวง

O คืนแลวันจะส-มานเพราะผ่าน-รุ-จะ-แสดง
ขจัดประภาสพิลาสะแรง - - - ละแหล่งลง
ทัศนาเสมือนตะวันและจันทระทรง
ชั่วกัลป์อนันต์คง - - - ประคอง

O เกรงไร้สิ้น-ภ-วะนั้นจะปัน-บ-ทะ-ส-นอง
ประสาทะฤทธิ์ประสิทธิรอง - - - ละอองรมย์
อาจจะหมายวิวัฒน์อุบัติสม
เฝ้าคิดขจิตจม - - - ณ ใจ

O คือ..น้ำค้างระดะหยาดพิลาส-ชุ-ติ-พิ-ไล
สลับสล้าง ณ กลางไผท - - - ไสววาม-
นั้นจะผ่องและผายผกายพิราม
ยอแสงแจรงยาม - - - ณ ยล

O คือ..น้ำใจระดะหลั่งประดัง-อุ-ระ-ระ-คน
ละหยดผิว์สาปะนาบกมล - - - พิมลเหลือ
นั้นก็ผ่องและผายผกายอะเคื้อ
ยอแสงแจรงเชื้อ - - - เผชิญ

O คือ..สัมพันธ์ขณะแรกก็แทรก-บ-ทะ-ประ-เมิน
สุพจนีวิถีเผอิญ - - - ก็เพลินพร้อง
งามก็พลันสถาปนาคระลอง
ฉาบอุ่นละมุนจอง - - - ณ ใจ

O คือ..งดงาม-ถิ-ระ-พร้อมประนอม-ร-หั-สะ-นัย
อุบัติซึ้งคะนึงสมัย - - - กะใครนั้น
หมายละล่องถวิลคละจินตะบรร-
โลมทรวงและหน่วงขวัญ - - - พธู

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O ขวัญเอย..จะเย้ยจะเยาะจะหยัน
เถอะนะ..ขวัญก็ลองดู
แรงหวานจะซ่านกมละรู้
นยะชู้จะเชื้อเชิญ

O จงต้านและทานกะ-พิ-ส-มัย
ผิ-วะ-ใกล้จะก้ำเกิน
ป้องไว้นะใจ-ผิ-วะ-เผอิญ
จะสะเทิ้นสะท้านไหว

O พากย์นี้พิถีทะลุทะลวง
เฉพาะทรวงและดวงใจ
หมายตรึงระรึง-ร-ติ-พิ-สัย
ระบุให้ละห้อยหา

O คำถ้อยจะปล่อย-น-ยะ-ประ-สิท-
ธิประชิดและบัญชา
จักเริ่มกระเหิม-พ-ละ-ส-ถา-
ป-นะ-ภาวะอาวรณ์

O หมายพากย์สัมผัสะต้องตระกอง-จิ-ตะ-ส-มร
ประสงคะวางระหว่างนิวรณ์ - - - ฉะอ้อนนั้น
หวังจะพิมพ์เพราะศัพทะขับประพันธ์
กล่อมเกลี้ยงประเดียงขวัญ - - - นะเอย
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
22 กรกฎาคม 2014, 06:14:AM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #10 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2014, 06:14:AM »
ชุมชนชุมชน



