>>> เชิญตามล่า อวิชชา...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 04:10:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: >>> เชิญตามล่า อวิชชา...  (อ่าน 17032 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 มิถุนายน 2014, 04:49:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 04:49:PM »
ชุมชนชุมชน





อวิชชาต้นตอก่อภพชาติ
มีอำนาจเหนือใครในสงสาร
ครองใจสัตว์ชัดแจ้งแหล่งตัวการ
เกิดสังขาร ชาติ ชรา พาเวียนวน

หากตัดสิ้นอวิชชาตัวพาเกิด
จะล้ำเลิศเกินใครได้มรรคผล
ตามธรรมะพระสุคตทศพล
จิตหลุดพ้นสู่ทิพย์พระนิพพาน

อวิชชาแปลว่า "ความไม่รู้"
จะมาคู่กับกิเลสเหตุประหาร
อธิบายภาษาวิชาการ
ยากจะผ่านคลายสิ้นอจินไตย

ต้องพึ่งพาสัมมาปฏิบัติ
จนแจ่มชัดตัวตนพ้นสงสัย
เห็นกิเลสกลับกลอกทั้งนอกใน
จึงบอกได้อวิชชาตามบาลี

เพราะจิตหลงอวิชชาจึงพาเกิด
พร้อมกำเนิดกิเลสเหตุบัดสี
กิเลสพาสร้างกรรมทำอัปรีย์
จึงเกิดมีวิบากจากผลกรรม

เมื่อเสวยวิบากจากผลก่อ
กิเลสก็เกิดกายหมายขย้ำ
คล้ายกงเกวียนเวียนรอบเป็นกรอบนำ
เป็นวัฏฏะลึกล้ำซ้ำรอยวน

หากจะตัดวัฏฏะละสาเหตุ
คือกิเลสภายในให้ปี้ป่น
ตัดวงกรรมซ้ำซากวิบากกล
จิตจึงพ้นหม่นหมองครองวิชชา

โดยใช้มรรคแปดอย่างทางวิมุตติ
ตามคำพุทธตรัสไว้ไตรสิกขา
ศีลเป็นบาทตามขั้นถึงปัญญา
อีกสมาธิตั้งสมังคี

ต่อตอน ๒ (สุดท้าย) ด้านล่าง...

 เคารพรัก

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
11 มิถุนายน 2014, 05:01:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 05:01:PM »
ชุมชนชุมชน

กิเลสหยาบปราบด้วยศีลให้สิ้นซาก
ระวังปากมือเท้าเราถ้วนถี่
มิให้เผลอก่อกรรมทำไม่ดี
สติมีทุกครั้ง ยืน นั่ง นอน

กิเลสลึกปานกลางท่านวางหลัก
สาหัสนักไม่ง่ายจะถ่ายถอน
ปราบด้วยธรรมสมาธิมีขั้นตอน
โดยสังวรจิตนิ่งจนดิ่งนาน

กิเลสขั้นเอกอุอนุสัย
จำต้องใช้ปัญญามหาศาล
ปัญญาขั้นสูงศักดิ์มัคคญาณ
จึงประหารกิเลสสิ้นไม่ยินดี

ด้วยเดชศีล สมาธิ ปฏิบัติ
ตบะชัดเป็นแรงส่งตรงวิถี
สู่ปัญญากล้าแกร่งแหล่งอินทรีย์
ข้ามโลกีย์หนีพ้นจากกลกาม

อวิชชามาพร้อมกับกิเลส
เป็นตัวเหตุผูกไว้ในภพสาม
เมื่อดับเหตุผลก็ดับมิกลับตาม
หมดเสี้ยนหนามตรงนี้...นี่นิพพาน

 ชอบใจๆ เคารพรัก

"มุนีน้อย"


(ปล. พยายามอธิบายแบบชาวบ้านๆ ง่ายที่สุดแล้ว ...ได้แค่นี้55 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)
ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
11 มิถุนายน 2014, 10:53:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #2 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2014, 10:53:PM »
ชุมชนชุมชน


อวิชชา แปลว่า "ความไม่รู้"

สู สู สู ก่อไฟ ตั้งไหข้าว
สองมือซาว น้ำออก ถอกเทใส่
จะตักบาตร ก่อนรุ่ง รีบเร็วไว

นึ่งไม่เป็น บอกให้ เฮาบ่ฮู้...

