ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 07:01:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้  (อ่าน 5567 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
16 กุมภาพันธ์ 2013, 06:34:PM
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 06:34:PM »
ชุมชนชุมชน

ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้

ฟังสิ!เสียงคร่ำครวญโหยหวนไห้
จากป่าไพรลมลู่ผ่านภูผา
ท่วงทำนองชอกช้ำเปื้อนน้ำตา
ของนกกาล้าแรงใต้แสงดาว

เคยกางปีกโบยบินถวิลหวัง
ร่ำร้องดังสุนทรไม่ร้อนหนาว
ร่ายลีลาเล่นอย่างงามพร่างพราว
ร้อยเรื่องราวหลากรสลงจดจาร

ฟังสิ!เสียงหยามเหยียดไผ่เสียดสี
สมฤดีเอิบอาบสุขซาบซ่าน
เห็นดินแดนสวรรค์แล้งกันดาร
ทั้งสายธารปลาเต่าเตรียมเน่าตาย

โปรดหันกลับรับฟังสักครั้งเถิด
เพื่อชูเชิดศรัทธาก่อนจะสาย
อย่าปล่อยไฟไหม้ตลอดป่าวอดวาย
นกกาหมายพึ่งพิงอย่างจริงจัง!ฯ

                      อริญชย์
                  ๑๖/๒/๒๕๕๖



 อายจัง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, Thammada, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, Prapacarn ❀, สุวรรณ, plang, Shumbala, จารุทัส, กังวาน, D, ดาว อาชาไนย, ไพร พนาวัลย์, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 21 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน
16 กุมภาพันธ์ 2013, 11:54:PM
สุวรรณ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 565
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,487


หวังทุกชีวิต สถิตไว้แต่สิ่งดี


« ตอบ #1 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 11:54:PM »
ชุมชนชุมชน

ยินเสียงลมกระซิบลิบลิบฟ้า
บอกเพลงลาอาลัยไร้ความหวัง
ไฉนโลกโศกเยือนเหมือนภินท์พัง
ล้วนประเดประดัง ความร้าวราน

หยิบกระดาษวาดรูปรอยปุปะ
จ่มลงกับสภาวะการขับขาน
ของน้ำนิ่งสนิทปิดตัวนาน
เป็นน้ำเน่าชั่วกาลนิจนิรันดร์

แล้วมัจฉาปลาว่ายจะอยู่ไหน
เมื่อน้ำไร้ชีวา ชีพอาสัญ
กุ้ง ปู ปลา น้อยใหญ่ต่างรำพัน
ร่ำเพลงโศกจาบัลย์แสนอาดูร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, อริญชย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, Shumbala, เนิน จำราย, Prapacarn ❀, จารุทัส, กังวาน, D, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, Thammada, ไพร พนาวัลย์, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 20 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 10:43:AM
Thammada
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 342
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ


« ตอบ #2 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 10:43:AM »
ชุมชนชุมชน



" ดาวน้ำค้าง "

ก่อนฟ้ารุ่ง ลมหนาว ดาวน้ำค้าง
คล้ายทุกอย่าง เย็นยะเยียบ และเงียบเหงา
แสงดาวเดือน เหมือนหม่น บนฟ้าเทา
คือความเศร้า ความขมขื่น ของคืนวัน

ซึ่งความงาม น้ำกับฟ้า เคยปรากฏ
บัดนี้ลด แรมร้าง ทางคนฝัน
เหลือร่องรอย คอยคืน เคยตื้นตัน
ก็ยังสั่น ซบเศร้า เท่าธุลี

ลอยคว้าง กลางโพยม ห่มห้วงหนาว
ประหนึ่งร้าว โรยแรง ร้างแสงสี
เหลือแต่ตัว หัวใจ เหมือนไม่มี
หวั่นวิถี ท้อทาง จะย่างยืน

ดั่งโลกร้าง วางหวั่น ไว้ตรงตัก
ซึ่งชะงัก เงื้อมเงา มิเฝ้าฝืน
หล่นลงจม ถมทับ กับกล้ำกลืน
เหมือนเป็นอื่น อ้างว้าง กลางเวลา

