ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[สมนึก นพ]

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
หลายราตรีที่เฝ้าดูราวฟ้า
ควันไฟป่ามาบังหมดทั้งสิ้น
เคยนั่งดูหมู่ดาราเป็นอาจิณ
ณ เนินดินถิ่นนี้มีสุขใจ

เมื่อเที่ยงวานผ่านพ้นฝนตกหนัก
หนีตั้งหลักพักร่มลมพัดใส่
หลบแรงลมก้มบังหลังต้นไทร
กิ่งเอนไหวไกวล้อก็หักลง

หันไปเห็นเผ่นต่อรอฝนแล้ง
ท้องฟ้าแจ้งแสงส่องต้องประสงค์
หมอกควันไฟได้หายคลายพะวง
มืดค่ำลงจงใจได้ดูดาว

ราตรีนี้มีเห็นเป็นแตกต่าง
ดูสว่างกว้างฟ้าเวหาหาว
แสงกระพริบยิบยับดูวับวาว
เพียงครั้งคราวหนาวผ่านลมพัดพา

ตรงที่เก่าเรานั่งครั้งก่อนนั้น
กลับแปรผันอันใดไปแล้วหนา
ดาวดวงเด่นเห็นตอนก่อนนี้นา
หายลับตาหาไม่ไหงเช่นนี้

ลางสังหรณ์ตอนนั้นมิทันคิด
วิปริตผิดแผกแยกถ้วนถี่
เข้าหลบฝนต้นไม้ให้ดูดี
เกิดเหตุมีที่หักจักบอกความ

คืนนี้นั้นมันมิต่างห่างคืนก่อน
ควันไฟอ่อนผ่อนสลายได้ตรงข้าม
กลับไม่เห็นเด่นฟ้าดารางาม
หลายโมงยามตามต่อรออรุณ.

นพ
29มิ.ย.56

[--ณัชชา--]

ฟ้าคืนนี้มีดาวใต้ราวฟ้า
ทั่วผืนป่าเงียบสงบดูอบอุ่น
แสงแห่งดาวฉาบย้อนอ่อนละมุน
หลังพิรุนโปรยมาป่าร่มเย็น

ธรรมชาติวาดหวังได้ดั่งคิด
ยามพินิจฉ่ำกมลทุกคนเห็น
ปล่อยอารมณ์ดื่มด่ำไม่ลำเค็ญ
รอจันทร์เพ็ญกระจ่างกลางฟ้าคราม

--ณัชชา--

 

[yaguza]

ค่ำคืนนี้ มีดาว พร่างพราวฟ้า
เบิ่งจันทรา อยู่โคน ต้นมะขาม
นั่งหน้างอ รอน้อง ยันสองยาม
โอ้คนงาม ไฉน ยังไม่มา


...ยา...

[ดาว อาชาไนย]

นั่งเพลินชมความงามธรรมชาติ
น้ำสะอาดตกจากฟากยอดผา
สองเรานั่งชมไม้ในพนา
สุขสายตาสมหมายกับสายใจ

เจ็ดวันอันเปลี่ยวเปล่าเหงาก็หาย
ยามเดือนหงายดาวลับเหมือนหลับไหล
ดาวจะลับฟ้ากว้างช่างปะไร
เมื่อมีใครแนบข้างช่างอุ่นกาย

ดาว อาชาไนย

[Prapacarn ❀]

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
หลายราตรีที่เฝ้าดูราวฟ้า
ควันไฟป่ามาบังหมดทั้งสิ้น
เคยนั่งดูหมู่ดาราเป็นอาจิณ
ณ เนินดินถิ่นนี้มีสุขใจ

เมื่อเที่ยงวานผ่านพ้นฝนตกหนัก
หนีตั้งหลักพักร่มลมพัดใส่
หลบแรงลมก้มบังหลังต้นไทร
กิ่งเอนไหวไกวล้อก็หักลง

หันไปเห็นเผ่นต่อรอฝนแล้ง
ท้องฟ้าแจ้งแสงส่องต้องประสงค์
หมอกควันไฟได้หายคลายพะวง
มืดค่ำลงจงใจได้ดูดาว

