......ไปเยี่ยมลุง.......
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 03:41:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ......ไปเยี่ยมลุง.......  (อ่าน 18567 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
25 มกราคม 2014, 06:33:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« เมื่อ: 25 มกราคม 2014, 06:33:PM »
ชุมชนชุมชน

นำสิ่งของไปเยี่ยมลุงที่ท้ายไร่
ปลูกขนำไว้อีกด้านลำธารขวาง
ใช้ไม้ไผ่สามลำนำมาวาง
พาดสองข้างดูเด่นเป็นสะพาน

กว่าจะข้ามได้นั้นมันยากนิ
สมาธิกำหนดจรดก้าวผ่าน
สามเมตรกว่าเลาะไต่ไหงเนิ่นนาน
หากก้มคลานคงคล่องค่อยลองดู

ถึงขนำมีกองไฟไหนคนเล่า
ที่บนเตาหม้อสีดำก็ขำอยู่
แม่ซื้อให้ขาวใหม่ใครก็รู้
แต่วันนี้บุบบู้เข้าคู่กัน

เปิดฝาดูภายในได้กลิ่นข้าว
ช่างโน้มน้าวใจปิ๋วเริ่มหิวนั่น
เห็นคุณลุงเดินใกล้ทักทายพลัน
โชคดีครันท่านว่าชูปลาโชว์

เมื่อตอนค่ำปักเบ็ดเสร็จแล้วนอน
ว่าพักผ่อนเพียงครู่ท่านคุยโอ่
จะกู้เบ็ดมั่นหมายหลายกิโล
ฟังท่านโม้ตามประสาว่ารู้ใจ

เกิดมาหลับทิ้งผ่านเสียนานหลาย
ทั้งปลาหมอปลากรายหลุดหายไหน
เหลือปลาช่อนตัวนี้มิเป็นไร
ต้มตะไคร้ขมิ้นข่าอร่อยดี

ท่านสั่งให้ฉันไปขุดขมิ้น
ใกล้เนินดินกอใหญ่คงได้ที่
ข่าตะไคร้ในขนำยังเหลือมี
ส่วนท่านนี้ลงลำธารจัดการปลา

ทั้งขอดเกล็ดควักไส้ได้ตัดท่อน
ตามขั้นตอนชำนาญการเสาะหา
หม้อใบใหม่ดูเก่ายกเอามา
คะเนว่าน้ำใส่ให้พอดี

ทุบขมิ้นตะไคร้และแง่งข่า
ปะปนมาสำรองกองไว้นี่
ยกหม้อข้าวจากเตาไปไฟยังมี
หยิบฟืนสี่ห้าดุ้นดุนเข้าใน

มีกระบอกอันหนึ่งซึ่งเท่าแขน
นำมาแทนเหมาะสมเป่าลมใส่
พรูดพรูดพรูดสองสามทีมีเปลวไฟ
เริ่มลุกไหม้ไม้ฟืนที่ใช้นั้น

นำอุปกรณ์เตรียมไว้ใส่ลงหม้อ
ตั้งบนเตาแล้วรอก็ใช้ฉัน
บิกะปิกล่องใหม่ที่ใกล้กัน
นำมาปั้นบนไม้ได้เตรียมการ

น้ำในหม้อร้อนเดือดได้แล้วนี้
เนื้อปลาที่ผึ่งลมมาเวลาผ่าน
ตักใส่หม้อลงไปเพียงไม่นาน
มองเห็นท่านเติมเกลือเผื่อกันคาว

ยกหม้อต้มปลาลงคงสุกแล้ว
ดูคล่องแคล่วเกลี่ยไฟไอร้อนผ่าว
นำกะปิไปย่างวางตามยาว
ขึ้นเกล็ดขาวบ้างไหม้กลายสีดำ

สั่งฉันเก็บพริกแดงและแตงกวา
ร่องด้านขวาหลายผลบนค้างต่ำ
กระเทียมพริกน้ำตาลทรายใส่ครกตำ
ดูมันฉ่ำแฉะไปใส่กะปิลง

อาหารมื้อนี้นั้นทานไม่น้อย
ช่างอร่อยเกินคิดจิตพาหลง
จากฝีมือพ่อครัวเก่าเรายังงง
สมประสงค์อิ่มหนำสำราญใจ.

นพ
25ม.ค.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, panthong.kh, พยัญเสมอ, บ้านริมโขง, กังวาน, รัตนาวดี, กรกช, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 มกราคม 2014, 07:06:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 มกราคม 2014, 07:06:PM »
ชุมชนชุมชน

เมื่ออิ่มหนำสำราญอาหารเที่ยง
คิดจะเลี่ยงพักผ่อนนอนที่ใกล้
เห็นนกบินหลายคู่อยู่แนวไพร
บ้างเข้าไร่ไล่แมลงแอบแฝงตัว

มะละสุกแดงอยู่บนต้น
นกเวียนวนจิกกินบินกันมั่ว
นั่นแย้ไล่ตั๊กแตนแสนน่ากลัว
เข้างับหัวเร็วรี่คลานหนีเลย

ลุงยังคิดเรื่องหลายทายปัญหา
สมมุติว่าเลี้ยงสัตว์ใหญ่ไม่อยู่เฉย
แพะกับเสือนี้นานำมาเปรย
ยังมาเอ่ยอย่างละหนึ่งซึ่งเท่ากัน

สมมุติว่าลำธารมีนี้กว้างมาก
จะข้ามฟากเรือพายผ่านได้นั่น
บรรทุกเพียงหนึ่งใช้ให้ทุกวัน
จะจัดสรรไปได้อย่างไรดี

ถั่วผักและแตงกวาตะกร้าเขื่อง
แพะชำเลืองจะกินสิ้นหมดนี่
หรือทิ้งแพะกับเสือไว้ไม่เข้าที
คงเปรมปรีดิ์เสือกินหมดจะอดเลี้ยง

นั่งคิดอยู่ตั้งนานกว่าผ่านนั้น
หากผิดพลันพลาดได้กลายสุ่มเสี่ยง
ขีดบนดินเห็นอยู่รู้เทียบเคียง
เจอทางเลี่ยงแก้ได้ให้ลุงดู

เที่ยวแรกนำแพะไปไว้อีกฝั่ง
ในเที่ยวหลังนำผักไปประกบคู่
ถึงฝั่งโน้นนำแพะกลับคือรับรู้
เสือมองอยู่คงยิ้มอิ่มไปนาน

แพะกลับขึ้นฝั่งนี้มีเสือเปลี่ยน
พายวนเวียนถึงอีกฝั่งความหวังผ่าน
กลับรับแพะข้ามคลองตามต้องการ
ลุงไม่คิดทัดทานท่านกลับชม

ตะวันลอยคล้อยต่ำจะค่ำนั้น
ลุงแบ่งปันผักไปให้แม่ผม
มะละกออีกผลลูกมนกลม
จะแกงส้มได้มากมาฝากลุง.

