พศ. 1927
O ทัพแกล้วกรุงอยุทธขึ้น - - - ล้านนา
ครันครบพยุหะศาตรา - - - เร่งล้อม
เชียงใหม่สุดต้านหา- - - - ยนะสู่ เมืองแล
แพ้พ่ายเศียรจำค้อม - - - คลั่งแค้นอดสู ฯ
O ราษฎรจึงกวาดต้อน - - - ลงมา
เมื่อทัพหลวงยาตรา - - - หมู่แกล้ว
ผ่านพิษณุโลกจึ่งรา- - - - ชันย์แวะ ประทับเนอ
สมโภชน์พระชินราชแล้ว - - - กลับย้อนอโยธยา ฯ
O ส่งราษฎรไปไว้ที่ - - - เมืองจันทร์-
ทั้งพัทลุง, นครศรีธรร- - - - มราช, พร้อม
สงขลาแต่เบื้องบรร- - - - พกาลยุค นั้นนา
ชาว"ละคร"จำน้อม - - - นอบด้วยดุษณี ฯ
O เมื่อสิ้นพระราเมศวร์ไท้ - - - ในยาม นั้นนา
โอรสท่าน-พระยาราม - - - รับซ้อง-
สู่ร่มฉัตร, ครองคาม- - - - แคว้นถิ่น ต่อนา
วงศ์ละโว้อโยธยาพร้อง - - - เพรียกข้างฝ่ายขอม ฯ
O สันตติวงศ์สืบเชื้อ - - - ราชันย์
ไร้กฎเกณฑ์ระบุบัน- - - - ทึกไว้
เพียงแค่ครอบครองบัล- - - - ลังก์อยุทธ แลเนอ
เขตสุพรรณบุรีไซร้ - - - สุดเอื้อมข่มเหง ฯ
O สุพรรณภูมิมิตรแท้ - - - สุโขทัย
สอดแทรกกิจภายใน - - - ฝ่ายนี้
สัมพันธภาพเมืองไกล - - - ควรกล่าว
เป็นคู่คิดช่วยชี้ - - - แนะให้ความเห็น ฯ
O สืบสัมพันธภาพไว้ - - - ผ่านเครือ ญาติเนอ
คานอำนาจอยุธยา, เหลือ - - - เขตใต้
อำนาจส่วนสยาม-เหนือ - - - รวมแน่น แฟ้นนา
การทัพการศึกไซร้ - - - ร่วมไม้ร่วมมือ ฯ
พศ. 1952
O เมื่อยามขัตติยะไท้ - - - ถึงที พิโรธนา
กุมกักเจ้าเสนาบดี - - - เร่งล้อม
ครั้งนั้นท่านเจ้าหนี - - - รอดหลุด ได้แล
สู่ปท่าคูจามน้อม - - - นอบด้วยสุพรรณภูมิ ฯ
O เสนาบดีกิตติยศล้ำ - - - เลอนาม
จากแวดวงศ์เจ้าสยาม - - - รากเหง้า
ถูกหลู่เกียรติคุกคาม - - - เกินข่ม เก็บแล
เชิญทัพพระอินทราชเจ้า - - - ย่ำก้าวเหยียบเมือง ฯ
O สมเด็จพระอินทราชเจ้า - - - จอมสยาม
ยกทัพสุพรรณภูมิลาม - - - รุกล้อม
เจ้าเสนาบดีตาม - - - ต่อศึก ด้วยนา
ปล้นพระนครได้พร้อม - - - ผ่านให้นั่งเมือง ฯ
O รอนศรี, รอนศักดิ์แล้ว - - - พระยาราม
ภูมิภาคปท่าคูจาม - - - มอบไท้
สิ้นวงศ์อู่ทองตาม - - - แต่เหตุ นั้นนา
ถึงยุคสุพรรณภูมิให้ - - - ศิระค้อมคอถวาย ฯ
O ยกกาลแต่เบื้องนั้น - - - พรรณนา
สองแผ่นผืนรัฐสีมา - - - ร่วมด้าว
สยามรัฐ-ละโว้ปรา- - - - กฏหนึ่ง เดียวเวย
ขอม-ถดถอยขยับก้าว - - - กลับบ้านเมืองตน ฯ
O รวบสุโขทัยอยู่ใต้ - - - อำนาจ สยามแล
ขัตติยะรูปรองบาท - - - ท่านไท้