ผู้หลับใหล ลืมคำ เคยพร่ำพจน์
ยากกำหนด ทิศทาง วางค้นหา
อาจจำนน ทนท้อ รอระอา
เสมือนฟ้า มืดห้วง แห่งดวงจันทร์

ยิ่งลำธาร แห้งหาย เป็นทรายดิน
นกหลงถิ่น ก็ท้อ ต่อความฝัน
จะเหลือหล้า ฟ้าไหน ในรำพัน
จึงหวาดหวั่น เหลือเกิน นักเดินทาง


" ขออนุญาตไม่สัมผัสนะครับ "
ธรรมดา

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, จารุทัส, รพีกาญจน์, Shumbala, กังวาน, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, Moo Dum, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 02:50:PM
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« ตอบ #3 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 02:50:PM »
ชุมชนชุมชน

ก่อนฟ้าดับแสงดาวสกาวสิ้น
ผืนแผ่นดินอาดูรมิสูญสร่าง
อัคคีผลาญแนวไพรมลายล้าง
แทบใจกลางป่าดงพงขจี

หมอกควันคลุ้งคละทั่วฟ้ามัวหม่น
เวิ้งเวหนไห้ห่วงดวงศศี
เพียงแสงผาดส่องเผยรัชนี
หยาดน้ำตาราตรีที่หยดริน

ดับเพลิงไพรไฟลับแล้วดับได้
ดับดวงใจมักมากยากดับสิ้น
ช่วยปลูกป่าทดแทนทั้งแผ่นดิน
ทั้งปลูกจินต์คู่กันด้วยปัญญา

ทนสักหน่อยเถิดฟ้าอย่าเพิ่งท้อ
ดาวยังรอทอแสงแห่งห่วงหา
แสงดาวแม้นมืดดับลับนภา
แสงศรัทธาอย่าสิ้นลับกับแสงดาว

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, กังวาน, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, จารุทัส, ดาว อาชาไนย, Thammada, รพีกาญจน์, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 18 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 02:53:PM
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 3482
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,752


ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก


« ตอบ #4 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 02:53:PM »
ชุมชนชุมชน


ร่ำเพลงโศกจาบัลย์แสนอาดูร

สูบจากบ่อบาดาลธารบึงหนอง
จนขอดคลองติดดินสัตว์สิ้นสูญ
เพื่อนาดำลำไยได้สมบูรณ์
ตั้งเนินนูนเครื่องสั่นสะท้านไกล


เตรียมทำไร่เลื่อนลอยสอยผักหวาน
คุ้ยดินดานหาเห็ดเม็ดน้อยใหญ่
ลุกโชติช่วงดวงแดงเปลวแสงไฟ
ประทุไหม้มืดมัวทั่วแดนดง


ไม้ยืนต้นโค่นล้มระเนระนาด
ดุจฟ้าฟาดหล้าพื้นเป็นผุยผง
สัตว์หน้าแหกแตกตื่นลื่นล้มลง
เลื่อยยนต์คงแผดดังก้องกังวาน

ตัดต้นไม้ไฟป่าคร่าห์สัตว์หมด
ไร้น้ำหยดเหือดแห้งแล้งเผาผลาญ
เสียงคร่ำครวญหวนดังกังสดาล
มือกราบกรานเบื้องบนฝนช่วยที


 เคารพรัก

รพีกาญจน์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, Prapacarn ❀, กังวาน, D, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, จารุทัส, yaguza, Thammada, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 19 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 03:16:PM
Prapacarn ❀
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1148
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,439


♥ แกร่งกล้า..ประภาคาร.. ตระหง่านตั้ง.. ณ ฝั่งคอย ♥


« ตอบ #5 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 03:16:PM »
ชุมชนชุมชน



" ดาวน้ำค้าง "

ก่อนฟ้ารุ่ง ลมหนาว ดาวน้ำค้าง
คล้ายทุกอย่าง เย็นยะเยียบ และเงียบเหงา
แสงดาวเดือน เหมือนหม่น บนฟ้าเทา
คือความเศร้า ความขมขื่น ของคืนวัน

