19 มีนาคม 2014, 02:26:AM |
Chuanchamoi
|
|
« เมื่อ: 19 มีนาคม 2014, 02:26:AM » |
ชุมชน
|
ฉันผูกพัน กับท้องทุ่ง และยุ้งข้าว ชอบปลูกดาว-เรืองล้อมรั้ว ทั่วถิ่นฐาน มิเคยเบื่อ กลิ่นโคลนเลน เล่นลำธาร ชอบใช้จาน สังกะสี ที่หายไป
คราวฝนพรำ กิ่งไผ่ ไหวสอดเสียง เป็นสำเนียง เพลงบ้านนอก ดอกไม้ไหว ฉันคิดถึง ท้องนา และป่าไพร เคยวิ่งไล่ เล่นกะลา คราวัยเยาว์
ฟ้าบ้านนอก กว้างกว่า ฟ้าเมืองหลวง หัวใจคน ก็กลวง ลวงกว่าเก่า คนบ้านนอก จากบ้านนา มานานเนา ค่ำเงียบเหงา เช้าหาเงิน เดินเดียวดาย
ดอกไม้ใน- เมืองแห้ง- แล้งขาดน้ำ หากเพาะชำ ใบก็ผลิ ยังมิสาย แต่ใบไม้ พลัดต้น หล่นเรียงราย คงยิ้มอย่าง แพ้พ่าย .. ให้ชะตา
ชามา ชวนชม้อย ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗
|
|
|
|
21 มีนาคม 2014, 01:57:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 มีนาคม 2014, 01:57:PM » |
ชุมชน
|
ชลสินธุ์รินใสไหลเรื่อยล่อง โค้งคุ้งคลองนองเนืองเมลืองค่า พาดผันผ่านกาลกัลป์วันเวลา นับคณาผาสุขทุกวานวัน
ชินกับคลองหมองนวลสาวสวนส้ม สุขอารมณ์เพียงเพ้อละเมอฝัน ยามดึกดื่นคืนค่อนนอนมองจัทร์ ก็สุขสันต์หรรษาคนป่าดอย
ช่วงเวลาพาเปลี่ยนหมุนเวียนผัน ชีวิตหันเหห่างใช่วางปล่อย เคยฟ้ากว้างสร้างฝันดาว,จันทร์ลอย กลับต้องหงอยในตึกรู้สึกตน
เปลี่ยนดาวเดือนเถื่อนไพรอยู่ไฟสี หลากล้นหนีปัญหาพาฉงน คิดสร้างตัวฐานะคละระคน จึงจำด้นฝ่าไป...ใจเหมือนเดิม
"ดิน"
|
|
|
|
22 มีนาคม 2014, 05:24:PM |
ชลนา ทิชากร
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 มีนาคม 2014, 05:24:PM » |
ชุมชน
|
ชลสินธุ์รินใสไหลเรื่อยล่อง โค้งคุ้งคลองนองเนืองเมลืองค่า พาดผันผ่านกาลกัลป์วันเวลา นับคณาผาสุขทุกวานวัน
ชินกับคลองหมองนวลสาวสวนส้ม สุขอารมณ์เพียงเพ้อละเมอฝัน ยามดึกดื่นคืนค่อนนอนมองจัทร์ ก็สุขสันต์หรรษาคนป่าดอย
ช่วงเวลาพาเปลี่ยนหมุนเวียนผัน ชีวิตหันเหห่างใช่วางปล่อย เคยฟ้ากว้างสร้างฝันดาว,จันทร์ลอย กลับต้องหงอยในตึกรู้สึกตน
เปลี่ยนดาวเดือนเถื่อนไพรอยู่ไฟสี หลากล้นหนีปัญหาพาฉงน คิดสร้างตัวฐานะคละระคน จึงจำด้นฝ่าไป...ใจเหมือนเดิม
"ดิน" ชลสินธุ์ รินไหล ไม่คอยท่า กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนแปลงเพิ่ม มีทั้งลด หดไป ไม่เหมือนเดิม มีทั้งเสริม เติมต่อ ตามพอใจ
เคยอยู่นา ป่าดอน นอนกระต็อบ ให้นึกชอบ ตึกหรู คู่เมืองใหญ่ ขายที่นา ป่าดง หลงแสงไฟ ศิวิไลซ์ ปัญหา บรรดามี