สู สู สู ลงท่า เอาผ้าซัก
ซิ่นทีนจก อกปัก เสื้อถักไหม
เอาแปรงปัด ขยี้ ถูขี้ไคล

ซักไม่เป็น บอกให้ เฮาบ่ฮู้...

สู สู สู เก็บชาม ช้อนจานล้าง
รวมลงอ่าง แก้วเหยือก มันเยิ้มไข
น้ำยาฟอก เปิดฝา ตราซันไลท์

ล้างไม่เป็น บอกให้ เฮาบ่ฮู้...

สู สู สู ปั่นรถ ไปตลาด
เลือกผักกาด คั่วแกง กับเนื้อไก่
ซื้อเครื่องปรุง สำเร็จ เสร็จทันใจ

แกงไม่เป็น บอกให้ เฮาบ่ฮู้...

สู สู สู นวดแข้ง เข่าขึ้นขา
มันปวดชา พิกล สุดทนไหว
อย่าขยำ คลำค่อย ค่อยลูบไล้

นวดไม่เป็น บอกให้ เฮาบ่ฮู้...

เฮาบ่ฮู้ แปลว่า เราไม่รู้ บาปไหมครับท่าน

 เอ้อ..จริงว่ะ

รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 มิถุนายน 2014, 09:32:AM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #3 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2014, 09:32:AM »
ชุมชนชุมชน


มิสามารถควบคุมความรุ่มร้อน
จิตตะรอนจรจากซากสังขาร
กายเป็นบ่าวรับใช้ไร้วิชาญ
เกิดอาการผุดผลิปราศตริตรอง

ยากควบคุมปสาทะมโนนึก
สิ่งตกผลึกเก่าใหม่ในทั้งผอง
มันหลั่งไหลเลอลามตามคะนอง
พ้นหับห้องพิกลดีปนเลว

อันค่าดีมีนิดผิดผกแผก
ดีสาแหรกแตกผงลงหุบเหว
ยังลุกโลดโชติช่วงดังบ่วงเปลว
รอบองค์เอวมากมายร้ายทุรน

ยิ่งกำหนดกดดันรั้นทะลึ่ง
ในหูหึ่งม้วนกลับส่อสับสน
มักล้อเล่นเช่นลิงโยกวิ่งวน
เอาผู้คนแสนเบื่อเหลือระอา

สนุกทั่วชั่วแวบหลังแลบลิ้น
รู้สึกสิ้นหายพลันเปล่าหรรษา
ความเสียใจโถมถั่งประดังประดา
กราบขมาขอโทษโปรดอภัย

สูดหายใจลงลึกผนึกปอด
ปล่อยลมลอดระบายคลายสั่นไหว
จับไม้กวาดกวาดเหตุกวาดเศษใย
ปลอดนอกในปลงปลิดอวิชชา

กราบขออภัยท่านมุนีที่กระผมเขียนออกอ่าว(กระทู้ข้างบนครับ)

 เคารพรัก

รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
12 มิถุนายน 2014, 02:34:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #4 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2014, 02:34:PM »
ชุมชนชุมชน


โอ้เจ้าตัวอวิชชามันท่ามาก
มันเดินหมากซับซ้อนซ่อนเงื่อนไข
คอยจับจ้องจู่โจมโหมห้วงใจ
หากว่าใครหนีไม่พ้นต้องจนมุม
• • •
มันแอบมาตอนเช้าเฝ้าจนสาย
พอตกบ่ายค่อยย่องเข้าซ่องสุม
ใครไม่รู้เท่าทันถูกมันรุม
ช่างชุกชุมจริงนะอวิชชา
• • •
ไม่มีตัวมีตนให้คนเห็น
แต่ลูกเล่นมากมายหลากหลายท่า
เผลอนิดเดียวดับจิตอนิจจา
ทั้งชีวาตกเป็นทาสมิอาจฟื้น
• • •
เป็นเพียงแค่สัตว์โลกผู้โศกส่ำ
วนเวียนดำผุดว่ายไม่อาจฝืน
ท่ามสายธารจมหายตะกายยืน
เสาะหาพื้นแห่งธรรมช่วยนำทาง
• • •
อวิชชาพาใจให้มืดบอด
รากถึงยอดหนามไหน่ขอไกลห่าง
เข้ากินปอดตับไตไม่เว้นวาง
สิงกับร่างแอบหลบจนซบดิน

• แซมค่ะ•
 งง....
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
12 มิถุนายน 2014, 09:03:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #5 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2014, 09:03:PM »
ชุมชนชุมชน

ตอบ รพีกาญจน์...

