ทางแพร่งแห่งสมัย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 01:51:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทางแพร่งแห่งสมัย  (อ่าน 6792 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
23 ตุลาคม 2013, 01:01:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2013, 01:01:PM »
ชุมชนชุมชน


วันเวลาล่วงรุดยังจุดหนึ่ง
กาลกลับถึงทางแพร่งแห่งสมัย
ทอดครรลองของนามความเป็นไป
ตราบหัวใจร่ำร้องคงต้องเดิน

ถึงไม่เห็นหนทางวันข้างหน้า
ต้องฟันฝ่าทุกข์ยากและขวากเขิน
ถึงฟากฟ้าฝั่งฝันนั้นไกลเกิน
ไม่อาจเมินเสียงเพรียกที่เรียกรอ

แว่วสวรรค์บรรเลงบทเพลงทิพย์
แผ่วกระซิบผ่านหูให้สู้ต่อ
แม้รุ่งรางมิสว่างกระจ่างพอ
รันทดท้อก็มิใช่วิสัยชาย

ให้ดาวดับลับแสงทุกแห่งหน
หากเบื้องบนยังเดือนมิเลือนฉาย
แสงศรัทธาส่องฝันพรรณราย
จะพร่างพรายพร้อมนำธรรมธร

เมื่อไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม
ก็ขอใช้วันนี้ให้ดีก่อน
ถ้าชีวิตหนึ่งดังหนังละคร
ทุกบทตอนขอกระทำแต่กรรมดี

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, ...สียะตรา.., เพรางาย, D, ไพร พนาวัลย์, ดารกะ, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, อริญชย์, ไม่รู้ใจ, พี.พูนสุข, เนิน จำราย, สะเลเต, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
23 ตุลาคม 2013, 01:39:PM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #1 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2013, 01:39:PM »
ชุมชนชุมชน


กาลเวลา เร่งรุด ไม่หยุดนิ่ง
ไขว่ขว้ายิ่ง นานเข้า เราคงได้
สิ่งมุ่งหวัง ฝังฝาก จากความนัย
ต่อเติมไฟ ใส่เชื้อ เมื่อต้องการ

ยึดอกรับ กับผล ที่ตนก่อ
อย่ามัวรอ รีบเร่ง ละเลงผ่าน
ฝ่าขวากหนาม ตามไป ใจทนทาน
ชนะมาร ย่อมรู้ สู้ยิบตา

หากความมืด มิดหมอง มองไม่เห็น
ให้ใจเย็น ร่มไว้ ฤทัยกล้า
ความสว่าง แจ่มจัด เกิดศรัทธา
จะนำมา ซี่งเสร็จ สำเร็จพลัน

ถึงดาวดับ อับแสง แรงถดถอย
หากจะคอย ไม่นาน จะสานฝัน
ส่องสู่ห้วง ดวงหน้า ท้าแสงจันทร์
ขออย่าหวั่น ตามล่า มาครอบครอง

เมื่อพรุ่งนี้ มาถึง พึงประสงค์
เกิดมั่นคง ดำรงค์อยู่ เป็นคู่สอง
น้ำค้างพรม ยอดเรียว ทุกเสี้ยวปอง
เหน็ดเหนื่อยต้อง ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำใจ
พันทอง
๒๓/๑๐/๕๖

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ดารกะ, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, D, ไม่รู้ใจ, ศรีเปรื่อง, พี.พูนสุข, ...สียะตรา.., รพีกาญจน์, Shumbala, เนิน จำราย, สะเลเต, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
23 ตุลาคม 2013, 03:41:PM
พรายม่าน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 548
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 556


Praiman CharlesTep CharlesTep
เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2013, 03:41:PM »
ชุมชนชุมชน


เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, ไม่รู้ใจ, panthong.kh, ศรีเปรื่อง, อริญชย์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร, ...สียะตรา.., ไพร พนาวัลย์, เพรางาย, รพีกาญจน์, Shumbala, เนิน จำราย, สะเลเต, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 ตุลาคม 2013, 07:34:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 07:34:AM »
ชุมชนชุมชน




ฯลฯ

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 เคารพรัก


ปัจจุบัน ฟันฝ่า ท้าปลอบปลุก
ผ่านสุข,ทุข์ คุกคาม ตามสมัย
อดีตหวน ทวนทบ กลบอาลัย
ก้าวสู่ชัย ไขว่คว้า แม้ล้าแรง

