กลอนสังหาร
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 ธันวาคม 2024, 05:58:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนสังหาร  (อ่าน 16831 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
16 มีนาคม 2013, 08:35:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #20 เมื่อ: 16 มีนาคม 2013, 08:35:AM »
ชุมชนชุมชน

VS

๐โอ้อนาจคาดผิดนิจจาเอ๋ย
เพียงทรามเชยแผลงพิษสฤษฎ์ผง
กระยาจกใจหินก็สิ้นองค์
ความลุ่มหลงลามมาไม่ช้านาน

๐พิษนั้นคือผิวผ่องประลองลูบ
เพียงก้านธูปไหม้ปลายก็คลายหาญ
เผลอสัมผัสหัตถ์หงษ์ของนงคราญ
ยาจกฉานฉอกชนม์มิพ้นพิษ

๐ธาตุไฟแทรกซึมซาบเข้าอาบเลือด
หัวใจเหือดกลับร้อนเหมือนหลอนจิต
โอ้เพลงยุทธนงเยาว์เร่งเร้าฤทธิ์
แล้วสะกิดสะเก็ดใจละลายลาญ

๐แม่ยอดหญิงชิงฉกยาจกจ้อย
ฝากฝังรอยรักรวนกระบวนผลาญ
สิ้นเพลงยุทธหยุดระดมแรงลมปราณ
เพียงนงพาลพลิ้วผิวสยิวยวน

(โอ้!!!!ในที่สุด แม่นางง้อไบ๊ ก็งัดกระบวนท่ามาพิชิตยาจกหนุ่มจนได้)

(ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ แหมเพลินไปหน่อย)


กระยาจกไร้ชื่อฝีมือเยี่ยม
ลมปราณเปี่ยมเทียมฟ้าวายุหวน
ยามรำร่ายไม้เท้าเบานุ่มนวล
หากหลากล้วนลีลาน่ายำเกรง

ไม่เคยคิดผิดคาดมิอาจต้าน
เพลงกระบี่นงคราญอันราญเร่ง
ต้องล้มลุกคลุกคลานผ่านสิบเพลง
ก็สะดุดขากางเกงเคว้งคว้างลอย

ประหลาดใจไฉนพ่ายง่ายดายนัก
ฤาต้องพิษฤทธิ์รักสลักถ้อย
พินิจดูแววตาเหมือนพร่าลอย
ทั้งหยดย้อยยินดีที่พ่ายนาง อะไรวะ...งง ว่ะ

 ชอบใจๆ เคารพรัก

*เชิญท่านไร้นามตามสบายนะครับ คิดเสียว่าเป็นกระทู้ของท่านเอง ยิ้มแฉ่งฟันหลอ*

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 มีนาคม 2013, 11:31:AM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #21 เมื่อ: 16 มีนาคม 2013, 11:31:AM »
ชุมชนชุมชน



   นิ้วทั้งห้า ขวาซ้าย ย้ายสลับ
   โป้งรองรับ จับเลา เป่าปี่ร่อน
   ผสมสาน ขานคำ นำอ้อนวอน
   เริ่มว่าหลอน...เว้าวากย์เอื้อนลากยาว


กอนว่า...ดอกสะลิดติดต้นสะลัก
ขาดฟูมฟัก เปล่าเปลี่ยวนักเมื่อยังสาว
หญิงต่ำต้อย ถ้อยเจรจาภาษาลาว
ชายผู้บ่าวบ่แวะ และสนใจใยดี


   นั่งพับเพียบ เรียบวาง บนห้างไผ่
   มุงด้วยใบ มะพร้าว ราวสองซี่
   ปี่ไล่เรียง เสียงซึง คลึงวจี
   จังหวะที่ ชลอ ฮ่ำ...ต่อไป


นายเฮย...เป็นสาวค้างเติ่งเถิงกึ่งร้อย(ปี)
น้ำตาหยาดย้อย อกน้อยหม่นไหม้
ความอาภัพอับจน เมื่อไรจะพ้นไกล
อยากมีสักใคร ชิดใกล้ ปลอบให้เยียวยา

   ปี่สะดุด หยุดลง ณ ตรงนั้น
   เธอรำพัน เศร้าสร้อย ละห้อยหา
   สะท้านซึง ตึง ตึง ซึ้งอุรา
   มือไหว้สา ขอรัก สักคน...นอ

แถมกำ...บุญช่วยนำ กรรมพา ได้มาพบ
จ้องหน้า แสร้งเมินหลบ วัลลภหนุ่มรูปหล่อ
ตกลงไหมจ๊ะ มะเป็นแฟนช่างซอ
ชื่ออะไรหนอ อ๋อ...คนบอกว่า...รพี


             เอ้อ..จริงว่ะ

ป.ล. ไปทำบุญงานปอยหลวง ยืนฟังซอพื้นเมือง
สาวช่างซอขอเป็นแฟน เลยถูกคนข้างๆดึงหู เจ็บอ่ะครับ





ยินเสียงซอสีเรียกเพรียกรับขวัญ
แผ่วรำพันหวานล้ำสำเนียงสี
สายซอสั่นฝันฝากพรากฤดี
เซ่นดนตรีสังหารผ่านเสียงซอ

ร่ายลำนำคำกลอนล้วนอ่อนหวาน
ขับเคียงปี่ประสานซึงซ่านหนอ
ใจพี่ลอยลับแล้วแก้วลออ
จะปลูกหอรอเจ้าเยาวมาลย์ อายแบบน่ารัก
 เคารพรัก
*ใจง่ายจังเรา อะไรวะ...งง ว่ะ*


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : D, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s