ทางกวี
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:34:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทางกวี  (อ่าน 5932 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
09 พฤษภาคม 2013, 01:04:AM
พ.พิมพา
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 316
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 347



« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2013, 01:04:AM »
ชุมชนชุมชน



                              ทางกวี
                            
                             @กวีวาดหวาดไหวอยู่ในหล้า
                          เพราะคนกล้าเขียนคำนำเสนอ
                         ได้เรียนรู้เส้นทางต่างพบเจอ
                         ไม่กลัวเก้อกลัวร้างเจอทางตัน

                            @บ้างรู้ดอกบอกได้ดอกไม้สวย
                           ที่ริมห้วยหนองบึงถึงความฝัน
                           บนภูเขาเงาไม้กอดก่ายกัน
                           มารำพันระทวยทดเป็นบทกลอน

                             @บ้างเห็นดวงสุริยาจะลาลับ
                           ใจกลับนึกฝันเห็นเป็นอักษร
                           ว่าสงสารสุริยาจะลาจร
                           ยังอาวรณ์เป็นห่วงดวงสุริยา

                            @เมฆสีขาวพราวเปรื่องเมืองสวรรค์
                           รอคืนวันเทพธิดามาพบหน้า
                           เหล่าคนธรรพ์อยู่ใกล้กันกับชั้นฟ้า
                           หิมวาสัตบรรณยอดบรรณพต

                             @ในสระน้ำกินรีลงมาเล่น
                            อโนดาษกระซ่านเซ็นเย็นทุกหยด
                            มณฑาทิพย์โรยรินไม่สิ้นรส
                            จวบจนจบห้วงทิวาไม่ราโรย

                              @กวีวาดหวาดไหวเพียงใจน้อม
                            แม้คำกล่อมคร่ำครวญไม่หวลโหย
                            เพียงรอฝนปรายฟ้าลงมาโปรย
                            จะฉ่ำโชยทุกลำนำคำกวี

                                     ๘/๕/๕๖

                               "ขอเป็นกำลังแด่ใจทุกบทกวีครับ"


















ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, choy, รัตนาวดี, D, เฮยอิง, ไร้นวล^^, ยามพระอาทิตย์อัสดง, พยัญเสมอ, สล่าผิน, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, อริญชย์, Shumbala, ดุลย์ ละมุน, Prapacarn ❀, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2013, 06:36:AM
panthong.kh
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2989
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 8,676



« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2013, 06:36:AM »
ชุมชนชุมชน

เคารพรัก เคารพรัก ลาตายดีกว่าตู

เป็นนักกลอน อ่อนหัด วัดไม่ได้
กับบางใคร ที่เก่ง เจ๋งเรียกพี่
แต่งงูงู ปลาปลา มาข้ามปี
ในฤดี ยังเหงา เศร้าอย่างเคย

เอาบทกลอน นำทาง อ้างว้างจิต
ยามชีวิต ระทม ก้มหน้าเผย
อยู่กับโลก อักษร ค่อนคืนเอย
ยังเสบย กว่าอยู่ สู้ช้ำใจ

นอนไม่หลับ ขยับนั่ง ฟังแป้นจิ้ม
นิ้วก็ทิ่ม สมองคิด ลิขิตไข
จินตนา ผ่านออก บอกความใน
สุขทุกข์ใด ใส่เข้า เฝ้ารำพึง

แสนสงสาร ตัวเอง ยามเคว้งคว้าง
หมดหนทาง เดินต่อ พอก้ำกึ่ง
มองเบิ้องหน้า ล้าเหลือ เมื่อคำนึง
รักคนซึ่ง เขาไม่ซึ้ง จึงตรอมตรม
พันทอง
๙/๐๕/๕๖
 ส่งจูบจ้ะ ลาตายดีกว่าตู ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เฮยอิง, ไร้นวล^^, choy, ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, พยัญเสมอ, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พ.พิมพา, อริญชย์, Shumbala, ดุลย์ ละมุน, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2013, 08:09:AM
เฮยอิง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 151
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 228



« ตอบ #2 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2013, 08:09:AM »
ชุมชนชุมชน

สุดหนทางกว้างยาวต่างเล่าเรื่อง

เก็บทุกเบื้องบทบาทวาดผสม

ที่ใดร้อนผ่อนเย็นเป็นอารมณ์

ดังว่าคมคำความนั้นตามใจ

เถิดเรียงร้อยถ้อยคำลำนำเถิด

หวังเพียงเกิดก่อกานท์ร่วมขานไข

อาจมิโดดดูเด่นดังเช่นใคร

แต่ดังใฝ่ดังฝันที่กลั่นกรอง. . .