ร่วมสายเลือดเครือญาติ - - - ด้วยพระ ร่วงเนอ
เอื้อสิทธิ์ลูกหลานให้ - - - นั่งบ้านครองเมือง ฯ
O พรหมจรรย์เถรวาทนั้น - - - น้อมนำ
ตั้งมั่นให้ชนสัม- - - - ผัส-รู้
คติขอมแห่งละโว้จำ- - - - ต้องเปลี่ยน
เสริมจิตไว้กอบกู้ - - - เกลศร้อนกลบเผา ฯ
O ค้าขายสัมพันธภาพด้วย - - - แดนไกล
ศิลป์ศาสตร์หัตถกรรมไพ- - - - จิตรล้ำ
บ่งบอกสถานภาพใน - - - ถิ่นแว่น แคว้นนา
ยอยศอยุธยาล้ำ - - - ยิ่งล้ำคำลือ ฯ
O ค้าจีน, กัมพุช, ทั้ง - - - มะละกา
สมสั่งธุรกรรมพา- - - - นิชย์ด้วย
อุปโภค, บริโภค, อา- - - - วุธต่าง ตอบเนอ
ตอบรับความรู้ฉ้วย - - - ชาติให้วัฒนา ฯ
O บัลลังก์กรุงอยุทธนั้น - - - อุดหนุน-
จากสี่วงศาสกุล - - - ร่วมพ้อง
พระร่วง, ละโว้จุน- - - - เจือร่วม สุพรรณนา
อีกนครศรีธรรมราชซ้อง - - - แซ่ซ้องสรเสริญ ฯ
O สี่สนมเอกท่านตั้ง - - - แต่ยาม นั้นนา
"ศรีจุฬาลักษณ์"คือนาม - - - หน่อเนื้อ
จากวงศ์สุโขทัยตาม - - - เหตุผูก พันนา
แต่เมื่อสุพรรณภูมิเอื้อ - - - อกป้องภัยอรินทร์ ฯ
O "อินทรสุเรนทร์"แต่งตั้ง - - - ตามสาย สกุลเนอ
จากฝั่งสุพรรณภูมิราย- - - - รอบไท้
รากฐานเก่าแต่ภาย- - - - ก่อนร่วม แดนนา
เสริมส่งสถานภาพให้ - - - เพรียบพร้อมบารมี ฯ
O "ศรีสุดาจันทร์"จากละโว้ - - - อโยธยา
วงศ์อู่ทองสืบมา - - - ชีพเชื้อ
มั่นคงต่อบรรดา- - - - ศักดิ์เก่า ก่อนเนอ
เสาหนึ่งค้ำจุนเอื้อ - - - อาชญ์ให้ชนเห็น ฯ
O "อินทรเทวี"อีกผู้ - - - ทรงสถา นภาพแล
สายอโศกศรีธรรมา- - - - ธิราช-ใต้
ดินแดนฟากฝั่งวา- - - - รีระริก ลมเนอ
ช่วยราชกิจบ้านเมืองให้ - - - เหือดไข้ห่างเข็ญ ฯ
O นับเขตนับคาบนั้น - - - หนึ่งเดียว
ยอมร่วมใจกลมเกลียว - - - ชิดใกล้
เหนือใต้ออกตกเหลียว- - - - แลร่ม ฉัตรนา
เพียงร่มเดียวนั่นไว้ - - - ระหว่างด้าวแดนสยาม ฯ
O โอรสคนที่หนึ่งเจ้า- - - - อ้ายพระยา
ครองสุพรรณภูมิผา- - - - สุขถ้วน
ส่วนเมืองแพรกศรีราชา - - - เจ้ายี่ ครองแล
ชัยนาท-สองแควล้วน - - - อยู่ใต้เจ้าสาม ฯ
O ถึงกาลมรณะร้อน - - - รุมชนม์
พระนครินทรราชบน - - - ฉัตรชั้น
พระสวรรคตบันดล - - - รณยุทธ แล้วแฮ
เจ้ายี่-เจ้าอ้ายนั้น - - - ขาดสะบั้นไมตรี ฯ
O อำนาจอาชญภาพเชื้อ - - - เชิญประชัน
สองพี่น้องโรมรัน - - - รบแล้ว
ขึ้นช้างขับช้างบรร- - - - ลุเขต อยุธยานา
สายเลือดฤๅอาจแคล้ว- - - - คลาดพ้นประหัตประหาร ฯ
O ทัพเจ้าอ้ายตั้งที่ - - - วัดพลับ พลาไชยแฮ