นพ
25ม.ค.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, panthong.kh, บ้านริมโขง, กังวาน, รัตนาวดี, กรกช, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 มกราคม 2014, 09:19:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 มกราคม 2014, 09:19:PM »
ชุมชนชุมชน

ขออนุญาตพ่อไว้ในวันเสาร์
ว่าจะเข้าอยู่ไร่จิตหมายมุ่ง
พ่อเป็นห่วงโรคร้ายน้ำลายยุง
กลัวว่าลุงรำคาญจากการซน

ให้สัญญาพ่อไว้ไม่ต้องห่วง
ที่ผ่านล่วงลุงนี้มิเคยบ่น
ประสบการณ์ลุงมีที่แยบยล
อยากฝึกฝนด้วยนิคือวิชา

เมื่อยามสายเดินเลี่ยงหลบเงาไม้
จนถึงไร่เห็นลุงยุ่งอยู่หนา
ยังสงสัยทำอะไรใต้ชายคา
ท่านบอกว่าผูกเบ็ดเสร็จพอดี

หยิบกระป๋องใบเก่าเอาให้ผม
นำมาดมเหมือนเน่ากลิ่นคาวนี่
ท่านถือจอบสั่งความตามทันที
เห็นหันรีหันขวางพลางก้มดู

แล้วก็ขุดขุดขุดมิหยุดหย่อน
ได้ตัวอ่อนหนอนทรายมากมายอยู่
ใส่กระป๋องมันมุดคลานคุดคู้
ขุดเพียงครู่หนึ่งนี้มีหลายตัว

นำเศษดินกลบไว้ในกระป๋อง
ผมเฝ้ามองเห็นมันไม่คลานมั่ว
มิเคยเห็นก่อนนั้นมันน่ากลัว
ลุงกลับหัวเราะร่ามาปลอบใจ

ถึงขนำลุงทำมันหกด้วย
สั่งผมช่วยหยิบจับส่งกลับให้
ลุงจับถือว่าดูซิมิเป็นไร
ตัวเล็กใหญ่ไม่กัดอย่าหวาดเลย

บ่ายวันนี้มีงานการปักเบ็ด
เตรียมไว้เสร็จทุกอย่างมิวางเฉย
ขอไปดูด้วยครับรับมิเคย
ลุงก็เอ่ยชวนให้ไปช่วยกัน

ท่านส่งเปลือกมะพร้าวแห้งให้นิดหนึ่ง
คิดไม่ถึงนำใช้อย่างไรนั่น
ส่งตะข้องเพิ่มให้อีกหนึ่งอัน
ส่วนลุงนั้นถือเบ็ดหนอนตะลอนไป

ถึงชายน้ำจับเบ็ดมาเกี่ยวหนอน
ทุกขั้นตอนเจ็บนี่จะหนีไหน
ปักคันเบ็ดริมน้ำอย่างตั้งใจ
บอนกอใหญ่ปักไว้โคนใบบัง

ระยะนั้นทิ้งไว้ไม่ห่างนัก
จนมาปักอันสุดท้ายดั่งใจหวัง
เดินย้อนกลับขนำนี้ดีใจจัง
ลุงพูดดังดูซีที่กอบอน

ที่กาบใบยาวกลมผมก็รู้
เบ็ดปักอยู่หนึ่งอันผ่านเมื่อก่อน
ลุงจึงดึงเบ็ดได้ไม่รีบร้อน
มีปลาช่อนติดนั้นมันดิ้นรน

ปลดปลามาใส่ข้องต้องเปลี่ยนเหยื่อ
ปักซ้ำเมื่อก่อนนี้อีกสักหน
มองเห็นเบ็ดอันใกล้น้ำไหลวน
คิดสับสนนั่นหนาปลาอะไร

ลุงถอดเบ็ดขึ้นมาเป็นปลาดุก
มันรนรุกนึกว่าจะหนีได้
ท่านยังชี้ตัวนี้ระวังไว้
เงี่ยงนี่ไงตำนิดพิษมันมี

แล้วขอเปลือกมะพร้าวไปจากผม
กดเงี่ยงจมมิดได้ในเปลือกนี่
ท่านก็บิดนิดหนึ่งจึงรู้ดี
เงี่ยงหักฝังทันทีมีป้องกัน

ถึงขนำท่านสั่งไปอาบน้ำ
ใกล้สะพานที่ข้ามเข้ามานั่น
ทานอาหารมื้อนี้มีแต่มัน
หมูสามชั้นแม่ผัดจัดฝากมา

ลุงบอกผมหนึ่งทุ่มกู้เบ็ดต่อ
ระหว่างรอเตรียมไฟฉายได้จัดหา
แบตเตอรี่ชาร์ทใหม่ไฟเต็มนา
คอยเวลามัจฉาท่องวารี.

นพ
25ม.ค.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, ~ขลุ่ยกันแสง~, บ้านริมโขง, กังวาน, รัตนาวดี, กรกช, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
26 มกราคม 2014, 08:59:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 มกราคม 2014, 08:59:PM »
ชุมชนชุมชน

ถึงเวลากู้เบ็ดเตรียมเสร็จสรรพ
ลุงกำชับผมเฝ้าขนำนี่
ด้วยมืดค่ำอันตรายหลายอย่างมี
หน้าถอดสีเลยผมตรมอุรา

ลุงรื้อไม้ท่อนใหญ่ในกองนั้น
สี่ห้าอันมาไว้ทำไมหนา
ใบมะพร้าวแห้งผูกมัดจัดเตรียมมา
ไปวางพ้นชายคาพอประมาณ

สั่งผมนำไม้ไปมอบให้ด้วย
คือว่าช่วยเร็วไวให้พ้นผ่าน
เห็นสุมสุมกองไว้หมายเตรียมการ
ยินเสียงท่านร้องขอไม้ขีดไฟ

ยินเสียงสั่งยังหลงงงงงอยู่
ด้วยไม่รู้ไม้นี้นี่แบบไหน
ท่านคงทราบว่าผมมิเข้าใจ
ลุงชี้ให้เห็นนั้นที่มันวาง

เป็นแบบกล่องมีสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ด้านบนฝารูปนักมวยหันด้านข้าง
ลุงกดให้มันโผล่ถึงกึ่งกลาง
หยิบออกพลางให้ผมดูอยู่หนึ่งอัน

ต้องนำหัวปุ่มนี้มาลากชิด
เปลวไฟติดดังซู่อยู่หัวนั่น
ท่านจับไม้แล้วขีดลงไปพลัน
ผมเห็นทันใดนั้นไฟมันมี

นำไปจ่อยังใบมะพร้าวแห้ง
มันติดเร็วและแรงผมลุกหนี
ลุงรออยู่จนมันติดไม้ดี
ไม่รอรีเข้าขนำตามกันมา

แล้วหยิบกระป๋องเก่าเท่าที่เห็น
เหมือนจะเป็นหุ่นยนต์นั้นแหละหนา
ตรงกลางมีหัวติดไม่มีตา
มีเศษผ้าโผล่นั้นมันอะไร

ยังมีกลิ่นฉุนฉุนกรุ่นมาด้วย
สีมิสวยดำคล้ำคล้ายรอยไหม้
ลุงจุดไม้ขีดล่อจ่อเข้าไป
มันติดไฟสว่างอย่างไฟฟ้า

ลุงมองผมแล้วนั้นท่านหัวเราะ
เอามือเกาะไหล่ผมทางด้านขวา
กล่าวมันคือตะเกียงโบราณมา
ทั้งเศษผ้าน้ำมันก๊าดสิ่งสำคัญ

แล้วท่านก็จากไปหมายกู้เบ็ด
คงจะเสร็จผมละไม้ขีดนั่น
ขีดแล้วซู่ตกใจทิ้งไม่ทัน
ทั้งกลิ่นควันกลิ่นไหม้ที่ปลายนิ้ว.