เก็บบันทึกลึกเลือนที่เกลื่อนกลาด

ธรรมชาติชื่นฉ่ำมิคล้ำหมอง

วางขนาบทาบทามตามทำนอง

อาจมิคล้องคลาดเคลื่อนพลาดเลือนไป

แต่จงเพียรเขียนร้อยประดอยจัด

วางบรรทัดต่อบรรทัดระบัดไหว

เถิดเก็บเกี่ยวกล่าวคำอันรำไร

แม้มิใช่ ไกลห่าง. . .ทางกวี

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไร้นวล^^, panthong.kh, choy, ยามพระอาทิตย์อัสดง, D, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พ.พิมพา, อริญชย์, แป้งน้ำ, Shumbala, ดุลย์ ละมุน, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ไม่ต้องรู้หรอกว่าคนแต่งชื่ออะไร  แค่รู้ว่ามาจากใจก็พอ. . .
09 พฤษภาคม 2013, 02:34:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #3 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2013, 02:34:PM »
ชุมชนชุมชน


รู้สึกตัวก่อนสางร่างเคลื่อนไหว
ยังหายใจไม่ตายกลายเป็นผี
ปฏิบัติกิจกรรมทำทันที
เริ่มต้นมีส่วนตัวงานทั่วไป

ชงกาแฟจิบอ่านกลอนกานท์กาพย์
รู้รับทราบติติงพาดพิงไหม
แต่งต่อตอบขอบคุณอบอุ่นไอ
เตรียมของไว้มิขาดตักบาตรภัต

รีบเร่งร่วมชุมนุมประชุมใหญ่
วัฒนธรรมไทยในจังหวัด
พอพักครึ่งถึงคอมพ์จ่อมรวบรัด
บ้าชะมัดคิดคอยเรียงถ้อยคำ

ทางอักษรกลอนฉันทุกวันนี้
หยิบโน่นนี่มาใช้ไม่เป็นส่ำ
บางทีเค้นจากองค์ความทรงจำ
บางทีดำน้ำดินบินพิมาน

เวลาเศร้าเหงาใจใส่หนักหนัก
เวลารักซึ้งใจใส่หวานหวาน
เพื่อนชิงชังหลังหลบหนีกบดาน
มีพ้องพานการเมืองเรื่องเบาเบา

อยากจะแต่งเชิญวางตามทางเถิด
แต่ควรเปิดหัวใจให้ว่างเปล่า
ยินดีรับนิยมชื่นชมเรา
อดกลั้นเขาติฉินเอ่ยนินทา

 เคารพรัก

รพีกาญจน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : แป้งน้ำ, ดุลย์ ละมุน, choy, อริญชย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, พ.พิมพา, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ดารกะ

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2013, 05:04:PM
choy
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 145
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 314



« ตอบ #4 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2013, 05:04:PM »
ชุมชนชุมชน

ด้วยอาชีพขีดเขียนคนทำสื่อ
ต้องนอนดึกค้นรื้อเสพดื่มข่าว
สะลืมสะลือตื่นเช้าทนฝืนเอา
นั่งขัดเกลางานค้างแต่ครั้งคืน

ครั้นสายหน่อยรีบจรห้องรังหนู
ก้มหน้าสู้ปั้นยิ้มป้ายหน้าชื่น
มอ’ไซค์วินเร็วฉิวกว่าลูกปืน
ปาดซ้ายขวาแซงฝืนเสียวทุกที

ถึงออฟฟิศเหนื่อยนักขอพักหน่อย
จิบกาแฟค่อยค่อยละเลียดบุหรี่
เช็กข่าวสารนานาประดามี
อนาถแท้ข่าวดีถูกตัดตอน

จ่อมก้นนั่งเก้าอี้จ้องหน้าคอมพ์
เปิดเข้า goo ดอมกลิ่นเรื่องฉาวร้อน
เกาะประเด็นเคาะแป้นตะลุมบอน
ใดยอกย้อนคลี่ปมให้ชัดเจน

หากวันไหนมีโฆษณาเข้า
ต้องจมเจ่าคิดคำนั่งบีบเค้น
กว่าเขียนจบได้เรื่องช่างยากเย็น
ลุกนั่งยืนเดินเล่นรีดคำคม

เขียนบทความคอลัมน์รับผิดชอบ
ต้องรอบคอบคนอ่านเตรียมขย่ม
ไม่มีมูลนั่งเทียนเขียนแล้งลม
หูระบมด่าขรมกันทั้งเมือง

เพื่อนฝูงถามเขียนกวีเวลาไหน
ตอบซื่อใสทุกที่ได้ต่อเนื่อง
พกกระดาษปากกาไม่มากเปลือง
เจอใดเรื่องบันทึกเป็น theme โครง

จดวุ่นวายหลายหน้าสมุดกระดาษ
ลายมือหวัดแกะอ่านยากชิบโผง
อารมณ์เคลิ้มหยิบขึ้นมาต่อโคลง
ร้อยเกี่ยวโยงเรื่องราวตามครรลอง

กาพย์กลอนฉันท์ซึมซ่านเต็มสายเลือด
มันปะทุคุเดือดสี่ใจห้อง
กลั่นเรียงร้อยวลีท่วงทำนอง
กู่ตะโกนร้องก้องจากข้างใน

ทางของกวีแบบฉบับของข้าน้อย
ก็เป็นเช่นฟุ้งฝอยพอกระสาย
เขียนทุกที่ทุกเวลาไม่เว้นวาย
ใจสี่ห้องดิ้นส่ายจังหวะกลอนฯ

สนอง เสาทอง
9 พฤษภาคม 56


***คำเตือน
หากใครก๊อปปี้ไปต้องก๊อปให้หมดทั้งบท หากมีอักษร สระ และวรรณยุกต์ใดหล่นหาย ถือว่าไม่ใช่มืออาชีพ แนะนำให้หาอาชีพอื่นใหม่ทำ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : อริญชย์, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, panthong.kh, พ.พิมพา, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s