อวิชชา มิใช่ในตัวบาป
เป็นเพียงคราบมายาพาจิตหลอน
ครอบงำจิตธาตุรู้เป็นคู่จร
พาเร่ร่อนเกิด-ตายหลายกัปป์กัลป์

แต่ผลพวงจากจิตอวิชช์ทาบ
จึงเป็นบาปจากกรรมที่ทำนั่น
ยามสังขารเกิดก่อต่อชีวัน
วิญญาณพลันสานต่อก่อรูปนาม

เกิดผัสสะ สฬายตนะ
ปฏิฆะเวทนาตัณหาสาม
อุปาทานยึดมั่นก็พลันตาม
เกิดทุกข์หามผูกมัดเพราะอัตตา

แล้วสร้างภพก่อชาติอนาถแท้
จึงเกิด แก่ เจ็บ ตาย หมายสังขาร์
สร้างบาปบุญวุ่นวายหลายเพลา
ตราบปัญญาอรหัตตัดวงจร

"นึ่ง,ซัก,ล้าง,แกง,นวด" ยามปวดข้อ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ
อาจจะพอซู่ซ่าคราพักผ่อน
เพียงสนุกชั่วคราวก็ร้าวรอน
อย่าอาทรมิถือคือน้ำใจ ยิ้มแก้มแดง

"นึ่ง,ซัก,ล้าง,แกง,นวด" ยามปวดเอ็น
มิถือเป็น "อวิชชา" มาแต่ไหน
มิเป็นบาปทราบเห็นประเด็นใด
เพราะมิใช่ "กรรมบถ" ตามกฏเกณฑ์

 หัวเราะเยาะ เคารพรัก

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
13 มิถุนายน 2014, 12:04:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #6 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2014, 12:04:AM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก "แซม"...

๐ อวิชชาฝังจิตติดกิเลส
มีขอบเขตกว้างไกลไม่จบสิ้น
ครองพื้นที่สี่ห้องของดวงจินต์
เที่ยวเกาะกินใจสัตว์ปัฐพี

๐ ทั้งสามภพสยบให้ในอำนาจ
มิบังอาจต่อรองต้องหลบหนี
แม้นสู้รบจบพ่ายกลายธุลี
ต้องเสียทีอวิชชาพญามาร

๐ อวิชชามีอาวุธสุดร้ายกาจ
ทรงอำนาจฟาดฟันลั่นประหาร
สยบคน เทพดา มาช้านาน
เดรัจฉานยิ่งไม่รอดต้องวอดวาย

๐ กิเลสกามคืออาวุธสุดยอดนั้น
อาจฟาดฟันถึงพรหมให้จมหาย
คือความโลภ โกรธ หลง ดำรงกาย
พรหมทั้งหลายยังไม่สิ้นความยินดี

๐ โดยชอบใจในฌานสมาบัติ
จิตข้องขัดมัดไว้ในสุขี
เป็นโลภเจตสิกมิหลีกลี้
เจือราคีองค์ฌานที่ซ่านทรวง

๐ ด้วยเหตุนี้อวิชชาจึงกล้าแกร่ง
ทั่วทุกแห่งแหล่งหล้ามาแดนสรวง
ต่างยอมพ่ายอวิชชาที่มาทวง
มิอาจล่วงวิสัยเพราะใจยอม

๐ มีเพียงพระพุทธองค์ที่ทรงพ้น
ดับวานกลอวิชชาที่มาหลอม
เพราะตรัสธรรมชำแรกสิ่งแปลกปลอม
กิเลสพร้อมแตกพ่ายสลายพล

๐ เมื่อมิอยากเป็นทาสอำนาจหลง
ตั้งจิตตรงต่อธรรมนำส่งผล
เป็นสาวกพุทธบุตรสุดวิมล
จิตโผล่พ้นมืดมิด"อวิชชา"