นพ
26ม.ค.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, กังวาน, รัตนาวดี, กรกช, ชลนา ทิชากร, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
27 มกราคม 2014, 07:21:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 มกราคม 2014, 07:21:AM »
ชุมชนชุมชน



... หัวเราะเยาะ...

...ไปเยี่ยมลุง คราวหน้า พารัตน์ด้วย
จะได้ช่วย หุงข้าว ให้คราวหิว
ก่อไฟรอปลาย่าง ข้างทุ่งทิว
นึกภาพวิว แหม..เคลิ้ม เริ่มอยากไป...

...ไปเยี่ยมลุง อีกครา รีบมาบอก
เสื้อลายดอก สวยดี มีสวมใส่
ปะแป้งขาว หน้าเหมือน เดือนไฉไล
พี่นพชวน เมื่อไหร่ ลองไปดู... สาวน้อยหัวเราะ

รัตนาวดี

 ส่งจูบจ้ะ เคารพรัก

สวัสดีปีใหม่ยังไม่สายนะคะคุณพี่นพ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
ยิ้มหน้าใส

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สมนึก นพ, ไพร พนาวัลย์, กรกช, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
03 กุมภาพันธ์ 2014, 07:25:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 07:25:PM »
ชุมชนชุมชน

ขออย่าไปเลยหนาใกล้ป่าเปลี่ยว
นึกแล้วเสียวแมงป่องจ้องข่มขู่
คลานกางก้ามสองข้างอย่างกับปู
ยกหางชูโชว์เด่นดำเป็นมัน

ยามค่ำคืนลุงว่ามันหาเหยื่อ
และหากเมื่อมองเห็นเหยื่อเป็นนั่น
จะใช้ก้ามจับคีบหนีบไว้พลัน
ต่อสู้กันเหล็กในหางวางพิษลง

อีกหนึ่งคือตะขาบทราบแล้วหนาว
ตัวมันยาวกว่าคืบนิดพิษสูงส่ง
ขาเป็นร้อยลุงเล่าเรายังงง
ทอดตัวตรงเคลื่อนได้ขาไต่คลาน

ทั้งสองอย่างว่านี้ต่างมีพิษ
โดนเพียงนิดจะแย่ฤทธิ์แผ่ซ่าน
ยังได้เคยเห็นมันแต่วันวาน
หนีพ้นผ่านเร่งรุดมุดกองไม้

อีกค้างแตงค้างถั่วน่ากลัวอยู่
ยังมีงูตัวยาวอย่าเข้าใกล้
ออกสีเขียวแฝงตัวมีทั่วไป
พรางตัวไว้ให้เห็นเป็นเถาวัลย์

ซุ่มแมลงและนกจะฉกกัด
ลำตัวรัดจนตายดังหมายมั่น
หากเราเข้าไปใกล้หนีไม่ทัน
ยากป้องกันด้วยนาอันตราย.

นพ
3ก.พ.57


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:32:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #6 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014, 01:32:PM »
ชุมชนชุมชน

คอยลุงอยู่ขนำมืดค่ำนี้
เสียงหลากที่ดังมาพาใจหาย
เหมือนกับมันข่มขู่อยู่รอบกาย
ช่างมากมายเหลือนั้นเกินพรรณนา

กองไฟก็มอดลงเดี๋ยวคงดับ
ลุงกำชับเอาไว้ไร้ปัญหา
คอยเติมฟืนสุมให้ทุกเวลา
แต่มิกล้าออกไปทำไงดี

ยืนมองดูนอกขนำดำมืดมิด
ตะคุ่มไม้แนวชิดคิดว่าผี
ลุงกลับมาไฟดับกลับโดนตี
ยืนหันรีหันขวางยังคลางแคลง

ตัดสินใจคิดลองต้องทำได้
เดินหยิบไม้สุมไฟมิหน่ายแหนง
มันลุกโชนรวดเร็วเปลวร้อนแรง
เห็นแมลงบินเข้าในทำไมกัน

ไฟสว่างมองไปเห็นได้ทั่ว
ไม่คิดกลัวอะไรต่อไปนั่น
ที่ปลายไม้น้ำออกและมีควัน
นิ้วแตะมันร้อนนิดเหนียวติดมือ

นั่นคางคกจำได้คล้ายที่บ้าน
ก้าวขาคลานหมอบต่ำทำไมหรือ
เฝ้าดูมันตั้งนานเหตุนั้นคือ
ทำตาปรือฉกลิ้นกินตัวแมง

ที่ส่งเสียงดังลั่นตัวนั้นแน่
สองตัวแหย่กัดกันเหมือนกลั่นแกล้ง
สีดำคล้ำสับสนปนเข้มแดง
เหมือนระแวงอะไรหนีหายเลย

ยินลุงเรียกบอกว่ากลับมาแล้ว
คงอยู่แถวฝั่งใกล้ได้เอื้อนเอ่ย
เห็นแสงไฟสว่างทางเก่าเคย
มิเมินเฉยไปรับข้องกลับมา

ลุงเปิดข้องเทใส่ลงในถัง
กะละมังอีกใบได้จัดหา
จุดประสงค์เพื่อถนัดคัดแยกปลา
สว่างจ้าไฟจากกองใช้ส่องดู

สี่ห้าตัวน่าขำดำลายเมื่อม
เป็นดอกเหลื่อมเล็กใหญ่ได้สวยหรู
ตัวมันยาวหัวท้ายคล้ายกับงู
หัวเล็กอยู่นั้นหนาปลาอะไร

อีกตัวหนึ่งเหมือนเต่าเอามาด้วย
ลุงจะช่วยแกะเบ็ดคอยนำปล่อยใหม่
กระดองนิ่มจมูกยาวกว่าทั่วไป
ลุงสุมไฟจะรอถามตามเห็นนั้น.