ราตรีนี้มีเห็นเป็นแตกต่าง
ดูสว่างกว้างฟ้าเวหาหาว
แสงกระพริบยิบยับดูวับวาว
เพียงครั้งคราวหนาวผ่านลมพัดพา

ตรงที่เก่าเรานั่งครั้งก่อนนั้น
กลับแปรผันอันใดไปแล้วหนา
ดาวดวงเด่นเห็นตอนก่อนนี้นา
หายลับตาหาไม่ไหงเช่นนี้

ลางสังหรณ์ตอนนั้นมิทันคิด
วิปริตผิดแผกแยกถ้วนถี่
เข้าหลบฝนต้นไม้ให้ดูดี
เกิดเหตุมีที่หักจักบอกความ

คืนนี้นั้นมันมิต่างห่างคืนก่อน
ควันไฟอ่อนผ่อนสลายได้ตรงข้าม
กลับไม่เห็นเด่นฟ้าดารางาม
หลายโมงยามตามต่อรออรุณ.

นพ
29มิ.ย.56

เป็นห่วงคนอยู่ไกลให้หมองหม่น
ดาวกังวลเสาะหาจนว้าวุ่น
แอบหลบใต้กิ่งไทรพึ่งใบบุญ
หวังว่าคุณปลอดภัยในคืนนี้

ยังล่องลอยพริบพรายอยู่ปลายฟ้า
ตามสัญญาวนเวียนแม้เปลี่ยนที่
รอให้ใครทวงถามท่ามราตรี
ดาวดวงนี้แจ่มจรัส ณ จุดนัดพบ

ประกายฝันในใจ..อย่าให้ดับ
แม้ดาวลับบางครั้งยังบรรจบ
คือศรัทธาต่อกันพันพ่วงทบ
วันดาวหลบ.เดือนเร้น..ยังเห็นคุณ

แซม

[สมนึก นพ]

ฟ้าคืนนี้มีดาวใต้ราวฟ้า
ทั่วผืนป่าเงียบสงบดูอบอุ่น
แสงแห่งดาวฉาบย้อนอ่อนละมุน
หลังพิรุนโปรยมาป่าร่มเย็น

ธรรมชาติวาดหวังได้ดั่งคิด
ยามพินิจฉ่ำกมลทุกคนเห็น
ปล่อยอารมณ์ดื่มด่ำไม่ลำเค็ญ
รอจันทร์เพ็ญกระจ่างกลางฟ้าคราม

--ณัชชา--

 

ดั่งกระต่ายตัวน้อยคอยวิ่งเล่น
กระโดดเต้นทุ่งเตียนไร้เสี้ยนหนาม
หลังพิรุณผ่านไปไม่กี่ยาม
ขนดกงามชุ่มชื้นชื่นอุรา

เงียบสงบไร้เสียงสำเนียงแว่ว
เมฆหายแล้วเปิดสว่างทางเวหา

แสงกระพริบยิบยับดวงดารา
กระต่ายน้อยแหงนหน้าดูฟ้าไกล

เหมือนมีนัดกันอยู่ดูสับสน
สาละวนเฝ้ามองท้องฟ้าใส
สว่างทิศบูรพามารำไร
พระจันทร์ใหญ่วันเพ็ญเห็นเต็มดวง

กระต่ายปล่อยอารมณ์ชมจันทร์เจ้า
ยังคงเฝ้าเหมือนว่าจะแหนหวง
ประกายตาสดใสไร้กลลวง
คล้ายจะทวงสัญญาอย่าจากจร.

นพ
1ก.ค.56

[สมนึก นพ]

ค่ำคืนนี้ มีดาว พร่างพราวฟ้า
เบิ่งจันทรา อยู่โคน ต้นมะขาม
นั่งหน้างอ รอน้อง ยันสองยาม
โอ้คนงาม ไฉน ยังไม่มา


...ยา...

มาคอยรอค่ำนี้..........สองยาม......
แหงนเบิ่งดารางาม.....ทั่วฟ้า.........
สายตาสื่อสอบถาม......มาไม่.........
กายเมื่อยเจ็บปวดล้า.....ที่ต้นมะขาม..