หลงสุขกาย สบายตัว มัวสนุก ใจเป็นทุกข์ ร้อนเร่า เศร้าหมองศรี ค่าครองชีพ บีบรัด มัดชีวี ใจร้อนฉี่ ดิ้นรน ให้พ้นตาย
มองดวงไฟ แทนดาว พราวเวหา นาฬิกา ปลุกก่อน นอนตื่นสาย เข้าห้องน้ำ ชำระ สะสางกาย รีบสะพาย กระเป๋า เข้าทำงาน
ชลนา ทิชากร
|
ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ
|
|
|
22 มีนาคม 2014, 09:27:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 มีนาคม 2014, 09:27:PM » |
ชุมชน
|
ชลสินธุ์รินใสไหลเรื่อยล่อง โค้งคุ้งคลองนองเนืองเมลืองค่า พาดผันผ่านกาลกัลป์วันเวลา นับคณาผาสุขทุกวานวัน
ชินกับคลองหมองนวลสาวสวนส้ม สุขอารมณ์เพียงเพ้อละเมอฝัน ยามดึกดื่นคืนค่อนนอนมองจัทร์ ก็สุขสันต์หรรษาคนป่าดอย
ช่วงเวลาพาเปลี่ยนหมุนเวียนผัน ชีวิตหันเหห่างใช่วางปล่อย เคยฟ้ากว้างสร้างฝันดาว,จันทร์ลอย กลับต้องหงอยในตึกรู้สึกตน
เปลี่ยนดาวเดือนเถื่อนไพรอยู่ไฟสี หลากล้นหนีปัญหาพาฉงน คิดสร้างตัวฐานะคละระคน จึงจำด้นฝ่าไป...ใจเหมือนเดิม
"ดิน" ยกมือป้อง มองฟ้า เพลาเช้า หายใจเข้า ลงลึก ไร้ฮึกเหิม คายลมแผ่ว แล้วสุด หยุดต่อเติม ร่างสั่นเทิ้ม ห่อหด หมดอาลัย
ท่ามอบอวล ควันพิษ คลุมมิดทั่ว ม่านสลัว กั้นกาง ขวางฟ้าใส อากาศเย็น เห็นแสง แดงรำไร เที่ยงร้อนไหม้ อบอ้าว ราวอิงเตา
เมฆสีลาย บ่ายค่ำ เริ่มดำมืด ค่อยเคลื่อนอืด เข้าคาม ข้ามภูเขา คลื่นลมหวน ครวญคราง ไกลบางเบา กระแทกเสา บ้านบัง ดังโครมคราม
ช่อมะม่วง พวงลำไย แกว่งไกวหล่น เหลือค้างต้น ไม่ถึง หนึ่งในสาม ต้องโรคร้าย แรงรุก แพร่ลุกลาม ไร้ผลงาม ต่องแต่ง แกว่งไปมา
แถมภัยแล้ง แห้งขอด ตลอดสาย น้ำเหือดหาย ขุดเจาะ เสาะสูบหา ยอบานบน ฝนทิพย์ เทวดา แต่ก็ช้า นานวัน ไม่ทันการ
เก็บเสื้อผ้า สารพัด ยัดถุงปุ๋ย พาดบ่าลุย น้ำตาพราก ออกจากบ้าน ผู้ใจดี มีไหม ให้ทำงาน แลกอาหาร สักมื้อ ยื้อความตาย
รพีกาญจน์
|
|
|
|
22 มีนาคม 2014, 11:35:PM |
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,422
นักร้อง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 มีนาคม 2014, 11:35:PM » |
ชุมชน
|
ฉันผูกพัน กับท้องทุ่ง และยุ้งข้าว ชอบปลูกดาว-เรืองล้อมรั้ว ทั่วถิ่นฐาน มิเคยเบื่อ กลิ่นโคลนเลน เล่นลำธาร ชอบใช้จาน สังกะสี ที่หายไป
คราวฝนพรำ กิ่งไผ่ ไหวสอดเสียง เป็นสำเนียง เพลงบ้านนอก ดอกไม้ไหว ฉันคิดถึง ท้องนา และป่าไพร เคยวิ่งไล่ เล่นกะลา คราวัยเยาว์
ฟ้าบ้านนอก กว้างกว่า ฟ้าเมืองหลวง หัวใจคน ก็กลวง ลวงกว่าเก่า คนบ้านนอก จากบ้านนา มานานเนา ค่ำเงียบเหงา เช้าหาเงิน เดินเดียวดาย
