ความสุดยอดของ พุทธศาสนา...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 06:56:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความสุดยอดของ พุทธศาสนา...  (อ่าน 1812 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
27 มิถุนายน 2013, 11:22:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 27 มิถุนายน 2013, 11:22:PM »
ชุมชนชุมชน

"พุทธศาสน์" ปราชญ์ชี้ ว่าดีเลิศ
เป็นทางเกิด นิโรธ โสตถิผล
แก้กิเลส ตัณหา พาร้อนรน
เป็นทางพ้น กลทุกข์ ที่รุกราน

เป็นของดี ของวิเศษ เขตวิมุตติ
เป็นยอดอุตตะมะ ละสงสาร
เปรียบดวงแก้ว มณีรัตน์ ชัชวาล
ขจัดมาร หาญสิ้น มลทินใจ

"มุนีน้อย"

  อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, panthong.kh, ดาว อาชาไนย, Prapacarn ❀, Shumbala, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
28 มิถุนายน 2013, 09:17:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2013, 09:17:AM »
ชุมชนชุมชน

งง.... เคารพรัก
ละกิเลส เหตุห้วง บ่วงความทุกข์
เกินล้มลุก คลุกฝุ่น ขุ่นเชื่อไหม
โลภโกรธหลง ยังสิงห์สู่ อยู่ข้างใน
สุดห้ามได้ ความอยาก มากมายมี

อันตัณหา ราคะ ยิ่งละยาก
ละลำบาก จริงแท้ แดป่นปี้
โลกมนุษย์ นี้หนอ ท้อเต็มที
คนทำดี กลับได้ชั่ว เห็นทั่วไป
พันทอง
 งง.... เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, ดาว อาชาไนย, Prapacarn ❀, Shumbala, ไร้นวล^^, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 มิถุนายน 2013, 10:17:AM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #2 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2013, 10:17:AM »
ชุมชนชุมชน

ยาทิสัง วะปะเต พีชังฯ
แปลให้ฟัง "หว่านพืชใด ได้ผลนั้นฯ"
ช้าหรือด่วน ควรคิด พินิจครัน
ภควันต์ ตรัสบอก มิหลอกใคร

อันทำชั่วได้ดี วลีเด็ด
เป็นกลเม็ด คนพาล เที่ยวขานไข
เพราะหวังล้น ผลดี ทันทีใด
ดูผิวเผิน เหมือนใช่ เมื่อได้ยิน

พืชบางอย่าง ให้ผลช้า ผลาดอก
ต้องช้ำชอก ยอกย้อน ก่อนทั้งสิ้น
ต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ย คุ้ยพรวนดิน
ก่อนได้กิน ผลหวาน เมื่อนานไป

"มุนีน้อย"

 เธอนั่นแหละจ้ะ  ส่งจูบจ้ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดาว อาชาไนย, panthong.kh, Prapacarn ❀, Shumbala, ไร้นวล^^, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, บูรพาท่าพระจันทร์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
28 มิถุนายน 2013, 11:11:AM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #3 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2013, 11:11:AM »
ชุมชนชุมชน

จะทำดีทำไมสมัยนี้
เพราะ "ทำดีได้ดีมีที่ไหน
คนทำชั่วได้ดีมีถมไป"
มักพอใจทุภาษิตติดปากกัน    (ทุภาษิตคือภาษิตที่เลว)
                                                                                                                    พระพุทธองค์ทรงแสดงแจ้งมูลเหตุ
แยกประเภทกรรมมีถึงสี่ขั้น
หนึ่ง - กรรมที่มีผลปัจจุบัน
สอง - กรรมนั้นชาติหน้าค่อยมารับ
สาม - กรรมตามจนทันมันให้ผล
สี่    - กรรมพ้นทุกชาติขาดสิ้นสรรพ
        อโหสิกรรมนั้นอันระงับ
        ขึ้นอยู่กับขณะทำกรรมช่วงดี

ดวงจิตเรา "เกิด-ดับ" นับเป็น "ขณะ"
ทุกวาระเกิดดับนับเร็วจี๋
ถึง "สิบเจ็ดขณะ" ระยะนี้
จิตจะมี "เจ็ดดวง" ใหญ่หลวงนัก

เจ็ดดวงนี้ชื่อ "ชะวะนะจิต"
คอยลิขิตบุญบาปทราบเป็นหลัก
ทำกรรมช่วง "ดวงที่หนึ่ง" จึงพร้อมพรัก
จะประจักษ์ผลได้ในชาตินี้

ถ้าทำกรรมขณะช่วง "ดวงที่เจ็ด"
ทำสำเร็จรอไปไม่เร็วรี่
เพราะไม่เห็นผลให้ในทันที
ชาติหน้ามีต่อไปได้แน่นอน

ช่วงดวง "สอง สาม สี่ ห้า ที่หก"
กรรมจะยกผลให้เอาไว้ก่อน
รอชาติต่อต่อไปไม่รีบร้อน
ส่งผลตอนตามทันกันชาติไร

ที่กลับดีเพราะทำชั่วตัวอย่างนี้
เพราะกรรมดีเคยสร้างแต่ปางไหน
ส่งผลก่อนทำชั่วตัวทำไป
ทำดีได้ดีนี้มีแน่นอน

          ดาว อาชาไนย
[/size]
[/color][/size][/font]

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : panthong.kh, Prapacarn ❀, Shumbala, ไร้นวล^^, muneenoi, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s