นพ
4ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, muneenoi, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 กุมภาพันธ์ 2014, 01:28:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #7 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2014, 01:28:PM »
ชุมชนชุมชน


ลุงนั่งจับสายเบ็ดติดเต่าน้อย
ให้ผมคอยกดไว้มือไม้สั่น
ตาเบ็ดเกี่ยวทะลุแก้มซ้ายมัน
สี่ขาดันจะหนีมีความกลัว

ลุงนำคีมจับเบ็ดด้านแหลมแน่น
เกร็งกล้ามแขนกลัวมันจะหดหัว
หยิบมีดที่วางอยู่ใกล้ตัว
ท่านยังมัวตัดสายหมายขาดไป

แล้วดึงออกตามโค้งของวงเบ็ด
จนแล้วเสร็จลุงบอกปล่อยออกได้
มันหนีจากมือผมอย่างเร็วไว
ปรับตัวใหม่มุ่งหน้าหาลำธาร

ลุงบอกว่าตัวนี้มิใช่เต่า
แต่ก่อนเก่าคนล่าเป็นอาหาร
เช่นเดียวเต่าอายุยืนยาวนาน
ต่างเรียกขานตะพาบน้ำตามกันมา

จึงถามลุงทำไมไม่ย้อนกลับ
ใช้คีมจับโคนเบ็ดนั่นละหนา
จะถอดง่ายคงไม่เสียเวลา
เบ็ดตกปลาตัดสายเสียดายจัง

ลุงให้ดูเบ็ดใกล้ปลายแหลมนั้น
มีเงี่ยงคั่นอยู่หน่อยกันถอยหลัง
หากถอดย้อนกลับนี้มิระวัง
ปากจะพังบอบช้ำอันตราย

เบ็ดที่ตัดผูกใหม่ใช้ได้อยู่
ชี้ให้ดูนิดเดียวไม่เสียหาย
ลุงจับเบ็ดวนเวียนเปลี่ยนขวาซ้าย
มือจับสายผูกได้ใช้เหมือนเดิม

ท่านสั่งผมสุมไฟให้สว่าง
ฟืนหนาต่างแยงใส่ไฟลุกเพิ่ม
นึกขึ้นได้น้ำอะไรที่ไหลเยิ้ม
และควันเสริมมานั้นคืออันใด

จึงถามลุงตามเห็นที่เป็นอยู่
ด้วยอยากรู้น้ำมีจากที่ไหน
ออกมาพร้อมกันนั้นกับควันไฟ
มีกลิ่นไหม้เข้มฉุนและกรุ่นร้อน

ลุงมองผมและยิ้มอยู่ในหน้า
ท่านบอกว่ายางไม้มีหลายท่อน
และยังรองเก็บไว้ใช้บางตอน
ผสมน้ำฉีดกันหนอนกันแมลง

สัญชาติญาณของสัตว์จำกัดอยู่
มันไม่รู้ว่าลุงมากลั่นแกล้ง
นึกว่าไฟไหม้ป่ากลิ่นมาแรง
สัตว์ปีกแข็งปีกอ่อนไม่ย้อนมา.

นพ
6ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, muneenoi, รัตนาวดี, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:51:AM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 12:51:AM »
ชุมชนชุมชน


ฟังลุงบอกชอบใจได้ความรู้
ก้มมองดูในถังทางด้านขวา
สี่ห้าตัวลายมีนี่หรือปลา
มันยาวกว่าตัวอื่นดาษดื่นมี

ลุงบอกว่ามันคือปลากระทิง
ดูนอนนิ่งผิดปลาทั้งหลายนี่
หุ่นเรียวยาวแบนข้างร่างเพรียวดี
เห็นลายสีจงอยปากถึงแก้มมัน

ตัวเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลเหลือง
หรือวงเขื่องลายเส้นตามเห็นนั่น
นี่ครีบก้นและหางกางต่อกัน
ครีบหลังสั้นเล็กเด่นวางเป็นแนว

รูปวงคล้ำหรือดำเป็นลายเส้น
ดูสวยเด่นสองข้างวางต่อแถว
เคยตกได้ใหญ่กว่านี้ก็มีแล้ว
เพื่อนขอเลี้ยงในตู้แก้วปลาสวยงาม

ลุงแยกปลาตายใส่กะละมัง
ตัวเป็นขังวางใต้ต้นมะขาม
นำฝาปิดทับไว้ได้รู้ความ
หลายโมงยามคงไม่ตายหนีหายไป

ลุงทำปลาที่ตายหมักเกลือต่อ
เก็บรวมรอตากแดดขึ้นวันใหม่
ท่านบอกผมเข้านั่งอยู่ข้างใน
ลุงลงสู่ลำธารใสเพื่อล้างตัว

แล้วขึ้นมาเปลี่ยนผ้านั่งบนแคร่
ใช้มือแหย่หยอกผมทั้งหูหัว
ที่กองไฟเกือบมอดเริ่มมืดมัว
ลุงเตือนว่าอย่ากลัวรีบเข้านอน

จึงถามลุงเรื่องแมลงสองตัวนั้น
ไล่กัดกันท่านถามลักษณะก่อน
ให้ผมเงียบฟังเสียงมันบางตอน
ท่านจะสอนจะเล่าเช้าพรุ่งนี้.

นพ
8ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 กุมภาพันธ์ 2014, 10:56:AM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #9 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2014, 10:56:AM »
ชุมชนชุมชน


ก่อนจะหลับลุงปลุกลุกขึ้นนั่ง
ท่านได้สั่งดูแสงมันเคลื่อนที่
หันไปเห็นใจคอมิสู้ดี
นั่นมันผีกระสือเล่าลือกัน

ขยับเข้าไปชิดติดกับลุง
ดวงไฟมุ่งมาใกล้กระท่อมนั่น
ลุงหัวเราะชอบใจรู้ได้ทัน
เห็นผมสั่นท่านถามเล่าความไป

มันคือผีกระสือออกตามล่า
ล่องลอยมาแต่หัวและลำไส้
ท่านนิ่งฟังหัวเราะอย่างชอบใจ
หาว่าผมคิดไกลเกินความจริง

ผีกระสือที่ไหนไม่มีหรอก
ตามคำบอกเรื่องเล่าผีเข้าสิง
นำเหตุการณ์ธรรมชาติมาอ้างอิง
ลุงออกวิ่งไล่จับมาให้ดู

คือหิ่งห้อยมีแสงภายในท้อง
บินลอยล่องนี่หรือคือตัวผู้
ส่งแสงสื่อความหมายมาให้รู้
คือหาคู่ผสมพันธุ์สายเผ่าพงศ์

ส่วนตัวเมียเกาะนิ่งที่กิ่งไม้
ส่งแสงได้น้อยกว่าอย่ามองหลง
ตัวผู้แสงสองปล้องอย่างมั่นคง
ตัวเมียส่งแสงรับจับชอบพอ

ฟังลุงอธิบายชอบใจมาก
จึงเอ่ยปากจับบ้างได้ไหมหนอ
ลุงนำมือประชิดแนบติดรอ
นิ้วเขี่ยจ่อมามือผมได้เชมเชย

มันเดินเล่นวนเวียนไม่นานนัก
เหมือนหยุดพักกางปีกบินหนีเฉย
ไปเข้าฝูงเพื่อนเขาเหมือนเก่าเคย
ลุงแกล้งเอ่ยกระสือนี้ที่ไหนกัน

จึงมุดตัวลงนอนหมอนใบเก่า
ตามองเจ้าหิ่งห้อยตัวน้อยนั่น
ค่อยม่อยหลับลงไปไม่นานครัน
ในความฝันยืนเด่นเป็นราชา

มีหิ่งห้อยตัวน้อยหลายพันล้าน
ผสมผสานส่องแสงอันแรงกล้า
สะท้อนรับแวววับจับกายา
สุขอุราแสงนวลชวนให้มอง.