ดอกไม้ใน- เมืองแห้ง- แล้งขาดน้ำ หากเพาะชำ ใบก็ผลิ ยังมิสาย แต่ใบไม้ พลัดต้น หล่นเรียงราย คงยิ้มอย่าง แพ้พ่าย .. ให้ชะตา
ชามา ชวนชม้อย ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ เสียงนกร้องก้องป่าในหน้าแล้ง ผืนดินแห้งแตกระแหงทุกแหล่งหล้า ไม้ใหญ่น้อยแห้งโหยร่วงโรยรา คนบ้านป่าหน้าดำต้องทำใจ
ดั่งฟ้าแกล้ง,แล้ง,ท่วม,ต้องต้วมเตี้ยม หัวอกเกรียมสู้ทนความหม่นไหม้ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินทั่วถิ่นไทย จะมีใครไหนเล่าทุกข์เท่านี้
เจ้าจากไปเมืองหลวงสู่ห้วงหาว เพิ่อเป็นดาวคู่ฟ้าทำหน้าที่ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ,จงทำดี เพื่อจะมีผลงานสู่บ้านนา
เป็นใบไม้ในป่าพาชุ่มฉ่ำ ทุกเช้าค่ำนานปีย่อมมีค่า แต่เจ้าอยู่ในเมืองเลื่องลือชา ต้องแกร่งกล้าท้าทายสู่ปลายทาง
ทุกชีวิตมีค่าทำหน้าที่ เพื่อความดีมีใจใฝ่เสริมสร้าง เป็นใบไม้พลัดต้นอย่าจน,จาง แม้อ้างว้างเพียงใด...จงใฝ่ดี
ไพร พนาวัลย์
|
|
|
|
|
23 มีนาคม 2014, 08:43:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 23 มีนาคม 2014, 08:43:PM » |
ชุมชน
|
ชลสินธุ รินไหล ไม่คอยท่า กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนแปลงเพิ่ม มีทั้งลด หดไป ไม่เหมือนเดิม มีทั้งเสริม เติมต่อ ตามพอใจ
เคยอยู่นา ป่าดอน นอนกระต็อบ ให้นึกชอบ ตึกหรู คู่เมืองใหญ่ ขายที่นา ป่าดง หลงแสงไฟ ศิวิไลซ์ ปัญหา บรรดามี
หลงสุขกาย สบายตัว มัวสนุก ใจเป็นทุกข์ ร้อนเร่า เศร้าหมองศรี ค่าครองชีพ บีบรัด มัดชีวี ใจร้อนฉี่ ดิ้นรน ให้พ้นตาย
มองดวงไฟ แทนดาว พราวเวหา นาฬิกา ปลุกก่อน นอนตื่นสาย เข้าห้องน้ำ ชำระ สะสางกาย รีบสะพาย กระเป๋า เข้าทำงาน
ชลนา ทิชากร
ความว้าเหว่เปปนระคนเหงา ทุกค่ำเช้าปล่อยจินต์ให้ผินผ่าน ช่างเวิ้งว้างฤดีราตรีกาล ปลอบดวงมานลำพังวาดหวังไกล
แหงนหน้ามองดาวเดือนจิตเฝื่อนพร่า น้ำตาบ่าเอ่อท้นล้นรินไหล ทาบฉาบปรางพลางทดรดรินใจ สะกดกลั่นกลั้นไว้ให้อดทน
สักวันหนึ่งถึงฝันอย่าหวั่นไหว ก้าวต่อไปใจแกร่งทุกแห่งหน หน้ายิ้มรื่นกลืนกล้ำช้ำกมล หาสักคน คนรู้ใจไปบ้านเรา
"ดิน"
|
|
|
|
23 มีนาคม 2014, 08:50:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 23 มีนาคม 2014, 08:50:PM » |
ชุมชน
|
ยกมือป้อง มองฟ้า เพลาเช้า หายใจเข้า ลงลึก ไร้ฮึกเหิม คายลมแผ่ว แล้วสุด หยุดต่อเติม ร่างสั่นเทิ้ม ห่อหด หมดอาลัย
ท่ามอบอวล ควันพิษ คลุมมิดทั่ว ม่านสลัว กั้นกาง ขวางฟ้าใส อากาศเย็น เห็นแสง แดงรำไร เที่ยงร้อนไหม้ อบอ้าว ราวอิงเตา