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=12&group=42&gblog=214


O หญิงเอย .. ! O






O เผยหน้า .. ประดาบุรุษะเพศ
ระบุเจตนะแห่งใจ
เผยว่า .. ประดาสติ, วิสัย-
ดุจะใกล้จะไหม้เกรียม
O เผยคิด .. จริตะมุกระทำ
ระบุตำหนิเฝ้าเตรียม
รับส่งประสงค์ บ ละ บ เหนียม
มุหะเปี่ยม บ อาจปลง
O เฒ่าแก่ก็แค่ประทุษะภาษ
อภิวาทะร่วมวงศ์
เพ็ญเขลาเพราะเยาวะอภิมง-
คละบงกะชาติบัว
O ผู้ดี .. กระนี้ เฉพาะเจาะจง
จะณรงคะด้วยกลัว-
อำนาจปลาต .. จิตะระรัว-
พฤติชั่วจะโฉ่ฉาว
O ปากปลิ้น .. และลิ้นขณะกระหวัด
ปริยัติก็ยืดยาว
สีดำเพราะคำกระแดะก็ขาว
ปุระหนาวก็ร้อนระรุม !
O แก่เฒ่า .. และเยาวะจะณรงค์
เพราะประสงคะเข้าคุม-
อำนาจ, และอาชญะจะสุม-
สุขะชุ่ม ณ หัวใจ
O หญิงเอย เพราะเผยประพฤติกรรม
อุปถัมภะจัญไร
ปากอ้า .. จะพานิกระไทย-
สุขะได้ไฉนหนอ
O ขรม-โข สิ โมฆะพจนารถ
คติทาสะทอดทอ
พล่ามไว้ ก็ใคร .. ละนะจะรอ-
พิเคราะห์ข้อคดีความ ?
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 กรกฎาคม 2014, 08:55:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #11 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2014, 08:55:PM »
ชุมชนชุมชน




O เพ็ญเดือนหก .. O







O งดงาม ณ ยามชุติวิพุธ
บริสุทธิดำรง
บรรสาระศานติพิศวง
ละประสงคะสืบสาย

O งามเด่นเพราะเพ็ญศศิพิลาส
รุจะสาดและกำจาย
โลมฟ้าคละพานิละสลาย
นยะหมายจะเปรียบเหมือน

O บรรโลมโพยมบทะจรัส
บริพัตรเพราะดาวเดือน
อกเอ๋ยเพราะเชยนยะสะเทื้อน
ฤ จะเคลื่อนจะคลายสูญ

O ช่วงนั้นถวัลยะพิสิฏ
เพาะจริตะจำรูญ
หล่อหลอมถนอมพฤติวิทูร
ละอดูระหักหาย

O ท่ามกลางพยางคะบริภาษ
วิปลาสะกำจาย
เลือนรางระหว่างรัถยะหมาย
ขณะบ่ายบ่รายเรียง

O เขาว่า .. เพราะว่าผิวะสดับ
เสนาะศัพทะสำเนียง
ปานว่าจะพาทิพยะเสียง
ประลุเคียงประคองขวัญ

O ยินว่า .. เพราะว่าคติวิจิตร
ผิวะคิดก็คมครัน
จึงว่าเพราะกว่าอรรถะสวรรค์
กละคันถะควรขวาย

O ยากแต่จะแปรศิระชะเง้อ
ผิวะเพ้อเพราะบรรยาย
เปรียบเข็ญจะเร้นอัตะสยาย
ธิระผายและเพียรเผย

O เกินกาลจะผ่านอริยะวาท
อธิชาติชมเชย
ล่วงถิ่นมุนินทระจะเผย
สัจะเกยมโนกรรม

O จึงภาษประหลาดระบุระบือ
มุหะถือผิว์คือธรรม
จึงพาละผ่านบทะกลัม-
พระซ้ำกระหน่ำเสริม

O อักโขมโนทัศนะอ้าง
นยะต่างสิแต่งเติม
ผ่านวาทะปราชญะเฉลิม
จิตะเหิมบ่เคยหาย

O ดั่งโลมและโหมวตะสะบัด
ชะธวัชะปลิวปลาย
อวดอยู่ก็ภูษิตะสยาย
สิละม้ายจะง่ายเห็น

O เฉดรงคะบ่งรัฐะประจักษ์
บริรักษะร่มเย็น
บอกผู้ศัตรูสุขุมะเพ็ญ
ผิวะเร้นจะรุกราน

O ลมฤทธิ์อวิชช์ผิวะกระชั้น
ฤจะทันจะทัดทาน
เห็นแต่จะแปรมุหะผสาน
อวตาระรูปหลง

O มิจฉาประดาขณะกระหวัด
ปริวัตระเวียนวง
ฤๅรู้จะสู่มรรคะประสงค์
ถิระทรงประภัสสร

O อวดอยู่ก็ภูษิตะประหลาด
วิปลาสะอาภรณ์
โลมฤทธิ์อวิชช์บทะสะท้อน
ฤจะผ่อนสะพัดผืน

O หลงศรัทธ์ระบัดทิฐิพิลาป
รสะซาบก็ยากคืน
เว้นผู้เพราะรู้วิชช์จะขืน
ประลุตื่นณในตน