เจ้ายี่เคลื่อนตั้งรับ - - - เร่งร้อน
ที่ตลาดท่าพรหม, ทัพ - - - หยุดอยู่
สองจิตสองใจสะท้อน - - - สั่นด้วยโมหันต์ ฯ
ศึกสายเลือด
พศ. 1967
O ที่สะพานป่าถ่านนั้น - - - สองทัพ-
บรรจบพลสำหรับ - - - รบแล้ว
สองช้างพี่น้องขับ - - - เข้าสู่ ถิ่นแล
เมื่อโลกต่ำพร่างแพร้ว - - - ภาสเรื้องเมลืองสถาน ฯ
O สองช้างสองหน่อเชื้อ - - - ราชันย์
ย่ำเหยียบรอยโทษทัณฑ์ - - - เท่าสร้าง
มาดหมายนั่งเหนือบัล- - - - ลังก์อยุทธ แลนา
โดยศักดิ์โดยสิทธิ์อ้าง - - - เอ่ยด้วยดุษฎี ฯ
O ที่สะพานป่าถ่านนั้น - - - สองทัพ-
พร้อมดาบยอแสงวับ - - - บีบคั้น
ก่อนง้าวเงือดคมสับ - - - ลงสู่ ศอแล
วาบผ่านสองศอนั้น - - - เลือดร้อนอุ่นไหล ฯ
O ที่สะพานป่าถ่านนั้น - - - สองชนม์-
ซบร่างไร้เศียรบน - - - คชะ-แกล้ว
อำนาจเกียรติยศปรน- - - - เปรอแผ่น ดินเวย
สูรย์วับคนวอดแล้ว - - - ชั่วฟ้าดินสลาย ฯ
O รูปหนึ่งอำนาจน้อม - - - ลงรอ
แต่เมื่อสองพี่-ม- - - - รณะพร้อม
เอ่ยอ้างวาสนายอ - - - ยกสู่ ฉัตรแฮ
อำมาตย์ขุนนางน้อม - - - นอบเกล้า-กรถวาย ฯ
O อนุชาธิราชเจ้า- - - - สามพระยา
น้อมหัตถ์รับยศถา - - - แต่งตั้ง-
ครองเมืองสืบขัตติยา - - - วงศ์ราช
ใครเล่าอาจหยุดยั้ง - - - อาชญ์ไท้ในสถาน ฯ
O อำนาจอาชญภาพพ้น - - - พันไผท
กรุงอยุธเกรียงไกร - - - ทัพแกล้ว
ยกสู่พระนครใน - - - กัมพุช แดนแฮ
เหยียบย่ำขอมสยบแล้ว - - - ศักดิ์ล้วนล่มสลาย ฯ
O แดนขอมแต่คาบนั้น - - - สิ้นนาม
แต่ทัพอยุธยาลาม - - - รุกล้อม
สิ้นยุคยิ่งใหญ่ตาม - - - แต่เหตุ นั้นนา
พระนครเศียรจำค้อม - - - สุดคั้นแรงขืน ฯ
O โอรสหน่อเนื้อ, พระ- - - - ส่งไป-
อยู่ร่วมมาตุคามไกล - - - แต่น้อย
คือสมเด็จบรมไตร- - - - โลกนารถ
สายเลือดสุโขทัย, ร้อย - - - ร่วมเชื้อสุพรรณภูมิ ฯ
O เพื่อศักดิ์และสิทธิ์-เชื้อ - - - ราชันย์
วงศ์พระร่วง, วงศ์สุพรรณ - - - อยู่พร้อม
ร่วมเครือญาติสมานฉันท์ - - - สองฝ่าย
แผ่อำนาจขึ้นล้อม- - - - รอบล้านนา-เหนือ ฯ
O เติบใหญ่ใกล้ชิดด้วย - - - หมู่ญาติ แม่นา
เพื่อรับรองบทบาท - - - หน่อไท้
ขุนนางเหล่าอำมาตย์ - - - เห็นชอบ อยู่เนอ
รวบพิษณุโลกเอาไว้ - - - อยู่ใต้แดนสยาม ฯ
O ยุษฐิธีระผู้ - - - สัมพันธ์
เติบใหญ่ขึ้นกลับผัน- - - - พลิกข้าง
เข้าด้วยติโลกราช, ฝัน- - - - เป็นใหญ่-
เหนือพิษณุโลก, อ้าง- - - - เอ่ยย้ำ-สัญญา ฯ
.
.