❖ ธรรมะ จากปีใหม่ ❖
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 09:43:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ❖ ธรรมะ จากปีใหม่ ❖  (อ่าน 3082 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
04 มกราคม 2014, 09:40:PM
♥ กานต์ฑิตา ♥
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 500
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,078



« เมื่อ: 04 มกราคม 2014, 09:40:PM »
ชุมชนชุมชน




วันเวลาเร็วไวปีใหม่แล้ว
เสียงเพลงแจ้วอำนวยอวยพรก้อง
ทุกหนแห่งแสงจับระยับทอง
ร่วมเฉลิมฉลองปีมะเมีย

อีกปีแล้วสินะที่ผ่านพ้น
อย่างอดทนกายใจมิให้เสีย
ประคองธรรมนำไว้ไล่อ่อนเพลีย
ทั้งทั้งที่ระเหี่ยแทบหมดแรง

จึงควรเพิ่มเติมบุญต้นทุนเก่า
ตั้งแต่เข้าปีใหม่ให้กล้าแกร่ง
จะได้มีต้นทุนบุญแสดง
ประดับแต่งกิ่งก้านโอฬารงาม

ทั้งสี่ห้องหัวใจให้บุญอาบ
ศีลกำซาบทรวงไว้ให้ล้นหลาม
พุทโธท่องผ่องแผ้วตรงแนวตาม
สมมุตินามเวลาเพียงเท่านั้น

ส่งความสุขมอบให้ปีใหม่ถึง
เทศกาลงานหนึ่งซึ่งสุขสันต์
ศักราชเปลี่ยนปีดิถีวัน
ถ้วนหน้ากันทั่วไปได้หยุดพัก

คำอำนวยอวยชัยใช่แก่นแท้
เป็นเพียงแค่ความหวังตั้งเป็นหลัก
พรของใครไหนเลยที่เอ่ยทัก
จะประจักษ์จริงแน่...แค่ให้พร


 งง....

"กานต์ฑิตา"



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, พ.พิมพา, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, panthong.kh, muneenoi, ดาว อาชาไนย

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2014, 11:24:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #1 เมื่อ: 05 มกราคม 2014, 11:24:AM »
ชุมชนชุมชน


มีพระธรรม นำใจ ให้ใสส่อง
เป็นทำนอง ก้องกึก สำนึกก่อน
ความดีชั่ว มัวเมา เคล้านิวรณ์
อาจบางตอน ขาดวิ้น สิ้นเยื่อใย

ลดละโลภ โกรธหลง ปลงเสียบ้าง
แม้อ้างว้าง ว้าเหว่ ดูเก๋ไก๋
สุขที่ได้ ประพฤติ ยึดสู่ใจ
อิ่มเอมได้ ไม่ยาก หากต้องการ

เริ่มจากหนึ่ง ไปสอง มองแน่วแน่
ประคองแด เด่นด้วย ช่วยผสาน
ไม่นานนัก สำเร็จ เหตุแห่งทาน
ที่ร้าวราน เลือนลด หดเหือดลง

พรใดดี เลิศลึก ฝึกฝนเข้า
สายกลางเขา ว่านั้น อย่าพลันหลง
อย่าหย่อนย้วย ตึงไป ใช่ยืนยง
เกิดมั่นคง สุขสวัสดิ์ พิพัฒน์ชัย
พันทอง
๔/๑/๕๗

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ดาว อาชาไนย, รพีกาญจน์, อริญชย์, ชลนา ทิชากร, ♥ กานต์ฑิตา ♥, รัตนาวดี

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
05 มกราคม 2014, 08:56:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #2 เมื่อ: 05 มกราคม 2014, 08:56:PM »
ชุมชนชุมชน

อ้างจาก "กานต์ฑิตา"...

อยากรู้พรใดเลิศ ประเสริฐนัก
ก็จงพัก ดวงจินต์ ที่บินว่อน
สำรวมตน พ้นห่าง ทางนิวรณ์
จนถ่ายถอน ความฟุ้ง ที่รุงรัง

พักใจลง ตรงลม บ่มสติ
เลิกดำริ เรื่องเก่า เศร้าแต่หลัง
อนาคต งดปรุง มันยุ่งจัง
จิตตรงตั้ง ปัจจุบัน มั่นลมปราณ

ลมเข้าออก ทั้งหมด กำหนดรู้
สติอยู่ นาสา หาหลักฐาน
มิเผลอออก นอกลม บ่มให้นาน
จนดวงมาน สงบ พบสุขเย็น

จะเบากาย เบาใจ หาใดเปรียบ
มิอาจเทียบ สุขใด เคยได้เห็น
ละวิตก วิจาร ผ่านลำเค็ญ
ปีติเป็นภักษา วิหารัง

จิตขั้นนี้ สะอาด ปราศลุ่มหลง
หากประสงค์ พรใด ที่ใจสั่ง
พรเราจะศักดิ์สิทธิ์ ลิขิตดัง
ย่อมสมหวัง จริงแท้...แค่สร้างพร

 ส่งจูบจ้ะ

"มุนีน้อย"

วิหารัง (ทุ.) = ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (นามธรรม) เช่น พรหมวิหาร (แปลว่า ธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างพรหม,หรือผู้ใหญ่-ผู้ประเสริฐ)
ถ้าเป็นรูปธรรม เช่น ในคำว่า วิหารลานเจดีย์.....วิหารก็แปลได้ว่าที่อยู่อาศัย ฯลฯ  สาวน้อยหัวเราะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, รัตนาวดี, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 3 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s