ถึงวันรุ่ง พรุ่งตื่น จะขื่นเข็ด
หรือสำเร็จ เสร็จสรรพ รับฟ้าแจ้ง
พบฝุ่นฝน ทนแดด แผดร้อนแล้ง
หากมีแสง แห่งใจ ให้พลัง

ศศิผ่อง อำไพ แสงใสจ้า
ก็ใช่ว่า มิหม่น ต้องมนต์ขลัง
คงหมุนเปลี่ยน เวียนว่าย ใต้ภวังค์
ขอวิถี มีหวัง กำลังใจ ... ยิ้มแก้มแดง

"ดิน"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, panthong.kh, รพีกาญจน์, Shumbala, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ...สียะตรา.., สะเลเต, ไพร พนาวัลย์, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 ตุลาคม 2013, 11:57:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #4 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 11:57:AM »
ชุมชนชุมชน


กาลเวลา เร่งรุด ไม่หยุดนิ่ง
ไขว่ขว้ายิ่ง นานเข้า เราคงได้
สิ่งมุ่งหวัง ฝังฝาก จากความนัย
ต่อเติมไฟ ใส่เชื้อ เมื่อต้องการ

ยึดอกรับ กับผล ที่ตนก่อ
อย่ามัวรอ รีบเร่ง ละเลงผ่าน
ฝ่าขวากหนาม ตามไป ใจทนทาน
ชนะมาร ย่อมรู้ สู้ยิบตา

หากความมืด มิดหมอง มองไม่เห็น
ให้ใจเย็น ร่มไว้ ฤทัยกล้า
ความสว่าง แจ่มจัด เกิดศรัทธา
จะนำมา ซี่งเสร็จ สำเร็จพลัน

ถึงดาวดับ อับแสง แรงถดถอย
หากจะคอย ไม่นาน จะสานฝัน
ส่องสู่ห้วง ดวงหน้า ท้าแสงจันทร์
ขออย่าหวั่น ตามล่า มาครอบครอง

เมื่อพรุ่งนี้ มาถึง พึงประสงค์
เกิดมั่นคง ดำรงค์อยู่ เป็นคู่สอง
น้ำค้างพรม ยอดเรียว ทุกเสี้ยวปอง
เหน็ดเหนื่อยต้อง ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำใจ
พันทอง
๒๓/๑๐/๕๖


เดินทางผ่านกาลเวลาหาความฝัน
หมายคืนวันแห่งวิถีชีวิตใหม่
ล้มแล้วลุกสุขแล้วโศกโลกหมุนไป
กี่มาลัยบานแล้วหล่นบนผืนภพ

คือคำตอบที่ตามหาก็หาใช่
คือคำถามที่ถามไถ่ไม่รู้จบ
คือความจริงที่จริงแท้แค่เลือนลบ
คือเสียงปรบมือข้างเดียวที่เปลี่ยวดาย

คนเดินทางระหว่างหล้าจึงว้าเหว่
กลางคลื่นเห่ทะเลซัดกระหวัดหาย
ใต้ผืนฟ้าดาราเดือนกล่นเกลื่อนราย
สิ่งใดหรือคือความหมาย..สหายเอย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, yaguza, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, อริญชย์, ...สียะตรา.., สะเลเต, ไพร พนาวัลย์, D, panthong.kh, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ตุลาคม 2013, 01:42:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #5 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 01:42:PM »
ชุมชนชุมชน


เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖

กรวดเล็กคือทรายใกล้ฝั่งเก่าเอาไปไหน   

ทำนบทะเลใหม่เห็นค่าแค่ปลายเข็มใช่

ทรายกล้าบอกค่าของความเค็มเห็นไหม

ริมริมแทะละไมหอยเสียบอยู่หรือไม่เคย

เนิน  จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ...สียะตรา.., Shumbala, สะเลเต, ไพร พนาวัลย์, D, รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ตุลาคม 2013, 01:54:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #6 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 01:54:PM »
ชุมชนชุมชน


เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖


เมื่อโลกในความมืดเย็นชืดนัก
เราก็จักจุดเทียนเปลี่ยนโลกใหม่
เมื่อมิอาจคาดหวังจากใครใคร
จงจุดไฟในมือที่ถือเทียน

ชูแสงธรรมนำทางทุกย่างก้าว
ย่ำรอยเท้าลบอดีตที่ขีดเขียน
พลิกผืนหล้าถึงลำบากก็พากเพียร
การแปรเปลี่ยนเริ่มต้นกมลเรา