O เศร้านั้นเพราะนันทิวิปลาส
คติทาสะจำนน
สิ้นหวัง ฤ ดั่งอุตริฉล
ทุพพละปล้นธรรม

O งดงามก็ยามทิฐิวิพุธ
บริสุทธิเนื่องนำ
นัยแท้จะแผ่ศักยะล้ำ
สัทะค้ำบ่คลายคลอน

O อัญชลิตพระพุทธน้อม.....นำใจ
ต่างประทีปชวาลไข............ขจ่างเรื้อง
ปลิดป่นมืดหม่นใน.............สำนึก สิ้นนา
ครวญใคร่หมายปลิดเปลื้อง...เท็จถ้อยเดียรถีย์ ฯ
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
03 สิงหาคม 2014, 08:21:AM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #12 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2014, 08:21:AM »
ชุมชนชุมชน

O ขอบขันธปราการ .. O



O แว่วบท-สุ-พจ(ะ)-นะ-ทะ-ยาน
พิ-ส-ดาร-ก็-บันดล
แฝงเลศ-และ-เจต(ะ)-นะ-ระ-คน
อ-นุ-สน-ธิ-สื่อสาร
O โลกันต์-ม-หรร-ณ-พะ-ส-มุทร
ร-ณ-ยุทธ-กะ-วิญญาณ
จากสรร-คะ-อัน-สิ-ริ-พิ-ศาล
มุ-หะ-ผ่าน-ตะ-ล่อมตรึง
O ป่วยการ-จะ-ผ่าน-ทิ-พ-ยะ-คำ
ระ-บุ-นำ-ลุ-คำนึง
ป่วยการ-จะ-ผ่าน-ร-หั-สะ-ถึง
ภ-วะ-ซึ่ง-ป-ลาตทรง
O ล้วนสรร-พะ-ศัพท์-ธิ-ระ-ประ-ดิษฐ์
กระ-อุ-ฤท-ธิ-ธำรง
ชูกรร-มะ-ค้ำ-ชิ-วะ-ด-รงค์
วั-ฏะ-วง -บ- เว้นวาง
O เบื้องบทสุพจ(ะ)-นะ-ประ-พิมพ์
สั-ตะ-ปริ่ม-จะ-อับปาง
เปลื้องคำ-ก็-คัม-ภิ-ระ-พ-ยางค์
จะ-ผละ-ห่าง-ก็-กล่าวหา
O หวานลิ้น- บ่- สิ้น-ร-สะ-เขษม
ด-ละ-เปร-มะ-เอมอา-
รมย์ยิน-ถ-วิล-บ่-ละ-บ่-ลา
บ่-ละ-คว้า-และ-คลุกคลี
O ต้องโสต-ประ-โมท(ะ)-ยะ-ระ-บัด
อ-วิ-ภัช(ะ)-วาที
บ่งทิศ-ข-จิต-พฤ-ติ-วิ-ถี
ส-ดุ-ดี-บ่-เว้นวาย
O อบอุ่น-กะ-สุน-ท-ริ-ยะ-ภาพ
ข-ณะ-ทาบ-แตะ, ทักทาย
อุ่นหนอ-จะ-พอ-ทุ-ขะ-ส-ลาย
พิ-ษะ-คลาย ..- ฤ- เคยมี ?
O เพียงแย้ม-ก็-แง้ม-อั-ตะ-ประสาร
อ-ว-ตาร(ะ)-ฤทธี
พร้องบท-และ-รส(ะ)-พ-จ-นี
ติ-ร-ถีย์- บ- บันเทา
O ดำเนิน- บ่- เกิน-จุ-ณะ-ส-ภา-
วะ-จะ-ว่า-บ่-พ้นเงา
สมมุติ(ติ)-ฉุด-พิ-ริ-ยะ-เขลา
มุ-หะ-เปล่า-ก็-เข้าปน
O กบหมอบ-เพราะ-ครอบ-จุ-ละ-กะ-ลา
จะ-ตริ-ว่า-น-ภาบน
เวิ้งว้าง-เพราะ-ร้าง-รุ-จะ-ระ-คน
นิ-ละ-ปน-ฤ-เห็นปลาย ?
O ตัวเคลื่อน-เขยื้อน-วรร-ณะ-กระ-ทบ
ก-ละ-ภพ(ะ)-พานกาย
ตัวกู-ก็-รู้-แสยะ-ส-ยาย
จะ-ส-ลาย -บ่-ง่ายแล.
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 สิงหาคม 2014, 06:41:PM
aasdang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 91
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 197



