-ขอเล่าให้ฟัง-
เฟ้นเค้นคำรำพันแสนตันตีบ
ดุจลูกโป่งแฟบฟีบไร้ลมเป่า
แสนห่วงหาอาลัยเมื่อวัยเยาว์
นั่งจับเจ่าซุกหน้าลับอารมณ์
สิบปีก่อนตอนเล็กยังเด็กอยู่
บานประตูความสุขโชนลุกบ่ม
มีเด็กชายผายยิ้มพริ้มหน้ากลม
กับคันร่มสีฟ้าใต้ชายคา
รอสายฝนหล่นเพราะดังเปาะแปะ
นั่งลงแหมะคอยรอน้ำคลอขา
ทั้งยื่นมือปัดป่ายสบายชีวา
ไร้ห่วงหากังวลวันฝนพรำ
มือน้อยน้อยค่อยจับพับกระดาษ
ดินสอวาดสีเติมเพิ่ม, สุขฉ่ำ
แล้วก็ทิ้งเรือน้อยปล่อยลอยลำ
ให้ฝนนำลอยผ่านสายธารไป
เล่นสนุกซนเข้าจนเฉาเหนื่อย
นั่งพักเมื่อยใต้ชานมองธารไหล
เรือลำน้อยลอยลำลับลาไกล
จนสุดสายตาไหนมองจ้องทัน
ฝนเริ่มซาฟ้าเปิดก่อเกิดรุ้ง
เจ็ดสีปรุงงามเลิศแลเฉิดฉัน
นั่งยิ้มกริ่มอิ่มใจสุขไขพลัน
หัวเราะลั่นเริงร่า...ไร้ปร่าทรวง
นั่งซมเซาเจ่าจุกเกินลุกขึ้น
ร่างบึกบึนหมดแรงไร้โน้มถ่วง
ฝนซาเรื่องเล่าจบพบความทั้งปวง
ที่หนักหน่วงใจตัดฉับพัดแรม
แดดทอดทอก่อแจ้งแสงสุดท้าย
น้ำตาพรายรินรดหยดลงแก้ม
ท้องฟ้าเปิดเฉิดรุ้งงามปรุงแซม
ดาราแวมวับรอต่อเปลี่ยนดุลย์
เงยหน้ามองจ้องถึงหนึ่งวันเก่า
แม้ซมเซายังมีเรื่องดีหมุน
จับสัมผัสหยดฝนตนเคยคุ้น
พอเจือจุนหัวใจวันไร้กำลัง...
เด็กคนเก่าคนเดิมค่อยเริ่มยิ้ม
ดวงหน้าพริ้มภาพเก่าเติมเพิ่มความหวัง
เมื่อเมฆผ่านฝนซาแดดจ้ารั้ง
รุ้งทอดตั้งเจ็ดสีพลีแสงเลย
ป.ล. เขียนกลอนได้อย่างนี้แสดงว่าแก่แล้ว ฮะฮ่า...