ปัจเจกชนคนหนึ่งถึงทั้งหมด
ร่วมเขียนบทบันทึกจารึกเข้า
ย่อมแต้มสีโลกทรามให้งามเงา
นานตราบเท่าดินฟ้าลับลาลง

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, D, รพีกาญจน์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ตุลาคม 2013, 02:57:PM
เนิน จำราย
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 637
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,224



« ตอบ #7 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 02:57:PM »
ชุมชนชุมชน


เรามิรู้รกทางทุกย่างก้าว
ต้องผ่านเหน็บขื่นหนาว หนักไฉน
ทั้งเพื่อยากเพื่อเย็บรอยเจ็บใจ
แค่ปวดร้าวหรือหมดไหม้ ปราณประมาณ

เท้าที่ก้าวกรายทางไปข้างหน้า
ก็เพียงต้องยถา อธิษฐาน
ประเมินเท่าเก่าทบประสบการณ์
กับอารมณ์สมสราญ แห่งรื่นรมย์

หวัง กลบขวากยากเมินเกินตระหนัก
โลกคงสวยสมศักดิ์ฤดีสม
กุหลาบโปรยโรยนุ่มปิดหลุมตม
แหละฟ้าครามหรือแอบคม ครึ้มคำราม

หากเราลืมมองล่วงพลังหลัก
ที่ยึดหนักแน่นลงกลางดงหนาม
คอยประคองป้องล้ม ลงหล่มทราม
คือเท้าหลังที่พร้อมตาม มิตรึงตรอง

แม้มิอาจคาดหาอนาคต
แต่อดีตคือทั้งหมด อันมากหมอง
เราจะเรียนรู้เลี่ยงหรือเสี่ยงลอง
คงเท้าสองยังสืบร้าวแหละก้าวไป ฯ

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๐.๕๖


เมื่อโลกในความมืดเย็นชืดนัก
เราก็จักจุดเทียนเปลี่ยนโลกใหม่
เมื่อมิอาจคาดหวังจากใครใคร
จงจุดไฟในมือที่ถือเทียน

ชูแสงธรรมนำทางทุกย่างก้าว
ย่ำรอยเท้าลบอดีตที่ขีดเขียน
พลิกผืนหล้าถึงลำบากก็พากเพียร
การแปรเปลี่ยนเริ่มต้นกมลเรา

ปัจเจกชนคนหนึ่งถึงทั้งหมด
ร่วมเขียนบทบันทึกจารึกเข้า
ย่อมแต้มสีโลกทรามให้งามเงา
นานตราบเท่าดินฟ้าลับลาลง

 เคารพรัก


ไตรภพงามหลายชั้นเทพบันดาล
จักรวาลภารตะหรือประสงค์
มนุษย์..งามตามสบายคิดง่ายลง
ลองปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เนิน จำราย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, Shumbala, ไพร พนาวัลย์, สะเลเต, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ตุลาคม 2013, 03:28:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #8 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 03:28:PM »
ชุมชนชุมชน




ฯลฯ

ด้วยมรรคาความรักจักพิลาส
สกาวสาดทอค้ำธรรมวิถี
ลำแสงทองส่องสร้างทางเสรี
ยามลาพรากจากโลกนี้ก็มีชัย

 เคารพรัก


ปัจจุบัน ฟันฝ่า ท้าปลอบปลุก
ผ่านสุข,ทุข์ คุกคาม ตามสมัย
อดีตหวน ทวนทบ กลบอาลัย
ก้าวสู่ชัย ไขว่คว้า แม้ล้าแรง

ถึงวันรุ่ง พรุ่งตื่น จะขื่นเข็ด
หรือสำเร็จ เสร็จสรรพ รับฟ้าแจ้ง
พบฝุ่นฝน ทนแดด แผดร้อนแล้ง
หากมีแสง แห่งใจ ให้พลัง

ศศิผ่อง อำไพ แสงใสจ้า
ก็ใช่ว่า มิหม่น ต้องมนต์ขลัง
คงหมุนเปลี่ยน เวียนว่าย ใต้ภวังค์
ขอวิถี มีหวัง กำลังใจ ... ยิ้มแก้มแดง

"ดิน"



