^^ขอเล่าเรื่องสุนัข ต่อจากเจ้า"โชคดี" ของคุณ รพีกาญจน์^^
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 03:07:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ^^ขอเล่าเรื่องสุนัข ต่อจากเจ้า"โชคดี" ของคุณ รพีกาญจน์^^  (อ่าน 1839 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
12 กุมภาพันธ์ 2014, 11:28:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2014, 11:28:PM »
ชุมชนชุมชน


(ขอบคุณภาพประกอบจาก เน็ต..)

เจ้า"โชคดี" มีโชค เหมือนดังชื่อ
เจ้าของคือ รพีฯ ที่ห่วงหมา
ด้วยผูกพัน มั่นคง ตรงเมตตา
ออกตามหา จนพบ ประสบเจอ

ดังองค์อินทร์ ผินพักตร์ ประจักษ์แจ้ง
จึงแสดง สัมฤทธิ์ คิดเสนอ
บูรพา หาทิศ นิมิตเลอ
ใช่เรื่องเพ้อ เคยพบ ประสบมา

ขอเล่าเรื่อง ของเรา เอาสักหน่อย
ตอนเด็กน้อย เคยรัก พิทักษ์หมา
มีวันหนึ่ง ลูกลุง อยู่ทุ่งนา
ขอพ่อจ๋า หนึ่งตัว เพื่อคั่วแกง

เขาเป็นคน เปิบหมา ล่าไปทั่ว
ได้หนึ่งตัว ดีใจ ไม่แสลง
พ่อรักหลาน จึงให้ ไม่ระแวง
เขาจัดแจง ผูกไว้ ใต้เถียงนา

แล้วเอาค้อน ทุบตี หนีไม่พ้น
มันวิ่งวน รอบเสา เขาผูกขา
ร้องโหยหวน ชวนให้ ใจระอา
ดังก้องป่า ครานั้น ฉันร้องโฮ

ฉันนอนอยู่ ข้างบน กมลไหม้
น้ำตาไหล หลั่งริน ถวิลโอ้ ร้องไห้งอแง
ตามประสาเด็กไซร้ ยังไม่โต
ตั้งนะโม บำบวง ปวงเทวา...

 ลาตายดีกว่าตู

"มุนีน้อย"

(แต่งตรงนี้แล้วอิน เหมือนตัวเองย้อนกลับเป็นเด็กอีกครั้ง  ร้องไห้งอแง)
(คืนนี้ ขอพักก่อน พรุ่งนี้มาแต่งต่อ ให้ทุกท่านอ่านต่อจนจบ.. ตบมือให้)

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ~ขลุ่ยกันแสง~, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, คอนพูธน, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:12:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 05:12:AM »
ชุมชนชุมชน



  ซึ้งจัง


...เรื่องฝังจิต แม้เก่า เล่าเหมือนใหม่
ทำเอาใคร คนนี้ ที่ประสา
น้ำตาหลั่ง ทั้งวูบ ลูบเบ้าตา
สงสารหมา ใจเศร้า ก่อนเข้านอน...

...อ่านวันนี้ บั่นคอ ต่อตีหมา
เวทนา หัวใจ ที่ไหวอ่อน
เพียงสำนวน ชวนจิต คิดร้าวรอน
หมาโดนฆ้อน ทุบตี ห้ามหนีตาย...

 ไม่ชอบเลย...รัตน์หนุนหมอน ก่อนหลับ ลำดับภาพ
หมาเลือดอาบ ทุบซ้ำ ช้ำแผลหลาย น้อยใจแถมบ่น
เพชฌฆาต เลือดเย็น ต้องเป็นชาย  งอนแล้วด้วย
ใจร้อนร้าย กาจแน่ เลิกแก้ตัว... ซุบซิบนินทา

รัตนาวดี

 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ดาว อาชาไนย, muneenoi, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
13 กุมภาพันธ์ 2014, 10:44:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #2 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2014, 10:44:AM »
ชุมชนชุมชน



ต่อ ตอนจบ...

ฉันนอนอยู่ ข้างบน กมลไหม้
น้ำตาไหล หลั่งริน ถวิลโอ้
ตามประสาเด็กไซร้ ยังไม่โต
ตั้งนะโม บำบวง ปวงเทวา

ข้าฯ สงสารมันนัก ใจจักขาด
ขออำนาจ เทวัญ ทุกท่านหนา
หากมีจริง ศักดิ์สิทธิ์ ในฤทธา
โปรดช่วยหมา รอดพ้น จากคนพาล

ขอคุณพระไตรรัตน์ ป้องปัดด้วย
โปรดจงช่วย เมตตา ปาฏิหาริย์
น้ำตาร่วง เปียกหมอน สะท้อนมาน
จนเนิ่นนาน ตราบถึง ครึ่งชั่วโมง

ตีไม่ถูก จุดตาย คล้ายถูกปัด
มันเซซัด เวียนทั่ว กลัวตายโหง
จนดิ้นหลุด กระเสือก จากเชือกโยง
เหมือนมันโกง ความตาย หมายพยุง

ฉันแอบดู ข้างฝา เถียงนาน้อย
มันวิ่งผล็อย ลุยน้ำ ข้ามชายทุ่ง
ท่ามสายฝน หล่นฟ้า นภาปรุง
ฉันเลิกมุ้ง ลุกมา น้ำตาคลอ

อีกหนึ่งวัน มันมา หาเจ้าของ
จึงประคอง มันดู อดสูหนอ
เลือดเกรอะกรัง ทั้งบวม อ่วมพนอ
ข้าฯ กับพ่อ ลูบหลัง นั่งมองมัน

ขอฝากเป็น กลอนกานท์ สะท้านจิต
แด่มวลมิตร กวี ที่สร้างสรรค์
สัตว์ร่วมโลก เกิดตาย อย่าหมายทัณฑ์
เวรกรรมนั้น มีจริง ใช่สิ่งลวง

 ซึ้งจัง

"มุนีน้อย"

(ป.ล. ลูกลุงที่ชอบกินหมาคนนั้น ตอนนี้ตายแล้ว เขาตายอย่างอนาถ แบบไร้ญาติขาดมิตร
ส่วนหนึ่ง น่าจะมาจากกรรมที่เขาชอบฆ่าและเบียดเบียนสุนัขนั่นเอง ไม่ชอบเลย)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, คอนพูธน, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s