30 ธันวาคม 2013, 09:18:PM |
muneenoi
|
|
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013, 09:18:PM » |
ชุมชน
|
หากสุขเศร้า เหงาหงอย คอยคนอ้อน เชิญแต่งกลอน ออนไลน์ ระบายฝัน ถึงปีใหม่ ไกลทุกข์ สนุกกัน ลืมคืนวัน ปีเก่า เศร้าทิ้งไป
มาแต่งกลอน วอนมิตร ประดิษฐ์ถ้อย อย่าเหม่อลอย ถอยห่าง สร้างหวังใหม่ หรือปีเก่า เศร้านัก แอบรักใคร เชิญเปิดใจ ใส่กลอน งอนง้อเธอ
หวังเงินทอง ลองบอก เผื่อออกหวย หากบุญช่วย รวยล้น ผลเสนอ หากบุญลด หมดตัว ทั่วหน้าเออ อย่าได้เผลอ หมกมุ่น จะวุ่นวาย
หวังชื่อเสียง เพียงยศ ปรากฏก้อง ให้ทานฆ้อง กลองเพล เคนถวาย เผยแผ่ธรรม นำคน พ้นอบาย อีกมากมาย ส่งชื่อ ให้ลือชา
หวังสวยหล่อ ขอบอก ไม่ยอกย้อน ศีลมีก่อน สอนใจ ให้รักษา รูปร่างดี มีผล จนภพหน้า ด้วยผลานิสงส์ คงติดตาม
หวังฉลาด ปราดเปรื่อง นี่เรื่องใหญ่ จงตั้งใจ ภาวนา สิกขาสาม ปุญญามัย ไม่ละ พยายาม ย่อมงดงาม นามว่า สาธุชน
ส่วนตัวข้าฯ ขอเริ่ม ประเดิมก่อน บรรเลงกลอน วอนว่า คล้ายมาบ่น ใช่วาดฝัน คิดอ่าน วิมานบน หวังกุศล แทรกธรรม ต่างบำเพ็ญ
อย่าขัดสน จนทรัพย์ หรืออับโชค อย่าวิโยค โศกเศร้า เคล้าทุกข์เข็ญ จงห่างทุกข์ รุกโรม โถมประเด็น จงพบเห็น พุทธศาสน์ ทุกชาติมี
งามนอกใน ใจกาย อย่าหน่ายรัก อย่าอกหัก หลักลอย ด้อยศักดิ์ศรี พร้อมหัวใจ ใฝ่ธรรม นำชีวี ดวงฤดี ผ่องใส ไร้กังวล
คนใจดำ อย่าดำริ ปฏิพัทธ์ อย่าข้องขัด เสน่หา พาหมองหม่น พบรักแท้ แน่นัก ปักกมล พาลาชน พ้นห่าง บนทางจร
แม้บวชเรียน เพียรพร่ำ ร่ำปิฏก หมั่นสาธก พระธรรม คำสั่งสอน บรรลุถึง อรหันต์ อันบวร อาจถ่ายถอน ตัณหา ที่พาตรม
แม้นไม่ถึง สูงสุด วิมุตติแก้ว จงเพริศแพร้ว สิกขา สง่าสม ทรงศีลพรต งดงาม ตามนิยม โลกชื่นชม พุทธบุตร วิสุทโธ
บารมี มากล้น จนเต็มเปี่ยม ตราบสูงเยี่ยม เทียมมรรค แสนอักโข ข้ามสงสาร ผ่านหมอง ทุกข์กองโต ดวงจิตโผล่ พ้นหนา อุปาทาน
ด้วยกุศล ผลบุญ ที่หนุนเนื่อง จงกระเดื่อง ดังจิต อธิษฐาน ด้วยเดชแห่ง พระตรัย ไล่หมู่มาร พรประสาน สัมฤทธิ์ ประสิทธิ์เทอญ...