ซึ่งความงาม น้ำกับฟ้า เคยปรากฏ
บัดนี้ลด แรมร้าง ทางคนฝัน
เหลือร่องรอย คอยคืน เคยตื้นตัน
ก็ยังสั่น ซบเศร้า เท่าธุลี

ลอยคว้าง กลางโพยม ห่มห้วงหนาว
ประหนึ่งร้าว โรยแรง ร้างแสงสี
เหลือแต่ตัว หัวใจ เหมือนไม่มี
หวั่นวิถี ท้อทาง จะย่างยืน

ดั่งโลกร้าง วางหวั่น ไว้ตรงตัก
ซึ่งชะงัก เงื้อมเงา มิเฝ้าฝืน
หล่นลงจม ถมทับ กับกล้ำกลืน
เหมือนเป็นอื่น อ้างว้าง กลางเวลา

ผู้หลับใหล ลืมคำ เคยพร่ำพจน์
ยากกำหนด ทิศทาง วางค้นหา
อาจจำนน ทนท้อ รอระอา
เสมือนฟ้า มืดห้วง แห่งดวงจันทร์

ยิ่งลำธาร แห้งหาย เป็นทรายดิน
นกหลงถิ่น ก็ท้อ ต่อความฝัน
จะเหลือหล้า ฟ้าไหน ในรำพัน
จึงหวาดหวั่น เหลือเกิน นักเดินทาง


" ขออนุญาตไม่สัมผัสบทนะครับ "
ธรรมดา



ดาวน้ำค้างกลางไพรของใครหนอ
ที่เฝ้ารอแสงทองของยามสาง
ส่องประกายหวามหวานผ่านหมอกบาง
ผู้เดินทางใคร่พักหยุดทักทาย

เจ้าหลบใต้ใบบังไม่หวังอวด
ใจร้าวรวดเพราะรักมาหักหาย
หรือเป็นเพราะหัวใจใกล้วางวาย
ทุกข์กล้ำกรายรุมเร้าจนเจ้าครวญ

คนอีกฝั่งใฝ่ถึงรำพึงหา
ไยหลบหน้าหม่นไหม้ก่นไห้หวน
เปิดหัวใจสักนิดคิดทบทวน
อยากจะชวนร่วมทางสู่กลางฟ้า

จับจูงมือสร้างฝันใต้จันทร์ผ่อง
เฝ้าประคองสัมพันธ์ถึงวันหน้า
ก้าวสู่ห้วงทำนองของเวลา
คนปลายฟ้าขออยู่เคียงคู่ดาว

แซมค่ะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ดาว อาชาไนย, จารุทัส, Thammada, รพีกาญจน์, กังวาน, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, รัตนาวดี, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Take my love, take my land
Take me where I cannot stand
I don't care, I'm still free
You can't take the sky from me..
17 กุมภาพันธ์ 2013, 03:39:PM
กังวาน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 904
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,505



« ตอบ #6 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 03:39:PM »
ชุมชนชุมชน

ยาฆ่าแมลงแผลงฤทธิ์ติดพืชผัก
สร้างรูปลักษณ์สวยงามความสดศรี
ทั้งเร่งโตโถอาหารสารเคมี
ปุ๋ยอินทรีย์มิใช้ไม่ต้องการ

ตายผ่อนส่งจงรู้ผู้บริโภค
มีหลายโรครุมเร้าเขาว่าขาน
มะเร็งร้ายกลายพันธุ์ทุกวันวาน
อีกอาหารเป็นพิษลองคิดตรอง

พอหรือยังฟังหน่อยอย่าปล่อยปละ
เราควรจะเปลี่ยนวิถีมิมีหมอง
ปลูกพืชผักรักษาดินถิ่นลำคลอง
หันมาลองมิใช้ยาฆ่าแมลง

เศรษฐกิจพอเพียงเลี่ยงสารพิษ
เพื่อชีวิตคนรักอย่าหนักแหนง
มาช่วยกันวันนี้ยังมีแรง
หรือผัดแกงผักพืชพิษ...สิทธิของคุณ