เมฆสีลาย บ่ายค่ำ เริ่มดำมืด ค่อยเคลื่อนอืด เข้าคาม ข้ามภูเขา คลื่นลมหวน ครวญคราง ไกลบางเบา กระแทกเสา บ้านบัง ดังโครมคราม
ช่อมะม่วง พวงลำไย แกว่งไกวหล่น เหลือค้างต้น ไม่ถึง หนึ่งในสาม ต้องโรคร้าย แรงรุก แพร่ลุกลาม ไร้ผลงาม ต่องแต่ง แกว่งไปมา
แถมภัยแล้ง แห้งขอด ตลอดสาย น้ำเหือดหาย ขุดเจาะ เสาะสูบหา ยอบานบน ฝนทิพย์ เทวดา แต่ก็ช้า นานวัน ไม่ทันการ
เก็บเสื้อผ้า สารพัด ยัดถุงปุ๋ย พาดบ่าลุย น้ำตาพราก ออกจากบ้าน ผู้ใจดี มีไหม ให้ทำงาน แลกอาหาร สักมื้อ ยื้อความตาย
รพีกาญจน์
คิดถึงถิ่นบ้านสวนจิตครวญครุ่น ใจว้าวุ่นเสียจังนั่งกระส่าย ไฉนหนอทุรนกระวนกระวาย จะย่างกรายคืนฐานบ้านเคยเนา
ท่ารถเมล์เมืองกรุงแสนยุ่งเหยิง ใจกระเจิงเทิงเถิดเกิดกระเส่า ดั๊นเต้นแรงพิกลจนเกินเดา เดินชนเอาชายชราหน้าตาดี
อุ๊ย.!.ขอโทษไม่เห็นกระเด็นหวือ ของหลุดมือกลิ้งหลุนอย่าฉุนพี่ น้องซุ่มซ่ามไปหน่อยขอถ้อยที ตาตี่หยียิ้มจ้องต้องฤทัย
จึงซักถามความจริงทุกสิ่งแน่ รับดูแลผู้ชรา...อาสาไหม...? ตกลงงานบ้านสวนชวนกันไป ยินพ่อ,แม่ตะโกนไกล...ได้เขยแล้ว
"ดิน"
|
|
|
|
23 มีนาคม 2014, 10:24:PM |
ชลนา ทิชากร
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มีนาคม 2014, 10:24:PM » |
ชุมชน
|
ความว้าเหว่เปปนระคนเหงา ทุกค่ำเช้าปล่อยจินต์ให้ผินผ่าน ช่างเวิ้งว้างฤดีราตรีกาล ปลอบดวงมานลำพังวาดหวังไกล
แหงนหน้ามองดาวเดือนจิตเฝื่อนพร่า น้ำตาบ่าเอ่อท้นล้นรินไหล ทาบฉาบปรางพลางทดรดรินใจ สะกดกลั่นกลั้นไว้ให้อดทน
สักวันหนึ่งถึงฝันอย่าหวั่นไหว ก้าวต่อไปใจแกร่งทุกแห่งหน หน้ายิ้มรื่นกลืนกล้ำช้ำกมล หาสักคน คนรู้ใจไปบ้านเรา
"ดิน" จงปล่อยวาง จิตใจ ให้หลุดพ้น ตนพึ่งตน พ้นเหงา เศร้าหมองศรี อยู่กับลม หายใจ พ้นไพรี ทั้งโลกนี้ โลกไหน ใจชื่นบาน
อยู่กับลม หายใจ ไม่มีเศร้า หายใจเข้า ก็รู้ ดูลมผ่าน หายใจออก ก็รู้ ดูเหตุการณ์ ตอนทำงาน ก็รู้ ดูที่ใจ
อิริยาบถ สี่ มีเดินยืน ยามค่ำคืน นั่งนอน ก่อนหลับใหล หายใจเข้า หายใจออก บอกความใน หลับตอนไหน เขาหรืออก บอกฉันที
ชลนา ทิชากร
|
ขอขอบคุณ ทุกภาพ และทุกบทเพลง จาก Internet และ Youtubeค่ะ
|
|
|
24 มีนาคม 2014, 05:43:AM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 มีนาคม 2014, 05:43:AM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
26 มีนาคม 2014, 12:13:AM |
Chuanchamoi
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 26 มีนาคม 2014, 12:13:AM » |
ชุมชน
|