คงผิดยามแน่แล้ว........ยาใจ........
คิดว่ามาทำไม..........ป่านนี้.........
จะลวงล่อหรือไฉน.....นะนั่น.........
ตรวจส่องลายมือชี้.....พรุ่งนี้กลางวัน.

นพ
1ก.ค.56

[สมนึก นพ]

นั่งเพลินชมความงามธรรมชาติ
น้ำสะอาดตกจากฟากยอดผา
สองเรานั่งชมไม้ในพนา
สุขสายตาสมหมายกับสายใจ

เจ็ดวันอันเปลี่ยวเปล่าเหงาก็หาย
ยามเดือนหงายดาวลับเหมือนหลับไหล
ดาวจะลับฟ้ากว้างช่างปะไร
เมื่อมีใครแนบข้างช่างอุ่นกาย

ดาว อาชาไนย

น้ำตกทรายขาว จ.ปัตตานี(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)

เพลินชมไพรพงป่าอุทยาน
ยังเชิญผ่านนวลน้องดังปองหมาย
ดูน้ำตกยอดผาพาผ่อนคลาย
เย็นสบายไอกระเซ็นเห็นรุ้งทอง

ผ่านเจ็ดวันลับหลังยังไปหา
ไม่เจอหน้าหล่อนหายใจขุ่นหมอง
แนวโขดหินน้ำใสไหลเจิ่งนอง
ชะเง้อมองจนค่ำช้ำอุรา

แสงเดือนหงายฉายส่องร่องแมกไม้
ทั้งไกลใกล้ไม่เห็นเป็นไงหนา
เคยหนุนตักแนบข้างต่างสัญญา
เจ็ดวันมาไม่เห็นดูเป็นไป

หรือจะเป็นเจ้าที่ ที่ป่ากว้าง
ปรากฏร่างมาเห็นเป็นไฉน
ด้วยคนเศร้าโศกมาจะปลอบใจ
กล่อมหลับไหลจิตสบายคลายกังวล

เพียงในฝันวันผ่านนั้นต้องจาก
ทั้งหลายหลากเจอนี้มีอีกหน
ขออย่าหายจากไกลปลอบใจตน
ต้องการคนแนบข้างหวังอุ่นกาย.

นพ
1ก.ค.56

[สมนึก นพ]

เป็นห่วงคนอยู่ไกลให้หมองหม่น
ดาวกังวลเสาะหาจนว้าวุ่น
แอบหลบใต้กิ่งไทรพึ่งใบบุญ
หวังว่าคุณปลอดภัยในคืนนี้

ยังล่องลอยพริบพรายอยู่ปลายฟ้า
ตามสัญญาวนเวียนแม้เปลี่ยนที่
รอให้ใครทวงถามท่ามราตรี
ดาวดวงนี้แจ่มจรัส ณ จุดนัดพบ

ประกายฝันในใจ..อย่าให้ดับ
แม้ดาวลับบางครั้งยังบรรจบ
คือศรัทธาต่อกันพันพ่วงทบ
วันดาวหลบ.เดือนเร้น..ยังเห็นคุณ

แซม
..........
มองเห็นแล้วดาวดวงนั้น
ทำให้ฉันเริ่มอบอุ่น
ใจเจ้าเอ๋ยเคยว้าวุ่น
นับเป็นบุญที่ควันจาง

รับทราบได้ในคืนนี้
ทุกนาทีดาวมิห่าง
เมฆหมอกคล้ำทำเลือนลาง
เกินกล่าวอ้างมีกังวล

ตรงเส้นตัดแนวขอบฟ้า
สุดสายตาพาสับสน
ดาวแกล้งหลบทำชอบกล
ดูใจคนที่แดนไกล

ก็ยังอยู่ ณ ที่เก่า
ยังคอยเฝ้ามิห่างไหน
ที่แอบวิ่งหลบกิ่งไทร
หวังร่มใบกันฝนพรำ

จิตยึดมั่นคือศรัทธา
ถือสัญญาทุกคืนค่ำ
ความจริงใจหมายชี้นำ
ดาวหลบต่ำจำทิศดี.