« ตอบ #13 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2014, 06:41:PM »
ชุมชนชุมชน

O เส้นทาง..ที่วางทอด O






O เท้าย่ำกระหน่ำอุทกะผืน
ขณะคลื่นสงัดรอย
ซ่าเสียงก็เพียงชละทะยอย
บทะคอยละห้อยครวญ
O หมายงาม..จะข้ามทกะมหรร-
ณพะคั่นประจบจวน
หมายใจจะไหวบทะกระสรวล
ระอุอวละแทรกซ้อน
O พบงาม ณ ยามอรุณะสาง
ขณะย่าง ณ ทางจร
พบเจอก็เผลออุระสะท้อน
เพราะนิวรณะว่าย-วน
O เหยียบย่างระหว่างสุริยะแสง
ประลุแต่งประโลม”ตน”
คดเคี้ยวเลาะเลี้ยวสรรพะระคน
อนุสนธิปรนเปรอ
O พรรณาประดากุสุมะชา-
ติพิลาสะเลิศเลอ
กรองกลิ่นประทิ่นรสะเสนอ
ก็ละเมอสุมาลย์มอม
O ช้อยช่อ..พะนอพิศะขบวร
วตะอวล ฤ อดออม
โลมลูบและจูบทะนุถนอม
ขณะหอมระบัดหวน
O เกรียวกรูเพราะรู้รสะประทิ่น
ภุมรินะบินทวน
แห่ห้อมพะยอมพละกระสรวล
กระอุอวละอิ่มเอม
O ก้าวย่างระหว่างมรรคะคระลอง
ตละปองก็ปรีดิ์เปรม
เฉกภู่เพราะรู้บทะเขษม
รสะเขมะรุมรม
O โลมพลอดตลอดรัถยะหมาย
จะละลายระหว่างลม
คือใจเพราะไร้คตินิยม
ทิฐิข่มและคอยขืน
O หลังลมระดมพละกระโชก
พฤกษ์โยกและหยัดยืน
อ่อนเอนกระเวนบทะบ่ฝืน
ก็จะคืนจะยังคง
O พร่าพรางธุมางค์ขณะตรลบ
ฤ จะสบกะรูปทรง
พร่านัยกระไรจะพิศวง
และประสงคะสืบสาว
O แจ้ง, หม่นระคนบทะประดัง
ตละครั้งและต่างคราว
งดงาม ฤ ทราม ฤ จะอะคร้าว
ระยะก้าวก็บงการ
O ก้าวไปและใจก็ทรนง
อุปสงคะดวงมาน
กรกุมผชุมจิตะผสาน
อุปทานก็ถ่ายถึง
O ร้อน, ร่มและลมพละกระหน่ำ
ยุตินำลุคำนึง
แทนร้อนก็ซ้อนนยะระรึง
บทะซึ้งก็บรรสาร
O ผ่านผายผกายนัยนะหลอม
อุระอ้อมก็พร้อมการณ์
อ้อมกอดจะพลอดกะทรมาน
ผิวะผลาญก็ยินดี.



แปล ..