นพ
9ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, D

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
15 กุมภาพันธ์ 2014, 12:52:AM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2014, 12:52:AM »
ชุมชนชุมชน


ตอนใกล้รุ่งเสียงดังนอกขนำ
มันมืดค่ำซู่ซ่าน่าสยอง
ลุงคงรู้ตลอดกอดประคอง
ผมยังจ้องตกใจอยู่ในที

ท่านบอกว่าลมพัดจัดไปหน่อย
เสียงหนักค่อยปะทะสังกะสี
สงสัยจะพาฝนมาด้วยซี
นอนอยู่นี่อย่าขลาดหรือหวาดกลัว

เสียงเปาะแปะบนหลังคาเริ่มหนาแน่น
ผมเกาะแขนลุงไว้คิดไปมั่ว
น้ำจะท่วมไหมนะสั่นระรัว
ต้องลอยตัวข่าวทีวีมีก่อนนั้น

เพียงครู่หนึ่งเงียบไปฝนหายแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้วฝั่งคลองนกร้องลั่น
เดินตามลุงออกไปไล่ให้ทัน
ท่านส่งน้ำหนึ่งขันล้างหน้าตา

เหลือบไปเห็นด้านทิศตะวันออก
ไม่หลอนหลอกแสงทองสว่างจ้า
ลุงเดินดูที่ถังใช้ขังปลา
ด้วยกลัวว่าน้ำฝนจะล้นไป

แวะดูต้นบวบงอกสองวันผ่าน
เหลือแต่ก้านนอกนั้นมันหายไหน
ลุงบอกว่าแมลงมากินใบ
น่าเจ็บใจฝนมาหาไม่เจอ

จึงถามลุงอะไรที่หนีหาย
บ่นเสียดายงุมงำมาทำเก้อ
ท่านบอกว่าสองตัวนั้นนะเออ
น้ำฝนเอ่อรูมิดปิดกลมกลืน

ผมเห็นรุ้งกินน้ำโค้งงามสี
เอามือชี้ตกใจให้เป็นอื่น
รีบอมนิ้วทันนะขณะยืน
และยังฝืนบอกลุงรุ้งกินน้ำ

ลุงกล่าวว่าแสงสะท้อนดวงอาทิตย์
หักเหบิดมุมแสงฝั่งตรงข้าม
จากละอองฝนตกเมื่อชั่วยาม
ท่านยังถามอมนิ้วทำไมกัน

บอกลุงไปหากใครได้ชี้รุ้ง
แสงจะพุ่งตัดนิ้วเราขาดนั่น
ต้องแก้เคล็ดอมไว้ให้ได้ทัน
ก่อนที่มันจะเห็นและเป็นไป

ลุงจึงชี้ดูต่อหัวเราะร่า
อธิบายมารับรู้ดูเสียใหม่
มีเจ็ดสีนับซีนะจะเข้าใจ
สองวงใหญ่ซ้อนกันเห็นชัดตา

ท่านชวนผมไปนั่งขอนไม้เก่า
แล้วจะเล่าให้ฟังมิกังขา
ให้ผมชี้นับสีลดหลั่นมา
ผมกลัวกลัวไม่กล้ายังระแวง.

นพ
15ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, D

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:28:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #11 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:28:PM »
ชุมชนชุมชน


แล้วลุงชี้ให้ดูรุ้งวงล่าง
ที่สว่างชัดเด่นเห็นสีแสง
แถบบนสุดขอบนอกออกสีแดง
ท่านถามแกล้งเหลือมีสีอะไร

ต่อจากแดงลงมาแสดเหลืองเขียว
ดูคาบเกี่ยวน้ำเงินน่าจะใช่
ที่ชิดกันกลมกลืนมิแน่ใจ
จึงตอบไปสีครามสุ่มตามดวง

สีสุดท้ายแถวล่างยังได้เห็น
ออกนวลเย็นนั้นหรือคือสีม่วง
หนึ่งสองสามสี่ห้าตาพร่าลวง
จึงแกล้งถ่วงแกล้งมั่วกลัวขาดเกิน

ขยี้ตานับใหม่ได้หกเจ็ด
คงจะเสร็จเห็นชอบตอบแต่เนิ่น
ลุงหันมาพยักพเยิดดูเพลิดเพลิน
แล้วยังเกริ่นอีกวงโค้งอันบน

ตัวที่สองเห็นนั้นต่างกันอยู่
ชี้ให้ดูให้นับอย่าสับสน
ขอจงมองแนวสีมีแยบยล
อย่าหลงกลม่วงแดงตำแหน่งวาง

ตัวที่หนึ่งสีแดงอยู่บนสุด
ตัวที่สองแดงหลุดอยู่ด้านล่าง
จงสังเกตให้ดีแม้สีจาง
ท่านกล่าวพลางก้าวไปเข้าในครัว

ผมเดินตามลุงไปจึงได้เห็น
กะทะเป็นอะไรก้นได้รั่ว
รูมันใหญ่ด้วยนาช่างน่ากลัว
จะผัดคั่วทอดไข่อย่างไรกัน

ท่านบอกว่าต้มหุงลุงใช้ไม้
เป็นเชื้อไฟประจำดำได้นั่น
ไม้โดนเผาเปลวไฟให้มีควัน
ขอบกะทะมาคั่นพอบรรเทา

รูกะทะจะเล็กกว่าก้นหม้อ
แต่เพียงพอความร้อนจากไฟเผา
จะมีดำด่างบ้างเพียงบางเบา
ผิดหม้อเก่าใบก่อนตอนเจ้ามา

ลุงให้ผมหยิบจานนำวางใกล้
ตัดตะไคร้สองต้นข้างกอข่า
ส่วนท่านหั่นหัวหอมยอมแสบตา
จะยำปลากระป๋องอาหารเช้า.

นพ
16ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, D

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
20 กุมภาพันธ์ 2014, 04:07:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #12 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 04:07:PM »
ชุมชนชุมชน


สองกระป๋องมาวางด้านข้างเห็น
เหมือนจะเป็นสามคนแม่ครัวเก่า
ลุงยกห่วงด้านบนกดเพียงเบา
แล้วดึงเอาแผ่นกั้นนั้นออกมา

ยกเทใส่ในจานที่รองรับ
ผมลองนับหนึ่งสองสามสี่ห้า
กระป๋องหนึ่งกลับมีสองชิ้นปลา
ตัวโตกว่าอีกสามนำเรียงวาง

ท่านนำของเตรียมไว้ไปผสม
สั่งให้ผมผ่ามะนาวตามแนวขวาง
ลุงรับไปเขี่ยเมล็ดทิ้งออกพลาง
บีบมะนาวเปลือกบางน้ำมากมี

เติมน้ำปลาน้ำตาลอย่างละนิด
ยังสะกิดให้นั่งข้างท่านนี่
ทานกันไปคุยกันไปอร่อยดี
หลายนาที่อิ่มหนำสำราญใจ