นพ
4ก.ค.56

[ดาว อาชาไนย]

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
หลายราตรีที่เฝ้าดูราวฟ้า
ควันไฟป่ามาบังหมดทั้งสิ้น
เคยนั่งดูหมู่ดาราเป็นอาจิณ
ณ เนินดินถิ่นนี้มีสุขใจ

เมื่อเที่ยงวานผ่านพ้นฝนตกหนัก
หนีตั้งหลักพักร่มลมพัดใส่
หลบแรงลมก้มบังหลังต้นไทร
กิ่งเอนไหวไกวล้อก็หักลง

หันไปเห็นเผ่นต่อรอฝนแล้ง
ท้องฟ้าแจ้งแสงส่องต้องประสงค์
หมอกควันไฟได้หายคลายพะวง
มืดค่ำลงจงใจได้ดูดาว

ราตรีนี้มีเห็นเป็นแตกต่าง
ดูสว่างกว้างฟ้าเวหาหาว
แสงกระพริบยิบยับดูวับวาว
เพียงครั้งคราวหนาวผ่านลมพัดพา

ตรงที่เก่าเรานั่งครั้งก่อนนั้น
กลับแปรผันอันใดไปแล้วหนา
ดาวดวงเด่นเห็นตอนก่อนนี้นา
หายลับตาหาไม่ไหงเช่นนี้

ลางสังหรณ์ตอนนั้นมิทันคิด
วิปริตผิดแผกแยกถ้วนถี่
เข้าหลบฝนต้นไม้ให้ดูดี
เกิดเหตุมีที่หักจักบอกความ

คืนนี้นั้นมันมิต่างห่างคืนก่อน
ควันไฟอ่อนผ่อนสลายได้ตรงข้าม
กลับไม่เห็นเด่นฟ้าดารางาม
หลายโมงยามตามต่อรออรุณ.

นพ
29มิ.ย.56

เป็นห่วงคนอยู่ไกลให้หมองหม่น
ดาวกังวลเสาะหาจนว้าวุ่น
แอบหลบใต้กิ่งไทรพึ่งใบบุญ
หวังว่าคุณปลอดภัยในคืนนี้

ยังล่องลอยพริบพรายอยู่ปลายฟ้า
ตามสัญญาวนเวียนแม้เปลี่ยนที่
รอให้ใครทวงถามท่ามราตรี
ดาวดวงนี้แจ่มจรัส ณ จุดนัดพบ

ประกายฝันในใจ..อย่าให้ดับ
แม้ดาวลับบางครั้งยังบรรจบ
คือศรัทธาต่อกันพันพ่วงทบ
วันดาวหลบ.เดือนเร้น..ยังเห็นคุณ

แซม

ควันไฟป่าไม่ดับกลับคุใหม่
ดุจดังไฟรักตรลบยังอบอุ่น
ดาวยังลอยไม่ลับนับเป็นบุญ
คอยรักกรุ่นเยี่ยมกรายปลายฟ้าไกล

เมื่อฝนรักทักทายเป็นสายฉ่ำ
ดั่งพรมพรำจุมพิตจิตแจ่มใส
ก่อนจะนอนโลมลูบจูบฝังใจ
ซึ้งหทัยทุกราตรีที่การุญ

ชอบคุณมากหากรตีมีความห่วง
ดาวลอยดวงรอฤดีที่เกื้อหนุน
แสนซาบซึ้งกลอนกานท์หวานละมุน
พึ่งใบบุญนวลน้องช่วยหมองคลาย

อารมณ์ฝันในใจจึงไม่ดับ
ทุกวันกลับโชติช่วงมิล่วงหาย
แม้ดาวดับรู้เถิดยังเพริศพราย
เปล่งประกายกลางใจใครที่รอ

ดาว อาชาไนย

[รัตนาวดี]

...คืนที่ดาว หลบแฝง ซ่อนแสงอุ่น
สาวใบบุญ พลันเหงา เศร้าจริงหนอ
อารมณ์ฝัน ในใจ ไม่เคยพอ
รอดาวทอ แสงนวล ชวนรั้งจินต์...