"มุนีน้อย"
ไม่ได้แต่งเสียนาน รู้สึกแปลกๆ... เชิญทุกท่านร่วมแต่ง ต่างบำเพ็ญอธิษฐาน (บารมี)
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ดารกะ, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ปู่ริน, อริญชย์, @free, ~ขลุ่ยกันแสง~
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
30 ธันวาคม 2013, 09:57:PM |
|
|
30 ธันวาคม 2013, 10:26:PM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013, 10:26:PM » |
ชุมชน
|
เห็นสาธุ ดังก้อง ห้องกลอนนี้ รัตน์วดี นี่เจ้า ทำเอาขำ คล้ายฟังเทศน์ เด็ดดวง พ่วงลำนำ อย่าใจดำ ต่อหน่อย คอยพธู
ติดกัณฑ์เทศน์ด้วยซี วดีเจ้า พอคลายเหงา เบาบาง นางอย่าอู้ ได้บุญมาก ใส่ซอง จงลองดู แล้วจะรู้ ทานมัย ได้ผลจริง....
"มุนีน้อย"
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ดารกะ, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, D, ปู่ริน, อริญชย์, @free, ~ขลุ่ยกันแสง~
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
30 ธันวาคม 2013, 11:14:PM |
|
|
01 มกราคม 2014, 02:43:PM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 มกราคม 2014, 02:43:PM » |
ชุมชน
|
ขอบคุณรัตน์ สาวงาม ที่ตามตอบ ปีใหม่มอบ พรชัย ให้เธอฝัน ด้วยซาบซึ้ง ตรึงจิต มิตรสัมพันธ์ จงสุขสันต์ มั่นใน ฤทัยนาง
พี่เป็นพระ จะโปรดเธอ บิณฑบาต ถ้าเป็นญาติ ผูกจิต มิคิดหมาง ถ้าเป็นเพื่อน เตือนจิต มิคิดจาง เป็นทุกอย่าง แม้แฟน คงแสนดี
จะเทศน์ต่อ กลัวคน เขาบ่นด่า บอกเราบ้า เหมือนพระ จะบัดสี ขอเป็นเพียง หนุ่มน้อย ค่อยพาที นามมุนี มีธรรม นำแสดง
"มุนีน้อย"
ขำศัพท์ใหม่ "หลวงน้อง" อิ อิ, ถ้าเรียกพระ นิยมใช้ "หลวงพี่, หลวงพ่อ, หลวงปู่" ถ้าเป็นญาติกัน อาจใช้ "หลวงน้า, หลวงอา, หลวงลุง" แล้วแต่ฐานะความสัมพันธ์ ถ้าเป็นลูกศิษย์ท่าน เช่น เรียนธรรมะ หรือเรียนกรรมฐานจากท่าน อาจใช้คำว่า "พระอาจารย์" (เป็นคำกลางๆ อาจเรียกทั่วไปได้ คล้ายกับ คำว่า "หลวงพี่" ที่ใช้เรียกพระหนุ่มๆ โดยทั่วไปเป็นสากล...)