เดือนมีนา ดอกจาน- เหลืองบานแล้ว คอยพี่แก้ว มารับ กลับสาบสูญ สัญญารัก ฝากไว้ ให้อาดูร ทวีคูณ ความช้ำ ยามค่ำลง
นั่งทอไหม ยกดอก อกชอกช้ำ พี่ลืมคำ สองใจ หลอกให้หลง ไปเกี้ยวสาว สวนส้ม ชวนชมดง ถ้างั้นจง อ้อนใส่ กันให้พอ
ลาก่อนนะ ขอให้ ไปได้สวย ขายแรงช่วย นงราม ตามคำขอ ด้านน้องคง ตัดใจ- รักไม่รอ อย่ามาง้อ แล้วกัน วันโดนทิ้ง
ชามา ชวนชม้อย ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๗
|
|
|
|
27 มีนาคม 2014, 08:26:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 27 มีนาคม 2014, 08:26:PM » |
ชุมชน
|
พอสัปดาห์ ผ่านไป ใจนึกหวาด เราต่างชาติ ทาสชาย เธอนายหญิง จมูกทู่ หูกาง ย่างเหมือนลิง เธอเพริศพริ้ง โสภา วิลาวัณย์
นครชัย ไร่อ้อย ร้อยคำหวาน กล่อมดวงมาน โลมใจ มิให้หัน ทำงานดี มีชอบ มอบกำนัล เอารางวัล ลวงล่อ จนพอใจ
เหนื่อยนั่งพัก ทักทาย ชม้ายยิ้ม สร้างเอมอิ่ม ย้อมจิต พิสมัย ยกจอบจับ สับฟัน แปลงทันใด ละพูดไว้ เป็นเขย เฉยลืมคำ
ดี มาแต่ตัว หัวใจ เก็บไว้บ้าน ห้อยเพดาน ใต้จาก ฝากงามขำ มิถุนา ฟ้าหม่น ฝนตกพรำ กลับคืนดำ นาข้าว คู่สาวเนอฯ
รพีกาญจน์
|
|
|
|
28 มีนาคม 2014, 03:07:PM |
Chuanchamoi
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 28 มีนาคม 2014, 03:07:PM » |
ชุมชน
|
ข่าวพี่ชาย ไปลับ ไม่กลับทุ่ง แม่ ป้า ลุง ย้ำความ ถามเสมอ เหมือนเอามีด กรีดซ้ำ ย้ำคนเพ้อ สาวรักเก้อ ถูกเยาะ เพราะตามัว
หญิงไร่อ้อย น้ำคำ ฉ่ำกว่าอ้อย พี่ก็พลอย เคลิ้มฝัน วันเป็นผัว แม้นกงจักร ยังเห็น เป็นดอกบัว มิมองตัว มองชั้น มันต่างนัก
เขาดอกฟ้า พี่ดอก- จอกสวะ คิดหมายจะ ซื้อใจ ทั้งไร้ศักดิ์ หลายสัปดาห์ ผ่านไป ไหนเล่ารัก? ที่เขาจัก ยื่นมอบ เพื่อตอบแทน
อย่ามัวซัก ผ้านุ่ง ถางทุ่งอ้อย กลับเถิดกลอย เรือนเหย้า เหงาสุดแสน ฉันลงทุน ปราศัย ใช่ดูแคลน แต่เพราะแฟน คนนี้ รักพี่จริง
ชามา ชวนชม้อย ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ขออภัยหากไม่เพราะ เวลามีจำกัดจริงๆ ค่ะ
|
|
|
|
01 เมษายน 2014, 05:47:AM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 01 เมษายน 2014, 05:47:AM » |
ชุมชน
|
สับบัวลอย ซอยหยวก ลวกให้หมู ปล่อยน้ำคู ลงร่อง นองไร่ขิง ตัดหน่อไผ่ ใส่ลัง ชั่งสปริง ขึ้นรถซิ่ง ส่งร้าน ตลาดงาย
เกี่ยวหญ้าปล้อง หญ้าไซ ให้วัวเสร็จ เก็บไข่เป็ด คอยท่า แม่ค้าขาย เปิดน้ำก๊อก บอกพ่น ต้นกะชาย เลยเที่ยงบ่าย เร่งรัด ตัดเห็ดฟาง
ผ่านโรงเพาะ เลาะคู ดูกล้วยไม้ คีมคีบไซ้ แมลง มันแฝงร่าง ถึงห้างสวน เสียงสั่ง ดังกริ๊งกร๊าง สวมถุงยาง หนังรัด ตัดชะอม