      ---กังวาน---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Prapacarn ❀, จารุทัส, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, Thammada, รพีกาญจน์, อริญชย์, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, รัตนาวดี, Moo Dum, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ถ้ารู้สึกพอ ก็เป็นสุขทันที
17 กุมภาพันธ์ 2013, 04:03:PM
ดาว อาชาไนย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 394
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,472



poem.archanai?fref=ts
« ตอบ #7 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 04:03:PM »
ชุมชนชุมชน

อยากจะลอยลมบนก็หล่นฟ้า
ต้องแรมราร้างร่วงจากห้วงหาว
แสงมัวหมองหม่นไปไม่สกาว
ใครจะสาวมือเสยมาเชยชม

ถึงเป็นดาวก็ราวดาวกระดาษ
เพียงเขาวาดหวังใจให้สวยสม
ใครก็มองปองชื่นอย่างรื่นรมย์
แท้ทับถมเขาทิ้งไม่จริงใจ

ช่วยปัดฝุ่นที่เปื้อนลบเลือนหน่อย
ดาวจะลอยลมกล้าสู่ฟ้าใหม่
หวังอ้อมอกอบอุ่นละมุนไกล
พออาศัยพึ่งพักคนรักจริง

ดาว อาชาไนย

(ต่อคุณแซมครับ แต่ต๋อยช้าไป เลยไม่สัมผัส)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, Thammada, Prapacarn ❀, จารุทัส, รพีกาญจน์, กังวาน, อริญชย์, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, รัตนาวดี, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, masapaer, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เสี้ยวอารมณ์จากใจใครคนหนึ่ง
คงไม่ซึ้งจับใจใครทั้งหลาย
แค่มีใครคนหนึ่งซึ้งไม่คลาย
ก็สมหมายใครคนหนึ่งซึ่งรักกลอน
17 กุมภาพันธ์ 2013, 08:48:PM
Mondha
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 19



« ตอบ #8 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 08:48:PM »
ชุมชนชุมชน

เห็นดาวลอยลมอยู่เป็นคู่ฟ้า
จึงมิกล้าปีนป่ายไปสุงสิง
ดุจกระต่ายมองจันทร์ฝันพึ่งพิง
แต่แท้จริงมิอาจเอื้อมขึ้นเทียมกัน

ได้แต่ชมแสงดาวที่พราวส่อง
เคียงคู่ท้องนภางค์สร้างความฝัน
สุกสกาวเคียงศศิมิร้างกัน
ใยมีวันหม่นหมองต้องอาดูร

ขอให้ดาวพราวแสงสู่แหล่งหล้า
อยู่เทียมฟ้าอย่าลาลับฤาดับสูญ
กระจ่างดาวพราวแสงแจ้งจำรูญ
คอยเกื้อกูลส่องสว่างนำทางจร

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, เนิน จำราย, อริญชย์, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, Shumbala, ดาว อาชาไนย, Prapacarn ❀, รัตนาวดี, Thammada, Moo Dum, saknun, ลมหนาว, ไร้นวล^^, กังวาน, ดุลย์ ละมุน

ข้อความนี้ มี 16 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กุมภาพันธ์ 2013, 07:04:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2013, 07:04:PM »
ชุมชนชุมชน



 ส่งจูบจ้ะ

...ยังเป็นเงา ตามอยู่ แม้ดูหมอง
ยังเป็นน้อง อ้อนหา คราพี่หม่น
เป็นตักหนุน อุ่นด้วย ช่วยพี่ทน
มิเคยบ่น ยามห่าง พี่ร้างไกล...

...ฟังซิ! เสียงหัวใจ น้องไห้หา...
ยามที่สุริยา.. ลับฟ้าใส
ยามฤดี เร้าทรวง ว่าห่วงไย
ฟังซิ! เสียงร่ำไห้ จากใจน้อง...

รัตนาวดี
 ลาตายดีกว่าตู

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ลมหนาว, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, กังวาน, ชลนา ทิชากร, masapaer, Thammada, ดุลย์ ละมุน, Shumbala, อริญชย์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s