16 ธันวาคม 2013, 04:41:AM |
พยัญเสมอ
|
|
« เมื่อ: 16 ธันวาคม 2013, 04:41:AM » |
ชุมชน
|
อย่าลืมกัน
oนานมาเยือนเรือนชานบ้านเคยเข้า หลังจากเราห่างหายไปหลายหน นี่วันเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับวน อาจหลายคนลืมกันยามฉันลา
โปรดคำนึงถึงนิดนะมิตรรัก โปรดถามทักถึงชื่อนายมือขวา อย่าทำเมินเหินห่างอย่างแปลกตา วันนี้มาแต่งกลอนอ้อนเหมือนเดิม
ใกล้สิ้นปีนี้แล้วแก้วเกลอขวัญ กลัวสัมพันธ์สาบสูญไม่พูนเพิ่ม จึงแต่งกลอนวอนขอมาต่อเติม เพื่อสงเสริมมิตรภาพแห่งกาพย์กานท์
ถึงปีใหม่ใจมิตรอย่าคิดเปลี่ยน เป็นเพื่อนเขียนคมกลอนอ้อนคำหวาน อย่าลาล้างห่างเหินจนเนิ่นนาน ปีใหม่ผ่านเข้ามาอย่าลืมกันo
Orion264(มือขวา)
๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๖
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไม่รู้ใจ, รพีกาญจน์, Moo Dum, คอนพูธน, ปู่ริน, สะเลเต, panthong.kh, m1, D, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ศรีเปรื่อง, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส
ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย, เทพเจ้าไก่
|
|
|
16 ธันวาคม 2013, 11:33:AM |
Moo Dum
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2013, 11:33:AM » |
ชุมชน
|
เดือนปีผ่าน กาลพ้น วนเวียนต่อ ที่ที่ก่อ ทอถัก คนรักฝัน ร่วมร้อยเรียง เคียงปลูก ความผูกพัน ถ้อยจำนรรจ์ วันเก่า เราจดจำ
เริ่มก่อนนั้น ดั้นกลอน อย่างอ่อนหัด แบบมวยวัด จัดไป ให้น่าขำ มีเพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่แนะนำ เสนาะคำ สำนวน เชื้อชวนฟัง
ลิขิตกานท์ หวานงาม ตามกำหนด บริบท พจน์วจี มีมนต์ขลัง มีรักสุข ทุกข์ตรม ขมชิงชัง ห้วงภวังค์ หลั่งไหล ในดวงแด
รัตติกาล บ้านนี้ ไม่มีหลับ รอเธอกลับ ซับถิ่น แผ่นดินแม่ กี่ปีเคลื่อน เดือนเวียน มิเปลี่ยนแปร ยังดูแล แคร์กัน ดั่งวันเดิม
Moo Dum
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, รพีกาญจน์, คอนพูธน, ปู่ริน, สะเลเต, panthong.kh, m1, D, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ศรีเปรื่อง, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส
ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
16 ธันวาคม 2013, 02:39:PM |
ปู่ริน
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2013, 02:39:PM » |
ชุมชน
|
ต้องห่างหายร่างกายแก่แย่อีกหน มิอาจทน..กลิ่นกลอนกานท์.ดั่งบ้านเสริม ดุจมนต์ขลัง..รั้งกายใจให้ต่อเติม ช่วยชุบเพิ่ม..ความสุขทุกข์ผ่อนคลาย
ความเศร้าตรมขมขื่นยืนโดดเดี่ยว ช่างเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างนางห่างหาย ใจทดท้อ..รอความหวังซังกะตาย เดินเดียวดายหาผู้ใดไม่มีเลย
อย่าลืมกันวันเก่าเก่าเมื่อครั้งก่อน อยากให้ย้อนหวนกลับมากล้าเปิดเผย ถึงผิดพลั้งเผลอไปไม่เหมือนเคย พี่อภัย..ให้ทรามเชยตลอดเวลา
พี่รักมั่นดั่งสัญญาต่อหน้าศาล ข่าวเล่าขานเพราะเศรษฐีจึงหนีหน้า ปล่อยให้พี่ต้องหม่นหมองนองน้ำตา เพราะเป็นบ้า..คลั่งตายแน่..แพ้คนลวง.
ริน ดอนบูรพา ๑๖ ธ.ค.๕๖
|
|
|
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พยัญเสมอ, Moo Dum, สะเลเต, รพีกาญจน์, panthong.kh, m1, D, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ศรีเปรื่อง, ไพร พนาวัลย์, จารุทัส
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
16 ธันวาคม 2013, 03:47:PM |
พยัญเสมอ
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2013, 03:47:PM » |
ชุมชน
|
oคำสัญญาว่าไว้ว่าไม่เปลี่ยน จะวนเวียนเยือนมิตรเตือนคิดถึง แม้เดือนผ่านวารพ้นนานทนพรึง ยังตราตรึงจำจดคำพจน์ครวญ
แว่วเพลงกานท์หว่านคำหวานฉ่ำแว่ว ได้ฟังแล้วซึ้งจิตจึงคิดหวน ร่ำบทกลอนอ้อนกันสอนรัญจวน ให้นึกทวนความหลังยามสั่งลา
โอ้...นารีนี่เอ๋ยที่เคยรัก ตอนนี้จักไกลห่างไปอย่างว่า ด้วยธุระปะปังประดังมา ไกลแก้วตาเพียงนิดเคียงชิดใจ
อย่าลืมหลงจงจำคงคำมั่น ที่เคยสัญญารักอย่าผลักไส แม้ตัวห่างร้างแฟนทางแสนไกล แต่ฤทัยรำพึงคำนึงเนาo
กลอนแบบนี้ผมเรียกว่ากลอนม้าย่อง....มีลักษณะพิเศษต่างจากกลอนทั่วไปตรงที่สระสองตัวมันซ้อนกันเป็นคู่ๆ ตัวอย่างเช่น
โอ้...นารีนี่เอ๋ยที่เคยรัก ตอนนี้จักไกลห่างไปอย่างว่า ด้วยธุระปะปังประดังมา ไกลแก้วตาเพียงนิดเคียงชิดใจ
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีสัมผัสสระซ้อนกัน ๑ คู่ คือ นี่เอ๋ยที่เคย ไกลห่างไปอย่าง ประปังประดัง เพียงนิดเคียงชิด และจะเขียนในลักษณะแบบนี้ทั้งบท การเขียนให้มีสระคู่ซ้อนกันอย่างนี้ผมสังเกตเห็นจากกลอนของเก่าที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เป็นไปเองโดยผู้แต่งไม่ได้ตั้งใจให้เป็น แล้วนำหลักการนั้นมาเขียนเป็นกลอนใหม่หมดทั้งบท สมมุติชื่อให้ว่า กลอนม้าย่อง ..........ถามว่าแล้วแต่งแบบนี้มันประโยชน์อะไรไหม.....ตอบว่า มันมีประโยชน์ตรงที่ทำให้มันแต่งยากขึ้น....
Orion264(มือขวา) ๑๖ ธค ๒๕๕๖
|
๐นามแฝงผู้เขียน Orion264(มือขวา),มือขวา,บูรพาทรนง-ตงฟางข้วงแขะ,สิงสู่,ต๊กโกม้อเกี่ยม-มารกระบี่เดียวดาย, เทพเจ้าไก่
|
|
|
16 ธันวาคม 2013, 08:25:PM |
|
|
16 ธันวาคม 2013, 09:22:PM |
|
|
|