วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร
ก-ละ-พิศพิมานบน
โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล-
ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ
O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ
จิตะยึดและยกยอ
โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ-
คณะขอจะอาจขืน ?
O บุญบาปและลาภขณะประนอม-
บทะย้อม ฤ อาจยืน-
หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน-
ระอุตื่น ณ ในตน
O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค
อติพากยะเพียบพล
กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน-
ธิพิกลพิการสอน
O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ
ก็ระส่ำระสายตอน
ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน
ฤ จะผ่อนพลังหลง
O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย-
มรรคะเอย..ฤ แอบองค์
ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง-
เคราะหะบงกะชาติบัว
O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้
ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว
โอภาสจะพาดภวะสลัว
ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ?
O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด
นยะพุทธะรัดพัน-
จิตสู่ประตูอริยะนั้น
ทะนุนันทิรูปนาม
O โดยภาษประกาศพระชินวร
ระบุสอนระบิลความ
ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม
ยุติทราม บ สืบสาย
O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด
กิจะวัตระวุ่นวาย
ท่วงทีพจีนยะสยาย
บุญะถ่ายสิทั่วถึง
O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต
มุประดิษฐะเพื่อดึง-
สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง-
บทะซึ่งจะคอยสรรค์
O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร-
วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน
ศรัทธาสถาปนะสวรร-
คะถวัลยะในทรวง
O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย
เกาะอุบายะบำบวง-
ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง
นิระห่วงจะเสียหาย
O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม
ฤ จะชม..ระลมชาย
สบทราบประภาพสุริยะฉาย-
รุจิบ่ายประโลมบัว ?
O โดยตรรกและหลักอริยะวาท
อธิชาติชมชัว
เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว-
อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์
O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ
เหมาะ, สมรรถะดวงมาน
เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน
จะทะยาน - ก็อาจยั้ง
O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก
สติตรึกและตรองฟัง
โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง
ทิฐิตั้งประคองตน
O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ
เหมาะจะยึดและตามยล
เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน-
ธิกะลมระลอกสาย
O เพียงนั้น..จะบันดละสมา-
ธิสภาวะในกาย
เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย
สุขะศานติซ่านซ้อน
O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์
พระ-เลาะลัดพเนจร
ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน-
ทุขะรอนปลาตร้าง
O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก-
ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง
ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง-
และมล้างพลังลม
O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ
ระบุทราบกะอารมณ์
รู้ครวญชนวนทุขะระทม
พิษะถมกระทบถึง
O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น-
รุจิแสนยะตราตรึง
ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง
ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย
O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา-
คมะวาระวุ่นวาย
ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย-
เฉพาะขายกะหมู่เขลา !
O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์
นิรมิตะมอมเมา-
จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า-
สติเฝ้าประโลมฝัน
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
พิเราะคีตะล้อมพัน-
ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์
ละสวรรคะรับเสียง !
O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
เสนาะคีตะคล้อยเคียง-
ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง-
พฤติเบี่ยงประโคมบุญ !
O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม
ทะนุโสมนัส, จุน-
เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน-
ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม !
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2010&date=07&group=41&gblog=10