ลุงเก็บปลากระป๋องที่ยังเหลือ
เอารวมเผื่ออาหารทานมื้อใหม่
ที่จานรองมีน้ำเติมทำไม
จานอีกใบปิดบนสับสนจริง

ลุงเล่าว่าข้าศึกมันโอหัง
ทั้งรถถังเครื่องบินครบทุกสิ่ง
บุกโจมตีทุกเวลาไม่ประวิง
คอยไล่ยิงมันนั้นมิทันการณ์

ยังสงสัยอยู่นะมิกล้าถาม
เก็บช้อนชามออกเดินตามหลังท่าน
ลุงนำปลาที่ทำผมนำจาน
ลงลำธารล้างจานปลาสาละวน

มีลูกปลาหลายหลากดูมากอยู่
ต่างว่ายกรูยื้อแย่งกันสับสน
เอามือแหย่ใกล้ใกล้ไม่กลัวคน
เศษปลาปนเศษข้าวเฝ้าแย่งกัน

แล้วผมนำจานเก็บไว้ในครัว
ลุงก็มัวตากปลากลางแดดนั่น
เพียงครู่เดียวก็มีแมลงวัน
ตามมาทันตัวนี้ที่แปลกตา

ตัวมันใหญ่มีสีเหลืองและดำ
ที่น่าขำเอวเล็กอีกนั้นหนา
บินมาเกาะมั่นเหมาะที่ตัวปลา
ผมเอื้อมมือจะคว้าจับมาไว้

ลุงปัดมือผมออกบอกอย่านะ
พิษเหลือละตัวนี้นี่บอกให้
ต่อหัวเสือพิษมีที่เหล็กใน
จะปวดบวมเป็นไข้ได้ทันที

แล้วไล่ผมเข้าคอยในที่ร่ม
อดได้ชมแมลงตัวแปลกนี่
เห็นท่านคงตากปลาเสร็จละซี
ไม่รอรีวางต่ำใกล้พื้นดิน.

นพ
20ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 กุมภาพันธ์ 2014, 03:49:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2014, 03:49:PM »
ชุมชนชุมชน


จึงถามลุงทำไมได้วางต่ำ
โดนฝุ่นคล้ำดำไปเสียหายสิ้น
ท่านให้ดูแมลงที่โบยบิน
กิ้งก่าแย้มากินอีกไม่นาน

ที่น่ากลัวสองชนิดติดอันดับ
ต้องยอมรับล่าเนื้อเป็นอาหาร
ตัวต่อที่เจ้าเห็นเป็นต่องาน
คือทหารป้องกันเหตุทั่วไป

หน้าที่ออกตามล่าหาเสบียง
สำรองเลี้ยงตัวอ่อนที่รังใหญ่
มีอาวุธที่ก้นคือเหล็กใน
หากว่าใครโดนนั้นอันตราย

หนึ่งรังมีประมาณว่าหลายร้อย
โดนรุมต่อยมากนะจะเสียหาย
เคยฟังข่าวโดนมาชีวาวาย
แม้ไม่ตายทรมานนานพอดู

บ้างทำรังบนต้นไม้ ใต้พื้นดิน
ต่างก็ออกหากินเหมือนกันอยู่
ที่พิ้นดินเดินไปหากไม่รู้
มันออกสู้ไล่ล่าหมายฆ่ากัน

เมื่อมาเจอเหยื่อปลาเดี๋ยวมาแน่
มันจะแห่ฟันกรีดเหมือนมีดหั่น
เป็นก้อนก้อนคาบไปในฉับพลัน
ส่วนแมลงวันวางไข่หมายเผ่าพงศ์

จะวางไข่สีขาวเป็นกองกอง
มีหลายฟองเรียงรวมตามประสงค์
แล้วฟักเป็นตัวหนอนชอนไชลง
เนื้อปลาผงร่องรางทางมันกิน

ตัวหนอนเป็นดักแด้แก่เต็มที่
ประมาณนี้สิบวันมันจบสิ้น
กระพือปีกแผ่นบางกางปีกบิน
สู่คืนถิ่นมั่นหมายสืบสายพันธุ์

ผมสงสัยเรื่องหนึ่งจึงถามท่าน
มีทหารรถถังเครื่องบินนั่น
เขาจะมาอย่างไรทำไมกัน
ท่านหัวเราะคงขันพลันตอบมา

รถถังคือตัวมดไต่ตามพื้น
มิอาจฝืนน้ำกั้นคิดฟันฝ่า
ส่วนเครื่องบินบินโฉบจากฟากฟ้า
หมายถึงว่าแมลงวันมันมาตอม.

นพ
21ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 กุมภาพันธ์ 2014, 03:05:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #14 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2014, 03:05:PM »
ชุมชนชุมชน


มีใครเรียกลุงดังฟังเสียงก้อง
อีกฝั่งคลองเห็นชายร่างกายผอม
ลุงขานครับตอบรับอย่างนอบน้อม
เขาจึงยอมข้ามผ่านสะพานมา

ลุงบอกผมคนนั้นนั่นเพื่อนเก่า
สมัยเล่าเรียนอ่านการศึกษา
รับมรดกตกทอดจากบิดา
คือที่นาและควายเลี้ยงไปพลาง

เขาเดินเข้ามาใกล้ผมไหว้ท่าน
ลุงแนะนำว่าหลานมาวันว่าง
เขาหิ้วถุงมาด้วยนี้สีหม่นจาง
เล่าไปพลางถึงสิ่งอยู่ภายใน

ว่าเมื่อคืนยกยอบ่อน้ำขัง
คือคาดหวังว่าล่าปลาตัวใหญ่
มีคนหาทุกวันมันหมดไป
รอน้ำใหม่ฝนมาอีกช้านาน

ได้กุ้งฝอยแบ่งลุงคนละครึ่ง
ด้วยคิดถึงไปธุระจะต้องผ่าน
ต้มแล้วน่าจะได้สักสองจาน
จะรสเปรี้ยวรสหวานได้สบายท้อง

ได้ยินลุงบอกว่าเวลากลับ
แวะมารับด้วยนี้มีสิ่งของ
ปลาวางเบ็ดที่ได้จากลำคลอง
ผักสำรองพริกมะเขือถั่วแตงกวา

ทั้งสองสั่งความไว้ได้มั่นเหมาะ
เขาลัดเลาะจากไปทันใดหนา
เทกุ้งเก็บเตรียมถุงไว้ใส่ปลา
หยิบตะกร้าหาผักพักเตรียมไว้

ผมเจอตัวหนอนมีที่แก้มกุ้ง
มันนูนตุงสีคล้ำเกือบดำได้
ตั้งหลายตัวด้วยนะคืออะไร
เป็นพยาธิ์หรือไม่ใจไม่ดี

ลุงเก็บผักกลับมาจะได้ถาม
อยากรู้ความคือตัวอะไรนี่
ตามออกไปช่วยลุงมุ่งทันที
มิรอรีรับตะกร้ามาถือแทน.