O เจ้าเอยยกก้าวย่างอยู่กลางน้ำ
แลเบื้องต่ำราวกระจกที่วกไหว
ซ่าเสียงเพียงซบเร้ารอยเท้าใคร
กระซิกไห้แว่วอยู่ไม่รู้วัน
O หมายรูปงามรูปฝันข้ามอรรณพ
มาบรรจบห้วงใจที่ไหวหวั่น
หมายแววตาวาบวับขึ้นฉับพลัน
เมื่อรูปหนึ่งใครนั้นเข้าพันธนา
O พบงามก็เมื่อยามอรุณรุ่ง
เริ่มใจมุ่งหมายมั่น..พร้อมฟันฝ่า
ร่วมเส้นทางสัญจรเร่ร่อนมา
แต่งคุณค่าหลากหลายขึ้นว่าย-วน
O ระยะช่วงทิศทางก้าวย่างเหยียบ
ร้อน, เย็นเยียบ..โลมสลับพาสับสน
ละครั้งผ่านสะท้านทั่วทั้งตัวตน
ละครั้งหนสั่งสมสุดข่มคลาย
O เบ่งบานแห่งบรรดาบุปผาชาติ
เผยพิลาสสีสัน..ท่ามวันฉาย
หอมกุสุมรุมร่ำลมรำบาย
ก็กำจายรอบภิรมย์ให้สมยอม
O ดูเถิด..ช่างช้อยช่อพะนอพิศ
รูปวิจิตร, กรอมถิ่นด้วยกลิ่นหอม
สุดจะหักใจข่ม..ไม่ดมดอม
จะหักห้อมหอมนั้นได้ฉันใด
O ประหนึ่งภู่ภุมรินที่บินว่อน
เมื่อลมย้อนหอมนั้น..ย่อมหวั่นไหว
ถวิลหวานเกสราบุปผาไพร
จะแห่ห้อมตอมไต่..ทุกตัวตน
O สืบทอดเท้าก้าวย่างในทางเปลี่ยว
โค้ง, คดเคี้ยว, เรื่อรอง, มืดหมองหม่น
จึงเผยตามสำทับ..ให้อับจน
และคอยปรนเปรอให้..หวั่นไหวตาม
O มีเงาทอดยืดยาวทุกคราวย่าง
มีรอยอ้างว้างเงียบให้เหยียบ-ข้าม
มีวังเวงวิเวกบท..มีงดงาม
มีหยาบหยามขมขื่นให้ตื่นรับ
O หลังลมล่องแรงไหล-โลมไพรพฤกษ์
กิ่งลั่นคึกอ่อนเอนกระเวนกระหยับ
ดอกใบพลิกหงายคว่ำร่วงสำทับ
ต้นรากกลับฝ่าฝืนขึ้นยืนคอย
O พรางฝุ่นหนุนละอองขึ้นครองถิ่น
บดบังสิ้นแสงเงาจม..เศร้าสร้อย
พรางนัยสุดชี้ช่องบอกร่องรอย
ย่อมปรุงปล่อยตามฤทธิ์อันจิตมี
O แจ้งหม่นเปลี่ยนปรุง..อำรุงรอบ
ค่อยค่อยครอบลงกัก..ส่วนศักดิ์ศรี
ขีดเส้นโลกถ้วนทั่ว..แยกชั่วดี
ตัดสินชี้ถูกผิดทุกทิศทาง
O ก้าวไปด้วยหัวใจที่ทรนง
เคียงโฉมยงร่วมยาก..ฝ่าขวากขวาง
ใจแนบใจ..มือกุม, มือนุ่ม-นาง
มีศรัทธาร่วมสร้างพราวพร่างนัยน์
O กี่ร้อนจึงยากร้อนกว่าก่อนนี้
ร่มจะมีกี่ร่ม..เป็นร่มให้-
ลมจะโหมแรงผ่าน..ให้ผ่านไป
เพียง..หัวใจรูปรองที่ต้องการ
O มือกุมเกี่ยวสบนัยน์..หัวใจหลอม
เนื้ออุ่นหอม..รุมเร้า..ทรวงเผาผลาญ
พรั่งพร้อมอยู่แอบออ..ด้วยทรมาน
ยอมวายปราณมรณา..ทั้งอาลัย.



ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s