เดินซุ่มซ่าม หนามเฉี่ยว เกี่ยวตะเข็บ เธอปะเย็บ ติดใหม่ ส่งให้ผม ด้วยผ้าแดง แซงลาย ด้ายสีกม เธอยังชม หล่อดี ที่หนึ่งเลย
วอนรอพี่ หน่อยนะ นะม้อยนะ แล้วพี่จะ ลาเลิก มิเพิกเฉย เบิกล่วงหน้า ห้าหมื่น แม่รำเพย รีบเอิงเอย ปุ๊บปั๊บ กลับลำพูน
รพีกาญจน์
|
|
|
|
01 เมษายน 2014, 08:26:AM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 01 เมษายน 2014, 08:26:AM » |
ชุมชน
|
สาวสวนส้มหน้าเซียวนั่งเหี่ยวก้ม มานแหลกล้มขมเปลี้ยเดินเสียศูนย์ หลงปักใจรักรุ่มหนุ่มลำพูน ต้องซัดเซอาดูรคูณทวี
อกหักช้ำซ้ำซากฝากแผลลึก ยากผนึกเสียแล้วไร้แวววี่ ดั่งบาปนำกรรมเกาะเซาะฤดี โดนชาตรีเข่นทรวงคอยลวงจินต์
ให้ความหวังทำไม...เมื่อไม่รัก..? เจ็บปวดนักรู้ไหมใจแหลกวิ่น อกโหยหาแห้งโหยร้าวโรยริน รักสูญสิ้นถูกปิดหมดสิทธิ์ทวง
อ้ายคงลาไกลแล้วไร้แววกลับ น้องคงรับแต่ช้ำระกำหน่วง เงินห้าหมื่นเสียไปพร้อมใจกลวง ผูกหินถ่วงกับตนโดดน้ำตาย..
"ดิน"....เดียวดาย
|
|
|
|
01 เมษายน 2014, 11:48:AM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 01 เมษายน 2014, 11:48:AM » |
ชุมชน
|
ครุ่นคิด พิจารณา ท่าจีนกว้าง หัวหมุนคว้าง เวียนวน จนเกือบสาย หัวล้านต้อง ตะวัน พลันตาลาย อายแสนอาย แก่หงอก บ้านนอกนา
กางเกงเหลือ เสื้อใส่ ในถุงหิ้ว ถามถึงคิว ขนส่ง ตรงไหนหา เดินอีกไกล ไหมนาน ชานชาลา จะถึงท่า บอกชัด สมบัติทัวร์
หนึ่งเมษา อากาศ แสงสาดร้อน ดังไฟฟอน เปลวลุก ขมุกขมัว ตาฝ้าฟาง ห่างไกล ไม่เห็นชัวร์ เอ๊ะ นั่นตัว อะไร ลอยในน้ำ
จะเป็นคน ยลไป หรือใช่ผี มองอีกที แบหงาย หรือกายคว่ำ คงหญิงสาว ขาวบาง ร่างผุดดำ ไม่พูดพล่ำ โดดวะ จะช่วยเธอ
ว้าย ช่วยด้วย ผมว่ายน้ำไม่เป็น
รพีกาญจน์
|
|
|
|
01 เมษายน 2014, 01:10:PM |
D
นักรบทุกบอร์ด
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,894
ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 01 เมษายน 2014, 01:10:PM » |
ชุมชน
|
|
|
|
|
|
01 เมษายน 2014, 07:23:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 01 เมษายน 2014, 07:23:PM » |
ชุมชน
|
ใครพายเรือ ลำน้อย ลอยมาช่วย กอดดินอ่อน ระทวย โอย แม่แก้ว เขาวางร่าง กลางลำ รีบจ้ำแจว หัวใจแป้ว คว้าหมับ จับท้ายไป
เรือลำน้อย ลอยเรียบ จอดเทียบท่า เห็นหน้าตา เขานั่น ยิ่งหมั่นไส้ จึงเหนี่ยวแคม คว่ำเรือ ลงทันใด ยื่นมือให้ ดินจับ กับ กับ เดิน
ไชโย้ ขึ้นน้ำได้แล้ว 555
|
|
|
|
|
|