นพ
25ก.พ.57

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
02 มีนาคม 2014, 01:41:AM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #15 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 01:41:AM »
ชุมชนชุมชน


เพื่อนของลุงหาบถุงมาสองใบ
มาวางใกล้ภายในมีของแน่น
ใบหนึ่งไม่ตึงดีรอยบี้แบน
คงมีแผนเติมใส่หลายอย่างมี

ลุงให้ปลาให้ผักดูหลากหลาย
เขาให้น้ำตาลทรายลุงด้วยนี่
ทั้งสองคนคุยสนุกด้วยไมตรี
หลายนาทีหาบขึ้นบ่าอำลากัน

ลุงเก็บปลาที่ตากใส่ตะกร้า
มีมดมาจากไหนมากมายนั่น
ท่านเคาะไล่คลานหนีพัลวัน
ปลาซ้อนเรียงสองชั้นเก็บในครัว

นำกุ้งฝอยมาล้างให้สะอาด
ส่วนที่หนวดไม่ขาดพันกันมั่ว
ลุงพยายามดึงให้หมดทุกตัว
ผมชี้ตรงที่หัวให้ท่านดู

คือพยาธิ์ใช่ไหมในหัวกุ้ง
แก้มนูนตุงมีตัวนั้นแฝงอยู่
ลุงพยักหน้าที่ถามท่านรับรู้
เพียงชั่วครู่ท่านแกะวางกลางฝ่ามือ

ตัวของมันกลมแบนเหมือนจานคว่ำ
ออกสีคล้ำผมขอมาจับถือ
ลุงได้บอกด้วยดีตัวนี้คือ
เห็บปลาหรือกาฝากมีมากมาย

จะเกาะติดสัตว์น้ำปลาทั่วไป
ทั้งเล็กใหญ่กัดกินจนเสียหาย
คอยดูดกินของเหลวจากร่างกาย
สังเกตง่ายมีแผลที่ตัวปลา

เมื่อมันโตเต็มที่จะวางไข่
บนก้อนหินที่ในน้ำนั้นหนา
เก้าถึงสิบหกวันต่อกันมา
ได้เวลาเป็นตัวอ่อนย้อนเวียนวน

ไม่ได้รับอาหารในหนึ่งวัน
จะตายกันง่ายง่ายไม่สับสน
ตัวเมียโตเต็มวัยมีไข่ล้น
วางไข่จนหมดนั้นมันก็ตาย

พวกเลี้ยงปลาสวยงามหรือปลาตู้
ต้องหมั่นดูก่อนที่จะเสียหาย
ผิดสังเกตรอยเด่นเห็นง่ายดาย
ยากำจัดมีขายโดยทั่วไป.

นพ
2มี.ค.57
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 มีนาคม 2014, 01:50:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #16 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 01:50:PM »
ชุมชนชุมชน


ลุงเก็บผ้านำซักที่ลำธาร
ขออนุญาตจากท่านเล่นน้ำใส
ท่านพยักหน้าเห็นนี้แสนดีใจ
คว้าถังได้หนึ่งใบลงลำคลอง

มีลูกปลาหลายตัวมายั่วเล่น
ที่โดดเด่นสีงามคอยตามจ้อง
หางยาวใหญ่ผิดปลาสายตามอง
ใช้มือป้องเข้าถังขังหนึ่งตัว

นำถามลุงนี่ปลาอะไรครับ
สีสลับเหลื่อมลายเห็นได้ทั่ว
มันว่ายวนจะหนีเพราะความกลัว
กระโดดมั่วหลุดไปเสียดายจัง

ลุงบอกว่าคือปลาหางนกยูง
อยู่เป็นฝูงหลายแหล่งแอ่งน้ำขัง
หากินที่ผิวน้ำร่มไม้บัง
ผู้คนยังเลี้ยงด้วยปลาสวยงาม

ผมนำถังล่าใหม่ใกล้แอ่งหิน
แมลงปอบินหนีไปฝั่งตรงข้าม
นั่นคือตัวอะไรอยู่ในน้ำ
ผมไล่ตามจับได้ให้แปลกดี

ให้ลุงดูตัวนี้มันมีขา
แต่ดูหน้าเหมือนแมลงปอนี่
ไม่เหมือนปลาเลยหนาในวารี
หลายนาทีจมนั้นมันไม่ตาย

ลุงบอกว่าตัวอ่อนเจ้าตัวนั่น
ผมรีบหันดูมือคือที่หมาย
แมลงปอเกาะรู้อยู่เดียวดาย
ปีกบางลายสองข้างกางอยู่นาน

ท่านเล่าว่าเมื่อมันจะวางไข่
มีหลายใบวางในห้วยละหาน
ที่พืชน้ำก้อนหินตามต้องการ
เวลาผ่านเป็นตัวอ่อนซ่อนแฝงตน

จับกินเหยื่อลูกปลาและลูกอ๊อด
แต่มีปอดหรือไม่ให้สับสน
จะโผล่หางพ้นน้ำขึ้นเบื้องบน
หายใจจนเต็มที่ดำหนีไป

บางชนิดอยู่นั้นมินานนี้
บางชนิดหลายปีกว่าบินได้
ขึ้นจากน้ำลอกคราบตามกิ่งไม้
ชีวิตใหม่ผกผินกินริ้นยุง

จงดูตัวนั้นซีบินมาคู่
ซ้อนกันอยู่ผสมพันธุ์มันหมายมุ่ง
แล้ววางไข่ในน้ำตามคลองคุ้ง
เพื่อพยุงเผ่าพันธุ์ให้มั่นคง

ตัวมีปีกเต็มวัยอายุสั้น
ประมาณสองเดือนนั้นวัยสูงส่ง
คือแก่ตัวบั้นปลายและตายลง
อาจมีหลงกันบ้างไม่ห่างนัก.

นพ
4มี.ค.57
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มีนาคม 2014, 06:51:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #17 เมื่อ: 05 มีนาคม 2014, 06:51:PM »
ชุมชนชุมชน


ซักผ้าเสร็จขึ้นฝั่งหวังตากได้
นำท่อนไม้ฝังนำทำเสาหลัก
และไม้ไผ่ลำยาวทำราวพัก
คงไม่หักแน่นั้นดูมั่นคง

ปลายอีกด้านพาดนิ่งกิ่งมะม่วง
ดั่งภาพลวงเอียงนิดผิดประสงค์
เพราะเสาสั้นลุงนั้นนำปักลง
ผมยังงงลุงกล่าวยาวพอดี

ท่านไล่ผมหลบแดดร้อนแผดเผา
หลบอยู่ในร่มเงาให้ได้นี่
จึงหลบใต้ร่มไม้หลายหลากมี
เสียงดนตรีจากแมลงดังแข่งกัน

เหลือบเห็นเปลือกอะไรมันติดอยู่
เข้าไปดูใกล้ใกล้สงสัยนั่น
เหมือนจะร่างแห้งกรอบรอบตัวมัน
หกขาสั้นหลังแตกช่างแปลกจริง