...แม้ดาวจะ ห่างหาย คล้ายมิหวน
ใจมิเคย แปรปรวน ครวญถวิล
ใฝ่จุมพิต ชิดเชย จนเคยชิน
ขอรักดาว ตราบดิน สิ้นฟ้ากาล...

รัตนาวดี
 

<a href="http://www.youtube.com/v/tZBOPGd08ro&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/tZBOPGd08ro&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

[ดาว อาชาไนย]

อยากจะเป็นดวงดาวที่กล่าวถึง
ดาวดวงหนึ่งอ่านกลอนนอนฝันหวาน
หากเป็นดาวที่กล่าวถึงสักหนึ่งวาร
คงซาบซ่านซึมซาบอาบหัวใจ

ฝันเพ้อเพ้อละเมอเมื่อมุ่งหมาย
ด้วยดาวรายมากคงอสงไขย
หามีแต่แค่ดาวอาชาไนย
บ้านกลอนไทยมากมายมีหลายดวง

ดาว อาชาไนย

[สมนึก นพ]

ดาวหนึ่งนั้นฉันเห็นโดดเด่นนัก
เพิ่งประจักษ์วันนี้มีคนหวง
สารภาพซึมซาบอาบเต็มทรวง
เขายังห่วงฝันเพ้อละเมอนั้น

สี่ห้าราตรีผ่านฉันจึงเศร้า
คอยนั่งเฝ้ามิวายกายหนาวสั่น
มาทีหลังเขาไงหลบไปพลัน
เพราะคิดฝันเกินไกลใจจึงตรม

ค่ำคืนนี้ฟ้าใสไร้เมฆหมอก
ดั่งมาหลอกข้าให้ใจขื่นขม
ไม่กล้าแหงนดูฟ้าแม้อยากชม
กระแสลมพัดควันไฟได้บังที.

นพ
6ก.ค.56

[รัตนาวดี]

อยากจะเป็นดวงดาวที่กล่าวถึง
ดาวดวงหนึ่งอ่านกลอนนอนฝันหวาน
หากเป็นดาวที่กล่าวถึงสักหนึ่งวาร
คงซาบซ่านซึมซาบอาบหัวใจ

ฝันเพ้อเพ้อละเมอเมื่อมุ่งหมาย
ด้วยดาวรายมากคงอสงไขย
หามีแต่แค่ดาวอาชาไนย
บ้านกลอนไทยมากมายมีหลายดวง

ดาว อาชาไนย

...ดาวแพรวพร่าง รายเรียง เคียงความฝัน
มีเพียงดวง หนึ่งนั้น มั่นใจหวง
ถึงฟ้าจะ เปิดม่าน เป็นล้านดวง
ตรึงตราทรวง ซาบซึ้ง เพียงหนึ่งนา...

...บ้านกลอนไทย ไสวพราว ดาวสวยเด่น
ระยิบเน้น ราศรี ที่สูงค่า
อยากใฝ่เป็น เจ้าของ ครองใจพา
ดาวอาชา ไนยแน่ ดวงแท้จริง...

 

รัตนาวดี
 

[รัตนาวดี]

ดาวหนึ่งนั้นฉันเห็นโดดเด่นนัก
เพิ่งประจักษ์วันนี้มีคนหวง
สารภาพซึมซาบอาบเต็มทรวง
เขายังห่วงฝันเพ้อละเมอนั้น

สี่ห้าราตรีผ่านฉันจึงเศร้า
คอยนั่งเฝ้ามิวายกายหนาวสั่น
มาทีหลังเขาไงหลบไปพลัน
เพราะคิดฝันเกินไกลใจจึงตรม

ค่ำคืนนี้ฟ้าใสไร้เมฆหมอก
ดั่งมาหลอกข้าให้ใจขื่นขม
ไม่กล้าแหงนดูฟ้าแม้อยากชม
กระแสลมพัดควันไฟได้บังที.

นพ
6ก.ค.56

...คราเธอหมอง หม่นเศร้า เฝ้าฝันใฝ่
คืนฟ้าใส ดาวสวย ด้วยแสงสี
มีดาวพร่าง วาววับ ระยับดี
ไฉนที่ ยังห้าม ยามใจยอม...