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
13 มิถุนายน 2014, 01:03:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #7 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2014, 01:03:AM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตค่ะ

...เขาหล่อเหลา เอางาน เอาการเก่ง
ใจนักเลง ดั่งหมาย ชายมีค่า
มอบกายใจ ให้แมน ควงแขนพา
มิรู้ว่า มีเมีย มิเคลียคลาย... น้อยใจแถมบ่น

...ตกอำนาจ ทาสทำ จึงช้ำจิต
ลิ้มรสฤทธิ์ "อวิชชา" น่าใจหาย
หลงเป็นเหยื่อ หนุ่มเท่ ทุ่มเทกาย
อยากจะฆ่า ตัวตาย ให้ชายแล... งอนแล้วด้วย

"อวิชชา" ร้ายมาก หากใครรู้
คราได้คู่ คลอเคียง มิเสี่ยงแน่
ส่วนคนที่ หลงกล คนตอแย
คงเพราะแค่ โดนฤทธิ์ "อวิชชา"...   ทำตา ปิ๊งๆ

รัตนาวดี
  อายจัง เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
13 มิถุนายน 2014, 05:02:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #8 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2014, 05:02:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก รัตนาวดี...

เห็นคนหล่อเธอเพ้อละเมอจ้อง
ไยมิมองคนข้างดูบ้างหนา
หล่อเหลือน้อยจริงใจไร้มายา
มิควรค่าหงส์เด่นผู้เช่นเธอ อายแบบน่ารัก

เมื่อคนหล่อใจทรามมาตามจีบ
เจ้าก็รีบมอบใจให้เสมอ
พอความจริงเปิดเผยก็เลยเบลอ
มาพร่ำเพ้อฆ่าตัวตายอย่าหมายแล งอนแล้วด้วย

รับความจริงเสียบ้างนางเลือกผิด
คนที่คิดจริงใจไม่แยแส
อย่าได้โทษอวิชชามาตอแย
ความจริงแค่ตัดสินคนบนหน้าตา สาวน้อยค่อยๆอาย

พี่มิได้ตอกย้ำให้ช้ำจิต
เพียงสะกิดเพราะรักเป็นหนักหนา
ห่วงแสนห่วงเกินใครในโลกา
กลัวหงส์ฟ้าปีกหักเพราะรักลวง จ๊าก....กรูไม่อาว..



 น้อยใจแล้วด้วย สาวน้อยเซย์ ฮาโหล

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
14 มิถุนายน 2014, 11:44:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #9 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 11:44:AM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
เห็นคนหล่อ เหลือน้อย อยากสอยนัก
กลัวเขาผลัก เขาไส ใจแสนห่วง
เรามันคน ดั้งหัก รักหลอกลวง
หากติดบ่วง นายพราน จักซานซม

จึงได้แต่ จดจ้อง ไม่ข้องแวะ
อยากกระแซะ สักหน่อย เจอรอยขม
ขยับถอย ฉากออก ช้ำชอกตรม
เจอคารม คมชาย อาจตายฟรี
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 มิถุนายน 2014, 12:22:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #10 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 12:22:PM »
ชุมชนชุมชน

หัวเราะเยาะ

สาวดั้งหักรักหนุ่มหล่อพอเหลือนิด
เพียงแค่คิดก็ฮาแม่ยาหยี
ถ้าเป็นแฟนแต่งงานพอนานปี
ลูกเกิดมีสงสัยได้ถอดพิมพ์

อาจหล่อน้อยเหมือนพ่อก็มีสิทธิ์
ดั้งหักนิดเหมือนแม่แน่ละติ๋ม
เหมือนทั้งแม่และพ่อหน้างอทิ่ม
หน้าสลิ่มตอกย้ำกรรมพันธุ์

รู้ตัวหล่อไม่พอต้องขอเลี่ยง
ไม่อยากเสี่ยงวิวาห์ว่าไปนั่น
สงสารลูกเกิดมาต้องจาบัล
เพราะพ่อมันกับแม่..แย่จริงจริง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
14 มิถุนายน 2014, 12:52:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #11 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 12:52:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
จะไปกลัว ทำไม หากใจรัก
คอยฟูมฟัก ลูกน้อย อย่าปล่อยนิ่ง
รีบเก็บเงิน มากมาย ถ้าอ้ายจริง
ดั้งโด่งยิ่ง กว่าฝรั่ง หนังเมืองคาล