ลุงบอกว่าจั๊กจั่นมันลอบคราบ
อยากจะทราบแล้วไงสนใจยิ่ง
ท่านให้หยิบออกมาเพื่ออ้างอิง
ดูเกาะนิ่งกลัวหักคอยระวัง

สองคนพักที่แคร่ในขนำ
ท่านเตือนย้ำให้ผมเล่าเรื่องหนหลัง
ผมทบทวนแมลงปอให้ท่านฟัง
ท่านนิ่งนั่งพยักหน้าว่าพอใจ

ลำดับต่อหัวเสือเรื่องที่สอง
แมลงวันเรื่องรองตอนวางไข่
ลุงบอกว่าอีกนะอย่าละไป
นึกดูซีมีใครให้กุ้งมา

จึ่งรู้ได้ทันทีมีเฉลย
ยังมิเคยลืมไปนั้นหรอกหนา
พวกสัตว์ตัวน้อยน้อยหวังพึ่งพา
ตัวนั้นคือเห็บปลาใช่ไหมลุง

ท่านจึงว่าพรุ่งนี้จะเล่าต่อ
เป็นเรื่องย่อจั๊กจั่นตามหมายมุ่ง
แต่ผมต้องบอกก่อนตอนเกิดรุ้ง
แสงสีพุ่งสู่ฟ้ามาทวนความ.

นพ
5 มี.ค.57
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 มีนาคม 2014, 01:35:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #18 เมื่อ: 08 มีนาคม 2014, 01:35:PM »
ชุมชนชุมชน


นั่งตรึกตรองถึงรุ้งสองวงนั้น
สลับกันแนวสีที่ลุงถาม
เกิดอย่างไรทิศไหนได้งดงาม
คือตรงข้ามสุริยะแสงสะท้อน

ลุงออกไปแหนงดูต้นลองกอง
เหมือนเฝ้ามองจ้องหาบนกิ่งขอน
แล้วเรียกผมออกไปอย่างรีบร้อน
ชี้ดูก่อนตัวที่ออกลอกคราบมา

ช่างเหมือนคราบตัวนิดมิผิดเพี้ยน
เพียงแต่เปลี่ยนแปรไปตัวใหญ่กว่า
เสียงร้องรับตัวใหม่ในพนา
ลุงบอกว่าต่างหาคู่อยู่มิไกล

ความถี่เสียงเขาบอกออกไม่น้อย
ถึงสองร้อยเดซิเบลคงจะใช่
ตัวเมียจะหาช่องของเปลือกไม้
เมื่อวางไข่แล้วนั้นมันก็ตาย

ไข่จะคงอยู่นั้นประมาณว่า
สี่เดือนกว่าตัวอ่อนหนอนมากหลาย
แล้วทิ้งตัวลงยังถิ่นหลบกาย
สุขสบายอาศัยใต้พื้นดิน

ดูดน้ำเลี้ยงจากรากไม้เป็นอาหาร
คงประมาณสิบเจ็ดปีมีจบสิ้น
โผล่ขึ้นมาลอกคราบออกหากิน
แล้วโบยบินผสมพันธุ์ผันเวียนวน

สรุปรวมอายุของมันนี้
สิบแปดปีประมาณว่าอย่าสับสน
เดือนกุมภาถึงมิถุนายน
ทุกแห่งหนป่ามีดนตรีไพร

ค่ำคืนนี้เตรียมการออกตามล่า
แสวงหาขโมยผู้ยิ่งใหญ่
เที่ยวกัดกินต้นอ่อนแขนงใบ
เพาะกล้าไม้ไว้นี้มิเหลือเลย

ได้ฟังลุงพูดมาน่าสนุก
ขอท่านปลุกด้วยนาอย่าเมินเฉย
คงแมลงในรูรู้ก่อนเคย
จะลงเอยอย่างไรในคืนนี้.

นพ
8มี.ค.57
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 มีนาคม 2014, 07:54:PM
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



taojeo@hotmail.com
« ตอบ #19 เมื่อ: 11 มีนาคม 2014, 07:54:PM »
ชุมชนชุมชน


นั่งพักผ่อนหลังข้าวมื้อเย็นผ่าน
เห็นลุงท่านตรวจสอบแบตเตอรี่
หลังกู้เบ็ดลุงว่าไฟยังมี
เวลาดีได้ล่าฆ่าแมลง

รอพลบค่ำเลยไปไม่ทันดึก
ความรู้สึกเสียงร้องดังหลายแห่ง
ลุงหยิบไม้เตรียมการทะมัดทะแมง
ไฟส่องแสงกราดทั่วบริเวณ

เจอแล้วที่ปากรูมันอยู่นั้น
ส่งเสียงร้องประชันดูโดดเด่น
ลุงจ้องรอจังหวะเหมือนจะเน้น
คงมิเข่นฆ่าตายหมายจับตัว

ลุงใช้มือตะปบอย่างว่องไว
ผมชอบใจเห็นลุงตะครุบมั่ว
มันกระโดดหนีไปทางริมรั้ว
แต่ลุงหัวเราะร่าเช็ดฝ่ามือ

หาตัวใหม่จับได้ในร่องผัก
ลุงกลับมานั่งพักพอแล้วหรือ
ท่านอธิบายให้ฟังตัวนี้คือ
กลับเปลี่ยนนิ้วจับถือใกล้หัวมัน

คือจิ้งหรีดอยู่รูในดินทราย
กินทำลายพืชผักทั่วไปนั่น
มีปีกอยู่สองคู่ทับซ้อนกัน
ปากคมคล้ายดั่งฟันแทะกัดกิน

ส่วนขาหลังสองคู่ที่ดูใหญ่
สำหรับใช้กระโดดไปทั่วถิ่น
ร่องข้างตัวสร้างเสียงที่ได้ยิน
เป็นอาจิณยามค่ำทำบรรเลง

แต่เป็นเพียงตัวผู้เท่านั้นนะ
ไม่ลดละว่ามันสุดยอดเก่ง
เผื่อตัวเมียสนใจในเสียงเพลง
ลดกริ่งเกรงสู่การผสมพันธุ์

ลูกจิ้งหรีดจากไข่เป็นตัวอ่อน
มิได้เป็นตัวหนอนเช่นอื่นนั่น
เหมือนทุกอย่างแน่แท้พ่อแม่มัน
รอถึงวันลอกคราบทราบเต็มวัย

ผมนั่งฟังเพลินดีมีสะดุ้ง
สัตว์ปีกพุ่งชนหน้าพาสงสัย
หลบหาลุงด้านหลังหวังปลอดภัย
คงเลศนัยบางอย่างคิดคลางแคลง

เพียงครู่หนึ่งมันบินเข้ามาใหม่
ปีกกว้างใหญ่ดวงตาสะท้อนแสง
มิเคยเห็นมาก่อนชักอ่อนแรง
กลัวเหล็กในทิ่มแทงปวดระบม

แล้วมาเกาะที่ใกล้เห็นได้ชัด
มองถนัดลายสีที่สวยสม
ลุงกล่าวว่าโชคดีมีให้ชม
ท่านบอกผมคือผีเสื้อกลางคืน.

นพ
11มี.ค.57



...
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s