บทกวีของจ่าง แซ่ตั้ง
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 ธันวาคม 2024, 10:55:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บทกวีของจ่าง แซ่ตั้ง  (อ่าน 15669 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
22 กุมภาพันธ์ 2013, 08:16:PM
ค.คนธรรพ์
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 145


คำ คำ คำ ค่ำ ค่ำ คำ คำ


« เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2013, 08:16:PM »
ชุมชนชุมชน


กวีบทแรกของจ่าง แซ่ตั้ง





ลอย.

ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปตาม  สบาย  สบาย
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปเท่าน้ำใจของมนุษย์ยังมี
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปตามภาวะสัมพันธ์  ยังมี
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปตามแสงแดด  อบอุ่น
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปตามสายลม  เย็น  เย็น
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปตามสายน้ำจะไปถึง
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ไปเท่าที่แสงแดดส่องไปถึง
ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย  ลอย 





จ่างกล่าวถึงบทกวีชิ้นนี้ว่า  “ตอนที่ฉันเขียน  ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร  เพื่อนมาเจอ 
เอ้อ! นี่บทกวีนี่หว่า   เราก็เอ๊ะ?  บทกวีมันคืออะไร  เราไม่รู้เรื่องเลย  เขาบอกเนี่ย  ยังงี้   
เราก็ไปค้นหาดู  ก็ไปหาขุนช้าง-ขุนแผน   ไปหาอะไรอะไรมาอ่าน   ไปหาบทกวีเก่าเก่ามาอ่าน   
โอ้โห!  แล้วเราจะเขียนได้หรือ   ภาษาศรีปราชญ์  ภาษาเจ้าฟ้ากุ้ง  เรายอมรับว่าท่านใหญ่ยิ่งจริงจริง 
งามนะ  คือเราอ่านแล้วรู้สึกมากเลย  ว่าสุนทรีย์ของท่านที่แสดงออกอย่างนี้   คนอย่างเราไม่มีทาง 
แล้วตัวเราก็ไม่มีทาง   แล้วตัวเราจะเขียนหนังสือต่อไปจะทำยังไง   เราก็ต้องสร้างเองซิ  สร้างเอง 
ฉันก็เลยไปทำต่อให้เป็นเล่มเลย”

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, พยัญเสมอ, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, Shumbala, Thammada, รัตนาวดี, choy

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คำ คำ คำ ค่ำ ค้ำ   คำ คำ
22 กุมภาพันธ์ 2013, 10:21:PM
ไพร พนาวัลย์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2083
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,422


นักร้อง


paobunjin
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2013, 10:21:PM »
ชุมชนชุมชน


เขียนกลอนมาก็หลายปีดีดักแล้ว แต่ยังมะงุมมะงาหรา ไปไม่ถึงคำว่า “กวี” สักที

ทำไงน๊า..? จึงจะได้ชื่อว่า ตกมรรคาแห่งกวีกับเขาบ้าง?

คงต้องศึกษาไปอีกนาน เพราะรู้สึกว่ายังซมซานอยู่ในสายธารแห่งรักๆๆๆหลงๆๆๆงงๆๆๆงวยๆๆๆอยู่เลย  ยิ้มกวนตีน

 หัวโขมย    หัวโขมย    หัวโขมย

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, ชลนา ทิชากร, พยัญเสมอ, panthong.kh, พี.พูนสุข, Thammada, รพีกาญจน์, ค.คนธรรพ์, รัตนาวดี, choy

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 กุมภาพันธ์ 2013, 06:16:AM
ค.คนธรรพ์
Special Class LV3
นักกลอนผู้มากผลงาน

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 145


คำ คำ คำ ค่ำ ค่ำ คำ คำ


« ตอบ #2 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2013, 06:16:AM »
ชุมชนชุมชน

รูปแบบของบทกวีอันเรียบง่ายแต่โดดเด่นแหวกแนว
ด้วยการจัดวางตำแหน่งคำและกลวิธีที่ใช้คำซ้ำจำนวนมากมายเกินกว่าปรกติ     
ยังปรากฏในผลงานที่หลั่งไหลตามมาเป็นระลอก  จนบังเกิดบทกวีชุด “คำซ้ำ” ในแบบฉบับจ่าง แซ่ตั้ง   

“คน” ฉันไปที่วงเวียนใหญ่  มีคนเยอะแยะตามป้ายรถเมล์ 
ฉันเขียนอย่างนี้ คอ-นอ คน   คอ-นอ คน  คน-นอ คน   คอ-นอ คน   
คอ-นอ คน  คน-นอ คน   คอ-นอ คน   คอ-นอ คน  คน-นอ คน   คอ-นอ คน   
คอ-นอ คน  คน-นอ คน   ให้เต็มเลย




คน.

คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน  คน
คอยรถเมล์โดยสารประจำทาง................................................ที่กรุงเทพฯ




"คน" เป็นบทกวีรูปแบบ "นามธรรม" ที่ใช้คำซ้ำแทนแต่ละปัจเจกบุคคล 
กล่าวคือ
มีคำว่า "คน" ที่เขียนซ้ำกันแทนหมู่คนจริงจริงที่ต่างไม่รู้จักกัน เป็นอิสระต่อกัน
กำลังยืนรวมกลุ่มรอรถเมล์อยู่เนืองแน่นเต็มไปหมด
   
บทกวีนี้เปรียบเสมือนสถานที่แอดอัดอีกแห่งหนึ่งในเมืองกรุง
ฉายภาพพจน์ของคนธรรมดาสามัญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางชั้นล่าง
เพราะไม่มีรถส่วนตัว ต้องยืนรอรถเมล์ ต่างมาอยู่รวมกันในเมืองด้วยจุดประสงค์ต่างๆ เช่น ทำมากิน

ดังนั้น การจัดตำแหน่งของคำในบทกวี จึงเป็นเรื่องสำคัญ 

ผม คนธรรพ์เองครับ ไม่ใช่คนท่ามกลางคน คน คนที่กำลังคอยรถเมล์ในบทกวี   ผมขอเรียนเพื่อนนักกวีทุกท่านว่า 
บทกวีของจ่าง แซ่ตั้งที่นำมาโพสต์ให้อ่านกันนี้
มาจากหนังสือ “บทกวีของฉัน : จ่าง แซ่ตั้ง อารมณ์ ความคิด ความเป็นมาของบทกวี 1967 -1984”
ซึ่งผมจะทยอยโพสต์งานเพียงบางส่วนให้พอเห็นแนวคิด ทางกลอนเปล่า และกวีวรรณรูปของกวีท่านนี้       
เพื่อสืบสานผลงานกวีไทยร่วมสมัยให้เป็นที่รู้จักต่อไป   



ข้าวสาร.

ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร  ข้าวสาร
๕ กิโล   ราคาถุงละ   ๑๑    บาท


"ข้าวสาร" บทนี้พูดถึงข้าวสารที่มีมากมายแต่มีราคาแพง คนยากจนนั้นลำบากที่จะซื้อกิน

ขอกล่าวเพิ่มเติมว่า บทกวีทั้งหมดบังเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศทางสังคมในช่วงหลังปีพ.ศ. 2500
ด้วยเหตุนี้เนื้อหาบางส่วนจึงต่างจากเรื่องราวในยุคปัจจุบัน
ที่จ่างบอกว่า เห็นคนเยอะแยะบริเวณป้ายรถเมล์วงเวียนใหญ่ ทั้งที่ตอนนี้กลับเงียบเหงา ผู้คนไม่แออัดคับคั่ง
ก็เพราะว่าในสมัยของจ่าง  วงเวียนใหญ่เปรียบได้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในสมัยนี้นั่นเอง

บทกวีจึงมิใช่งานสร้างสรรค์ทางสุนทรียะเพียงประการเดียว ด้านหนึ่งยังเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์สังคมด้วย


 อายจัง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, Thammada, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, Shumbala, choy

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คำ คำ คำ ค่ำ ค้ำ   คำ คำ
26 กุมภาพันธ์ 2013, 09:55:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #3 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2013, 09:55:PM »
ชุมชนชุมชน



งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน

งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน งาน
พอ เลิก งาน อ่อน แรง ไม่ แต่ง กลอน

ด้วยความเคารพท่านจ่าง แซ่ตั้ง

 เคารพรัก

กี แซ่อึ้ง

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Thammada, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, ชลนา ทิชากร, Shumbala, panthong.kh, ไพร พนาวัลย์, choy

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s