หากรักแล้ว แคล้วกัน มันแสนเศร้า
หนุ่มหล่อน้อย ไม่เบา เอาไหมท่าน
แต่งกับสาว ดั้งแหมบ แซ็บเหลือทาน
ส้มตำหว่าน พริกสวน ร้องครวญคราง

มาเถิดหนอ พ่อเอ๋ย เขยไม่หล่อ
มาเถิดพ่อ อย่าเกรง เร่งฟ้าสาง
มาร่วมกัน ฟันฝ่า มองหาทาง
มาร่วมสร้าง เบบี่ ที่ดั้งจม
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 มิถุนายน 2014, 01:32:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #12 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 01:32:PM »
ชุมชนชุมชน

ฟังเสียงลูกร้องจ้าเรียกหาพ่อ
แม่เจ้าหนอทิ้งไปให้ขื่นขม
พอเห็นลูกดั้งหักรักลอยลม
ไยมิสมคำอ้อนก่อนแต่งงาน

ลูกขี้เหร่โทษว่าหน้าเหมือนพ่อ
นี่แหละหนอใจหญิงไม่ทิ้งฐาน
บอกแล้วว่าอย่าลองไม่ต้องการ
ลูกประจานร้อยชั่งดั้งไม่มี

เอาลูกไปเสริมดั้งนั่งรอแม่
กลับมาแลลูกเถิดอย่าเปิดหนี
ลูกกับพ่ออัพหน้าใหม่ไปยันฮี
รอคนดีคืนบ้านเป็นมารดา ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 หัวโขมย เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
14 มิถุนายน 2014, 01:45:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #13 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 01:45:PM »
ชุมชนชุมชน

ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ไปธนาคาร เท่านั้น ดอกท่านเอ๋ย
ไฉนเลย ตีพาย ทำขายหน้า
เงินเป็นแสน พกไว้ อย่างไรนา
เบิกถอนกว่า จะถึง หนึ่งร้อยคิว

ทำเอะอะ โวยวาย อายไหมนั่น
เขารู้กัน หมดแล้ว พ่อแอวกิ่ว
ลูกดั้งหัก เสริมได้ ใจปลาซิว
เรื่องชิวชิว เงียบไว้ ไยร้องดัง

หมดสมัย สวยแต่เกิด ดูเฉิดฉิน
วุฒิศักดิ์ ทั้งสิ้น ถิ่นเสริมดั้ง
อย่าใจเสาะ นักเลย เสบยพัน
จ่ายไม่อั้น ศัลยกรรม ย้ำชัดเจน
พันทอง
 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
14 มิถุนายน 2014, 02:11:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #14 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2014, 02:11:PM »
ชุมชนชุมชน

ศัลยกรรมทำมาพี่ว่าแล้ว
พันทองแก้วสวยชัดจัดว่าเด่น
สวย"ไปหมด"ทั้งดั้งดังกระเบน
แค่ล้อเล่นอย่าเคืองถ้าเรื่องจริง ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

ส่วนมุนีฯ ไม่น้อยหน้าไปมาหน
"หมอมวลชน"ต่อคิวเพราะสิวสิง
สิวแตกหนุ่มกลุ้มใจหวังใสปิ๊ง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ
จำต้องวิ่งพึ่งหมอรอผลดู

ไม่อยากคิดใส่ใจเรื่องใบหน้า
เพราะคิดว่าอนิจจังชั่งเถิดสู
ใช้ธรรมะปล่อยวางเหมือนอย่างครู
แต่หดหู่นานไปใจรำคาญ

เลยแหวกแนวเสียหลักจั๊กกะจี้
ครั้งเดียวนี้ใจปล้ำทำกล้าหาญ
ตอนหนุ่มน้อยมิเป็นเห็นมานาน
กลั้นใจผ่านความอายหมายหน้าเนียน ยิ้มแก้มแดง

แม่บักน้อยเบิกมาค่ารักษา
สักแสนห้าพอดีหนี้เสถียร
สามีหล่อคุ้มแน่นะแม่เพียร
อย่าผลัดเพี้ยนจ่ายมา ถ้ารักจริง ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

 เอ้อ..จริงว่ะ

"มุนีน้อย"

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s