ใครคือผู้ลิขิตชีวิตหนึ่ง
หนทางจึงคดเคี้ยวและเปลี่ยวไหว
ยังผาสูงหุบเหวและเปลวไฟ
จะก้าวไปอย่างไรถ้าใจท้อ

เมื่อไม่รู้ใครลิขิตชีวิตนี้
ก็พร้อมพลีชีวาหาระย่อ
จะขอเดินตามฝันอันลออ
เพื่อเติมต่อชีวิตด้วยสิทธิ

แม้ยามนี้หมู่ดาวมิพราวแสง
ใคร่ขอแรงผ่านสรวงดวงศศิ
ส่องนำทางกลางแดนแทนรวิ
ให้ใจผลิความหวังดังผกา

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, สะเลเต, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, อริญชย์, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
24 ตุลาคม 2013, 03:50:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #9 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2013, 03:50:PM »
ชุมชนชุมชน




ไตรภพงามหลายชั้นเทพบันดาล
จักรวาลภารตะหรือประสงค์
มนุษย์..งามตามสบายคิดง่ายลง
ลองปลง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เนิน จำราย


เกิดดับแปรผันนั้นไร้รูป
เช่นควันธูปลอยคว้างกลางเวหา
สรรพสิ่งจริงแท้แค่มายา
ภาพลวงตาลวงใจไม่จีรัง

หยุดปรุงแต่งแห่งใจได้เมื่อไหร่
คงเหมือนเรือล่องไปใกล้ถึงฝั่ง
อนิจจา-เรือลำนี้ที่ผุพัง
จะคาดหวังฝั่งไหนไม่ได้เลย

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, รพีกาญจน์, ไพร พนาวัลย์, สะเลเต, อริญชย์, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, ปู่ริน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
25 ตุลาคม 2013, 07:23:AM
D
นักรบทุกบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3313
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,894


ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ


sasa.yai
เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2013, 07:23:AM »
ชุมชนชุมชน




ใครคือผู้ลิขิตชีวิตหนึ่ง
หนทางจึงคดเคี้ยวและเปลี่ยวไหว
ยังผาสูงหุบเหวและเปลวไฟ
จะก้าวไปอย่างไรถ้าใจท้อ

เมื่อไม่รู้ใครลิขิตชีวิตนี้
ก็พร้อมพลีชีวาหาระย่อ
จะขอเดินตามฝันอันลออ
เพื่อเติมต่อชีวิตด้วยสิทธิ

แม้ยามนี้หมู่ดาวมิพราวแสง
ใคร่ขอแรงผ่านสรวงดวงศศิ
ส่องนำทางกลางแดนแทนรวิ
ให้ใจผลิความหวังดังผกา

Shumbala



ศศิผ่อง รองเรือง เหลืองอร่าม
รัตติท่าม ข้ามพาด หาดเวหา
สะท้อนใส ไต่ตรง ลงคงคา
พสุธา ผาหิน ยลยินปอง

ดงชัฎพฤกษ์ ลึกล้น คงพ้นผ่าน
แสงวันวาน อาจดับ เลือนลับหมอง
บางครั้งโสม โลมใจ ใฝ่ลำพอง
มิไตร่ตรอง ตัวตน บนความจริง

มิอาจแทน แดนใด ได้ทุกที่
แท้รพี มีค่า กว่าทุกสิ่ง
จันทรผ่อน อ่อนล้า แค่คว้าอิง
ที่พักพิง คนเหงา เท่านั้นเอง

"ดิน"


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, อริญชย์, ปู่ริน, สะเลเต, Shumbala, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, รการตติ

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

25 ตุลาคม 2013, 10:34:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #11 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2013, 10:34:AM »
ชุมชนชุมชน


ยลแสงยวนนวลใยในหนึ่งโสม
หยาดโพยมชวลิตยามพิศเพ่ง
กล่อมฤทัยเกลื่อนถวิลสิ้นวังเวง
จึ่งเลบงบรรณาการ ณ.มานเดือน

นิศานาถประกาศแสงแห่งสวรรค์
วิลาวัณย์ราววาดหรืออาจเอื้อน
ฤดีไหวสะทกตรึงอกเตือน
รอจันทร์เยือนแต่งฟ้าทุกราตรี

รัตติใดไร้โสมชโลมหล้า
ปานเหมือนว่าชีวินจะสิ้นศรี
หากเดือนลับดับแสงแห่งไมตรี
กมลนี้แม้นมาตรจะขาดรอน


 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, D, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, รการตติ

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s