...ส่งกระแส จิตให้ ดาวไปเถิด
ดวงที่เพริศ ส่องสรวง ห่วงใยกล่อม
เลิกใจน้อย ชอกช้ำ ทำใจตรอม
อาจดวงนั้น ก็พร้อม ฝากอ้อมใจ...

รัตนาวดี
 
 

[สมนึก นพ]

กระแสจิตหมดพลังความหวังล่ม
หักจิตข่มเมินมองท้องฟ้าใส
เพิ่งรู้ดาวกระพริบสีที่โพ้นไกล
กลับหลงไหลเฝ้ามองหวังปองดาว

ดั่งชาวนารอฝนทนไถคราด
ปรับเอียงลาดทนแดดแผดร้อนผ่าว
ได้กักน้ำหมายมุ่งทุ่งนายาว
เห็นต้นข้าวเขียวขจีและมีรวง

ฝนกลับมาหายลับกลับแห้งแล้ง
เหมือนดั่งแกล้งผ่านไปหมายทิ้งช่วง
ทั้งดาวและฝนฟ้าต่างมาลวง
ดักปมบ่วง"อาจจะ"นิมิแน่นอน

นพ
6ก.ค.56

[choy]

...คืนที่ดาว หลบแฝง ซ่อนแสงอุ่น
สาวใบบุญ พลันเหงา เศร้าจริงหนอ
อารมณ์ฝัน ในใจ ไม่เคยพอ
รอดาวทอ แสงนวล ชวนรั้งจินต์...

...แม้ดาวจะ ห่างหาย คล้ายมิหวน
ใจมิเคย แปรปรวน ครวญถวิล
ใฝ่จุมพิต ชิดเชย จนเคยชิน
ขอรักดาว ตราบดิน สิ้นฟ้ากาล...

รัตนาวดี
 

http://www.youtube.com/watch?v=tZBOPGd08ro

(อ้างอีกแล้ว)

...คืนที่ฝนหลบฟ้าซ่อนหนาวเหน็บ
หนุ่มแปลบเจ็บดื่มเหล้าเศร้าหนักหนา
อารมณ์ค้างน้ำแข็งและโซดา
อีกกับแกล้มพร่องลาไม่เหลือกิน...

…แม้โซดาน้ำแข็งหมดสิ้นถ้วน
ใจมิท้อคร่ำครวญฟูมฟายถวิล
ก้มหน้าจิบเพียวเพียวด้วยเคยชิน
ขอรักเหล้าตราบสิ้นตับไม่วายฯ...

555555ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

***ขอล้อกระทู้ “หญิงแก้ว” หน่อยจ้า หวังว่าคงให้อำไพด้วยความเคารพ***

สนอง เสาทอง

[รัตนาวดี]

(อ้างอีกแล้ว)

...คืนที่ฝนหลบฟ้าซ่อนหนาวเหน็บ
หนุ่มแปลบเจ็บดื่มเหล้าเศร้าหนักหนา
อารมณ์ค้างน้ำแข็งและโซดา
อีกกับแกล้มพร่องลาไม่เหลือกิน...

…แม้โซดาน้ำแข็งหมดสิ้นถ้วน
ใจมิท้อคร่ำครวญฟูมฟายถวิล
ก้มหน้าจิบเพียวเพียวด้วยเคยชิน
ขอรักเหล้าตราบสิ้นตับไม่วายฯ...

555555ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

***ขอล้อกระทู้ “หญิงแก้ว” หน่อยจ้า หวังว่าคงให้อำไพด้วยความเคารพ***

สนอง เสาทอง

หนุ่มจิบเหล้า เศร้าปลอบ ไยชอบดื่ม
ใฝ่จะลืม เรื่องทุกข์ หวังสุขง่าย
ให้ใจต้อง น่าหวั่น อันตราย
รอตับวาย อย่างเดียว น่าเสียวจัง...

...เหล้าน้ำแข็ง โซดา หามาพร้อม
ดื่มเพื่อย้อม อารมณ์ ขมขื่นสั่ง
รัตน์วดี มิห้าม จะตามฟัง
ยามพี่นั่ง คร่ำครวญ จะชวนคุย...

หญิงแก้ว