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
|
01 มกราคม 2014, 08:04:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 01 มกราคม 2014, 08:04:PM » |
ชุมชน
|
บวชแก้เคล็ดเจ็ดวันก่อนพรรษา สืบชะตาอายุลุประสงค์ หกสิบสองครองร่างเยื้องย่างลง ผีป่าดงเจ้ากรรมกระทำเวร
เคยเชือดไก่ไล่หมาด่าหัวเจ๊ก เกกมะเหรกคุยโวไฮโลว์เล่น สูบบุหรีดื่มเหล้าฮาเช้าเย็น ล้อพระเณรแลบลิ้นทำปลิ้นตา
เก็บเชือกได้ไม่ดูหมูมาด้วย กลัวความซวยเสียดายขายเขาฆ่า เข้าห้องผิดคิดดอมหอมภรรยา แจ้งสางซาตาเห็นเป็นน้องเมีย
เอ่ยชีวิตผิดพลั้งยังไม่หมด ไม่ได้จดจำทั่วสิ่งชั่วเสีย นึกว่าแล้วกันไปไม่ต้องเคลียร์ โง่งัวเงียมะโหกโรคลุกลาม
วอนสมหวังตั้งจิตอธิษฐาน บุญบันดาลนมัสไตรรัตน์สาม ขอช่วยดลพ้นโพยภัยคุกคาม ทุ่มโมงยามสุขสถิตนิจนิรันดร์
รพีกาญจน์มะโหก - ริดสีดวงทวาร
|
|
|
|
|
|
|
|
03 มกราคม 2014, 03:04:PM |
muneenoi
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 03 มกราคม 2014, 03:04:PM » |
ชุมชน
|
เชิญก็มาว่าง่ายผมชายโสด หวังอย่าโกรธคิดมากผมอยากขอ อย่าสึกก่อนสอนสั่งผมยังรอ แต่งเข้าหอสาวสมผมนิมนต์
เทศน์เรื่องใด ไม่ขัด ด้วยชัดแจ้ง แต่แสลง เรื่องเดียว เที่ยวฉงน คือเรื่องรัก ปักอก มันวกวน ดูพิกล จนใจ ให้สงกา
พอไม่มี ความรัก ก็ชักหวั่น พอมีพลัน กลับกลาย คล้ายเป็นบ้า เฝ้าคิดถึง แต่เขา เศร้าทุกครา ยามนิทรา ยังฝัน ฉันละเมอ
พอสมหวัง ดังปอง ได้ครองคู่ กลับอดสู หลายเรื่อง เคืองเสมอ แรกรักหวาน ปานผึ้ง ซาบซึ้งเธอ พอนานเบลอ กลับขม ระทมทรวง
ยามเลิกกัน พลันหนี อยากมีใหม่ บ้างกลับไป คืนดี มีหึงหวง แปลกยิ่งนัก รักนี้ มีกลลวง อยากถามทวง ใครเอ่ย เฉลยที
"มุนีน้อย"
|
แต่งกลอนเพราะใจรัก หนักใจเพราะตัณหา เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน สำราญด้วยพระธรรม..
|
|
|
03 มกราคม 2014, 08:21:PM |
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,752
ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 03 มกราคม 2014, 08:21:PM » |
ชุมชน
|
ที่กล่าวผ่าน กระเซ้า และเย้าแหย่ มันไม่แน่ กรรมนี้ รพีฯจ๋า คิดดูที ชีวิต อนิจจา จงรีบมา บวชใหม่ เดี๋ยวไม่ทัน
"มุนีน้อย"
หกสิบสอง ครองผ้า หน้าแห้งเหี่ยว จะหมุนเลี้ยว เดินหน้า ซ้ายขวาหัน ถดถอยหลัง นั่งแช่ แย่ยักยัน คิดทั้งวัน เกาสะดือ ตูคือใคร
พลิกใบลาน อ่านธรรม คลำหาแว่น จะขึ้นแท่น ธรรมาสน์ ญาติชักถู ฟันฟางหลุด น้ำลาย ไหลพรั่งพรู เอียร์เสียบหู เพิ่มเสียง ช่วยการฟัง
ย่างก้มหน้า มองดิน บิณฑบาต หน้าตลาด ผู้คน เดินคับคั่ง ชายตาแล แม่ค้า พาจังงัง เราเคยนั่ง ขายหมู เคียงคู่กัน
จึงรีบก้าว สาวเท้า จ้ำเข้าวัด คลายอึดอัด เปลื้องผ้า ตั้งหน้าฉัน พออิ่มปั๊บ พับร่าง นอนกลางวัน สมภารลั่น พระเณร เถรกวาดลาน
พื้นซีเมนต์ เย็นยื่น ลื่นหกล้ม ยินญาติโยม ชายหญิง วิ่งกันพล่าน นึกว่าจะ พยุง พยาบาล หลวงเตี่ยท่าน กะเผลก เลขอะไร
เกรงจะบวช อีกที จีวรหมอง หกสิบสอง ครองผ้า ท่าไม่ไหว ปฏิบัติ ที่บ้าน ญาณกว้างไกล คอยรับใช้ เนื้อทอง และน้องเมีย
รพีกาญจน์
|
|
|
|
|